ตอนที่ 3143 เริ่มด้วยหนึ่ง จบด้วยหนึ่ง
การประลองเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว
ซย่าจื้อ หลินสวิน เทียนซิงจื่อ ฉือเชียนจี นักพรตสุ่ยซวิ่นต่อสู้แบบเวียนด้วยวิธี ‘ประลองห้าธาตุ’
ครั้งนี้ทำให้พวกเฒ่าชราอย่างเทียนซิงจื่อกับฉือเชียนจีเห็นความน่ากลัวด้านพลังต่อสู้ของซย่าจื้อ
การต่อสู้สองครั้ง เทียนซิงจื่อกับนักพรตสุ่ยซวิ่นทยอยพ่ายแพ้ภายใต้น้ำมือซย่าจื้อ!
กระทั่งการต่อสู้มหามรรคครั้งนี้ปิดฉาก ซย่าจื้อที่ชนะทั้งสองรอบกลายเป็นผู้ชนะในตอนสุดท้ายโดยไม่น่าหวั่นวิตกแม้แต่น้อย
“ข้ารู้แล้วว่านางเป็นใคร”
ฉือเชียนจีแววตาซับซ้อน ทั้งตกตะลึงทั้งกระจ่างแจ้ง
“โชคชะตาคือมงกุฎ กฎกรรมคือคทา ท่องแดนรัตติกาลนิรันดร์ทั่วหล้า นอกจากนางแล้ว… บนโลกนี้ไม่มีทางปรากฏผู้ครองพลังเช่นนี้คนที่สอง”
เทียนซิงจื่อทอดถอนใจออกมาเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ยามแพ้ด้วยน้ำมือซย่าจื้อเขายังไม่ยินยอมอยู่บ้าง แต่หลังรู้ฐานะที่แท้จริงของซย่าจื้อแล้ว เขาดูคล้ายปล่อยวางได้
“เป็นบุคคลในตำนานคนนั้นจริงหรือ…”
“ได้ยินว่านางมาจากแหล่งสถานอัศจรรย์”
“น่าเหลือเชื่อ…”
เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าหลายคนในที่นั้นเหมือนนึกถึงข่าวลือบางอย่างเมื่อนานมาแล้วขึ้นมาได้ สายตาที่แต่ละคนมองซย่าจื้อล้วนเปลี่ยนไป
แม้แต่หลินสวินยังแปลกใจยิ่ง คราวนี้ถึงรู้ว่าร่างอดีตของซย่าจื้อมีชื่อเสียงเช่นนี้
‘ซย่าจื้อ จักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์มาจากแหล่งสถานอัศจรรย์จริงหรือ’
หลินสวินอดสื่อจิตถามไม่ได้
‘อืม’
ซย่าจื้อพยักหน้าน้อยๆ ‘ในความทรงจำของนางมีเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับแหล่งสถานอัศจรรย์จริงๆ แต่ส่วนใหญ่ล้วนเลือนรางมาก ดูเหมือนถูกนางลบออกไปเอง’
นัยน์ตาหลินสวินหดรัด
ผู้ฝึกปราณบนโลกนี้ล้วนมุ่งหวังจะไปแหล่งสถานอัศจรรย์
แต่ใครเล่าจะคิดว่าบุคคลอย่างจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์กลับมาจากแหล่งสถานอัศจรรย์
น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
เวลานี้ในที่สุดซู่หวั่นจวินซึ่งเฝ้ามองอยู่ไกลๆ มาตลอดเหมือนกล้ามั่นใจแล้ว กล่าวพึมพำในใจ ‘มิน่าถึงควบคุมพลังโชคชะตาได้แต่กำเนิด ที่แท้แม่นางซย่าจื้อคนนี้ก็คือจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ที่เขาพูดถึง…’
วันนั้นแท่นมรรคบัวชะตาพาพวกสิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีมุ่งหน้าไปแหล่งสถานอัศจรรย์
…
โลกวิญญาณยุทธ์
บนภูเขาเทพถกมรรค หลินสวินกำลังร่ำสุรากับเหล่าศิษย์พี่แห่งคีรีดวงกมล
“ศิษย์พี่ใหญ่ยังไม่ตื่นขึ้นมาหรือ”
ยามพูดคุยกันหลินสวินถามลอยๆ
จ้งชิวยิ้มกล่าว “ศิษย์พี่ใหญ่น่าจะกำลังแจ้งมรรค หลายปีที่ผ่านมานี้แม้ว่าเขาจะไม่เคยตื่นขึ้นมา แต่กลิ่นอายบนตัวแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ คาดการณ์ได้เลยว่ายามเขาตื่นขึ้นมาจริง ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงเหมือนหนอนกลายเป็นผีเสื้อแน่”
หลินสวินยิ้มพลางพยักหน้า
“ศิษย์น้องเล็ก ปัจจุบันโลกวิญญาณยุทธ์นี้ผู้มีความสามารถไปแหล่งสถานอัศจรรย์เหลือเพียงเจ้ากับแม่นางซย่าจื้อแล้ว เจ้าคิดจะออกเดินทางเมื่อไหร่”
รั่วซู่ถามด้วยเสียงนุ่มนวล
หลินสวินยิ้มกล่าว “ไม่ต้องรีบร้อน ข้าคิดจะปิดด่านอีกครั้ง รอเตรียมตัวพร้อมแล้วค่อยออกเดินทางไปแหล่งสถานอัศจรรย์”
กระทั่งงานเลี้ยงสิ้นสุด หลินสวินปิดด่านอีกครั้ง
ช่วงสามร้อยปีก่อนหน้านี้มรรควิถีทั้งตัวเขาพัฒนาหลายครั้ง การพัฒนาแต่ละครั้งล้วนไม่ต่างอะไรกับการยกระดับขอบเขตเล็ก ทำให้พลังต่อสู้ทั้งตัวเขาแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก
แต่หลายปีนี้หลินสวินกลับพบว่ามรรควิถีของตนมาถึงจุดคอขวด ไม่อาจก้าวหน้าอีกแม้เพียงคืบ
แต่สำหรับหลินสวินนี่กลับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างหนึ่ง
ด้วยขอเพียงทำลายคอขวดนี้ได้ บางทีอาจทำให้มรรควิถีของเขาทะลวงขั้นได้อย่างแท้จริง!
‘ก่อนหน้านี้ข้าแค่คิดก้าวหน้าในขั้นไร้ขอบเขตขั้นต้นทีละก้าว แต่ตอนนี้หากทำลายคอขวดนี้ได้ บางทีอาจเท่ากับก้าวสู่ขั้นกลางของขั้นนี้แล้ว…’
ในถ้ำสถิต หลินสวินนั่งขัดสมาธิฝึกปราณพลางใคร่ครวญ
ไร้ขอบเขต อนันต์ไร้สิ้นสุด
ขั้นนี้ก็เหมือนมรรคาทอดยาวไร้สิ้นสุดสายหนึ่ง สัตว์ประหลาดเฒ่าทุกคนล้วนเสาะหาหนทางก้าวไปเบื้องหน้า พยายามไปถึงปลายทางของขั้นนี้
แต่จากอดีตจนปัจจุบัน ยุคสมัยมากมายผ่านพ้น ผู้บรรลุถึงขั้นสูงสุดของขั้นนี้ได้อย่างแท้จริงมีเพียงบางตาไม่กี่คน
เช่นนายจอมราชันไท่ชู เฉินซี มือกระบี่ปริศนาคนนั้นเป็นต้น
สำหรับหลินสวิน หลายปีนี้เขาก้าวหน้าบนมรรคาสายนี้ตลอด พลังปราณก็เกิดการเปลี่ยนแปลงและยกระดับหลายครั้ง
แม้ว่าพลังต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งถึงขั้นเอาชนะยอดผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในขั้นไร้ขอบเขตอย่างฉือเชียนจีกับเทียนซิงจื่อได้แล้ว แต่หากพิจารณาอย่างจริงจัง พลังปราณของเขาตอนนี้ก็อยู่แค่ขั้นไร้ขอบเขตขั้นต้น
ปัจจุบันหากทำลายคอขวดนี้ได้ก็จะก้าวสู้ขั้นไร้ขอบเขตขั้นกลาง!
‘หมื่นมรรครวมเป็นหนึ่ง หมื่นวิชารวมเป็นหนึ่ง สรรพสิ่งรวมเป็นหนึ่ง… หนทางแห่งการฝึกปราณขั้นไร้ขอบเขตคือจุดสูงสุดของมรรคานิรันดร์ เป็นขั้นสุดท้ายของหนทางแห่งการฝึกปราณทั้งหมด อนุมานด้วยจำนวนมหามรรค เก้าเก้ากลับสู่หนึ่ง ทุกอย่างล้วนหวนคืนสู่หนึ่งในท้ายที่สุด’
‘เริ่มด้วยหนึ่ง จบด้วยหนึ่ง’
‘อุบัติฟ้าสี่สิบเก้า รอดพ้นเพียงหนึ่งเป็นเช่นนี้ ตอนแรกและตอนท้ายล้วนเป็นแบบเดียวกัน’
…หลินสวินดื่มด่ำกับการหยั่งรู้พร้อมใคร่ครวญช้าๆ
สามสิบปีต่อมา
ตูม!
ในถ้ำสถิตห้ากายมรรคโผล่ออกมา ล้อมพิทักษ์รอบร่างต้นของหลินสวิน
เมื่อความคิดหลินสวินขยับไหว กายมรรคไม้เขียวพลันกลายเป็นแสงมรรคสีเขียวนุ่มนวลหนาแน่น หลอมรวมเข้าไปในมรรควิถีของหลินสวิน
ต่อจากนั้นสี่กายมรรคอย่างเพลิงแดง ทองขาว ดินเหลือง วารีดำก็กลายเป็นพลังต้นกำเนิดมหามรรคสีแดง สีขาว สีเหลือง สีดำ หลอมรวมเข้าไปในมรรควิถีของหลินสวิน
พลังขับเคลื่อนบนตัวหลินสวินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ปรากฏแสงศักดิ์สิทธิ์ไร้ขอบเขต
ถึงตอนนี้ยอดอภินิหารและวิชาอัศจรรย์ที่เขามีหลอมรวมเป็นหนึ่งทั้งหมด กลายเป็นส่วนหนึ่งใน ‘วิชา’ แห่งตนของหลินสวิน
นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่า ‘หมื่นวิชารวมเป็นหนึ่ง’!
นับจากนั้นมาพลังของร่างต้นหลินสวินก็เทียบเท่าพลังต่อสู้ของห้ากายมรรคยามร่วมมือกัน
…
ห้าสิบปีต่อมา
“โอม!”
หลินสวินพลันลืมตาขึ้นพลางส่งเสียงกู่ก้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์