เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ไม่เคยขึ้นไปบนยอดเขาต่างอิจฉาจนแม้แต่หัวใจยังหลั่งเลือด ส่วนเหล่าผู้แข็งแกร่งที่ได้ศุภโชคกลับมาต่างย่ามใจยิ่ง
สิ่งที่ทำให้ผู้แข็งแกร่งทุกคนตะลึงคือ เหล่าผู้แข็งแกร่งที่กลับจากการหยั่งรู้ต่างได้รับศุภโชคที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
ผู้ฝึกปราณบางคนบรรลุไปหนึ่งขั้น
บางคนควบคุมท่วงทำนองมหามรรคบางอย่าง
บางคนเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านจิตวิญญาณ
บางคนได้รับวิชาลับโบราณบางอย่างที่เหมาะสมกับตน
สิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดคือ แม้แต่วิชาลับโบราณที่ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นได้รับก็แตกต่างกัน ครอบจักรวาล ปกคลุมหมื่นสำนัก มีมรดกลับมหายานแห่งพุทธนิกาย มีวิชาลึกล้ำของลัทธิเต๋า และมีวิชาลับอันเป็นเอกลักษณ์อื่นๆ
อีกทั้งวิชาลับแต่ละอย่างล้วนเข้ากันได้ดีกับพรสวรรค์ของผู้ที่ได้รับอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ไม่ได้ขึ้นไปบนยอดเขายิ่งอิจฉาตาร้อนเข้าไปใหญ่
แต่ไม่มีใครกล้าลงมือช่วงชิง ผนึกต้องห้ามที่ปกคลุมอยู่บนภูเขาทั้งเก้านี้น่าสะพรึงกลัวไร้ขอบเขต ใครกล้าฝืนช่วงชิงวาสนา ก็จะถูกสังหารในทันที!
“มหาวาสนา! หนึ่งคำพูดถ่ายทอดหมื่นวิชา แม้จะอยู่ในสมัยบรรพกาล วาสนาเลิศล้ำระดับนี้ก็หายากเช่นกัน!”
ผู้แข็งแกร่งหลายคนถอนหายใจอย่างเสียดาย ไม่สามารถขึ้นเขาไปได้ ทำให้พวกเขารู้สึกไม่จำยอม
ที่เศร้าที่สุดคงจะเป็นเหล่าผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ เพราะการต่อสู้กับหลินสวินและความประมาทของเซียวหรัน ทำให้พวกเขาพลาดวาสนาอันหายากนี้กันหมด
ตอนนี้สายตาของเหล่าผู้แข็งแกร่งที่มองพวกเขาต่างเปลี่ยนไป แฝงความเย้ยหยันและเวทนา ท่าทางมีความสุขบนความทุกข์ผู้อื่น
แบบนี้แหละที่เรียกว่าเจตจำนงฟ้าเกินคาดเดา!
และสีหน้าของพวกซูซิงเฟิง เหวินเสียง อวิ๋นเช่อก็มืดมนอย่างที่สุด แม้แต่เซียวหรันหว่างคิ้วยังปรากฏความอึมครึม
ขโมยไก่ไม่ได้แล้วยังเสียข้าวสารอีกกำมือ ครั้งนี้พวกเขาขาดทุนอย่างหนักเลยเชียว
“ฮ่าๆๆ ในที่สุดข้าก็ตามหาความทรงจำเสี้ยวหนึ่งเจอแล้ว ได้รับวิชาลับพรสวรรค์ที่สืบทอดมาในสายเลือด ต่อไปวันคืนที่จะได้ก้าวสู่มกุฎมหามรรค อยู่เหนือสรรพชีวิตก็อยู่ไม่ไกลแล้ว!”
จู่ๆ เสียงหัวเราะอันแปลกประหลาดก็ดังแว่วขึ้น เจ้าคางคกในชุดคลุมสีเขียวถูกส่งตัวมาที่เชิงเขา ท่าทางของเขาดูได้ใจ สีหน้าสดชื่น ปลื้มปริ่มใจอย่างบอกไม่ถูก
เพียงแต่หลังจากนั้นเขาก็สั่นเทิ้มไปทั้งตัว รับรู้ได้ถึงไอสังหารเย็นเยียบที่ปกคลุมเข้ามา ทำให้เขาขนลุกซู่
หันหน้าไปก็เห็นว่าสีหน้าของพวกซูซิงเฟิงต่างมืดทะมึน สายตาเต็มไปด้วยไอสังหารเหี้ยมโหด กำลังจับจ้องเขา
“ให้ตายสิ! ซวยขนาดนี้เชียว”
เจ้าคางคกตกใจตัวลอย รีบร้อนจะหนี ความได้ใจและความตื่นเต้นหายไปไม่มีเหลือ
เขาคิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะได้รับศุภโชคมา ก็ต้องมาเจอกับศัตรูที่จ้องจะเล่นงานมากมายเพียงนี้แล้ว
เพียงแต่ไม่นานเขาก็สังเกตว่า แม้ว่าใบหน้าของพวกซูซิงเฟิงจะเย็นชาและเผยไอสังหาร แต่กลับไม่ได้ลงมือ
ทำให้เจ้าคางคกฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้ ลูกตากลอกไปมา ตระหนักได้ว่าสถานการณ์เหมือนจะค่อนข้างแปลกประหลาด
“หยุดพูดไร้สาระ ให้โอกาสเจ้ารอดชีวิตครั้งหนึ่ง ส่งสมบัติบนตัวมาให้หมดแล้วจะไว้ชีวิต!”
เหวินเสียงตะคอก
“มีสิทธิ์อะไร”
เจ้าคางคกชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง
“ทำไม พวกเราอุตส่าห์จะปล่อยเจ้าไป แต่เจ้ากลับอยากตายงั้นหรือ”
สีหน้าของเหวินเสียงอึมครึมลง
และข้างๆ ไอสังหารทั่วตัวของซูซิงเฟิงและอวิ๋นเช่อยิ่งทวีความรุนแรง สายตาที่มองเจ้าคางคกเหมือนกำลังจ้องคนตายคนหนึ่ง
ทำให้สีหน้าของเจ้าคางคกดูแย่ขึ้นมาเล็กน้อย ในใจกระวนกระวาย ถ้าเขาคนเดียวคงสู้พวกเขาไม่ได้จริงๆ
แต่สิ่งที่เขาสงสัยคือ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเผยไอสังหารและกดดันทุกทาง แต่กลับไม่ได้ลงมือ ดูแปลกอยู่ไม่น้อย
“ฮ่าๆๆ ดูสิ ผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณทะเลาะกันเองอีกแล้ว คนพวกนั้นอิจฉาตาร้อน ขู่เอาสมบัติจากเด็กหนุ่มชุดคลุมเขียวคนนั้น”
ห่างออกไปเสียงหัวเราะเยาะดังลั่นขึ้น ทันใดนั้นเสียงหัวเราะอย่างครื้นเครงพลันดังขึ้น ณ ที่นั้น ท่าทางเย้ยหยัน
สีหน้าของพวกซูซิงเฟิงดูแย่อย่างที่สุด เคียดแค้นจนกัดฟันแทบแหลกละเอียดแล้ว
ปัง!
ทันใดนั้นเหวินเสียงพลันลงมือ เอาห่วงคอสีเงินยวงออกมา ฆ่าผู้แข็งแกร่งที่กำลังหัวเราะยกใหญ่คนนั้นผ่านอากาศ เลือดสดสาดกระเซ็น
“เจ้ากล้าจู่โจม!”
ผู้แข็งแกร่งหลายคนเดือดดาล
“ทำไมจะไม่กล้า ในบรรดาพวกเจ้า กว่าครึ่งล้วนไม่ได้รับวาสนา ยังจะกล้าหัวเราะเยาะพวกข้า จนปัญญากับพวกเจ้าจริงๆ!”
เหวินเสียงพูดอย่างเย็นเยียบ
ได้ยินเช่นนี้ทำให้ผู้แข็งแกร่งจำนวนไม่น้อยจากแต่ละเผ่าต่างเงียบกริบ สีหน้าเปลี่ยนไปไม่น้อย
ขณะนี้พวกเขาจึงตระหนักได้ว่า ผนึกต้องห้ามที่ปกคลุมอยู่ในที่แห่งนี้ปกป้องเพียงผู้ที่ได้รับวาสนาไม่ให้ถูกทำร้าย!
กล่าวอีกนัยหนึ่ง บรรดาผู้แข็งแกร่งที่ไม่ได้รับวาสนา หากเกิดความขัดแย้งขึ้นก็ยังจะตกอยู่ในอันตรายถึงแก่ชีวิต
“เฮอะ”
เมื่อเห็นว่าเหล่าผู้แข็งแกร่งที่ส่งเสียงโห่ร้องและเยาะเย้ยตกใจกลัว สีหน้าของพวกเหวินเสียงและซูซิงเฟิงจึงดีขึ้นมาก
‘น้องชายชุดเขียว เจ้าไม่ต้องกลัว พวกเขาไม่กล้าฆ่าเจ้า’
จู่ๆ ก็มีคนส่งสื่อจิตหาเจ้าคางคก บอกเหตุผลที่เป็นเช่นนี้
เห็นได้ชัดว่าการเตือนเช่นนี้ไม่อาจพูดได้ว่าหวังดี แต่เป็นจงใจยั่วยุ ต้องการให้เจ้าคางคกกับพวกซูซิงเฟิงสู้กันเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์