สรุปเนื้อหา ตอนที่ 451 – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บท ตอนที่ 451 ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
หลินสวินร่างอาบเลือด แต่กลับแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง พลังนั้นไม่อาจประเมินได้
สถานการณ์นั้นทำให้เหล่าผู้ฝึกปราณต่างสูดหายใจเย็นเยียบ สะท้านไปทั้งตัว ไม่สามารถจินตนการได้ว่าระดับมหาสมุทรวิญญาณมีพลังต่อสู้ระดับนี้ได้อย่างไร
เสียงจากตรงนี้ดังเกินไป ถึงขั้นที่ผู้ฝึกปราณจากบริเวณที่ห่างออกไปยังทยอยกันเข้ามา
เมื่อเห็นทุกอย่างก็อดหวั่นไหวไม่ได้
แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นมีสมบัติมากมายถูกทิ้งเอาไว้ แต่อานุภาพของดาบแตกนี้เรียกได้ว่าสะเทือนโลก จนสมบัติโบราณทั่วไปไม่สามารถเทียบได้
แต่เด็กหนุ่มคนนั้นยิ่งวิปริต ราวกับเทพมารที่ไม่สามารถถูกสังหารได้ แม้ว่าร่างกายจะแหลกแค่ไหน แต่พลังกลับเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในระหว่างการต่อสู้!
ศึกอันดุเดือดระหว่างหนึ่งคนหนึ่งสมบัติ หากถูกแพร่ออกสู่โลกภายนอก แน่นอนว่าจะทำให้เกิดเสียงฮือฮาและสร้างความตื่นตะลึงให้ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วน
ปัง!
ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังขึ้นบนฟากฟ้า ราวกับมีสายฟ้าฟาด
พลันเห็นว่าดาบวิญญาณม่วงที่เป็นสมบัติวิญญาณระดับปฐพีต้องปะทะสู้อย่างต่อเนื่อง จนถูกดาบแตกเล่มนั้นฟันแตก สลายกลายเป็นละอองแสงสาดออกมา!
ส่วนหลินสวินยิ่งสะเทือนจนเซถอย เหมือนจะต้านไว้ไม่อยู่แล้ว ใบหน้าสุภาพหล่อเหลาเปลี่ยนขาวซีด
ทว่าดาบแตกนั่นก็ดูเหมือนไม่ได้ดีไปกว่ากัน สั่นระริกอยู่กลางอากาศ ราวกับกำลังเจ็บจนร้องโอดครวญ ทำให้ผู้ฝึกปราณหลายคนเห็นแล้วจิตวิญญาณสั่นสะท้าน
ฆ่า!
เสียงชิ้งดังขึ้น หลินสวินชักกระบี่วิญญาณสีเงินที่รูปลักษณ์คดงอเหมือนงูวิญญาณออกมา
นี่คือทรัพย์หลังศึกที่ได้จากเฉียนไหว เป็นอาวุธวิญญาณระดับปฐพีชั้นสูง ถือเป็นสมบัติชั้นดีเช่นกัน
ตูม!
พลันเห็นดาบแตกกวาดพาดขวางกลางอากาศ แผ่แสงดารานับไม่ถ้วนไปทั่ว ปกคลุมฟ้าดิน น่าสะพรึงกลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ราวกับจะลบล้างอากาศทั้งหมดนี้
ทุกคนต่างตะลึงงัน นี่ยังใช่พลังที่สมบัติโบราณชิ้นหนึ่งควรมีอีกหรือ น่าตกใจเกินไปแล้ว เรียกได้ว่าเป็นสมบัติที่โดดเด่นแห่งยุค
เพียงครู่เดียวเท่านั้น กระบี่วิญญาณสีเงินในมือหลินสวินก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นฉับพลันและกลายเป็นฝุ่นผง
เสียสมบัติสองชิ้นติด ถ้าเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่นคงไม่กล้าสู้ต่อและฉวยโอกาสหนีไปตั้งนานแล้ว
แต่สำหรับหลินสวิน ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญในการรวมชีพจรวิญญาณ จะให้พลาดโอกาสนี้อีกได้อย่างไร เห็นเขาพลันส่งเสียงกู่ก้อง ใช้หมัดเปล่าพุ่งเข้าปะทะ
อากาศบริเวณนั้นส่งเสียงครืนครัน ลมเมฆสั่นสะเทือน ทุกคนต่างทึ่งกับท่าทางแข็งแกร่งและเย้ยหยันของหลินสวิน
เด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณคนหนึ่ง กลับประหนึ่งไม่รู้จักเกรงกลัว ไม่หลีกเลี่ยงความเป็นความตาย รุกไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญ ต่อสู้กับดาบแตกเล่มนั้นอย่างดุเดือดด้วยท่าทางพลิกโลก ภาพนั้นน่าทึ่งเกินกว่าจะจินตนาการได้
ใกล้แล้ว!
ใกล้แล้ว!
หัวใจของหลินสวินร้อนระอุ เดือดพล่านจนแทบจะระเบิดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณเส้นปราณหัวใจบนหน้าอก ร้อนราวกับเพลิงแผดเผา ชีพจรวิญญาณที่ใสบริสุทธิ์เกือบจะก่อตัวกลายเป็นจริง แผ่ประกายแสงศักดิ์สิทธิ์อันกว้างใหญ่ ราวกับได้เปิดเหวขนาดใหญ่ และสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในก็คือพลังศักดิ์สิทธิ์กลืนสวรรค์!
แต่ในขณะเดียวกันร่างกายของหลินสวินก็เต็มไปด้วยบาดแผล เลือดสีสดไหลพรากๆ ออกมา ดูใกล้จะแหลกสลายอยู่แล้ว น่าสยดสยองยิ่ง
วาสนาอันยากเสาะหาและอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตมารวมอยู่ในจุดเดียวกัน!
ตูมโครม!
หลินสวินในยามนี้ราวกับกำลังมอดไหม้ ตั้งแต่เริ่มต่อสู้พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้พลังของเขาถึงระดับที่เรียกได้ว่าน่าสะพรึงแล้ว
พลันเห็นดาบแตกเล่มนั้นส่งเสียงครวญ เหมือนใกล้จะถูกสยบด้วยเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ที่หลินสวินใช้!
“นี่มัน…”
หลายคนตกตะลึงอ้าปากค้าง เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มดุดันผู้นั้นที่บาดเจ็บสาหัสจนร่างแทบสลายแล้ว แต่พลังต่อสู้ของเขากลับแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะกำราบดาบแตกเล่มนั้นได้แล้ว!
บ้าคลั่งเกินไปแล้ว
“หรือเด็กคนนี้…จะสามารถกำราบดาบนี้ได้จริงๆ”
ผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะหลายคนที่กดระดับพลังปราณให้อยู่ในระดับมหาสมุทรวิญญาณ ยามนี้ต่างยากจะควบคุมตัวเอง สีหน้าเปลี่ยนไป
วู้ม!
จู่ๆ ดาบแตกเล่มนั้นก็ไม่ส่งเสียงครวญอีก จมสู่ความเงียบ แสงดาราทั้งหมดถูกเก็บกลับไป เผยตัวดาบที่เป็นสีดำสนิท
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นกลับมีกลิ่นอายน่าสะพรึงแผ่ออกจากตัวดาบของมัน กลายเป็นเงาร่างที่ราวกับภาพลวงตาให้เห็นรางๆ
“นั่นมัน…”
มีคนตะโกน สีหน้าขาวซีด ในใจหวาดกลัวจนถึงขั้นสุด
“เป็นเจตจำนงที่ผู้ยิ่งใหญ่ในโบราณกาลเหลือทิ้งไว้ ยามนี้ถูกกระตุ้นให้ฟื้นคืนชีพ หมายจะสังหารเด็กหนุ่มนั่น!”
ผู้มากประสบการณ์บางคนตกใจ ตระหนักได้ว่าเหตุใดดาบแตกเล่มนั้นจึงพลิกฟ้าเช่นนี้ เหตุผลก็เพราะภายในดาบแตกมีพลังแห่งเจตจำนงหลงเหลืออยู่!
สามารถผ่านกาลเวลามาได้นับพันปี และยามนี้ก็ฟื้นตื่นอีกครั้ง แค่คิดก็รู้ว่าในยุคนั้นผู้ยิ่งใหญ่ท่านนั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด
“เด็กนี่แย่แน่!”
ทุกคนต่างหวาดกลัวและหนีออกไปไกล เพราะตระหนักได้ว่าดาบแตกนั่นกำลังจะโจมตีอย่างรุนแรงเพื่อสังหารหลินสวิน
ทว่าในขณะนั้นหลินสวินกลับไม่ถอยหนีแล้วรุกเข้าไป เสียงตูมดังสนั่น เห็นเขาโน้มตัวพุ่งเข้าไปคว้าดาบแตกเล่มนั้นเอาไว้
ตูม!
อากาศบริเวณนั้นเดือดพล่าน ระเบิดพลังน่าพรั่นพรึง ราวกับดวงอาทิตย์ดวงใหญ่กำลังระเบิดเป็นเสี่ยงๆ แสงประกายเจิดจ้าประหนึ่งภูเขาไฟปะทุท่วมท้นไปทั่วอากาศ
พลันเห็นว่าภายในรัศมีสิบลี้ภูเขาพังทลาย ก้อนหินแหลกละเอียด แผ่นดินแตกเป็นรอยแยกนับไม่ถ้วนแผ่กระจายออกเป็นวงกว้าง
ฟ้าทลาย!
แผ่นดินแยก!
เสียงระเบิดดังสนั่น สะเทือนจนหนวกหู ทำให้ผู้ฝึกปราณหลายคนได้ยินเสียงหึ่งๆ ขึ้นในหัว รู้สึกตาลายคล้ายจะคลื่นไส้ จิตวิญญาณแทบจะหลุดออกมา
“สหาย ส่งดาบแตกมาแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป!”
หรั่นอิ๋นในชุดสีทองทั้งตัวถือทวนยาวสีทองเข้ามาแล้วร้องตะโกน สีหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งจองหองและเย็นชา
แม้จะพูดเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะให้โอกาสหลินสวิน พลันวาดทวนยาวสีทองออกไป กลายเป็นแสงทองอร่ามมหึมาพุ่งเข้าสังหาร
อนุภาพดุจกวาดล้างโลกาน่าสะพรึงกลัว เห็นได้ชัดว่าเป็นท่าไม้ตาย หมายจะสังหารคนและช่วงชิงสมบัติให้ได้ในคราเดียว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียโอกาส
“อย่างเจ้าเนี่ยนะจะคู่ควร”
ท่ามกลางน้ำเสียงอันเรียบเฉย ดาบแตกในมือของหลินสวินเปล่งประกาย ฟันสังหารออกไปอย่างสบายๆ
ตูม!
ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงเงินดุจธารดารามหาศาล เกิดเสียงดังกึกก้อง ทวนยาวสีทองสะเทือนจนปลิวออกไป ถูกฟาดฟันจนเกือบจะแตก
หรั่นอิ๋นไม่ทันตั้งตัว ไม่อาจหลบทัน ถูกแสงสีเงินของธารดารากวาดผ่านตัว ร่างกายคล้ายถูกภูเขาลูกใหญ่บีบอัด กระดูกแตกหัก เลือดไหลออกจากเจ็ดทวาร
เขากรีดร้องเสียงอนาถ อย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าหลินสวินที่หมดเรี่ยวแรงแล้วจะยังมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้
ทว่าอย่างไรเขาก็ถือว่าเป็นผู้กล้าในบรรดาคนรุ่นใหม่ การตอบสนองว่องไวอย่างที่สุด แม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่กลับเลือกที่จะถอยหนีห่างออกไปตามสัญชาตญาณ
ฟุ่บ!
กลับเห็นว่าหลินสวินยกมือขึ้นฟาดดาบลง ประกายดาบสีเงินปรากฏขึ้นฟันตัวเขาออกเป็นสองท่อนโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาหนีด้วยซ้ำ
ทุกคนต่างตื่นตะลึง เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร หรั่นอิ๋นเป็นถึงผู้กล้าคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นผู้สืบทอดของสำนักรวมดารา ครอบครองวิชาอันยอดเยี่ยมและเป็นบุคคลชั้นยอดในระดับมหาสมุทรวิญญาณ
แต่ยามนี้กลับไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่การโจมตีเดียว ถูกสังหารในทันที!
“ฆ่า! ไปด้วยกัน เขาจนตรอกแล้ว ไม่มีทางยันไว้ได้อีกแน่!”
“ใช่ นั่นไม่ใช่พลังของเขา เป็นพลังน่าสะพรึงของดาบแตก ขอเพียงแค่ฆ่าเขาได้สมบัติชิ้นนี้ก็จะเป็นของเรา!”
ผู้ฝึกปราณสิบกว่าคนพุ่งเข้ามา ในนั้นมียอดฝีมือระดับหยั่งสัจจะอยู่ด้วย ปิดล้อมหลินสวิน ในใจต่างคิดว่าจนถึงขนาดนี้แล้วไม่ว่าช้าหรือเร็วเด็กนี่ต้องจบสิ้นแน่ หากไม่ฉวยโอกาสช่วงชิงสมบัติจะต้องเสียใจไปชั่วชีวิต
สังหารศัตรูได้ในครั้งเดียว ไม่เพียงไม่สร้างความสั่นสะเทือน ตรงกันข้ามกลับทำให้ผู้ฝึกปราณหลายคนยิ่งบ้าคลั่ง ทำให้หลินสวินเองก็ไม่ลังเลอีกต่อไป
เขากระโดดออกไป ในมือมีเพียงดาบแตกสีดำสนิทความยาวประมาณสองฉื่อที่แผ่แสงสีเงินราวกับภาพมายา สมบัติชิ้นนี้ยังคงดิ้นรน ไม่เคยจำยอม แต่กลับถูกหลินสวินจับไว้แน่น จึงทำให้มันไม่สามารถทำอะไรได้
ตูม!
มีคนใช้สมบัติ ร่มสีทองคันหนึ่งบินขึ้นมา หมุนตัวอย่างต่อเนื่องยิงแสงสีทองออกเป็นสายๆ ใส่หลินสวิน ของสิ่งนี้สามารถสังหารสิ้นทุกวิญญาณ
หลินสวินยกมือขึ้นกวาดดาบแตกอย่างลวกๆ แสงดาราน่าอัศจรรย์แผ่พุ่ง เกิดเสียงดังเช้ง ฟันร่มสีทองคันนั้นออกเป็นสองท่อน
ส่วนผู้ฝึกปราณที่ถือสมบัติชิ้นนั้นถูกฟันหัวขาด ตายคาที่เหมือนกับหรั่นอิ๋นที่ไม่ทันได้ดิ้นรนด้วยซ้ำ!
หลินสวินใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็ง เริ่มการสังหารโดยไม่หันกลับไปมองด้วยซ้ำ ศัตรูล้อมกันมาขนาดนี้ เขาไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นเป้านิ่งในวงล้อมหรอกนะ!
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์