Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 607

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 607 เรื่องตลกดุจดั่งละคร สถานการณ์สับสนวุ่นวาย
ตอนที่ 607 เรื่องตลกดุจดั่งละคร สถานการณ์สับสนวุ่นวาย
โดย
ProjectZyphon
ท่ามกลางเวลาที่ผ่านเลยไป บนยอดภูเขาทั้งเก้า ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าถูกส่งออกมามากขึ้นเรื่อยๆ เกิดเสียงฮือฮาและเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย

เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ไม่เคยขึ้นไปบนยอดเขาต่างอิจฉาจนแม้แต่หัวใจยังหลั่งเลือด ส่วนเหล่าผู้แข็งแกร่งที่ได้ศุภโชคกลับมาต่างย่ามใจยิ่ง

สิ่งที่ทำให้ผู้แข็งแกร่งทุกคนตะลึงคือ เหล่าผู้แข็งแกร่งที่กลับจากการหยั่งรู้ต่างได้รับศุภโชคที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!

ผู้ฝึกปราณบางคนบรรลุไปหนึ่งขั้น

บางคนควบคุมท่วงทำนองมหามรรคบางอย่าง

บางคนเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านจิตวิญญาณ

บางคนได้รับวิชาลับโบราณบางอย่างที่เหมาะสมกับตน

สิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดคือ แม้แต่วิชาลับโบราณที่ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นได้รับก็แตกต่างกัน ครอบจักรวาล ปกคลุมหมื่นสำนัก มีมรดกลับมหายานแห่งพุทธนิกาย มีวิชาลึกล้ำของลัทธิเต๋า และมีวิชาลับอันเป็นเอกลักษณ์อื่นๆ

อีกทั้งวิชาลับแต่ละอย่างล้วนเข้ากันได้ดีกับพรสวรรค์ของผู้ที่ได้รับอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ไม่ได้ขึ้นไปบนยอดเขายิ่งอิจฉาตาร้อนเข้าไปใหญ่

แต่ไม่มีใครกล้าลงมือช่วงชิง ผนึกต้องห้ามที่ปกคลุมอยู่บนภูเขาทั้งเก้านี้น่าสะพรึงกลัวไร้ขอบเขต ใครกล้าฝืนช่วงชิงวาสนา ก็จะถูกสังหารในทันที!

“มหาวาสนา! หนึ่งคำพูดถ่ายทอดหมื่นวิชา แม้จะอยู่ในสมัยบรรพกาล วาสนาเลิศล้ำระดับนี้ก็หายากเช่นกัน!”

ผู้แข็งแกร่งหลายคนถอนหายใจอย่างเสียดาย ไม่สามารถขึ้นเขาไปได้ ทำให้พวกเขารู้สึกไม่จำยอม

ที่เศร้าที่สุดคงจะเป็นเหล่าผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ เพราะการต่อสู้กับหลินสวินและความประมาทของเซียวหรัน ทำให้พวกเขาพลาดวาสนาอันหายากนี้กันหมด

ตอนนี้สายตาของเหล่าผู้แข็งแกร่งที่มองพวกเขาต่างเปลี่ยนไป แฝงความเย้ยหยันและเวทนา ท่าทางมีความสุขบนความทุกข์ผู้อื่น

แบบนี้แหละที่เรียกว่าเจตจำนงฟ้าเกินคาดเดา!

และสีหน้าของพวกซูซิงเฟิง เหวินเสียง อวิ๋นเช่อก็มืดมนอย่างที่สุด แม้แต่เซียวหรันหว่างคิ้วยังปรากฏความอึมครึม

ขโมยไก่ไม่ได้แล้วยังเสียข้าวสารอีกกำมือ ครั้งนี้พวกเขาขาดทุนอย่างหนักเลยเชียว

“ฮ่าๆๆ ในที่สุดข้าก็ตามหาความทรงจำเสี้ยวหนึ่งเจอแล้ว ได้รับวิชาลับพรสวรรค์ที่สืบทอดมาในสายเลือด ต่อไปวันคืนที่จะได้ก้าวสู่มกุฎมหามรรค อยู่เหนือสรรพชีวิตก็อยู่ไม่ไกลแล้ว!”

จู่ๆ เสียงหัวเราะอันแปลกประหลาดก็ดังแว่วขึ้น เจ้าคางคกในชุดคลุมสีเขียวถูกส่งตัวมาที่เชิงเขา ท่าทางของเขาดูได้ใจ สีหน้าสดชื่น ปลื้มปริ่มใจอย่างบอกไม่ถูก

เพียงแต่หลังจากนั้นเขาก็สั่นเทิ้มไปทั้งตัว รับรู้ได้ถึงไอสังหารเย็นเยียบที่ปกคลุมเข้ามา ทำให้เขาขนลุกซู่

หันหน้าไปก็เห็นว่าสีหน้าของพวกซูซิงเฟิงต่างมืดทะมึน สายตาเต็มไปด้วยไอสังหารเหี้ยมโหด กำลังจับจ้องเขา

“ให้ตายสิ! ซวยขนาดนี้เชียว”

เจ้าคางคกตกใจตัวลอย รีบร้อนจะหนี ความได้ใจและความตื่นเต้นหายไปไม่มีเหลือ

เขาคิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะได้รับศุภโชคมา ก็ต้องมาเจอกับศัตรูที่จ้องจะเล่นงานมากมายเพียงนี้แล้ว

เพียงแต่ไม่นานเขาก็สังเกตว่า แม้ว่าใบหน้าของพวกซูซิงเฟิงจะเย็นชาและเผยไอสังหาร แต่กลับไม่ได้ลงมือ

ทำให้เจ้าคางคกฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้ ลูกตากลอกไปมา ตระหนักได้ว่าสถานการณ์เหมือนจะค่อนข้างแปลกประหลาด

“หยุดพูดไร้สาระ ให้โอกาสเจ้ารอดชีวิตครั้งหนึ่ง ส่งสมบัติบนตัวมาให้หมดแล้วจะไว้ชีวิต!”

เหวินเสียงตะคอก

“มีสิทธิ์อะไร”

เจ้าคางคกชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง

“ทำไม พวกเราอุตส่าห์จะปล่อยเจ้าไป แต่เจ้ากลับอยากตายงั้นหรือ”

สีหน้าของเหวินเสียงอึมครึมลง

และข้างๆ ไอสังหารทั่วตัวของซูซิงเฟิงและอวิ๋นเช่อยิ่งทวีความรุนแรง สายตาที่มองเจ้าคางคกเหมือนกำลังจ้องคนตายคนหนึ่ง

ทำให้สีหน้าของเจ้าคางคกดูแย่ขึ้นมาเล็กน้อย ในใจกระวนกระวาย ถ้าเขาคนเดียวคงสู้พวกเขาไม่ได้จริงๆ

แต่สิ่งที่เขาสงสัยคือ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเผยไอสังหารและกดดันทุกทาง แต่กลับไม่ได้ลงมือ ดูแปลกอยู่ไม่น้อย

“ฮ่าๆๆ ดูสิ ผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณทะเลาะกันเองอีกแล้ว คนพวกนั้นอิจฉาตาร้อน ขู่เอาสมบัติจากเด็กหนุ่มชุดคลุมเขียวคนนั้น”

ห่างออกไปเสียงหัวเราะเยาะดังลั่นขึ้น ทันใดนั้นเสียงหัวเราะอย่างครื้นเครงพลันดังขึ้น ณ ที่นั้น ท่าทางเย้ยหยัน

สีหน้าของพวกซูซิงเฟิงดูแย่อย่างที่สุด เคียดแค้นจนกัดฟันแทบแหลกละเอียดแล้ว

ปัง!

ทันใดนั้นเหวินเสียงพลันลงมือ เอาห่วงคอสีเงินยวงออกมา ฆ่าผู้แข็งแกร่งที่กำลังหัวเราะยกใหญ่คนนั้นผ่านอากาศ เลือดสดสาดกระเซ็น

“เจ้ากล้าจู่โจม!”

ผู้แข็งแกร่งหลายคนเดือดดาล

“ทำไมจะไม่กล้า ในบรรดาพวกเจ้า กว่าครึ่งล้วนไม่ได้รับวาสนา ยังจะกล้าหัวเราะเยาะพวกข้า จนปัญญากับพวกเจ้าจริงๆ!”

เหวินเสียงพูดอย่างเย็นเยียบ

ได้ยินเช่นนี้ทำให้ผู้แข็งแกร่งจำนวนไม่น้อยจากแต่ละเผ่าต่างเงียบกริบ สีหน้าเปลี่ยนไปไม่น้อย

ขณะนี้พวกเขาจึงตระหนักได้ว่า ผนึกต้องห้ามที่ปกคลุมอยู่ในที่แห่งนี้ปกป้องเพียงผู้ที่ได้รับวาสนาไม่ให้ถูกทำร้าย!

กล่าวอีกนัยหนึ่ง บรรดาผู้แข็งแกร่งที่ไม่ได้รับวาสนา หากเกิดความขัดแย้งขึ้นก็ยังจะตกอยู่ในอันตรายถึงแก่ชีวิต

“เฮอะ”

เมื่อเห็นว่าเหล่าผู้แข็งแกร่งที่ส่งเสียงโห่ร้องและเยาะเย้ยตกใจกลัว สีหน้าของพวกเหวินเสียงและซูซิงเฟิงจึงดีขึ้นมาก

‘น้องชายชุดเขียว เจ้าไม่ต้องกลัว พวกเขาไม่กล้าฆ่าเจ้า’

จู่ๆ ก็มีคนส่งสื่อจิตหาเจ้าคางคก บอกเหตุผลที่เป็นเช่นนี้

เห็นได้ชัดว่าการเตือนเช่นนี้ไม่อาจพูดได้ว่าหวังดี แต่เป็นจงใจยั่วยุ ต้องการให้เจ้าคางคกกับพวกซูซิงเฟิงสู้กันเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์