Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3228

สรุปบท ตอนที่ 3228 ต้นไม้โบราณต้นหนึ่ง: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 3228 ต้นไม้โบราณต้นหนึ่ง – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 3228 ต้นไม้โบราณต้นหนึ่ง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 3228 ต้นไม้โบราณต้นหนึ่ง

เมื่อเรือนิรันดร์พุ่งขึ้นมากะทันหัน ในใจหลินสวินก็ตื่นตะลึง

ตัวแปรนี้ทำให้เขายังคิดไม่ถึง

กระทั่งเรือนิรันดร์เลาะมาตามจิตรับรู้ของเขา หลินสวินก็สัมผัสได้ทันทีว่าจิตรับรู้ของตนเหมือนนั่งอยู่บนเรือนิรันดร์นั้น จิตวิญญาณยังผ่อนคลายไปครู่หนึ่ง

จากนั้นเรือนิรันดร์ก็เริ่มพาจิตรับรู้ของเขาพุ่งเข้าไปในส่วนลึกของเขตผนึกอัศจรรย์…

‘นี่มันจะพาข้าไปหาอะไร’

หลินสวินใจสั่น

ภาพนี้น่าเหลือเชื่อเกินไปจริงๆ

เดิมเขานึกว่าเรือนิรันดร์เป็นกุญแจดอกหนึ่งที่เปิดโลกมอบวิญญาณได้ แต่ใครจะคิดว่าตอนนี้สมบัติชิ้นนี้กลับเปลี่ยนแปลงไป คล้ายจะดึงตนไปที่แห่งหนึ่ง!

‘จริงสิ ซย่าจื้อยังอยู่ในเรือนิรันดร์’

หลินสวินพลันนึกขึ้นได้ ทันใดนั้นจิตรับรู้ของเขาก็แทรกเข้าไปในเรือนิรันดร์ ลองปลุกซย่าจื้อที่อยู่ในนั้น

แต่ตอนนี้จิตรับรู้ของเขากลับถูกพลังคลุมเครือขัดขวาง

ก็ในตอนนี้เองหลินสวินจึงพบว่าเรือนิรันดร์เปล่งคลื่นพลังลึกลับออกมาประหนึ่งจังหวะชีวิต

นี่เป็นพลังที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน!

‘ต้องเป็นเพราะจิตรับรู้ของข้าสัมผัสบางอย่างในเขตผนึกอัศจรรย์แห่งนี้แน่ ถึงทำให้เรือนิรันดร์เกิดความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ตามไปด้วย…’

หลินสวินสงบใจลง

เขาในตอนนี้เพียงแค่ทะลวงจิตรับรู้ผ่านเขตผนึกอัศจรรย์แห่งนี้ ต่อให้พบเจอภัยคุกคามถึงชีวิตก็ไม่หวั่นอะไร

ที่กังวลเพียงอย่างเดียวคือซย่าจื้อที่อยู่ในเรือนิรันดร์!

‘ข้าจะไม่ให้เจ้าเกิดเรื่องเด็ดขาด’

หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง จดจ่อความคิดทั้งหมดกับจิตรับรู้

ฮูม…

เรือนิรันดร์ในตอนนี้เหมือนกับนาวาน้อยลำหนึ่ง พาจิตรับรู้ของหลินสวินทะลวงผ่านไปในกลิ่นอายแรกกำเนิดเป็นชั้นๆ ไปสู่ส่วนลึกไร้สิ้นสุดของเขตผนึกอัศจรรย์

ตลอดทางจิตรับรู้ของหลินสวินผ่อนคลายหาใดเทียบ พลังจิตวิญญาณยังไม่ต้องใช้สักนิด นี่ทำให้เขาสงบใจสัมผัสทิวทัศน์และความเร้นลับต่างๆ ได้ตลอดทาง

แต่เทียบกับการหยั่งรู้ก่อนหน้านี้ กลับรู้สึกเข้าใจเพียงผิวเผินอย่างเลี่ยงไม่ได้

เพราะเรือนิรันดร์ว่องไวเกินไปจริงๆ ตลอดทางถึงกับคล้ายไม่พบกับสิ่งกีดขวางใดสักนิด

ก็ไม่รู้นานแค่ไหน

เรือนิรันดร์พลันสั่นเบาๆ หยุดชะงักลงทันใด

และในจิตรับรู้ของหลินสวินก็ ‘เห็น’ ต้นไม้ต้นหนึ่ง!

ต้นไม้นี้หยั่งรากลงในไอแรกกำเนิด เห็นชัดว่าสูงเพียงเก้าจั้ง แต่ในจิตรับรู้ของหลินสวินกลับสูงเหมือนไร้สิ้นสุด ใหญ่โตเหมือนไร้ขอบเขต ทำให้เขายังเกิดความรู้สึกเล็กจ้อย

แต่ดูแล้วต้นไม้นี้สูงเพียงเก้าจั้งจริงๆ!

ที่ทำให้หลินสวินแปลกใจก็คือ กิ่งทั้งสี่ของต้นไม้ต้นนี้แสดงแสงเงาของจตุโบราณสถานอย่างแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ แหล่งสถานศุภโชค แหล่งสถานคุนหลุน แหล่งสถานอัศจรรย์ สิ่งที่อบอวลออกมาก็เป็นกลิ่นอายต้นกำเนิดของจตุโบราณสถาน

และบนกิ่งทั้งสี่นี้ต่างโล้นเตียนไร้ใบ ทั้งยังไม่มีผล ตรงข้ามกลับมีลวดลายเป็นวงๆ

จิตรับรู้หลินสวินเข้าไปสัมผัส ในสมองพลันเหมือนจะระเบิดออก ภาพหยั่งรู้อันยิ่งใหญ่ปะปนกันไปโถมเข้าสู่จิตวิญญาณราวกับภูผาถล่มสมุทรคำราม ทำให้จิตรับรู้ของเขายังว่างเปล่าไปชั่วขณะ

ก็ไม่รู้ว่านานเท่าไร…

หลินสวินเห็นความว่างเปล่าเวิ้งว้างไร้ซึ่งสรรพสิ่งใดๆ จู่ๆ กลิ่นอายแรกกำเนิดขมุกขมัวก็ผุดขึ้นในความว่างเปล่า รวมตัวและใหญ่ขึ้นไม่หยุด จนกระทั่งต่อมาความว่างเปล่านี้ก็อัดแน่นไปด้วยไอแรกกำเนิดขุ่นมัวโดยสมบูรณ์

จากนั้นไอแรกกำเนิดก็ปั่นป่วนไม่มีหยุด เหมือนกำลังฟูมฟักอะไรบางอย่าง กระบวนการนี้ดำเนินไปไม่รู้กี่เดือนปี ในที่สุดวันหนึ่งไอแรกกำเนิดก็ให้กำเนิดพลังชีวิต ทำให้ทั้งไอแรกกำเนิดมีจังหวะอันลึกลับพิสดารปรากฏขึ้น…

นอกจากพลังชีวิตนี้แล้ว ภายในไอแรกกำเนิดก็ค่อยๆ มีพลังที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงสายแล้วสายเล่าเพิ่มขึ้นมา…

ก็ในตอนนี้เองพวกมันรวมตัวกัน สั่นสะเทือน ชนปะทะ แปรสภาพ ทั้งยังเปลี่ยนแปลงไม่ว่างเว้นเฉกเช่นต้นกำเนิดของไอแรกกำเนิด…

ในที่สุดก็กลายเป็นจตุโบราณสถาน!

เมื่อจตุโบราณสถานอุบัติขึ้น ต้นแบบของโลกยุคสมัยใบหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในไอแรกกำเนิดราวกับเบิกฟ้าแยกดิน มันบิดเบี้ยว พองตัว ยืดขยายไม่หยุด… จนในที่สุดจึงเสถียรโดยสมบูรณ์ จากนั้นในโลกยุคสมัยก็มีโลกไร้ขอบเขต ชีวิตนับไม่ถ้วน มหามรรคไร้สิ้นสุดปรากฏ…

ทุกสิ่งที่อัศจรรย์พันลึกนี้ก่อร่างเป็นอารยธรรมยุคสมัยยุคหนึ่ง สำแดงการเปลี่ยนแปลงในโลกดุจคลื่นเกรียงไกรโถมซัด พลังมหัศจรรย์นานาชนิดอย่างกฎกรรม กาลเวลา โชคชะตาต่างถักทอและปะทะกัน ทำให้ความรุ่งโรจน์และเสื่อมถอยของยุคสมัยหนึ่งสมบูรณ์ครบวัฏจักร

เมื่อยุคสมัยนี้ร่วงโรย จากความรุ่งเรืองกลายเป็นล่มสลาย ก็รวมเข้าไปในแหล่งสถานศุภโชคคล้ายใบไม้ร่วงคืนสู่ราก แต่ไม่นานนักก็จะมียุคสมัยใหม่ถือกำเนิดขึ้นจากไอแรกกำเนิดขุ่นมัวนี้อีก…

ยุคสมัยผันเปลี่ยนไม่ว่างเว้น ชีวิตและมหามรรคนับไม่ถ้วนก็เปลี่ยนแปลงไร้สิ้นสุดตามไปด้วย สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนไปก็คือจตุโบราณสถาน

พวกมันตั้งมั่นอยู่ในไอแรกกำเนิดนี้ ดำรงอยู่ในทุกการเปลี่ยนผ่านของอารยธรรมยุคสมัยแต่ละยุค!

ตูม!

หลินสวินเพียงรู้สึกว่าจิตวิญญาณสั่นสะท้าน ภาพในสมองพลันสลายไปเหมือนฟองสบู่

แต่จิตรับรู้ของเขายังอยู่บนเรือนิรันดร์ ท่ามกลางไอแรกกำเนิดไกลออกไป ต้นไม้โบราณลึกลับนั้นสงบนิ่งไม่ขยับ

แต่หลินสวินสัมผัสได้ แม้ว่าภาพก่อนหน้านี้จะหายไป แต่กลับมีการหยั่งรู้อันลึกลับตกตะกอนอยู่ในสภาวะจิตของตน

การหยั่งรู้เช่นนี้เกี่ยวข้องกับการถือกำเนิดและก่อร่างของ ‘ยุคแรกกำเนิด’!

‘และตอนนี้มันพาจิตรับรู้ข้ามาถึงต้นไม้โบราณต้นนี้ ก็เหมือนกลับสู่ร่างมารดาของมัน จึงเหี่ยวแห้งและโรยราลงตรงนี้…’

หลินสวินพอจะรู้สึกได้ว่าการสันนิษฐานของตนคงไม่ผิด เรือนิรันดร์กับต้นไม้โบราณนี้ต้องเรียกหากันอย่างอัศจรรย์

ด้วยเหตุนี้มันจึงรู้สึกถึงจิตรับรู้ของตน ทำให้ตนมีโอกาสมาถึงที่นี่ ได้เห็น ‘การย้อนคืนต้นกำเนิด’ ครั้งสุดท้ายของมันพอดี

คิดถึงตรงนี้เขาพลันคิดขึ้นมาได้ ถ้าเรือนิรันดร์คือใบไม้ที่ควบรวมบนต้นไม้โบราณนี้ เช่นนั้นลายธารที่ผู้อาวุโสเฉินซีได้มาจะเป็นเช่นนี้ด้วยหรือไม่

และหากเป็นเช่นนี้ ในยุคแรกกำเนิดนี้จะมีใบไม้ควบรวมบนต้นไม้นี้อีกกี่ใบ!

เรือนิรันดร์สามารถเปิดประตูสู่โลกมอบวิญญาณได้ เช่นนั้นใบไม้จำพวกเดียวกับเรือนิรันดร์ใบอื่นจะเป็นเหมือนกับกุญแจ สามารถเปิดโลกแดนลับแห่งอื่นในเขตผนึกอัศจรรย์แห่งนี้ได้หรือไม่

ยิ่งคิดหลินสวินก็ยิ่งรู้สึกว่าต้นไม้โบราณต้นนี้ไม่ธรรมดา

มันถือกำเนิดในเขตผนึกอัศจรรย์ ได้เป็นประจักษ์พยานการถือกำเนิดและก่อตัวของยุคแรกกำเนิด บนต้นไม้ยังมีกลิ่นอายต้นกำเนิดของจตุโบราณสถานประทับอยู่ แม้แต่ใบไม้ที่ควบรวมขึ้นบนต้นไม้ยังเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะเป็นยอดสมบัติลึกลับเช่นเดียวกับเรือนิรันดร์และลายธาร

ต้นไม้โบราณเช่นนี้จะเป็นของธรรมดาได้อย่างไร

“หลินสวิน ถ้าไม่มีเรือนิรันดร์ข้าจะไม่ใช่ไม่มีทางออกไปจากที่นี่หรือ”

จู่ๆ ซย่าจื้อเอ่ยออกมา ปลุกหลินสวินที่จมสู่ภวังค์ความคิด

หลินสวินอึ้งไปอย่างอดไม่ได้เช่นกัน เขาในตอนนี้เป็นเพียงจิตรับรู้สายหนึ่ง ถ้าต้องการดึงกลับไป ขอเพียงไม่พบกับสิ่งกีดขวางระหว่างทางก็จะกลับไปได้อย่างราบรื่น

ทว่าซย่าจื้อต่างออกไป ตัวนางมาถึงในเขตผนึกอัศจรรย์แห่งนี้พร้อมกับเรือนิรันดร์ มิหนำซ้ำยังเป็นส่วนลึกของเขตผนึกอัศจรรย์ด้วย!

และควรรู้ว่าเขตผนึกอัศจรรย์แห่งนี้เต็มไปด้วยอันตรายน่าสะพรึงถึงขีดสุด สามารถทำให้คนอย่างเฉินซี ไท่ชูและตนยังหวาดหวั่น ไม่กล้าล่วงล้ำแม้แต่ก้าวเดียวได้

ถ้าตอนนี้ไม่มีเรือนิรันดร์ ด้วยมรรควิถีของซย่าจื้อจะมีโอกาสรอดออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร

“อย่าเพิ่งร้อนใจ จะต้องมีวิธีแน่”

หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง มองไปยังต้นไม้โบราณที่อยู่ไม่ไกลนั้นอีกครั้ง “แม้ว่าต้นไม้นี้จะโล้นเตียนไม่มีใบ แต่ข้ามีพลังของมรรคนิพพาน อาจจะทำให้มันแปรสภาพควบรวมใบไม้ออกมาได้… ต่อให้วิธีใช้ไม่ได้ก็ต้องมีวิธีอื่น สรุปแล้วข้าจะไม่ให้เจ้าถูกขังอยู่ที่นี่เด็ดขาด!”

เสียงเผยความแน่วแน่

ซย่าจื้อส่งเสียงอืม เอ่ยว่า “ถ้าพูดกันอย่างลึกๆ จักรพรรดิรัตติกาลนิรันดร์ก็ถือกำเนิดในเขตผนึกอัศจรรย์แห่งนี้ ส่วนข้าเป็นร่างที่กลับมาเกิดใหม่ของจักรพรรดิรัตติกาลนิรันดร์ ตอนนี้ข้ามาถึงที่นี่ ก็คง… ไม่ต่างอะไรกับการกลับบ้านกระมัง”

ความคิดนี้พิสดารนัก มุมมองก็แสนผิดแผก แต่กลับทำให้หลินสวินไม่อาจค้านได้

เพราะเหมือนจะเป็นเช่นนี้จริงๆ…

“ไม่ว่าอย่างไรระมัดระวังไว้ย่อมดีกว่า”

ด้วยซย่าจื้อเอ่ยทะลุกลางปล้องเช่นนี้ จิตใจหลินสวินจึงสงบนิ่งลงไม่น้อย

และในจิตรับรู้ของเขาก็มีพลังของนัยเร้นลับนิพพานอุบัติขึ้น เริ่มเข้าประชิดต้นไม้โบราณที่อยู่ไกลๆ ต้นนั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์