ตอนที่ 3107 แรกกำเนิดดุจดั่งคุก กาลเวลาเป็นบทลงทัณฑ์
เสียงพูดเนิบนาบ ไอสังหารไม่รู้จบ!
วู้ม…
เพิ่งสิ้นสุดเสียง พลังกฎระเบียบที่กดทับบนตัวหลินสวินและจอมมารหูยงอันตรธานหายไป ทั้งคู่ล้วนเหมือนได้อิสรภาพคืนอีกครั้ง พลังขับเคลื่อนทั่วร่างกึกก้องโคจร
ก็เห็นแขนเสื้อจอมมารหูยงปลิวลอย กลางฝ่ามือปรากฏพู่กันเขียวมรกตหยาดเยิ้มด้ามหนึ่ง กระหวัดลากกลางห้วงอากาศ ภาพวันโลกาวินาศยามพลบค่ำที่ขุ่นมัวปรากฏ ปวงเทพร่วงหล่นอยู่ในนั้น ศพนับไม่ถ้วนกลายเป็นเถ้าถ่าน กลิ่นอายความตายที่ไม่อาจอธิบายได้แผ่กว้างออกไปเงียบๆ
สายัณห์วันสิ้นโลกเคลื่อนคล้อย!
นี่คือวิชามรรคสูงสุดที่ผสานรวมอยู่ในกฎระเบียบกาลเวลา ระหว่างที่ละเลงวาด ดุจธรรมชาติรังสรรค์
พวกสิงเจี้ยนสยาหนังตากระตุก หน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ
ทันทีที่ลงมือจอมมารหูยงถึงกับใช้ไพ่ตายแล้ว!
“เห็นชัดว่าเจ้ามารเฒ่านี่ถูกการตายของกู่เชาจือกระตุ้นแล้ว!”
พวกแม่เฒ่ากระเรียนเซียนก็หัวใจหนักอึ้งเช่นกัน
โดยทั่วไปพลังแห่งกาลเวลายากยิ่งจะสั่นคลอนขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ เพราะผู้แข็งแกร่งที่มีพลังปราณระดับขั้นนี้แทบจะหยั่งถึงและครอบครองกฎระเบียบกาลเวลาส่วนหนึ่งได้นานแล้วไม่มากก็น้อย
แต่จอมมารหูยงต่างออกไป เขาหยั่งถึงฎระเบียบกาลเวลาถึงระดับสูงสุด ฐานมรรคและหัวใจหลักของมหามรรคที่เขาเสาะแสวงก็คือกฎระเบียบกาลเวลา
ในยุคมารก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้ว จอมมารหูยงก็มีฉายาว่า ‘ราชันกาลเวลา’
อย่าง ‘สายัณห์วันสิ้นโลกเคลื่อนคล้อย’ วิชามรรคสูงสุดที่เขาสำแดงในเวลานี้ ก็คือการใช้กฎระเบียบกาลเวลาจนถึงขีดสุดอย่างหนึ่ง
ก็เห็นในลานประลองเป็นตาย หลินสวินรวบนิ้วเป็นกระบี่ฟันตัดออกไปอย่างเรียบง่ายแผ่วเบา
ฉัวะ!
เจตกระบี่สาบหนึ่งพุ่งปราดกลางห้วงอากาศ ดุจดั่งระลอกคลื่นเงาแสงที่ลอยล่องทอประกาย เมื่อเจตกระบี่แผ่กว้าง ฟ้าดินดุจกระดาษวาดภาพ ถูกกรีดกระจุยเป็นชิ้นๆ อย่างรุนแรง
ภาพสายัณห์วันสิ้นโลกนั่นก็พังทลายแตกกระจุยไปพร้อมกัน!
ทั่วลานโกลาหล
ลายไพ่ตายของจอมมารหูยงด้วยกระบี่เดียวเช่นนี้หรือ
ทุกคนล้วนถูกภาพนี้ทำให้ตกใจ เบิกตากว้าง ในใจก็ฮึกเหิมไม่หยุด เริ่มคาดหวังต่อหลินสวินอีกครั้ง
พวกอิงเทียนเซิงที่อยู่บนด่านนภาจตุลักษณ์ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
“กระบี่นี้อัศจรรย์ยิ่ง ภายในนี้บรรจุนัยเร้นลับกาลเวลา มีการต่อต้านกับมหามรรคของข้ารำไร น่าสนใจ”
นัยน์ตาจอมมารหูยงวาววับ คล้ายถูกกระบี่นี้ปลุกจิตต่อสู้ทั้งหมดภายในใจขึ้น
ตูม!
แขนเสื้อเขาพลิ้วไหว เงาแสงทั่วร่างไหลหลั่ง กลิ่นอายพุ่งขวางเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน พู่กันมรรคสีเขียวในมือตวัดตามใจในห้วงอากาศ
พู่กันตวัดขึ้นสรรพสิ่งกำเนิด
พู่กันตวัดลงลมฝนแตกตื่น!
ก็เห็นแม่น้ำใหญ่เวิ้งว้างเป็นสายๆ ปรากฏขึ้นกลางอากาศ เสมือนธารแห่งเก้าสวรรค์ ไหลทะลักเชี่ยวกราก ฟองคลื่นซัดสาดนั่นเต็มไปด้วยเรื่องราวนับไม่ถ้วน สรรพชีวิตหมื่นเรื่องราวผันเปลี่ยนอยู่ในนั้น ร่วงโรยรุ่งโรจน์ว่ายเวียน เป็นตายแทรกสลับ
ก็เหมือนดั่งสายน้ำแห่งกาลเวลา เจาะทะลวงปราการอดีตและปัจจุบัน คำรามเคลื่อนขวางมาเยือน หมายจะท่วมทุกสิ่งภายในลานประลองเป็นตาย!
กว้างใหญ่ไพศาล ตระการตาซัดสาด!
อานุภาพสะเทือนโลกเช่นนั้นทำเอาอิงเทียนเซิงอดร้องชมไม่ได้ “‘ทะเลครามไร้ขอบเขตนภาหมื่นกาล’ เยี่ยมนัก!”
การโจมตีระดับนี้สามารถทำให้ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่บางส่วนจบชีวิตได้!
พริบตาเดียว…
หลินสวินเหมือนอยู่บนมหาสมุทรไพศาล สี่ทิศแปดทางเต็มไปด้วยกระแสกาลเวลาที่ไหลเชี่ยวเข้ามา อึงอลซัดกระหน่ำ กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาเต็มไปด้วยอานุภาพยากจะจินตนาการ
กลิ่นอายอันตรายที่ปะทะเข้ามาทำเอาหลินสวินสัมผัสถึงแรงกดดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเช่นกัน
สมกับเป็นจอมมารสะท้านยุคที่ไม่ด้อยไปกว่าซินหู การใช้กฎระเบียบกาลเวลาระดับนั้นน่าสะพรึงอย่างเหนือคาด และห่างไกลเกินกว่ากู่เชาจือจะเทียบได้
ทว่านี่ก็เป็นการต่อสู้ที่หลินสวินตั้งตาคอยพอดี
เขาต้องการการเคี่ยวกรำเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย มีเพียงทำเช่นนี้จึงจะสามารถทำให้มรรควิถีในตัวเปลี่ยนแปลงโดยสมบูรณ์ และก้าวสู่ขั้นไร้ขอบเขตได้!
และการต่อสู้ตรงหน้านี้ก็คือสิ่งที่หลินสวินเฝ้ารอมากที่สุด
ฟุ่บ!
หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง แขนเสื้อสะบัดโบก ฟันฝ่ามือดุจดาบ
ตูม… โครม… ตูม…
กระแสกาลเวลาที่โหมกระหน่ำซัดสาดลูกแล้วลูกเล่าถูกพลังฝ่ามือเรืองรองดุกร้าวผ่าออก แนวคลื่นพังทลาย ม้วนตลบนับพันชั้น
มองจากไกลๆ ก็เห็นหลินสวินเดินตะลุยคลื่น พลังฝ่ามือแต่ละสายดุจดั่งปราณดาบยาวพันจั้ง เคลื่อนขวางตัดสลับ ควบตะบึงเหนือหมื่นกระแสทะเลคราม!
เงาร่างเขาสูงโปร่ง ไม่ได้ใช้ร่างแยกทั้งสามก่อนหน้านี้ เดินตะลุยทะเลครามพลางโบกฝ่ามือผ่าคลื่น ดูสบายอารมณ์ปานนั้น เฉิดฉายเพียงนั้น
และพลังโจมตีแต่ละครั้งก็น่าสะพรึงถึงเพียงนั้น
ในลานประลองฟ้าดิน เสียงก้องกระหึ่มดังไม่หยุด ทะเลครามเดือดพล่าน กระแสคลื่นโหมสาดน่าสะพรึงขึ้นเรื่อยๆ แต่หลินสวินกลับเหมือนแสงคมกริบไร้ทัดเทียมสายหนึ่ง ผ่าแหวกกาลเวลา ฟันลมตัดคลื่น!
“หากเปลี่ยนเป็นข้า เกรงว่าอย่างมากที่สุดก็คงทำได้เพียงเท่านี้…”
มีสัตว์ประหลาดเฒ่าพึมพำ จิตใจไหวสะท้าน ล้วนไม่กล้าเชื่อว่านี่คือพลังต่อสู้ที่ขั้นสรรสร้างอย่างหลินสวินจะมีได้
“พลังกาลเวลาที่เจ้าหมอนี่ครอบครองเห็นชัดว่าแข็งแกร่งไร้ที่เปรียบ หาไม่ย่อมไม่มีทางทำได้ถึงขั้นนี้เด็ดขาด”
มีเฒ่าดึกดำบรรพ์ขมวดคิ้ววิเคราะห์ ยิ่งมองยิ่งตกใจ
“น่าเสียดาย เขายังคงไม่สามารถหลุดพ้นจากทะเลครามกาลเวลานั่น…”
มีคนวิตกกังวล
พลังที่หลินสวินสำแดงออกมาเย้ยฟ้ายิ่งจริงๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรสุดท้ายก็ยังถูกพลังของจอมมารหูยงล้อมกรอบ!
พวกสิงเจี้ยนสยาล้วนไม่เอ่ยวาจา เพ่งสมาธิจับจ้องลานประลอง
เพียงแต่ในใจกลับเหมือนธนูที่ง้างตึง ไม่อาจผ่อนคลายลงได้
บนด่านนภาจตุลักษณ์ก็เงียบกริบทั้งแถบเช่นเดียวกัน เฒ่าดึกดำบรรพ์อย่างพวกอิงเทียนเซิงล้วนจดจ่ออยู่ที่ลานประลอง กลั้นหายใจเพ่งสมาธิ
“จมลอยคล้อยตามคลื่น ต่อให้อาศัยความสามารถยิ่งใหญ่ของเจ้าก็ต้องถูกลมพัดฝนสาดอยู่ดี!”
ในลานประลองเป็นตาย จอมมารหูยงเอ่ยปากเนิบนาบ พู่กันมรรคสีเขียวในมือเขาเปลี่ยนไปทันควัน อานุภาพแข็งแกร่งรุนแรงดุจลากภูเขาเทพหมื่นกาล
และในทะเลครามกาลเวลา คลื่นยักษ์โหมสาดไร้จุดสิ้นสุด พายุหมุนกรรโชกและห่าฝนบ้าคลั่งพัดพาขึ้นพร้อมกัน หอบม้วนทะเลท้องฟ้าแผ่ออกไปเสียงดังโครมคราม
ยิ่งมีสายฟ้าแลบอสนีบาตรหนาเท่าถังน้ำหล่นร่วงลงมา!
ทั่วทั้งทะเลครามดุจดั่งกลายเป็นวันสิ้นโลก
และหลินสวินที่อยู่ในนั้นเงาร่างเริ่มซวนเซอย่างรุนแรง บางครั้งถูกคลื่นยักษ์ซัดสาด บางครั้งถูกพายุกระหน่ำกวาดพัด บางครั้งถูกสายฟ้าโจมตี บางครั้งถูกพายุฝนฟ้าคะนองปิดครอบ…
เพียงอึดใจเท่านั้นก็บาดเจ็บหมดสภาพ โลหิตย้อมอาภรณ์!
“นี่…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์