ตอน ตอนที่ 3135 เรื่องบนโลกเป็นตัวพิณ การต่อสู้ดั่งสายพิณ จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 3135 เรื่องบนโลกเป็นตัวพิณ การต่อสู้ดั่งสายพิณ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 3135 เรื่องบนโลกเป็นตัวพิณ การต่อสู้ดั่งสายพิณ
ศึกใหญ่ปะทุขึ้นทันที
กายมรรคดินเหลืองของหลินสวินตกอยู่ในวงล้อม
พวกอิงเทียนเซิง จู๋เทียนจวินต่างฮึกเหิม แต่ละคนเคลื่อนไหวเต็มกำลัง กดข่มจนกายมรรคดินเหลืองตกอยู่ในอันตราย
นี่ทำให้พวกเขารู้สึกสะใจหาใดเทียบ
เมื่อวานพวกเขาคว้าน้ำเหลวกลับไป อับอายขายหน้าโดยสิ้นเชิง ตอนนี้ไฟโทสะที่สั่งสมอยู่เต็มอกระบายออกมาจนหมด ความรู้สึกนั้นย่อมสาแก่ใจอย่างเหลือล้น
ผู้ชมการต่อสู้ต่างตกตะลึงอกสั่นขวัญแขวน
เกิดอะไรขึ้น
รู้ดีว่าศัตรูมีพวกมาก ร่างแยกของหลินสวินยังบุ่มบ่ามกระโจนออกมาเช่นนี้ได้อย่างไร
บนด่านนภาห้าธาตุไกลออกไป พวกสิงเจี้ยนสยายังเกร็งจนเหงื่อตก
พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่ากายมรรคดินเหลืองของหลินสวินจะพุ่งออกไป…
“ฮ่าๆๆ หลินสวิน ร่างแยกนี้ของเจ้าต้องรักษาไว้ไม่ได้แน่ๆ แล้ว!”
ในสนารบอิงเทียนเซิงแหงนหน้าขึ้นฟ้าหัวเราะร่า
“เช่นนั้นหรือ”
เสียงเรียบเฉยเสียงหนึ่งดังขึ้นกลางฟ้าดิน จากนั้น…
พรูด!
จู่ๆ ศีรษะของสัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งลอยกระเด็นขึ้นฟ้า เลือดกระฉูดกลางอากาศ
ภาพนองเลือดนี้ทำเอาทุกคนตัวแข็งทื่อ หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่
จากนั้นก็พบว่าห้วงอากาศใกล้เคียงปั่นป่วน ร่างต้นของหลินสวินและสี่กายมรรค รวมถึงสวินเต้าเยี่ยนและจอมเทพหลิงหลงปรากฏตัวกลางอากาศ
เห็นได้ชัดว่าศีรษะสัตว์ประหลาดเฒ่าที่เพิ่งถูกฟันทิ้งไปนั้นเป็นฝีมือร่างต้นของหลินสวิน!
“เวรเอ๊ย!”
ทันใดนั้นเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกอิงเทียนเซิง จู๋เทียนจวินก็สัมผัสได้ว่าสถานการณ์ไม่เข้าที จะยังกล้าลังเลได้อย่างไร เลือกหลบหนีทันที
“ไป!”
“รีบไป!”
เสียงตะโกนดังสะท้านฟ้า ไม่ว่าใครต่างดูออกว่าพวกอิงเทียนเซิงกลัวแล้ว!
แต่หลินสวินจะยอมให้พวกเขาหนีไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร
ทันทีที่ปรากฏตัวเขาก็ร่วมมือกับสวินเต้าเยี่ยนและจอมเทพหลิงหลงลงมือสังหาร
ตูม! ตูม! ตูม!
ฟ้าพลิกดินคว่ำ สุริยันจันทราอับแสง
ศึกใหญ่โกลาหลปะทุ พวกอิงเทียนเซิง จู๋เทียนจวินพยายามหลบหนีเต็มกำลัง แต่พวกหลินสวินกลับขัดขวางเอาไว้
ในระหว่างนี้พวกสิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลีและจอมมรรคซานเฟิงต่างก็พุ่งออกจากด่านนภาห้าธาตุ เข้าร่วมการต่อสู้โดยไม่ลังเลสักนิดเช่นกัน
สถานการณ์เปลี่ยนไปโดยสินเชิงตั้งแต่บัดนี้
มีพวกสิงเจี้ยนสยากับสวินเต้าเยี่ยนและจอมเทพหลิงหลงตรึงอยู่ ก็เหมือนวงล้อมวงหนึ่ง สะบั้นทางหนีของศัตรูไว้ทั้งหมด กั้นขวางเอาไว้โดนสิ้นเชิง
ส่วนหลินสวินกับห้ากายมรรคของเขาสำแดงการสังหารนองเลือดเหมือนเคลื่อนกวาดทั้งลาน
ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งอย่างอิงเทียนเซิงหรือจู๋เทียนจวิน ยังขัดขวางการโจมตีของหลินสวินได้ยาก
เพียงครู่เดียวก็มีเฒ่าดึกดำบรรพ์ถูกปลิดชีพคาที่ ฝุ่นธุลีปลิวว่อน
จนสุดท้ายพวกอิงเทียนเซิง จู๋เทียนจวินยังต้านไม่อยู่ พังทลายโดยสิ้นเชิง เลือกหนีออกจากโลกบัวชะตาแห่งนี้
แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ยังถูกพวกหลินสวินฉวยโอกาสฆ่าตายไปห้าคน!
เมื่อการต่อสู้จบลง
ของพวกอิงเทียนเซิงกับจู๋เทียนจวินสองฝ่ายบาดเจ็บล้มตายเกินครึ่ง
คนจากยุคมารที่อิงเทียนเซิงอยู่ สุดท้ายก็เหลือแค่ห้าคนที่เอาชีวิตรอดหนีไปจากโลกบัวชะตาแห่งนี้ได้
ฝ่ายของจู๋เทียนจวินก็อนาถนัก สุดท้ายผู้ที่หนีออกไปมีเพียงสามคน
ส่วนด้านพวกหลินสวินไม่มีใครบาดเจ็บล้มตายสักคน!
เมื่อการต่อสู้ปิดฉาก ผู้ชมการต่อสู้ต่างสั่นสะท้าน หน้าอกแทบระเบิด
เมื่อวานห้าขุมอำนาจคว้าน้ำเหลวกลับไป
วันนี้ก็มีขุมอำนาจสองฝ่ายถูกฆ่ากระเจิดกระเจิง บาดเจ็บล้มตายสาหัส สุดท้ายต้องออกจากโลกบัวชะตาไปอย่างลนลาน!
ไม่ว่าใครต่างรู้ว่าตั้งแต่ตอนนี้ไป ไม่ว่าจะเป็นอิงเทียนเซิงหรือจู๋เทียนจวิน พวกเขาต่างไม่มีสิทธิ์ไปชิงแท่นมรรคบัวชะตาแล้ว!
และทั้งหมดนี้ยังไม่จบลง
หลังจากนี้ในด่านนภาห้าธาตุยังมีกายมรรคดินเหลืองของหลินสวินกับพวกสิงเจี้ยนสยาเฝ้าอยู่
ส่วนร่างต้นหลินสวินกับกายมรรคทั้งสี่ของเขาออกเคลื่อนไหวไปแก้แค้นอย่างครึกโครมในโลกบัวชะตา ร่วมกับสวินเต้าเยี่ยนและจอมเทพหลิงหลง
……
ด่านนภาเจ็ดดารา
ด่านนี้ถูกพวกจอมเทพหวงหลงยึดครอง
หลินสวินท้าประลองตัดสินเป็นตาย ชนะสามครั้งรวด สังหารสัตว์ประหลาดเฒ่าในฝ่ายจอมเทพหวงหลงอย่างต่อเนื่อง ชิงด่านนภาเจ็ดดารามาไว้ในมือได้คราวเดียว
ตั้งแต่ยามอยู่บนลานประลองแพ้ชนะหน้าด่านนภาห้าธาตุ จอมเทพหวงหลงก็แพ้ให้หลินสวินแล้ว กายมรรคแหลกสลาย พลังจิตบาดเจ็บสาหัส พลังดั้งเดิมยังไม่ฟื้นตัว จะขัดขวางการท้าประลองจากหลินสวินได้อย่างไร
กระทั่งด่านนภาเจ็ดดาราถูกชิงไป จอมเทพหวงหลงกับพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าที่เหลืออยู่ต่างหนีออกจากโลกบัวชะตาเช่นกัน
เมื่อเรื่องที่เกิดขึ้นในด่านนภาเจ็ดดารากระจายออกไป ทั้งโลกบัวชะตาต่างสะเทือนไหว
ส่วนพวกหลินสวินออกเดินทางอีกครั้ง ทะยานไปที่อื่นนานแล้ว
……
เจ็ดวันเต็ม
พวกหลินสวินเคลื่อนไหวอยู่ตลอด สร้างเรื่องสังหารนองเลือดครั้งแล้วครั้งเล่า
แม้โลกบัวชะตาจะกว้างใหญ่ แต่สำหรับผู้ที่บรรลุขั้นไร้ขอบเขตแล้ว ในสามวันก็ทะยานทั่วภูผาธารานี้ได้ทุกกระเบียด
และพวกหลินสวินไม่เพียงท่องทะยาน ยังกวาดล้างศัตรูด้วย
พวกตู้เฟิงเห็นภาพนี้ในใจล้วนพลิกม้วน
ใครจะคิดว่าการต่อสู้ในโลกบัวชะตาครั้งนี้จะดำเนินมาถึงขั้นนี้
หลินสวินคนเดียวก่อกวนคลื่นลมในใต้หล้า เข่นฆ่าจนเฒ่าชราที่มีชีวิตอยู่มาในกาลเวลาไร้สิ้นสุดเหล่านั้นหวั่นหวาด!
กระทั่งยักษ์ใหญ่อย่างจักรพรรดิเทพข่งอวี่ยังทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับ ถอยออกจากการชิงชัยไปเงียบๆ นี่จะให้ใครไม่ทอดถอนใจได้บ้างเล่า
……
“ศึกวันพรุ่งนี้ต้องเกิดลมคาวฝนเลือดอันน่าอนาถหาใดเทียบอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ”
ด่านนภาจตุลักษณ์ กว่านเชียนชิวที่เฝ้าอยู่บนนั้นเอ่ยทอดถอนใจ
หลายวันนี้หลินสวินสร้างคลื่นลมปั่นป่วนไปทั้งโลกบัวชะตา ทำให้ผู้คนตระหนักได้ถึงความน่ากลัวของเขาขึ้นอีกขั้น
ในสถานการณ์เช่นนี้ ทันทีที่การชิงแท่นมรรคบัวชะตาเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ หลินสวินจะพลาดได้อย่างไร
“มหายุคเคลื่อนคล้อย ยุคสมัยผันเปลี่ยน หนึ่งบัวที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลรอคอยเดิมก็เป็นตัวแปรที่ใหญ่ที่สุดอยู่แล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหลายวันนี้ต่างพิสูจน์แล้ว ว่าตัวแปรนี้มีรากฐานพลังที่จะพลิกคว่ำทุกสิ่งในอดีต”
บนด่านนภาหกประสาน ชายที่ผมสีเทาปลิวสยายอยู่ด้านหลัง เงาร่างตรงแน่วดุจกระบี่ผู้หนึ่งเอ่ยเนิบๆ “พรุ่งนี้ข้าล่ะอยากเห็นนัก ว่าตัวแปรนี้จะน่าตื่นตะลึงขนาดไหน”
มือข้างหนึ่งของเขาถือน้ำเต้าสุรา อีกข้างไพล่หลัง รอบตัวมีมหามรรคโอบล้อม อานุภาพดุจเทพเซียน นามว่าฉือเชียนจี!
“มหามรรคเป็นกระดานหมาก คนเป็นตัวหมาก ใครเล่าคือผู้ลงหมาก”
ด่านนภาแปดทิศ ชายชรามอมแมมคนหนึ่งนอนเมาอยู่กับพื้น กำลังหลับฝัน ยังคงงึมงำกับตัวเอง “เรื่องบนโลกเป็นตัวพิณ การต่อสู้ดั่งสายพิณ ใครเล่าเป็นคนเล่น ตัวแปรนี้… จะทลายฟ้าแล้ว…”
ชายชรามอมแมมมีนามว่าอี้อู๋อิ๋น
‘ถ้าครอบครองโชคชะตา ต้องหลุดพ้นเหนือโชคชะตา หากเป็นเช่นนี้ ตัวหมากก็จะเป็นผู้เดินหมากเอง มีเพียงผู้เดินหมากจึงจะสามารถหลุดพ้นเหนือมรรคคาสุดท้ายได้…’
ในป่าเปลี่ยว ซู่หวั่นจวินในชุดกระโปรงแดงสง่างามโดดเด่นดุจเด็กสาว นางนึกถึงคำพูดของมือกระบี่ผู้นั้นในตอนนั้นขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่
‘หวั่นจวิน มีแต่กลายเป็นคนเดินหมากจึงจะมีสิทธิ์พลิกกระดานหมาก และสิทธิ์นี้ก็อยู่ในแหล่งสถานอัศจรรย์’
บัดนี้เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ซู่หวั่นจวินพลันนึกถึงหลินสวินกับซย่าจื้อ ‘ไม่แน่พรุ่งนี้อาจจะไปดูสักหน่อย’
……
ด่านนภาห้าธาตุ
“นี่เจ้าจะพัฒนาเร็วไปแล้วกระมัง…”
หลินสวินสีหน้าตกตะลึงไปหมด
ก่อนหน้านี้เขาเคยเทียบพลังกับซย่าจื้อ ตอนนี้เพิ่งผ่านไปแค่เก้าวัน พลังต่อสู้ของซย่าจื้อก็เทียบได้กับเขายามอยู่ขั้นสรรสร้างสัมบูรณ์แล้ว
การพัฒนานี้เรียกได้ว่าน่าตกตะลึง!
เห็นได้ชัดว่าพลังกฎระเบียบโชคชะตาที่ซย่าจื้อดูดซับและหลอมไปในเก้าวันนี้ ทำให้นางได้รับประโยชน์อย่างเหลือเชื่อ
“แต่ยังไม่พอ ข้ารู้สึกได้ว่าพลังที่ผนึกนั่นยังอยู่”
ซย่าจื้อเอ่ยจริงจัง “ถ้าให้เวลาข้าอีกสามเดือนจะต้องหลอมมันได้โดยสมบูรณ์แน่”
“สามเดือน… เร็วยิ่ง รอหลังจากนี้พวกเรามาโลกบัวชะตานี้อีกสักสองสามครั้งก็ได้” หลินสวินยิ้มเอ่ย
เขาก็ตั้งตาคอยเช่นกัน ถึงตอนนั้นซย่าจื้อที่หลอมพลังมรรควิถีที่จักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ทิ้งไว้ให้โดยสมบูรณ์จะมีพลังแข็งแกร่งปานไหน!
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์