Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 444

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 444 ความเหี้ยมโหดของเด็กหนุ่ม
ตอนที่ 444 ความเหี้ยมโหดของเด็กหนุ่ม
โดย
ProjectZyphon
เขาเมฆาสวรรค์เป็นสำนักโบราณแห่งหนึ่งในแดนวิญญาณโบราณ ผู้สืบทอดในสำนักล้วนเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นแห่งยุค ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วหล้า!

เห็นชายหญิงกลุ่มนั้นเดินทางมาโดยรุ้งศักดิ์สิทธิ์ กลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์คละคลุ้ง เหล่าผู้ฝึกปราณต่างเผยสีหน้าระมัดระวังและเกรงกลัว

แม้แต่ผู้สืบทอดจากสำนักโบราณที่มาถึงก่อนแล้ว ยังเผยสีหน้าระแวงอย่างชัดเจน

“หลิงจื่อนั่ว!”

“ขนาดนางยังมา!”

ในกลุ่มผู้สืบทอดของเขาเมฆาสวรรค์ ผู้นำเป็นหญิงสาวในชุดกระโปรงสีฟ้า ผมยาวสลวยดำขลับ ผิวพรรณเรียบเนียน ดวงตาเปล่งประกาย ริมฝีปากแดงฟันขาวกระจ่าง รูปลักษณ์โดดเด่นงดงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด

รูปร่างของนางสง่างาม ร่างกายกำจายกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ ข้างกายก็เต็มไปด้วยสาวสวยหนุ่มหล่อ แต่เมื่อเทียบกับนางแล้วต่างจืดจางลงทั้งสิ้น

หลายคนที่อยู่ที่นี่จำผู้หญิงคนดังกล่าวได้ จึงส่งเสียงอุทานอย่างตกใจ

หลิงจื่อนั่ว เป็นบุคคลชั้นยอดที่มีคุณลักษณะพรสวรรค์ ‘กายหยกวิญญาณสายฟ้า’ แม้อายุเพียงสิบเจ็ด แต่มีชื่อเสียงสะเทือนทั่วหล้ามาหลายปีแล้ว และยังเป็นผู้สืบทอดอัจฉริยะคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาผู้โดดเด่นแห่งเขาเมฆาสวรรค์!

หลังจากพวกเขามาถึง บรรยากาศก็เงียบลงเล็กน้อย ราวกับทุกคนต่างไม่กล้าเสียงดังด้วยกลัวว่าจะรบกวนพวกเขา

ส่วนลูกศิษย์สำนักโบราณบางส่วนที่มั่นใจว่าฐานะของตนสามารถเทียบกับหลิงจื่อนั่วได้ สายตาที่มองหลิงจื่อนั่วจึงดูกล้ากว่ามาก ในความเร่าร้อนแฝงความชื่นชมและลุ่มหลง

จู่ๆ ผืนดินก็สั่นสะเทือน บริเวณอันไกลโพ้นราวกับมีเสียงฟ้าร้องดังขึ้น

เงาร่างอันสูงใหญ่กำยำย่างสามขุมเข้ามา โครงร่างของเขาหนาใหญ่ เปลือยท่อนบน กล้ามเนื้อคล้ายหล่อขึ้นจากสำริด เต็มไปด้วยพลังราวลูกระเบิด

บนไหล่ของเขาแบกกระบองเหล็กสีดำหนาใหญ่เอาไว้ท่อนหนึ่ง ทุกครั้งที่ก้าวเดินก็ราวกับขุนเขากำลังเคลื่อนที่ สะเทือนจนผืนดินสั่นสะท้าน เศษฝุ่นคละคลุ้ง ดูน่าเกรงขาม

ทุกคนอุทานด้วยความตกใจทันควัน เพราะจำได้ว่าผู้มาเยือนคือผู้สืบทอดแห่งสำนักสงัดดารา… เถี่ยเชียนหาน!

นี่ก็เป็นผู้กล้าที่สร้างความสะเทือนไปทั่วหล้ามาตั้งนานแล้วเช่นกัน มีคุณลักษณะพรสวรรค์ ‘ปฐพีสยบขุนเขา’ เต็มไปด้วยกลิ่นเลือดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เรี่ยวแรงเหลือหลายไม่มีที่สิ้นสุด

วิ้ง!

เถี่ยเชียนหานเพิ่งมาถึงไม่นาน บนภูเขาก็อยู่ใกล้ๆ พลันมีรุ้งวิเศษสีเขียวเส้นหนึ่งพุ่งลงมา แล้วแปลงเป็นเด็กหนุ่มในชุดนักพรตสีดำ แบกกระบี่โบราณลายสนเอาไว้กลางหลัง

ที่ไหลเวียนอยู่ในนัยน์ตาเป็นลายลึกลับสีทองอร่าม ไอสมบัติทาบทับไปทั่วร่างราวกับเป็นภาพมายา ดูก็รู้ว่าต้องเป็นอัจฉริยะชั้นยอดเช่นกัน

แต่เด็กหนุ่มคนนั้นเท้าเพิ่งจะถึงพื้น เสียงตูมก็ดังสนั่น แสงสีดำสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามาก่อนจะกลายเป็นลิงมายาแหงนหน้าร้องคำรามยาว เสียงราวกับคลื่นทะเลอันรุนแรงที่ชวนอกสั่นขวัญแขวน

ชายหนุ่มชุดนักพรตดำราวกับมีญาณทิพย์ เงาร่างวูบหลบ ภูเขาที่เหยียบอยู่เมื่อครู่พลันถูกลิงมายาตัวนั้นเหยียบจนแหลกละเอียด

โฮก~

ลิงมายาส่งเสียงคำรามแล้วพุ่งเข้าหาเด็กหนุ่มชุดนักพรตอีกครั้ง เท้าเพิ่งจะแตะลงไป พื้นดินก็เกิดเป็นรอยแยก ดูดุดันและโหดร้ายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ผู้ฝึกปราณที่อยู่รอบๆ ไม่อาจไม่หลีกหนี สีหน้าต่างเปลี่ยนไปเพราะจำฐานะของเด็กหนุ่มชุดนักพรตและลิงมายาตัวนั้นได้

เด็กหนุ่มชุดนักพรตเป็นผู้สืบทอดของสำนักกระบี่แรกวิญญาณ ชื่อทางธรรมคืออวิ๋นเคอ ส่วนลิงมายานั่นเป็นผู้สืบทอดสำนักเทพโลหิต ผู้ฝึกตนสายอสูรหยวนจั้น!

“หยวนจั้น เส้นทางสู่แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นกำลังจะเปิดแล้ว เจ้าจะสู้ต่อจริงๆ หรือ”

อวิ๋นเคอร่างไหววูบหลบการสังหารของหยวนจั้น ในนัยน์ตาฉายลายลึกลับสีทอง ดูน่าสะพรึงกลัวถึงที่สุด

“หึ!”

ลิงมายาแค่นเสียงเย็น กลิ่นอายพิฆาตแผ่กระจาย จู่ๆ ก็กลายร่างเป็นชายชุดดำที่ผิวออกคล้ำๆ และมีนัยน์ตาสีแดงเข้ม

“ก็ดี รอให้เข้าไปในแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นก่อน แล้วค่อยเชือดเจ้าจมูกโคน้อย[1]อย่างเจ้าก็ยังไม่สาย!”

หยวนจั้นกวาดสายตามองรอบๆ แล้วเก็บไอสังหาร ไม่พุ่งฆ่าฟันอีก

“หึๆ”

อวิ๋นเคอระบายยิ้ม ไม่พูดอะไรอีก

ทั้งสองต่างรู้ดีว่าที่นี่มีผู้ฝึกปราณมากมาย และมีคู่แข่งเก่งกาจไม่น้อย ถ้าสู้กันต่ออาจกลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะเอาได้

ฮูว~~

และในขณะนั้นเอง สายลมอ่อนๆ ก็พัดเข้ามา ปรากฏเป็นดอกไม้หลากสี ลำต้นและกิ่งก้านล้วนงดงามตระการตาราวกับลายสลักวิญญาณลึกลับที่หนาแน่น ดูเป็นธรรมชาติ

ซู่ซ่า~

มันส่ายไปมาเบาๆ ก่อนจะกลายเป็นหญิงสาวในชุดหลากสีคนหนึ่ง เส้นผมสวยพลิ้วไหว ดวงตาคู่งามมีชีวิตชีวา รูปร่างเพรียวยาวบอบบาง ท่าทางเย้ายวนเปี่ยมเสน่ห์น่าหลงใหลนั้นดูร้อนแรงมาก

“เหลียนเตี๋ยอี!”

ทุกคนตกตะลึง ใบหน้าซีดขาว พวกเขาจำได้ว่าหญิงชุดหลากสีคนนั้นเป็นผู้สืบทอดของ ‘แดนวิญญาณหมื่นมายา’ ร่างเดิมเป็นบัวห้าสี และยังเป็นภูตวิญญาณธรรมชาติที่มีความสามารถยากคาดเดา

ตามบันทึกโบราณ เมื่อบัวห้าสีมีจิตวิญญาณ ธาตุทั้งห้าอันมหัศจรรย์จะมาสถิต พรสวรรค์น่าสะพรึงกลัวเกินจินตนาการ

ในอดีตเคยมีบัวห้าสีบรรลุยุทธ์ ทักษะฝีมือเลิศล้ำ เคยสังหารเทพมาร รบกับเหล่าอริยะ อาศัยเพียงคววามลี้ลับแห่งห้าธาตุก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้โด่งดังไปทั่วหล้า!

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือบัวห้าสีมีนิสัยกระหายเลือด ทุกลมหายใจเข้าออกล้วนสามารถช่วงชิงจิตวิญญาณ สูบเลือดของอีกฝ่ายได้ ทั้งแปลกประหลาดและชวนขนลุกที่สุด

ตอนที่เหลียนเตี๋ยอีปรากฏตัว ผู้ฝึกปราณหลายคนต่างถอยหนี หลีกทางให้ ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้แม้แต่คนเดียว

แม้แต่หยวนจั้นจากสำนักเทพโลหิตยังอดขมวดคิ้วไม่ได้ สีหน้าแฝงความหวาดกลัว

โครม! โครม! โครม!

ไม่นานก็มีเสียงราวกับกลองรบดังจากบนฟากฟ้า รถรบสำริดคันหนึ่งแล่นเข้ามาพร้อมเสียงคำรามของสายลม ด้านบนมีชายเกราะทองคนหนึ่งยืนอยู่ ในมือถือหอก สีหน้าดุดันราวกับเทพสังหาร

“ผู้สืบทอดตระกูลปราบมารไป๋อวี่!”

“สวรรค์ เทพสังหารน้อยคนนี้ก็มาด้วยหรือนี่!”

เสียงฮือฮาดังกระหน่ำไม่ขาดสาย

ทันทีที่ไป๋อวี่ปรากฏตัวก็ใช้สายตาอันราบเรียบกวาดมองทุกคน ท่าทางดูเย่อหยิ่ง แต่กลับไม่มีใครกล้าต่อว่าเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์