ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าต่างลงมือในวินาทีแรก แห่แหนพุ่งไปทางภูเขาเก้าลูกที่อยู่ห่างออกไป
ชั่วขณะหนึ่งแสงท่องทะยานดุจสายฝน เจิดจ้าพราวตา กลิ่นอายรุนแรงแข็งกร้าวต่างๆ นานาทำให้พื้นที่แห่งนี้เปลี่ยนเป็นปั่นป่วนขึ้นมา
ฆ่า!
ผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาเพลิงซัดโจมตี พุ่งทะยานไปเบื้องหน้าดุจดั่งพระอาทิตย์เจิดจ้าสีดำดวงแล้วดวงเล่า
หัวหน้าเป็นบุคคลบุตรเทพผู้หนึ่ง กายภายนอกมีเปลวเพลิงโหมกระหน่ำ เผาไหม้จนอากาศบิดเบี้ยว นำพาสมาชิกเผ่าเหินทะยานแหวกอากาศ หมายจะชิงตัดหน้าปีนขึ้นไปบนภูเขาใหญ่ลูกหนึ่งก่อน
ซ่า!
ฝนกระบี่สีเขียวปรากฏขึ้น ปิดคลุมฟ้าดิน นั่นคือบุตรเทพเผ่าเจียวเขียว มือถือกระบี่วิญญาณเปล่งประกายเขียวเล่มหนึ่ง แหวกอากาศสกัดกั้นเอาไว้
ทันใดนั้นก็มีผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาเพลิงหกคนถูกสังหาร เลือดเนื้อดั่งสายฝนโปรยปรายไหลริน
สายตาของบุตรเทพเผ่าอีกาเพลิงที่เป็นผู้นำเย็นเยียบโกรธขึ้ง สำแดงวิชาลับโจมตีออกไป ชั่วพริบตาการต่อสู้ระหว่างสองเผ่าใหญ่พลันปะทุ
เสียงเข่นฆ่าสะเทือนฟ้า โลหิตย้อมอากาศ ดุเดือดหาที่เปรียบมิได้
ตูม!
บริเวณไม่ไกลออกไป นกอินทรีหิมะขนาดมหึมาตัวหนึ่งทะยานสู่ห้วงอากาศ ปีกดุจดั่งคมมีด ม้วนหอบลมมรสุมพุ่งสังหารไปยังข่งซิ่วบุตรเทพเผ่าโห่วเมฆาทันใด
ข่งซิ่วแค่นเสียงเย็น คำรามเสียงดังสนั่น คลื่นเสียงปานอาวุธ สอดประสานกับแสงแวววาวท่วงทำนองแห่งมรรคอันน่ากลัว ราวกับเสียงอสนีบาตซัดสะเทือนครอบคลุมนภา แผ่กว้างออกไป ทำลายห้วงอากาศเป็นผุยผง
เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น อินทรีหิมะมหึมาตัวนั้นพลันแข็งทื่อไปทั้งร่าง บาดเจ็บสาหัสกระอักเลือด เกือบถูกซัดสังหารตายคาที่
“ไสหัวไป!”
เบื้องหน้าภูเขาใหญ่อีกลูก เมิ่งเหลียนชิงธิดาเทพเผ่าหงส์หิรัณย์ส่งเสียงผรุสวาทออกมา นางเองก็ถูกซัดโจมตีเช่นเดียวกัน
คู่ต่อสู้เป็นผู้แข็งแกร่งเผ่างูเหลือมยักษ์ ร่างกายสูงใหญ่กำยำ ทั่วสรรพางค์กายปกคลุมด้วยเกล็ดงู มือใหญ่ปานใบลานควงขวานยักษ์สีดำคู่หนึ่ง
เขาท่าทางทรงพลังหยิ่งผยอง ขวานยักษ์แหวกอากาศ โอหังแกล้วกล้า ระเบิดพลังศักดิ์สิทธิ์สะท้านโลกออกมา สามารถผ่าแยกคีรีอย่างง่ายดาย เหยียบย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง
ตูม!
ขวานยักษ์คู่เปล่งแสงพร่างตา ปะทะกับโคมโบราณดวงหนึ่ง
โคมโบราณนั้นแลดูไม่เตะตา แต่เมื่อถูกเมิ่งเหลียนชิงควบคุมอยู่ในมือกลับระเบิดฝนแสงเต็มฟ้าออกมาในชั่วพริบตา ปะทะขวานยักษ์คู่นั้นให้ถอยร่น
วู้ม!
ทั่วร่างของเมิ่งเหลียนชิงอวลแสงทอง ดุจดั่งเยื้องย่างมาจากแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ ดวงหน้าปานหยกเย็นยะเยือก นัยน์ตาคู่งามเจือแววชั่วร้าย โคมโบราณในมือสาดละอองฝนแสง เจาะทะลวงห้วงอากาศทั้งปวง
โคมโบราณดวงนี้เป็นสมบัติลับตกทอดจากบรรพบุรุษของนาง ในยามปกติแทบจะไม่ได้ใช้งาน ทว่าเวลานี้นางไม่ได้เก็บงำมันไว้อีกต่อไปแล้ว
ด้วยว่านางไม่อยากประวิงเวลา หมายจะแย่งคว้าวาสนาก่อนในจังหวะแรก
ขวานยักษ์และโคมโบราณปะทะกันหลายครั้ง รัศมีศักดิ์สิทธิ์กระเซ็นออกมา ปลดปล่อยเสียงระเบิดน่าสะพรึงกึกก้องกัมปนาท
ปัง!
สุดท้าย โคมโบราณสาดฝนแสงผืนหนึ่งออกมา รวมตัวเป็นสัญลักษณ์ลึกลับหนึ่ง แทงทะลวงกะโหลกศีรษะของผู้แข็งแกร่งเผ่างูเหลือมยักษ์คนนั้นในชั่วพริบตา ร่างมหึมาล้มครืนลงพื้นอย่างจัง
“อ๊าก…!”
หน้าภูเขาใหญ่ละแวกนั้นมีเสียงโหยหวนดังลอยมา ผู้แข็งแกร่งเผ่าวิญญาณงินที่ทรงพลังคนหนึ่งถูกสังหาร
คู่ต่อสู้ของเขาคือเสวียนหลัวจื่อบุตรเทพเผ่าเต่าทมิฬ คนผู้นี้มีเรือนผมยาวสีครามปานน้ำทะเล รูปร่างสูงเพรียว ทั่วสรรพางค์กายคละคลุ้งด้วยพยับหมอกสีน้ำเงินดุจดั่งภาพฝัน เจิดจ้าบาดตา
มือเขาถือหอกยาวสีครามเข้มเล่มหนึ่ง คมกริบน่าพรั่นพรึง ท่วงทำนองมรรคไหลวน นำพาสมาชิกเผ่าพุ่งสังหารออกมาเบื้องหน้า
พรวด! พรวด! พรวด!
เลือดสดสาดเซ็นตลอดทาง ผสมเสียงโหยหวนรุนแรง
วิธีการต่อสู้ของเสวียนหลัวจื่อโหดเหี้ยม แม่นยำและดุดัน เขาเด็ดขาดเฉียบคม ฆ่าสังหารไร้ปรานี หอกยาวสีครามเข้มงามเพริศชวนฝัน ทว่ากลับเลิกม่านเปิดฉากคาวเลือดตลอดทาง
นี่คือการต่อสู้แย่งชิงวาสนา แต่ไรมาก็อำมหิตและนองเลือดถึงเพียงนี้ ไม่ได้มีโชคช่วยให้เอ่ยถึงเลยแม้แต่น้อย
และนี่เป็นเพียงสภาพศึกส่วนหนึ่งในพื้นที่แห่งนี้เท่านั้น
บริเวณนี้มีภูเขาใหญ่ทั้งหมดเก้าลูก ตั้งตระหง่านเรียงราย หลังจากที่แห่งนี้เลิกม่านเปิดฉากการต่อสู้ เบื้องหน้าของภูเขาแต่ละลูกล้วนมีภาพการต่อสู้นองเลือดระดับนี้เกิขึ้นทั้งสิ้น
ตูม!
หน้าภูเขาใหญ่ลูกแรกจากทางซ้าย หนิวทุนเทียนตะโกนลั่น มือถือทวนสามง่ามสีดำเล่มหนึ่ง ไอโลหิตทะยานฟ้าคลุ้งทั่วร่าง
เขาระเบิดพลัง โบกสะบัดทวนสามง่าม พลังวิญญาณทั่วร่างพุ่งขึ้นราวพายุ ดุจดั่งราชามารกู่ร้องก้องโลกา
ใกล้ๆ กับเขา ผู้แข็งแกร่งสิบกว่าคนของเผ่าหนึ่งไม่ทันหลบเลี่ยง ก็ถูกการระเบิดครั้งนี้สังหารดับเกลี้ยง!
ชั่วขณะนั้นหยาดเลือดและเศษเนื้อปลิวว่อน สาดร่วงประหนึ่งฝนห่าใหญ่เทลงมา ทำให้ผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งที่แย่ห่างออกไปต่างไหวหวั่น หนังศีรษะชา
นี่ก็คือหนิวทุนเทียน แข็งกร้าวจนน่ากลัว!
ทางด้านของพวกหลินสวินก็เป็นเช่นเดียวกัน เต็มไปด้วยอันตราย สมบัตินานัปการเริงระบำกลางอากาศ วิชาลับและทักษะการต่อสู้ชนปะทะ ฝุ่นทรายปลิวว่อนก้อนหินพุ่งผ่าน เพลิงระอุพลุ่งพล่าน
หลินสวิน จ้าวจิ่งเซวียน เจ้าคางคก รวมถึงพวกผู้สืบทอดแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณทั้งกลุ่มอยู่ด้วยกัน พุ่งสังหารตลอดทาง กลับไม่ได้รู้สึกถึงความกดดันใดๆ
อีกอย่าง เซียวหรันในเวลานี้สำแดงเดชได้อย่างตื่นตายิ่งยวด เรียกได้ว่าอวดศักดาประเมินค่าไม่ได้
หมอกเมฆพวยพุ่งทั่วร่างของเขา เป็นเอกเทศและเยือกเย็น นำทางอยู่เบื้องหน้า ทุกหย่อมหญ้าที่จรผ่านแทบจะราบเป็นหน้ากลอง ไม่มีผู้ใดทัดเทียม
กอปรกับพวกจ้าวจิ่งเซวียน ซูซิงเฟิง เหวินเสียง กงหยางอวี่ และอวิ๋นเช่อต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ขบวนของพวกเขาราวกับคมดาบเล่มหนึ่ง เคลื่อนรุดว่องไว ปีนป่ายขึ้นไปบนภูเขาใหญ่แห่งหนึ่ง
แน่นอนว่าหลินสวินเองก็มีส่วนช่วยสำคัญเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เพราะเขาสำแดงพลังอย่างสะดุดตา แต่เป็นเพราะยามที่ผู้แข็งแกร่งจำนานมากจำฐานะของเขาได้ ยังไม่ทันต่อสู้ก็ตกใจจนถอยหนีไปแล้ว
นี่ก็คือพลังแห่งอำนาจบารมี!
ก่อนหน้านี้หลินสวินสยบผู้แข็งแกร่งแทบทุกเผ่าเพียงลำพัง เข่นฆ่าสังหารเป็นเส้นทางสายโลหิต ทำให้บุคคลระดับบุตรเทพต่างตกใจ ไม่กล้าลูบคมเขา
ผลงานการศึกที่นองเลือดและโชติช่วงระดับนี้ สะเทือนแดนลับอสูรมารอริยะตั้งนานแล้ว แม้กระทั่งเหล่าคนใหญ่คนโตที่อยู่นอกแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ยังล้วนตื่นตระหนก
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ครั้นจำ ‘เทพมารหนุ่มน้อยเผ่ามนุษย์’ อย่างหลินสวินได้ ใครเล่ายังจะตาบอดกล้าเข้ามายั่วยุ
ใช่ว่าเบื่อชีวิตเสียที่ไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์