Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3158

สรุปบท ตอนที่ 3158 ข้ามข้าไม่พ้น พริบตาพลันว่างเปล่า: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 3158 ข้ามข้าไม่พ้น พริบตาพลันว่างเปล่า จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 3158 ข้ามข้าไม่พ้น พริบตาพลันว่างเปล่า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 3158 ข้ามข้าไม่พ้น พริบตาพลันว่างเปล่า

มหามรรคเรียบง่ายสุดขีด

ในการต่อสู้ สภาวะจิตหลินสวินผ่องแผ้ว ทุกย่างก้าวการเคลื่อนไหวหมื่นมรรคสั่นพ้อง หมื่นลักษณ์ติดตาม แต่กลับหลอมรวมอยู่ในหนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือตามใจนึก

เลือนรางดั่งความรุ่งโรจน์ร่วงโรย มรรคอัศจรรย์เป็นธรรมชาติ

‘มรรคาของเทียนอูยึดการทำลายล้างเป็นรากฐาน สามารถบรรลุมรรคนิรันดร์ในการทำลายล้าง เรียกได้ว่าเป็นพรสวรรค์ไร้ใครเทียม หายากในอดีตถึงปัจจุบัน…’

ในระหว่างต่อสู้หลินสวินสามารถสัมผัสถึงพลังมหามรรคของเทียนอูได้ชัดเจน

หากต้องการเอาชนะฝ่ายตรงข้ามก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงมากเกินไปนัก แต่หลินสวินกลับไม่ได้ทำเช่นนั้น

เขากำลังทำใจให้สงบสัมผัส ‘การประลองมรรค’ นี้

การต่อสู้ครั้งนี้ดำเนินต่อไปยาวนานยิ่ง

หนึ่งวันหนึ่งคืนให้หลัง เงาร่างของเทียนอูอันตรธานหายไปเสมือนควันเอื่อยระลอกหนึ่ง

ไม่ใช่ถูกกำราบเอาชนะ หากแต่ถูกผลาญพลังวิชามรรคจนหมดเกลี้ยงและหายไปโดยตรง

กระทั่งการต่อสู้ปิดฉากลง

ทุกคนในที่นี้ล้วนไม่อาจดึงสติกลับมาได้เนิ่นนาน สีหน้าท่าทางมีแววสะทกสะท้านและท้อแท้

ที่สะท้านคือแม้แต่พลังวิชามรรคแข็งแกร่งอย่างเทียนอูก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินสวิน

ที่ทดท้อก็คือ หลังการต่อสู้นี้หลินสวินกลับไม่อาจชักนำผลมรรคแรกกำเนิดมาได้!

นี่ทำให้คนยากจะเชื่อเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงขั้นรู้สึกงุนงง

เหตุใจจึงเป็นเช่นนี้

ยอดเขาพันวิหค ใต้เวิ้งฟ้า

หลินสวินสองมือไพล่หลัง ยืนกลางอากาศ ท่าทีนิ่งงัน เงียบขรึมไม่เอ่ยวาจา

ภายในใจมีความตระหนักอันมหัศจรรย์น่าเหลือเชื่อมากมายพลิกม้วนไม่หยุดเสมือนสายน้ำไหลริน ทำให้สภาวะจิตของเขาจมอยู่กลางการหยั่งรู้อันเร้นลับ

เนิ่นนานกว่าเขาจะเก็บความคิด ระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ลอบกล่าวว่า ‘แม้ว่าพลังวิชามรรคของเทียนอูจะแข็งแกร่งยิ่ง แต่เมื่อเทียบมรรคาของเขากับจอมมรรคชะตาสวรรค์ภาคีพายัพเพ่ยถู กลับนับได้เพียงว่าไม่เด่นไม่ด้อยกว่ากัน…’

“ยินดีด้วยที่สหายยุทธ์หลินเอาชนะเพิ่มในระหว่างเดินทาง!”

ทันใดนั้นเสียงกึกก้องสายหนึ่งดังขึ้น เผยแววเลื่อมใสจากใจจริง

“ยินดีด้วยสหายยุทธ์หลิน!”

“ยินดีด้วยสหายยุทธ์หลิน!”

…ทันใดนั้นในบริเวณใกล้เคียงมีเสียงแซ่ซ้องยินดีดังขึ้นระลอกหนึ่ง ก้องกังวานกลางฟ้าดิน ยาวนานไม่สิ้นสุด

บรรดาผู้ฝึกปราณเหล่านั้นล้วนติดอยู่ในโลกแปรปุถุชนไม่รู้กี่กาลเวลาแล้ว เดิมเจ้าตัวก็เป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าบนมรรคาไร้ขอบเขต

แต่ขณะนี้ยามเผชิญหน้าหลินสวิน กลับมีความรู้สึกเลื่อมใสราวแหงนมองภูเขาสูงชัน

สดับมรรคมีลำดับก่อนหลัง ผู้บรรลุเป็นอาจารย์!

หลินสวินกรำศึกจนบัดนี้เพียงแค่สี่เดือนเศษเท่านั้น มีชัยแปดร้อยกว่าครั้ง นี่เรียกได้ว่าปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยมีมาก่อน!

เมื่อเทียบกัน เหล่าผู้กล้าใต้หล้าใครจะสามารถไม่น้อมกายด้วยความชื่นชมบ้าง

หลินสวินยิ้มพลางประสานหมัดคารวะน้อยๆ “บนเส้นทางมหามรรคล้วนเป็นสหายร่วมวิถี ข้าคนแซ่หลินก็ขออวยพรล่วงหน้าให้ทุกท่านก้าวไปอีกขั้นในวันหน้า”

กล่าวจบก็จากไปอย่างผ่าเผย

“ทุกท่าน จากที่ข้าดูยามการต่อสู้ปิดฉากก่อนหน้านี้ หลินสวินหมดพลังไปมากอย่างเห็นได้ชัด หากเวลานั้นมีคนลงมือจู่โจม…”

จู่ๆ ชายชุดเทาคนหนึ่งเอ่ยปากขึ้น

แต่ยังไม่ทันกล่าวจบเหล่าผู้ฝึกปราณที่ยืนใกล้ๆ กับชายชุดเทาล้วนหน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ ถอยออกห่าง ท่าทางขีดเส้นแบ่งกั้นกับคนผู้นี้

ชายชุดเทาหุบปากทันที สีหน้าเปลี่ยนไปมา เห็นชัดว่ารู้สึกผิดยิ่ง กล่าวว่า “ทุกท่าน ข้าแค่พูดไปอย่างนั้นเอง ไยต้องเคร่งเครียดเช่นนี้”

แต่ยังคงไม่มีใครสนใจเขา กลับกันยิ่งหนีห่างกว่าเดิม

ภาพเช่นนี้ทำให้ในใจชายชุดเทากระวนกระวายอย่างไม่อาจเลี่ยง พักใหญ่ให้หลังจึงกล่าวพึมพำอย่างขมขื่น “บารมีของหลินสวินถึงกับกร้าวแกร่งเพียงนี้แล้วหรือ”

เจ็ดวันให้หลัง

อาณาจักรหลง ทะเลสาบประกายสาด

การต่อสู้มหามรรคกำลังอุบัติขึ้น

ฝ่ายหนึ่งคือรูปจำลองวิชามรรคที่บรรพจารย์ซื่อแห่งลัทธิฌานทิ้งไว้ อยู่ลำดับที่เจ็ดในระเบียบมรรควัฏจักร

อีกฝ่ายคือหลินสวิน

การต่อสู้ดำเนินไปสองชั่วยามแล้ว

ก็เห็นใต้เวิ้งฟ้านั่นแดนพุทธเกรียงไกร สว่างไสวไร้ขอบเขต ทุกหนแห่งล้วนมีดอกบัวเบ่งบานลอยล่อง มีเสียงท่องคัมภีร์ดังราวกระแสน้ำ

ท่ามกลางความเลือนรางยิ่งเห็นเงามายาแดนธรรมมหาศาลปรากฏ มีมุนินทร์ถกมรรค มีโพธิสัตว์ร่ายวิชา เผยภาพเกรียงไกรที่สว่างไสวไร้ขอบเขต สุขาวดีไร้สิ้นสุด

นี่คือมรรคของบรรพจารย์ซื่อแห่งลัทธิฌาน ใช้ ‘จิตฌาน’ เป็นรากฐาน วิเศษอัศจรรย์ยิ่งยวด

หลินสวินที่กำลังต่อสู้นั่งกลางห้วงอากาศ เงาร่างว่างเปล่า ราบเรียบละโลกีย์

ทั้งไร้ภาพอภินิหาริย์มหามรรค และไม่มีอานุภาพสะเทือนฟ้า สงบนิ่งไม่หวือหวา

แต่มุนินทร์ถกมรรคนั่นกลับยากจะสั่นคลอนสภาวะจิตของเขาแม้เศษเสี้ยว โพธิสัตว์ร่ายวิชาก็ไม่อาจทำร้ายเส้นขนบนตัวเขาได้สักเส้น

แม้จะเป็นแดนธรรมนิรันดร์ สว่างไสวไร้ขอบเขตก็ไม่อาจรุกล้ำบริเวณที่หลินสวินนั่งขัดสมาธิได้

เขาราวกับหินก้อนหนึ่ง มั่นคงไม่ขยับ มองดู รับรู้ สัมผัสเช่นนั้น ท่าทีสงบละโลกีย์

เนิ่นนานมุนินทร์ครวญคร่ำก่อนย่อยยับ โพธิสัตว์ส่ายหน้าแล้วสาบสูญ แดนธรรมทั่วฟ้าล้วนเลือนรางลบหาย แม้แต่เสียงสวดแผ่วเบานั่นก็ยังจางหายไปพร้อมกัน

และเงาร่างของซื่อก็มอดไหม้ในเวลานี้เช่นกัน

หลินสวินหยัดตัวขึ้นขยับตัวเล็กน้อย ก่อนหยิบกาสุราออกมาดื่มอย่างเบิกบานอึกหนึ่ง ยิ้มกล่าว “ธรรมก็ดี มารก็ช่าง ข้ามข้าไม่พ้น พริบตาพลันว่างเปล่า!”

สิบวันให้หลัง

อาณาจักรซิงเฉียว ยอดเขาวิหคมังกร

“ผู้อาวุโส ก่อนหน้านี้ล่วงเกินแล้ว”

หลินสวินประสานหมัดคารวะ

การต่อสู้ครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งทำให้เขาเอาชนะวิชามรรคที่บรรพจารย์ลัทธิวิญญาณซวีอิ่นทิ้งไว้ พลังกฎระเบียบลำดับที่แปดในระเบียบมรรควัฏจักรนี้ก็อันตรธานหายไปพร้อมกัน

ครึ่งเดือนให้หลัง

บนเขาผาวาโยไกลแปดร้อยลี้นอกอาณาจักรซ่ง

หนึ่งกระบี่ขวางฟ้า ปิดครอบเก้าฟ้าธารดารา!

ดวงดาวนับไม่ถ้วนร่วงหล่นพร้อมกัน เฉกเช่นดอกไม้ไฟที่ร่วงโรยเงียบงันเลือนหายไปเช่นนี้

ครู่ต่อมาเสียงกระบี่ครวญกังวานสายหนึ่งดังขึ้น ปั่นป่วนเหนือเมืองหมอกสน ทำเอาเมฆแปดทิศพังทลาย ฟ้าดินเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเสมือนตกอยู่ในแสงคมกล้าที่เจิดจรัสไร้สิ้นสุด กระตุ้นจนสภาวะจิตผู้คนหนาวสะท้าน จิตรับรู้ล้วนมีความรู้สึกเหมือนถูกฟันขาด

ถึงขั้นที่ผู้ฝึกปราณที่ชมอยู่ไกลๆ ไม่น้อยได้รับบาดเจ็บ จิตวิญญาณถูกกระเทือนอย่างน่าสะพรึง สีหน้าล้วนเปลี่ยนไป

และเป็นเวลานี้พวกเขาถึงตระหนักว่าไม่ใช่หลินสวินไม่ให้พวกเขาชมการต่อสู้ หากแต่การชมการต่อสู้ด้วยมรรควิถีของพวกเขา ต้องถูกพลังสะท้อนกลับเป็นแน่!

ชั่วขณะเดียวผู้ฝึกปราณเหล่านี้ล้วนจิตใจปั่นป่วน สีหน้าสะทกสะท้าน

การต่อสู้แก่งครั้งหนึ่ง กลับทำให้ขั้นไร้ขอบเขตอย่างพวกเขาแม้แต่ชมดูยังต้องจ่ายค่าตอบแทน นี่น่ากลัวปานใด

ชิ้ง!

ไม่รอให้ตอบสนอง หนึ่งกระบี่มรรคครวญก้องอีกครั้ง ความเกรียงไกรในอานุภาพไม่ด้อยกว่าก่อนหน้านี้สักนิด

จากนั้นในเมืองหมอกสนปราณกระบี่แผ่ทั่ว เจตกระบี่สะเทือนชั้นฟ้า

ไม่ว่าใครต่างรู้ดี การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว

ทว่ารายละเอียดและนัยเร้นลับในนั้นกลับไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถสอดส่องได้

เวลาเคลื่อนคล้อยทีละนิด

ผู้ฝึกปราณเหล่านั้นได้แต่รอคอยท่ามกลางความทรมาน

รอถึงยามตัดสินแพ้ชนะ

แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าการต่อสู้นี้จะยืดเยื้อเช่นนั้น ตั้งแต่รุ่งสางยันสายัณห์ ตั้งแต่ทุกชีวิตบนโลกยุ่งง่วนกับงานจนกลับบ้านนอนหลับ…

วันแล้ววันเล่าผ่านไป เสียงกระบี่ครวญดังชิ้งๆ นั่นเดี๋ยวดังเดี๋ยวหาย แต่เวลาส่วนใหญ่ล้วนจมสู่ความเงียบสงัด ยามผู้คนคิดว่าการต่อสู้ปิดฉากลง กลับมีเสียงกระบี่ครวญดังขึ้นเป็นครั้งคราวอีก

เมืองหมอกสนอันกว้างใหญ่เต็มไปด้วยแสงคมกล้าเวียนวนไม่สร่าง

กระทั่งเจ็ดวันให้หลัง

แดนเทพมากเร้น โลกหงหลิง

เฉินหลินคงนั่งในกระท่อมไกลออกไปอย่างสบายๆ ถือลำไม้ไผ่หย่อนเบ็ดอยู่หน้าลำธาร ท่าทางสบายใจ

ลำธารใสกระจ่าง ไม่มีปลาสักนิด

แต่เฉินหลินคงกลับเพลิดเพลินไปกับมัน

ทันใดนั้นเขาเลิกคิ้วน้อยๆ โยนลำไผ่ในมือลงแล้วเหยียดกายลุกขึ้น นัยน์ตาเผยแววตกใจที่ไม่ปกปิดสักเสี้ยว

“เจ้าหมอนี่ถึงกับมีความสำเร็จเช่นนี้บนมรรคาไร้ขอบเขตแล้วหรือ”

เฉินหลินคงอึ้งอยู่ตรงนั้น สภาพจิตใจเกิดระลอกคลื่น

“ถูกคนแซงหน้า สภาวะจิตยากจะสงบหรือ” เสียงหัวเราะสายหนึ่งดังขึ้นในกระท่อม

“ท่านปู่ ท่านก็รู้เช่นกันหรือ”

เฉินหลินคงหมุนตัว สีหน้าผิดแปลก ดูคล้ายยินดีและคล้ายเศร้าสลดอยู่บ้าง

“ระเบียบมรรควัฏจักรนี้เดิมก็แปลงมาจากต้นกำเนิดแหล่งสถานอัศจรรย์ รองรับมรรคกระบี่ของเจ้าได้ กลับไม่อาจรองรับมหามรรคของเขา”

ในกระท่อมเสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง “นี่ก็คือตัวแปร”

เฉินหลินคงถอนใจเบาๆ คราหนึ่ง จากนั้นยิ้มกล่าว “ข้าไม่ได้ใส่ใจหากถูกเขาแซงหน้า ถึงอย่างไรสุดท้ายนั่นก็เป็นวิชามรรคที่ทิ้งไว้ในปีนั้น หากหลินสวินยังไม่อาจแม้แต่จะแซงหน้าข้าได้ เกรงว่าคงทำให้คนไม่น้อยผิดหวัง”

“ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดเรื่องพวกนี้ รอดูไปก่อนเถอะ”

ในกระท่อมฟาง เสียงนั้นดังขึ้นเนิบนาบ เจือแววตั้งตาคอยที่นานทีจะได้เห็น

………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์