ตอนที่ 3075 บัวชะตามหามรรค
ภูเขาเทพใบบัว
เมื่อการเคลื่อนไหวประหลาดของทะเลโชคชะตาปะทุขึ้น ก็ถูกของลัทธิแรกกำเนิด ลัทธิวิญญาณ และผู้สืบทอดคีรีดวงกมลสังเกตเห็น พวกเขารวมตัวกันในทันที
“น่าเสียดายแล้ว…”
สิงเจี้ยนสยาถอนใจยาว
เขาสวมชุดดำทั้งชุด สะพายกระบี่โบราณ รูปร่างสูงโปร่ง สง่างามละโลกีย์ ครอบครองมรรควิถีขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ และเป็นเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่อาวุโสยิ่งคนหนึ่งในลัทธิแรกกำเนิด มายังแดนผนึกไร้นามแห่งนี้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้นานมากแล้ว
ได้ยินเสียงทอดถอนใจของเขา ทุกคนบริเวณใกล้เคียงล้วนนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง
พวกเขาล้วนรู้ว่าสิงเจี้ยนสยากำลังเสียดายอะไรอยู่
“หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนเคราะห์แห่งยุคสมัยมาเยือน พวกเราจะไม่เหลือโอกาสไปชิงบัวชะตามหามรรคนั่นอีกต่อไป”
ฟู่หนานหลีขมวดคิ้วกล่าว “สิ่งสำคัญที่สุดคือก่อนเคราะห์แห่งยุคสมัยจะมาเยือน พวกลัทธิพ่อมด ลัทธิฌานยังจะยกขบวนบุกเข้ามาอีกแน่ จากที่ข้าดู แทนที่จะรอรับมือศัตรูเฉยๆ ไม่สู้ถือโอกาสนี้ฝ่าออกไปดีกว่า!”
เขาผมเคราหงอกขาว สวมชุดเหลือง บนตัวมีกลิ่นอายที่ไม่ด้อยกว่าสิงเจี้ยนสยาไหลเวียน ทั้งเขายังเป็นผู้นำของขุมอำนาจลัทธิวิญญาณ
เมื่อได้ยินทุกคนล้วนมีท่าทางหมายมาดทนรอไม่ได้อยู่บ้าง
หลายปีนี้พวกเขาถูกกักในภูเขาเทพใบบัวมาโดยตลอด ไม่เพียงไม่อาจหลอมพลังชะตามหามรรคที่มากพอ ยังถูกศัตรูที่เฝ้าอยู่ห่างจากภูเขาเทพใบบัวจับจ้องอยู่ทุกตลอด ไม่อาจไม่ระวังทุกเช้าค่ำ
และตอนนี้ทะเลโชคชะตาแห่งนั้นกำลังอุบัติโอกาสครั้งที่สี่ แต่พวกเขากลับทำได้เพียงมองตาปริบๆ ถึงขั้นไม่มีโอกาสไปแย่งชิง
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้พวกเขารู้สึกอัดอั้นยิ่งนานแล้ว
และตอนนี้หากบุกออกไปเต็มกำลัง ย่อมสามารถสังหารศัตรูเหล่านั้นจนตั้งตัวไม่ติดได้
ถึงอย่างไรยามบัวชะตามหามรรคปรากฏ ไม่ว่าลัทธิพ่อมด ลัทธิฌาน หรือเผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูลเหล่านั้นล้วนต้องเคลื่อนกำลังพลชั้นยอดไปยังทะเลโชคชะตา
เมื่อเป็นเช่นนี้กำลังพลของศัตรูที่กระจายตัวในโลกวิญญาณยุทธ์เหล่านี้ต้องอ่อนแอลงสุดขีดแน่นอน!
“ไม่ได้”
สิงเจี้ยนสยาส่ายหน้า “เรื่องที่พวกเราคิดได้ เจ้าเฒ่าสองคนอย่างซินหูและเหลยซ่งมีหรือจะคิดไม่ได้ หากข้าเดาไม่ผิด พวกเขาต้องเตรียมพร้อมไว้แล้วแน่”
เขาเว้นช่วงไปแล้วกล่าวต่อ “และทันทีที่พวกเราออกจากภูเขาเทพใบบัวแห่งนี้ คงจะพบเจอการโจมตีถึงชีวิตอย่างง่ายดายยิ่ง”
ภูเขาเทพใบบัวในตอนนี้มีระเบียบระดับเทพปกคลุมมากมาย ล้วนวางกระบวนผนึกชั้นยอดทั้งในนอก และเพราะมีพลังป้องกันเหล่านี้อยู่ ทำให้แม้หลายปีมานี้พวกเขาจะถูกกักขัง แต่กลับไม่กังวลว่าจะถูกศัตรูรุกราน
แต่ทันทีที่ออกจากภูเขาเทพใบบัวก็จะต่างไปแล้ว
“หรือจะมองดูตาปริบๆ เช่นนี้”
ฟู่หนานหลีสีหน้าอึมครึม ในใจไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง
“นี่ใช่ว่าจะเป็นเช่นนั้น”
ทันใดนั้นรั่วซู่ฝั่งคีรีดวงกมลเอ่ยปากเสียงเบา “สามครั้งก่อนยามบัวชะตามหามรรคปรากฏ ขุมอำนาจศัตรูเหล่านั้นสู้แพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง ทั้งเสียกำลังพลไปไม่น้อยเพราะเหตุนี้ด้วย ตอนนี้หากพวกเขาคิดชิงบัวชะตามหามรรคซึ่งปรากฏเป็นครั้งที่สี่นี้ ย่อมต้องจ่ายค่าตอบแทนแน่นอน!”
สายตาทุกคนวาววับ
พวกเขารั่วซู่พูดไม่ผิด
แต่เมื่อนึกถึงว่าศัตรูเหล่านั้นจะไปช่วงชิงโอกาสการมุ่งหน้าสู่แหล่งสถานอัศจรรย์ ส่วนพวกเขากลับทำได้เพียงมองดูตาปริบๆ อย่างไรในใจก็ไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
อีกทั้งยังฝากความหวังไว้กับค่าตอบแทนที่ศัตรูต้องจ่ายไปยามช่วงชิงโอกาส นี่ยิ่งเห็นชัดว่าพวกเขาไร้ความสามารถอย่างไม่ต้องสงสัย
“สหายน้อยรั่วซู่กล่าวไม่ผิด ยังมีเวลาก่อนการมาถึงของเคราะห์แห่งยุคสมัยอีกแปดร้อยปีเศษ หลังจากนี้บัวชะตามหามรรคจะต้องปรากฏขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน ขุมอำนาจศัตรูเหล่านั้นไปช่วงชิงครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว สำหรับพวกเราล้วนมีแต่ประโยชน์ไร้โทษ”
สิงเจี้ยนสยากล่าวเสียงเบา “หากสำเร็จ ฝั่งพวกเขาก็จะมีคนามคนไปจากโลกวิญญาณยุทธ์ มุ่งหน้าสู่แหล่งสถานอัศจรรย์ หากล้มเหลว พวกเขาก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน เป็นเช่นนี้ต่อไปกำลังพลที่พวกเขามีอยู่ทั้งหมดต้องลดน้อยลงอย่างต่อเนื่องแน่ ส่วนพวกเราแค่ต้องรอต่อไป ย่อมมีโอกาสโจมตีกลับไม่ช้าก็เร็ว”
ฟู่หนานหลีส่ายหน้ากล่าวว่า “แต่ข้ากังวล เกรงว่าพวกเราจะรอไม่ถึงเวลานั้น ขุมอำนาจศัตรูพวกนั้นก็จะบุกเข้ามาเสียก่อน”
ประโยคเดียวทำเอาหัวใจของทุกคนล้วนหนักอึ้ง
ปีนั้นลัทธิพ่อมดและลัทธิฌานเคยลั่นวาจา ว่าเว้นแต่พวกเขาจะส่งตัวผู้สืบทอดคีรีดวงกมลออกมา ไม่เช่นนั้นไม่ช้าก็เร็วจะบุกเข้าไปแน่นอน
เผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูลยิ่งแสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่รามือเช่นนี้เด็ดขาด
บางทียามขุมอำนาจศัตรูเหล่านี้ลงมือ ก็อาจจะเหมือนกับครั้งก่อนที่บุกมาเต็มกำลัง!
ท่ามกลางบรรยากาศหนักอึ้งเช่นนี้ จ้งชิวกล่าวเสียงหนักแน่นว่า “ผู้อาวุโสทุกท่าน หากยามเรื่องราวร้ายแรงถึงขั้นนั้นจริงๆ พวกเราผู้สืบทอดคีรีดวงกมลย่อมไม่มีทางเป็นภาระพวกท่านแน่”
“ไม่ผิด”
ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลทั้งกลุ่มอย่างพวกรั่วซู่ หลี่เสวียนเวย ผู่เจิน เสวี่ยหยาล้วนพยักหน้าโดยพร้อมเพรียง
“เหอะๆ หากให้พวกเจ้าถูกศัตรูเหล่านั้นสังหาร ต่อให้ข้าสิงเจี้ยนสยามีชีวิตอยู่ ภายหน้ายังจะเอาหน้าที่ไหนไปเจออาจารย์ของพวกเจ้าอีก”
สิงเจี้ยนสยาหัวเราะออกมา “พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ที่นี่คือทะเลโชคชะตา หากออกไปต่อสู้จริงๆ ศัตรูเหล่านั้นก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนสาหัสเช่นกัน ก่อนหน้านี้ก็เป็นเพราะพวกเขาตระหนักถึงจุดนี้ หลายปีที่ผ่านมาจึงไม่กล้ายกขบวนมาโจมตีอีก เพราะอย่างไรต่อให้พวกเขาจะแค้นพวกเจ้าคีรีดวงกมลแค่ไหน แต่การชิงโอกาสไปแหล่งสถานอัศจรรย์กลับสำคัญกับพวกเขามากกว่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์