เพียงแค่เงื่อนไขนี้หลินสวินก็ปวดหัวแล้ว
คะแนนสะสมของสำนักศึกษามฤคมรกตมีค่าสูงยิ่ง อย่างตอนแรกที่หลินสวินสอนไปเป็นเวลาหนึ่งเดือน ยังได้คะแนนสะสมแค่หนึ่งพันคะแนนเท่านั้น
โดยในนี้ยังรวมคะแนนรางวัลที่ได้จากการซ่อมกระบี่เบิกฟ้าให้จักรพรรดินีด้วย!
จะเห็นได้ว่าถ้าอยากได้คะแนนสะสมห้าพันคะแนนภายในระยะเวลาอันสั้น เป็นเรื่องที่ยากลำบากเพียงใด
นอกจากนี้ยังมี ‘การทดสอบบันไดสวรรค์’!
แม้ไม่รู้ว่าการทดสอบบันไดสวรรค์หมายถึงอะไร แต่เมื่อได้ยินว่าต้องมีห้าพันคะแนนจึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วม ก็รู้เลยว่าการทดสอบบันไดสวรรค์นี้น่ากลัวเพียงใด
“เขาวัวขุยนี้ไม่สามารถเรียกว่าเป็นวัตถุดิบวิญญาณได้ แต่เป็นวัตถุดิบศักดิ์สิทธิ์ ถือกำเนิดตั้งแต่โบราณกาล ตอนนี้ได้สาบสูญไปนานแล้ว ข้าได้ยินมาว่าเจ้าสำนักเดินทางไปท่องเที่ยวที่ทะเลกลืนวิญญาณและบังเอิญเข้าไปในดินแดนลี้ลับแห่งหนึ่งจึงได้มา”
เสิ่นทั่วค่อยๆ กล่าว “เพราะสมบัติชิ้นนี้มีความพิเศษมาก เจ้าสำนักจึงออกคำสั่งด้วยตัวเองว่า มีเพียงผู้ที่ผ่านการทดสอบบันไดสวรรค์เท่านั้นจึงจะสามารถเป็นเจ้าของสมบัตินี้ได้”
“การทดสอบบันไดสวรรค์คืออะไรหรือขอรับ”
หลินสวินอดถามไม่ได้
“เป็นบททดสอบสำหรับผู้ฝึกปราณ”
เสิ่นทั่วกล่าว “ข้าไม่รู้รายละเอียดมากนัก เพียงได้ยินว่าในสาขายุทธ์วิถีมักมีลูกศิษย์ไปเข้าร่วมการทดสอบ แต่หลายพันปีมานี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ” เสิ่นทั่วกล่าว
“พูดง่ายๆ ก็คือมีเพียงบุคคลชั้นยอดที่พรสวรรค์โดดเด่นพลิกฟ้าเท่านั้น จึงจะมีความสามารถในการเข้าร่วมการทดสอบบันไดสวรรค์ คนอื่นๆ แม้จะไปร่วมก็ต้องแพ้”
“ข้าจำได้ว่าในช่วงสองสามร้อยปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่ามีเพียงสองคนเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบบันไดสวรรค์ คนหนึ่งชื่อฉินจื่อฮวนและอีกคนชื่อเชอชิงอวี่ ล้วนเป็นคนโดดเด่นแห่งยุคทั้งคู่”
“ได้ยินว่าเชอชิงอวี่ได้เดินทางไปฝึกปราณที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ลึกลับนอกอาณาเขตแล้ว ส่วนฉินจื่อฮวนยามนี้ศึกษาเพิ่มเติมอยู่ในสาขายอดยุทธศาสตร์ ได้ข่าวว่าอีกไม่นานเขาก็จะออกเดินทางไปยังดินแดนลี้ลับนอกอาณาเขตแห่งหนึ่งเช่นกัน”
……
พูดคุยกันอยู่นาน เสิ่นทั่วจึงค่อยจากไปพร้อมหญ้ากระบี่เกล็ดเงินสิบต้น เขาจำเป็นต้องไปแลกวัตถุดิบวิญญาณที่หลินสวินต้องการ
ทั้งยังรับปากหลินสวินแล้วว่า ก่อนที่จะเตรียมวัตถุดิบวิญญาณครบถ้วน จะไม่เปิดเผยเรื่องที่หลินสวินปรารถนาจะหลอมชุดศึกสลักวิญญาณ จนทำให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไร
หลินสวินครุ่นคิดเพียงลำพังอยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็ถอนหายใจเบาๆ คราหนึ่ง
ไม่มีอะไรมาแทนที่เขาวัวขุยได้ ถ้าไม่สามารถหามาได้ ก็ไม่สามารถหลอมชุดศึกสลักวิญญาณที่เขาคิดไว้
“ดูเหมือนว่า คงทำได้เพียงรีบทำคะแนน”
ความหนักแน่นแวบผ่านดวงตาหลินสวิน
ก่อนไปเสิ่นทั่วได้บอกวิธีมากมายในการทำคะแนนให้กับหลินสวิน เรียกได้ว่าหลากหลาย เช่นการคลี่คลายข้อสงสัย ออกไปหาประสบการณ์นอกสถานที่ การประเมินและการทดสอบ… ทุกคนที่อุทิศเพื่อสำนักศึกษา ล้วนจะได้รับรางวัลเป็นคะแนนที่สอดคล้องกัน
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ หลินสวินก็ตัดสินใจจะไปเยือน ‘หอกิจวิญญาณ’ สักรอบ
หอกิจวิญญาณมีหน้าที่แจกจ่ายงานต่างๆ และวางแผนเรื่องทั่วไปในสำนักศึกษาโดยเฉพาะ เรียกง่ายๆ ก็คือ เป็นสถานที่ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องจุกจิก
“อาจารย์เสี่ยวหลิน ท่านกลับมาแล้ว!”
“ดีจังเลย พวกเรารอท่านมานานแล้ว”
ตอนที่หลินสวินเดินออกจากหอพักอาจารย์ ก็เห็นเด็กหนุ่มสาวหลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พอเห็นหลินสวินพวกเขาก็ส่งเสียงร้องเรียก แต่ละคนต่างตื่นเต้นดีใจอย่างควบคุมไม่อยู่
หลินสวินอึ้งงัน มองออกอย่างรวดเร็วว่าส่วนใหญ่เป็นศิษย์ระดับ ค. ห้องเก้า อย่างเจ้าอ้วนหลิวฮุย ฟ่านจือชิว หยางจิ้งเหยาเป็นต้น
“อาจารย์เสี่ยวหลิน ท่านกลับมาคราวนี้คงไม่ไปไหนแล้วใช่ไหม”
“อาจารย์เสี่ยวหลิน ได้ยินว่าท่านล่วงเกินเชื้อพระวงศ์ มีคนมากมายจะทำร้ายท่าน แต่อาจารย์เสิ่นทั่วบอกว่า ขอเพียงแค่อยู่ในสำนักศึกษามฤคมรกตก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรท่าน”
“อาจารย์เสี่ยวหลิน ท่านจะเริ่มสอนต่อเมื่อไหร่ พวกข้าต่างรอคอยให้ท่านกลับมา”
ลูกศิษย์เหล่านั้นส่งเสียงจ้อกแจ้กไม่หยุด แม้จะมีเสียงดังเอะอะ แต่พอได้ยินคำพูดห่วงใยจากใจของพวกเขา ทำให้หลินสวินรู้สึกอุ่นใจ
ยามนี้เขาถึงขั้นคิดว่า หากไม่ใช่เพราะภาระมากมายรัดตัว การเป็นครูอย่างสันติสุขไปทั้งชีวิตก็ไม่เลว
“รีบไปเข้าเรียนกันเถอะ ไม่เห็นหรือว่าอาจารย์เสี่ยวหลินยังมีธุระมากมายต้องจัดการ”
เจ้าอ้วนหลิวฮุยตะโกน
หลินสวินอึ้งไปทันที กล่าวว่า “พวกเจ้ากลับไปเรียนก่อนเถอะ ในช่วงนี้ข้าไม่ไปจากสำนักศึกษาแน่”
เพิ่งจะพูดถึงตรงนี้เสียงที่แหลมเหมือนฆ้องแตกก็ดังมาแต่ไกล…
“หลินสวิน หลินสวินอยู่ไหน ออกมาเดี๋ยวนี้!”
“ให้ตาย ใครมันเสียมารยาทแบบนี้!”
เจ้าอ้วนหลิวฮุยขัดเคืองใจขึ้นมาทันที เงยหน้าขึ้นมองไปก็เห็นคนกลุ่มใหญ่เดินเข้ามาอย่างดุดัน
คนเหล่านี้เป็นกลุ่มชายหญิงในชุดเครื่องแบบสีเขียวอ่อน ตรงไหล่ปักลายกวางเขียวที่มีเมฆหมอกเคลียคลอ นี่เป็นสัญลักษณ์ของสาขายุทธ์วิถี
“หืม ทำไมถึงเป็นพวกเจ้า”
เจ้าอ้วนหลิวฮุยแปลกใจ
สีหน้าของคนอื่นๆ ก็เปลี่ยนไป จำได้ว่านั่นเป็นกลุ่มศิษย์จากสาขายุทธ์วิถี!
ในสำนักศึกษามฤคมรกต สาขามังกรเร้นเป็นสาขาที่รับศิษย์มากที่สุด เป็นศูนย์รวมของศิษย์ใหม่ ดังจะเห็นได้จากคำว่า ‘มังกรซ่อน’
แต่สาขายุทธ์วิถีกลับแตกต่าง ผู้ที่สามารถเข้าไปฝึกในสาขายุทธ์วิถีได้ แต่ละคนล้วนเป็นหัวกะทิที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด และเป็นบุคคลชั้นยอดในระดับมหาสมุทรวิญญาณ ไม่ขาดแคลนผู้กล้าอัจฉริยะ เป็นศูนย์รวมของผู้โดดเด่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์