Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3083

สรุปบท ตอนที่ 3083 การต่อสู้ที่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 3083 การต่อสู้ที่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 3083 การต่อสู้ที่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 3083 การต่อสู้ที่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์

ไกลออกมาจากภูเขาเทพใบบัว ในที่พักของศัตรู

หืม?

นัยน์ตาของซินอิ้งและสิงเทียนหยวนหดรัดพร้อมกัน รับรู้ว่าในบริเวณที่อยู่ห่างจากที่แห่งนี้ไปไกลมีคลื่นการต่อสู้ชวนตะลึงเกิดขึ้น

พวกเขาแผ่จิตรับรู้ออกไปทันที

“ที่แท้ก็เป็นพวกเหวินไจ้”

ซินอิ้งเผยสีหน้าประหลาดใจ

“ดูท่าว่าพวกเขาคงพบร่องรอยของศัตรูแล้ว”

นัยน์ตาสิงเทียนหยวนฉายแววเจิดจ้า “ศัตรูนั่นใจกล้ามากจริงๆ ถึงกับกล้าซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ใกล้ภูเขาเทพใบบัวนี้”

“เป็นเขา หลินสวิน!”

ซินอิ้งสะท้านไปทั้งตัว สังเกตเห็นสถานการณ์ในหุบเขา ทั้งเห็นเงาร่างของหลินสวินพุ่งออกมาจากถ้ำสถิตใต้ดินด้วย

“ทำไมถึง…”

สิงเทียนหยวนก็อึ้งงัน รู้สึกผิดคาดอย่างมาก “หรือว่าภายใต้การจับพลัดจับผลู ไม่พบศัตรูแต่กลับจับปลาตัวใหญ่ได้”

“น่าสนใจ”

ซินอิ้งเผยยิ้มออกมา “สถานการณ์ตอนนี้เกินความคาดหมายทุกครั้งจริงๆ ครั้งนี้หลังจากจับตัวเจ้าหลินสวินนี่แล้ว หนึ่งบัวซึ่งเจ้าแห่งคีรีดวงกมลเฝ้ารอมาหมื่นกาลต้องร่วงโรยลงแน่”

“พวกเราควรไปเยือนหรือไม่”

สิงเทียนหยวนนั่งไม่ติดอยู่บ้างแล้ว

“แค่จัดการเจ้าตัวจ้อยขั้นสรรสร้างคนหนึ่งเท่านั้น กำลังพลของพวกเหวินไจ้ย่อมมากเกินพอ ตอนนี้สิ่งที่พวกเราสองคนต้องทำก็คือเตรียมรับมือกับคนในภูเขาเทพใบบัวที่อยู่ห่างไป”

ขณะกล่าวนัยน์ตาของซินอิ้งมองไปทางภูเขาเทพใบบัว “พวกเรายังสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวเช่นนี้ เฒ่าชราอย่างพวกสิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลีมีหรือจะสัมผัสไม่ได้ แต่พวกเขาไม่กล้าแผ่พลังจิตรับรู้ออกมาเหมือนพวกเราเพราะจะถูกพวกเราโจมตีจิตรับรู้ของพวกเขาจนบาดเจ็บสาหัสได้”

สิงเทียนหยวนยิ้มขึ้นมา “ถ้าเป็นเช่นนั้นพวกเขาคงไม่รู้ว่าคนที่ถูกจัดการในการต่อสู้ที่อยู่ห่างไกลนั่น ก็คือเจ้าตัวจ้อยหลินสวิน”

“เป็นเช่นนั้นจริงๆ”

ซินอิ้งก็ยิ้มขึ้นมา

หลินสวิน เจ้าหนุ่มคนหนึ่งที่ทำให้ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อย่างพวกเขาแค้นจนกัดฟันกรอด ปัจจุบันกลับกล้าวิ่งมาถึงโลกวิญญาณยุทธ์นี้ นี่ต่างอะไรกับรนหาที่ตาย

“แย่แล้ว!”

รอยยิ้มตรงมุมปากสิงเทียนหยวนแข็งทื่อทันที เผยสีหน้าตกใจ ในจิตรับรู้ของเขาเห็นภาพชางโย่วจือถูกการโจมตีของหลินสวินกำราบ!

นี่ทำให้เขาใจสั่นสะท้านทันที ขั้นไร้ขอบเขตเล็กคนหนึ่ง ถึงกับถูกขั้นสรรสร้างสัมบูรณ์เอาชนะในการโจมตีเดียว นี่สะเทือนใต้หล้าจริงๆ

“หรือสามวันก่อนก็เป็นเจ้าหมอนี่ที่เหยียบทำลายฐานที่มั่นตระกูลเย่ ตระกูลเจวี๋ย ตระกูลหยวน”

สีหน้าซินอิ้งปรากฏแววอึมครึม แปลกใจสงสัยไม่หยุด

จากนั้นในจิตรับรู้ของพวกเขาก็เห็นศึกใหญ่ที่ปะทุขึ้นในหุบเขานั้น

เมื่อเห็นหลินสวินใช้ร่างแยกทั้งห้าต้านทานเหวินไจ้และผู้แข็งแกร่งขั้นไร้ขอบเขตเล็กคนอื่นไว้ได้ ซินอิ้งกับสิงเทียนหยวนไม่อาจนิ่งเฉยได้อีก

ทั้งสองต่างสบตากัน และตัดสินได้แล้วว่าความพังพินาศของฐานที่มั่นเผ่าเทพนิรันดร์สามตระกูลอย่างพวกตระกูลเย่ ต้องเป็นฝีมือหลินสวินแน่!

เพียงแต่กระทั่งพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าพลังต่อสู้ของหลินสวินจะเย้ยฟ้าเช่นนี้

หากพูดถึงความเย้ยฟ้าของเจวี๋ยอู๋เทียน เขามีมรรควิถีขั้นไร้ขอบเขตเล็ก สามารถไปเทียบกับขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ก็พอเข้าใจได้

แต่ขั้นสรรสร้างอย่างหลินสวินกลับต้านการล้อมโจมตีของผู้เก่งกาจมากมายด้วยตัวเอง นี่ทำให้คนตกตะลึงเกินไปแล้ว

“บัดซบ!”

เมื่อเห็นภาพหยางเหิงถูกกำราบ ซินอิ้งไม่อาจนิ่งเฉยได้อีก เขาพลันผุดลุกขึ้นทันที “พวกเราต้องเคลื่อนไหวแล้ว”

เขามองออกว่าสถานการณ์ไม่เข้าที

“ไป!”

สิงเทียนหยวนก็ลุกขึ้นด้วยสีหน้าไม่น่าดู เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศออกไปทันทีพร้อมซินอิ้ง

บนภูเขาเทพใบบัว

เมื่อคลื่นการต่อสู้กลางหุบเขาปรากฏขึ้นก็ถูกขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อย่างพวกสิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลีสัมผัสได้ ทุกคนพลันตระหนกอย่างอดไม่ได้

ในจุดที่ห่างออกไปเกิดเรื่องอะไรขึ้น

แต่เมื่อสังเกตเห็นว่าพวกซินอิ้งกับสิงเทียนหยวนสองคนยังนั่งอยู่ตรงนั้นตลอด นิ่งไม่ขยับ พวกเขาจึงต้องข่มความรู้สึกที่อยากแผ่จิตรับรู้ออกไปตรวจสอบไว้

จิตรับรู้มาจากพลังจิต ถ้าปล่อยออกไปต้องถูกซินอิ้งกับสิงเทียนหยวนโจมตีแน่

พวกสิงเจี้ยนสยาได้แต่ข่มความรู้สึกอยากตรวจสอบไว้แล้วเลือกเฝ้ารอ

ไม่นานพวกเขาก็สังเกตเห็นจุดผิดแปลกไป ซินอิ้งและสิงเทียนหยวนถึงกับก้าวออกไปจากที่พัก พุ่งไปยังที่ห่างไกลอย่างรีบเร่ง!

“ต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่เกิดขึ้นแน่ ทำให้เฒ่าสารเลวสองคนนี้นั่งไม่ติดแล้ว!”

ฟู่หนานหลีกล่าวอย่างตื่นเต้น “พี่สิง ควรออกเคลื่อนไหวแล้วกระมัง”

สายตาสิงเจี้ยนสยากวาดมองทุกคนที่อยู่ข้างกาย แต่ละคนล้วนกระเหี้ยนกระหือรือ นัยน์ตาเปี่ยมความกระหายต่อสู้

หลายปีนี้พวกเขาถูกปิดล้อมมานานเกินไปจริงๆ ในใจสะสมความอัดอั้นและเพลิงโทสะเยอะมาก ปัจจุบันเมื่อมีโอกาสเช่นนี้ใครจะอยู่เฉยได้อีก

“ได้!”

ครั้งนี้สิงเจี้ยนสยาไม่คัดค้านอีก ตกลงอย่างยินดี

“พี่เหริน พี่กู่ พวกเจ้าคอยดูแลที่นี่ร่วมกับสหายยุทธ์ซุ่นและสหายยุทธ์เสวี่ยเย่ ข้ากับพี่ฟู่จะไปที่นั่นด้วยกัน!”

สิงเจี้ยนสยากำชับ

พี่เหรินกับพี่กู่ที่เขาเรียกได้แก่เหรินฟู่เทียนและกู่เยวี่ยหมิง ฝ่ายแรกมีมรรควิถีขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ ฝ่ายหลังมีมรรควิถีขั้นไร้ขอบเขตเล็ก ล้วนเป็นผู้อาวุโสของลัทธิแรกกำเนิด

สำหรับ ‘สหายยุทธ์ซุ่น’ กับ ‘สหายยุทธ์เสวี่ยเย่’ ก็คือซุ่นไหวเจี่ยและเสวี่ยเย่จากลัทธิวิญญาณ ล้วนเป็นขั้นไร้ขอบเขตเล็กเช่นกัน

“ได้!”

ร่างต้นหลินสวินกระตุ้นเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งเข้าต้านทาน แต่กลับถูกดาบศึกสีเขียวที่ฟันผ่านอากาศมานั้นซัดจนเงาร่างไหวเอน ถอยหลังไปหลายก้าว เลือดลมทั่วร่างตีกลับ

เจ้าเฒ่านี่พลังน่ากลัวนัก!

หลินสวินหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย

การโจมตีนี้ช่วยชีวิตไท่เฮ่าจวี้ได้อย่างหวุดหวิด ทำให้เขาฉวยโอกาสหนีไปได้ ตกใจจนเหงื่อท่วมตัว รู้สึกเหมือนเพิ่งรอดพ้นคราวเคราะห์

“ตาย!”

สิงเทียนหยวนแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ ร่างกำยำแหวกผ่านฟากฟ้า ราวกับรุ้งเทพสีเขียวอหังการเหนือจักรวาล ควบคุมดาบศึกผ่าฟันลงมา

ร่างต้นหลินสวินและกายมรรคเพลิงแดงบุกเข้าไปพร้อมกัน คราวนี้ถึงต้านการโจมตีของอีกฝ่ายได้ ทั้งยังตัดสินได้ในทันทีว่าพลังต่อสู้ของเจ้าเฒ่าสิงเทียนหยวนแข็งแกร่งกว่าเจวี๋ยอู๋เทียนอยู่บ้างเล็กน้อย ไม่ด้อยไปกว่าอิงซานอิงยามสู้สุดชีวิตเท่าไร น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้…

เมื่อสิงเทียนหยวนเพิ่งมาถึงสนามรบนี้ บาตรสีดำใบหนึ่งตัดผ่านอากาศเข้ามา หมุนคว้างกลางอากาศ จากนั้นปราณกระบี่มากมายพวยพุ่ง ล้วนอบอวลด้วยแสงธรรมศักดิ์สิทธิ์ เสียงใสของกระบี่ดุจเสียงธรรม สะท้อนก้องเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน

ปังๆๆ!

ปราณกระบี่เหล่านั้นพุ่งแหวกแผ่กระจายดุจกระแสน้ำ โจมตีใส่กายมรรควารีดำและกายมรรคดินเหลืองจนรับมือไม่ทัน ทั้งสองกำลังกำราบหยวนจงฉี่และผานอู่ซิว เมื่อถูกโจมตีจากยอดปราณกระบี่เช่นนี้ก็จำต้องหลีกหลบอย่างทุลักทุเล

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หยวนจงฉี่และผานอู่ซิวที่บาดเจ็บสาหัสได้รับการช่วยเหลือ แต่ละคนล้วนไม่วายตื่นเต้น

แต่สีหน้าหลินสวินกลับไม่น่าดูขึ้นมา

ซินอิ้งโจมนีเข้ามาแล้ว เคร่งขรึมมีสง่า มือถือบาตรสีดำ ทั้งตัวเปล่งแสงธรรมไร้สิ้นสุด ราวยอดบรรพจารย์พุทธในตำนาน อานุภาพเกรียงไกร

“ลงมือพร้อมกัน กำจัดร่างต้นของเจ้าหมอนี่ก่อน!”

สิงเทียนหยวนก้าวข่มไปทางหลินสวิน ไอสังหารแผ่ซ่าน ดาบศึกสีเขียวในมือครวญคร่ำดุจอสนีบาต ฟาดผ่านับร้อยพันครั้งในชั่วพริบตา เงาดาบทบเป็นชั้นๆ ปกคลุมฟ้าดิน พลังกฎระเบียบเขียวเรืองรองกลบทั่วบริเวณนั้น

“ได้!”

ขณะเดียวกันซินอิ้งกระตุ้นบาตรสีดำไปทางร่างต้นหลินสวิน

“เหอะ คิดว่ากลัวพวกเจ้าหรือ”

ร่างต้นหลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง บุกโจมตีพร้อมสามกายมรรค

ตูม…

ศึกใหญ่ปะทุขึ้น ฟ้าดินมืดมิด สุริยันจันทราหม่นแสง ภูผาธาราใกล้เคียงพังทลายดังสนั่น แผ่นดินทรุดตัวเกิดรอยแยกมหึมามากมาย

ในที่นั้นสองกายมรรคอย่างไม้เขียวและทองขาวของหลินสวินสู้กับเหวินไจ้

ร่างต้นและกายมรรคเพลิงแดงของเขาร่วมกันจัดการสิงเทียนหยวน

ส่วนกายมรรควารีดำและดินเหลืองก็ไปโจมตีซินอิ้งพร้อมกัน

ศึกใหญ่เช่นนี้น่ากลัวเกินไป ทำให้ไท่เฮ่าจวี้ หยวนจงฉี่ ผานอู่ซิวไม่อาจแทรกแซง แต่ละคนได้แค่มองอยู่ไกลๆ สีหน้าปรวนแปรไม่หยุด

พวกเขาเป็นขั้นไร้ขอบเขตเล็กก็จริง แต่ตอนนี้ล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถ้าไปต่อสู้แล้วถูกหลินสวินโต้กลับสุดตัวอีกเกรงว่าคงรักษาไม่ได้แม้แต่ชีวิต!

……………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์