หลินสวินสะบัดแขนออกไปอย่างไม่ลังเล
แสงสีฟ้าอ่อนโหมซัดออกมา ดุจทะเลแห่งโทสะซัดกระหน่ำไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้เมฆาเพลิงที่ปกคลุมเข้ามาถูกกดทับหายไปทันที
กระแสลมส่วนที่เหลือกลับไม่ลดอานุภาพ กระหน่ำใส่หญิงกระโปรงม่วงคนนั้นจนกระเด็นออกไปอย่างหนักหน่วง
การโจมตีนี้หลินสวินใช้พลังที่แท้จริงของตัวเองอย่างไม่มียั้งมือ
หญิงกระโปรงม่วงคนนั้นจองหองพองขนเกินไป ถึงกับลงมือสังหารทีเผลอ จะให้หลินสวินปรานีได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้นคือ ตั้งแต่สัมผัสได้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ หลินสวินก็รู้แล้วว่า เพื่อชิงผลึกวิญญาณของภูตไพรไม้เขียว อีกฝ่ายไม่มีทางยอมพอแค่นี้แน่!
เสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้น
เหวยจวิ้นเข้าไปอุ้มหญิงกระโปรงม่วงทันที เห็นนางใบหน้าซีดเซียว เลือดซึมมุมปาก เพียงฝ่ามือเดียวก็ทำให้เจ็บสาหัสแล้ว!
นี่ทำให้เหวยจวิ้นตะลึงและขึ้งโกรธ ไม่คิดเลยว่าเด็กหนุ่มอายุเพียงสิบกว่าปีจะลงมือได้เหี้ยมขนาดนี้
“ไอ้เด็กกำเริบ!”
ชายวัยกลางคนที่เงียบมาโดยตลอดตะเบ็งเสียงขึ้นและพุ่งเข้าหาหลินสวินแทบจะในขณะเดียวกัน
พรึ่บ
แต่หลินสวินได้หนีไปไกลก่อนหน้านี้แล้ว
เขาไม่กลัวเหวยจวิ้นและหญิงกระโปรงม่วง แต่กลับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตรายถึงแก่ชีวิตจากตัวชายวัยกลางคนผู้นั้น
นี่ก็คือเหตุผลแท้จริงที่ก่อนหน้านี้เขาเลือกหนีออกมา
ตูม!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวแพร่กระจายจากร่างกายของชายกลางคน สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีลำแสงสีแดงสาดส่องออกจากทั่วร่างกายเขา แฝงพลังแห่งท่วงทำนองมรรคอันน่ากลัว
นี่ทำให้เขาเหมือนกลายเป็นเทพเจ้าในกองเพลิง เป็นผู้ควบคุมเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ อานุภาพน่าพรั่นพรึงอย่างที่สุด
ต้นไม้โบราณ เถาวัลย์และหญ้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน พื้นดินเป็นรอยแตกและไหม้เกรียม
และทั้งหมดนี้เกิดจากพลังอันยิ่งใหญ่ที่ปล่อยออกมาจากชายวัยกลางคนผู้นั้นเท่านั้น!
ระดับหยั่งสัจจะ!
สัจวิถีธาตุไฟ!
หลินสวินที่หนีไปไกลสูดหายใจเย็นเยียบ เขาไม่ต้องหันกลับไปมองก็รู้ว่าชายวัยกลางคนผู้นั้นอยู่ระดับหยั่งสัจจะไม่ผิดแน่!
มิน่าเหวยจวิ้นและหญิงกระโปรงม่วงถึงจองหองเพียงนี้ ที่แท้ก็มียอดฝีมือระดับหยั่งสัจจะมาด้วย!
“เฉียนไหว ต้องฆ่าเด็กคนนั้นให้ได้ แล้วชิงภูตไพรไม้เขียวมาซะ!”
เหวยจวิ้นบันดาลโทสะ ออกคำสั่งเสียงเฉียบขาด
“นายน้อยวางใจ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าน้อยเถอะ!”
ตูม!
ยังไม่ทันสิ้นเสียง ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าเฉียนไหวก็ได้กลายเป็นแสงไฟอันน่าสะพรึงกลัว หายแวบไปในบริเวณอันห่างไกล
ทุกที่ที่เขาผ่าน ต้นไม้มอดไหม้ ไฟลุกโหมกระหน่ำ พลังน่าครั่นคร้ามราวกับทะเลเพลิงลุกโชนโหมซัดไม่ผิดเพี้ยน
ยามนี้หลินสวินที่หนีไปไกลสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยอย่างควบคุมไม่อยู่ ถูกยอดฝีมือระดับหยั่งสัจจะตามฆ่า นั่นไม่ใช่เรื่องสนุกเลย
ฮูม~
ทันใดนั้นรอบกายของหลินสวินเต็มไปด้วยแสงประกายเจิดจรัสราวกับหมอกน้ำแข็ง ร่างอันเลือนรางของชือน้ำแข็งปรากฏขึ้น ส่งเสียงราวมังกรคำราม
ชั่วลมหายใจเดียวเท่านั้นเงาร่างของหลินสวินพลันเปลี่ยนไป เคลื่อนย้ายว่องไวดุจสายฟ้า เร็วกว่าเมื่อครู่นี้ไม่เพียงแค่เท่าตัว
ก้าวย่างชือน้ำแข็ง!
วิชายอดเยี่ยมนี้อยู่ในขั้นแรกของมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร เมื่อถูกใช้ออกมา สามารถขยายใหญ่หรือย่อส่วน สามารถเหินลอยหรือหลบซ่อน เมื่อขยายใหญ่จะเรียกเมฆคลายหมอก เมื่อย่อส่วนจะซ่อนรูปหลบเร้น เมื่อเหินลอยจะท่องทั่วสารทิศ เมื่อหลบซ่อนจะเร้นกายท่ามกลางละอองฝุ่น!
มองออกไปไกลๆ จะเห็นเงาร่างหลินสวินซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหมอกน้ำแข็ง ราวกับชือน้ำแข็งที่กำลังท่องทะยานอย่างต่อเนื่อง
หืม?
ด้านหลัง นัยน์ตาของเฉียนไหวเพ่งมอง ไวมาก ช่างเป็นท่าร่างที่ลึกลับยิ่งนัก!
ด้วยพลังระดับหยั่งสัจจะของเขา ที่ผ่านมาแค่ไม่กี่อึดใจก็สามารถตามทันผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณคนหนึ่งอย่างง่ายดายแล้วลงมือสังหารซะ
แต่ตอนนี้ หากเขาไม่ใช้พลังที่แท้จริงอาจถึงขั้นตามไม่ทัน!
“หึ!”
เฉียนไหวแค่นเสียงอย่างเยียบเย็น พลังรอบกายเดือดดาลขึ้น เร่งความเร็วขึ้นอย่างกะทันหันราวกับสายฟ้าสีเพลิง
ปล่อยให้ผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณหนีไปจากมือเขาได้ ถือเป็นความอับอายอย่างที่สุด หากแพร่ออกไปคงได้กลายเป็นเรื่องตลก
เพียงไม่กี่ลมหายใจ เฉียนไหวก็ไล่ตามหลินสวินโดยห่างกันเพียงแค่พันจั้งเท่านั้น!
‘ให้ตาย ความไวของระดับหยั่งสัจจะไวเกินไปแล้ว!’
หลินสวินตะลึงในใจ พลันกัดฟันสำแดงก้าวย่างชือน้ำแข็งออกมาอย่างถึงที่สุด เงาร่างราวกับชือน้ำแข็งที่กำลังลอดผ่านห้วงอากาศ
แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น เฉียนไหวที่อยู่ข้างหลังเขาก็ไล่ตามเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
เร็วเกินไปแล้ว!
พลังปราณของทั้งสองห่างกันหนึ่งระดับใหญ่ แม้ว่าก้าวย่างชือน้ำแข็งจะวิเศษเพียงใด ถ้าระดับปราณห่างชั้นเกินไปก็ยากจะรับมือ
“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน หากเจ้าหยุดตอนนี้ ข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้า มิเช่นนั้นก็รอกลายเป็นฝุ่นผงได้เลย!”
เฉียนไหวเผยรอยยิ้มเยือกเย็นตรงมุมปาก เหยื่อยากจะหนีไปได้ เขาไม่ต้องห่วงว่าจะมีเรื่องไม่คาดฝันอะไรแล้ว
“ตามข้าให้ทันแล้วค่อยมาอวดดีก็ยังไม่สาย”
หลินสวินกัดฟัน จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เดือดดาลถึงขีดสุด ประกายสีฟ้าอ่อนเจิดจ้าอาบชโลมทั่วร่าง พลังปราณได้ถูกขับเคลื่อนออกมาอย่างที่สุดแล้ว
“หึ! ยโสโอหัง รนหาที่ตาย!”
เฉียนไหวแค่นเสียงอย่างเยียบเย็นคราหนึ่ง สะบัดแขนเสื้อออกไป สายเพลิงสว่างไสวฉีกทึ้งห้วงอากาศถูกยิงออกไปทันทีราวกับฟ้าผ่า
เปรี้ยง!
สายเพลิงนี้ดูแสนจะธรรมดา แต่กลับเร็วจนน่ากลัว ฉีกกระชากอากาศในชั่วลมหายใจ พุ่งแทงเข้าใส่เบื้องหลังหลินสวินในทันที
กลับเห็นหลินสวินพลันกอดเข่างอตัวกลิ้งอยู่กลางอากาศ หลบสายเพลิงนั่นได้อย่างเฉียดฉิว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์