ในขณะที่หลินสวินยังคงอึ้งงันอยู่ เสียงอันราบเรียบเย็นชานั่นก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าบททดสอบด่านนี้มีการจำกัดเวลาหรือไม่”
หลินสวินสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนถาม
แต่เนิ่นนานก็ยังไร้เสียงตอบรับ
หลินสวินชะงัก ในใจรู้สึกผิดหวัง เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องมีตัวตนและมีสติปัญญา แต่เห็นได้ชัดว่าเพราะเหตุผลบางประการจึงไม่ยอมพูดมากความกับตน
“ข้าเลือกจะประลอง…”
หลินสวินส่ายหน้า ไม่คิดมากไปกว่านั้นแล้วเอ่ยเสียงเรียบ
วู้ม~
พลันมีคลื่นประหลาดกระจายขึ้นจากใต้ฝ่าเท้า ปกคลุมทั่วทั้งร่างของหลินสวินแล้วม้วนสู่ใจกลางความว่างเปล่า
หลินสวินรู้สึกเพียงว่าตรงหน้ามีแต่แสงประหลาดสีสันหลากหลาย คล้ายกำลังท่องไปในกระแสเวลา สติสัมปชัญญะก็เริ่มเลื่อนลอยอย่างควบคุมไม่อยู่
โครม!
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ หลินสวินรู้สึกเพียงว่าร่างกายได้สะท้านขึ้นมาคราหนึ่ง สติที่เลื่อนลอยตื่นตัวขึ้นมาทันที
เมื่อเงยหน้ามองไป เห็นเป็นเทือกเขาเรียงราย ท้องฟ้ากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ทุกที่ล้วนมีสภาพทรงพลังมีชีวิตชีวาราวกับเป็นพื้นที่รกร้างที่ไม่เคยถูกบุกเบิกมาก่อน
แกว๊ก~
เสียงร้องกังวานชัดดังมาจากบนฟ้า เงามืดหนึ่งทอดร่างลงมาปกคลุมหลินสวินไปทั้งตัว
เขาเงยหน้าขึ้นมองแล้วตะลึงไป ตัวแข็งค้างอยู่กับที่ทันที
ด้วยเห็นว่าบนฟากฟ้าอันไกลโพ้น สัตว์ร้ายที่สูงกว่าพันจั้ง รูปร่างใหญ่โตราวกับผืนแผ่นดินใหญ่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ กำลังเปล่งเสียงร้องท่ามกลางลมเมฆ โบยบินอยู่บนท้องฟ้าอันไร้ที่สิ้นสุด
ลักษณะภายนอกของมันคล้ายปลาตัวใหญ่ แต่กลับมีปีกสีน้ำตาลเขียวคู่หนึ่งที่สามารถปกคลุมผืนฟ้า นัยน์ตาราวกับทะเลสาบสะท้อนภาพผืนฟ้าอยู่!
แกว๊ก~~
มันส่งเสียงคำราม พออ้าปากก็ราวกับสามารถกลืนกินทุกสิ่งเข้าไปได้ เสียงที่คำรามออกมากึงก้องกังวาน ชวนตะลึงอย่างที่สุด
นี่มัน…
หลินสวินรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว สัตว์ร้ายตัวนี้ร่างใหญ่โตมโหฬาร อีกทั้งดูน่ากลัว ปกคลุมท้องฟ้า บดบังแสงอาทิตย์ ราวกับคุนเผิงในตำนานไม่มีผิด!
เมื่อเทียบกันแล้วตัวเขาก็เหมือนมดตะนอย ด้อยค่าไม่ต่างจากเศษฝุ่น!
โชคดีที่เพียงครู่หนึ่งสัตว์ร้ายตัวนั้นก็บินเหินฟ้าไป หายไปท่ามกลางความว่างเปล่าในบริเวณที่ไกลออกไป
หลินสวินเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก แต่ในใจกลับยังคงตะลึงและแปลกใจ นี่มันสถานที่บ้าบออะไรเนี่ย
แล้วสัตว์ร้ายที่รูปร่างคล้ายปลาแต่มีปีกเมื่อครู่นี้ ใช่คุนเผิงในตำนานหรือไม่
“เข้าสู่แดนวิญญาณโบราณ เริ่มการท้าประลอง!”
เสียงอันราบเรียบเย็นชาดังขึ้นในหัวอีกครั้ง “ผู้กล้า บนเส้นทางแห่งการประลอง หากสู้ไม่ไหวจงบีบป้ายหยกนี้ให้แตก แล้วจะกลับมาได้”
“จงจำไว้ว่า หากสิ้นชีพในแดนวิญญาณโบราณ ก็เท่ากับตายอย่างแท้จริง!”
สิ้นเสียงนั้น ป้ายหยกแผ่นหนึ่งพลันปรากฏอยู่ในมือหลินสวิน ขนาดประมาณฝ่ามือ ขาวบริสุทธิ์ มีลายสลักวิญญาณอันคลุมเครือประทับอยู่ด้วย
หลินสวินจ้องอยู่ครู่ เขาเหมือนเดาอะไรออก พลันเปิดแหวนหนวดมังกรแล้วหยิบดาบวิญญาณม่วงออกมา
กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วพบว่าตัวเองอยู่หุบเขาลึกโบราณ เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้าและพุ่มหญ้าอุดมสมบูรณ์
อากาศดูชื้นๆ ทั้งยังมีกลิ่นของต้นไม้ใบหญ้าลอยโชยมาเป็นระยะๆ
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า พยับเมฆลอยเคลื่อนรวดเร็ว ดวงอาทิตย์ร้อนแรงลอยสูง ราวกับมีความกว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุด ระหว่างฟ้าดินคล้ายอบอวลไปด้วยพลังวิญญาณอันบริสุทธิ์!
การค้นพบนี้ทำให้หลินสวินหัวใจกระตุกวูบ ในจักรวรรดิจื่อเย่าบนเส้นปราณวิญญาณเท่านั้น จึงจะปรากฏพลังวิญญาณเช่นนี้
แต่ที่แห่งนี้กลับเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ!
‘หรือว่า…ข้าได้มาอยู่ในโลกอีกใบ?’
จู่ๆ หลินสวินก็นึกขึ้นได้ว่าเสียงราบเรียบเย็นเยียบนั่นบอกว่า ที่นี่คือ ‘แดนวิญญาณโบราณ’ เห็นได้ชัดว่ามีความเป็นไปได้ที่การคาดเดาของเขาจะเป็นจริง!
หลินสวินยังคงอึ้งงันอยู่อย่างนั้น เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ‘อาณาเขตเดินทาง’ ของด่านที่สี่แห่งทางเดินเมฆาหยกนั้นไม่ใช่ภาพนิมิต แต่มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะเป็นโลกอีกใบที่มีตัวตนอยู่จริง
เหนือความคาดหมายจริงๆ!
ครู่ใหญ่หลินสวินจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเก็บป้ายหยกในมืออย่างระมัดระวัง
จะรอดออกจากที่นี่ได้หรือไม่ ป้ายหยกนี้คือความหวังเดียวของเขา!
‘ด่านนี้ ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะพลาด แต่ถ้าถูกฆ่าตายที่นี่ ก็เท่ากับตายจริงๆ’
‘แต่ว่าจากที่เสียงลึกลับนั่นแนะนำ ที่แห่งนี้มีโอกาสมากมาย อยู่ที่ว่าตัวเองจะคว้าไว้ได้เท่าไหร่…’
หลินสวินพยายามใจเย็นเอาไว้ ในขณะที่คิดไตร่ตรองสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
ตูม!
และในขณะนั้นเอง จู่ๆ ในพุ่มหญ้าที่อยู่ไม่ไกลก็มีเงาดำพุ่งออกมา กรงเล็บอันแหลมคมฉายประกายเงางาม ทะยานเข้าหาหลินสวินพร้อมไอสังหาร
พริบตาเดียวอันตรายก็มาเยือน!
แทบจะเป็นการกระตุ้นด้วยสัญชาตญาณ ทำให้หลินสวินฟันดาบออกมาตามจิตใต้สำนึก คมดาบสีม่วงสาดซัดลำแสงรุนแรงออกไปโดยพลัน
ปัง!
เสียงกระทบดังเสียดหู หลินสวินรู้สึกเพียงว่าแขนขวาชาวาบขึ้นมา ร่างถอยเซไปสามก้าวอย่างเสียการควบคุม
สีหน้าของหลินสวินพลันเปลี่ยนไปทันที พลังช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!
และในยามนั้นเอง ในที่สุดหลินสวินก็เห็นรูปลักษณ์ของผู้โจมตีชัดแล้ว นั่นเป็นเสือดาวมรกตตัวหนึ่ง หนังและขนสาดประกายแสงสีเขียวราวกับต้นไม้ใบหญ้า ดวงตาแดงก่ำดั่งสีเลือด ทั่วทั้งตัวแผ่ไอสังหารดุดัน
หลินสวินเคยเห็นเสือดาวมรกตมาก่อน แต่ที่ดุดันปานนี้กลับเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
พลังที่มันปล่อยออกมาไม่ต่างอะไรกับยอดฝีมือระดับมหาสมุทรวิญญาณเลย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์