Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 609

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 609 ตำราทองสาส์นหยก
ตอนที่ 609 ตำราทองสาส์นหยก
โดย
ProjectZyphon
ภูเขาทั้งเก้าคำราม ดึงดูดสายตาของทุกคน

“ดูนั่น กระถางหินทั้งเก้าปรากฏขึ้นมาพร้อมกัน!”

มีผู้แข็งแกร่งอุทานด้วยความตกใจ

บนยอดภูเขาทั้งเก้า ท้องฟ้าเหนือทุกตำหนักยามนี้กลับมีกระถางหินที่เก่าแก่เรียบง่ายโผล่ออกมา ตั้งตระหง่านอยู่กลางอากาศ พรั่งพรูพิรุณแสงมหามรรค!

“จะเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ”

ทุกคนตะลึง สายตาถูกดึงดูดอย่างสิ้นเชิง พวกเขาตระหนักได้ว่า การเปลี่ยนแปลงสะเทือนโลกเช่นนี้จะต้องมีความหมายบางอย่าง

ตามคาด สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นทำให้ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าที่อยู่ ณ ที่นั้นต่างอึ้งค้างอยู่กับที่ ดวงตาเบิกโพลง สีหน้าดูไม่อยากจะเชื่อ

พลันเห็นว่ากระถางหินเก่าแก่ทั้งเก้าที่โผล่ขึ้น ยามนี้ปรากฏเป็นค่ายกลเก้าตำหนัก สร้างเป็นอาศรมเก่าแก่กลางอากาศหลังหนึ่ง!

อาศรมนั่นเต็มไปด้วยความเก่าแก่ ราวกับอยู่มาตั้งแต่บรรพกาลจนถึงปัจจุบันและปรากฏต่อโลกในวันนี้ กลิ่นอายเก่าแก่โชกโชนเด่นชัด

สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือที่กลางอาศรมมีเบาะรองนั่งใบหนึ่ง ด้านบนมีสาส์นหยกวางอยู่ชิ้นหนึ่ง มีแสงมรรคสีทองอร่ามไหลเวียนอยู่!

กลิ่นอายของสาส์นหยกนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก แสงมรรคสีทองที่แผ่กระจายออกมาย้อมเบาะรองนั่ง อาศรม รวมทั้งอากาศจนกลายเป็นสีทองอร่าม

ส่องสว่างไจดจ้า กลิ่นอายมิเสื่อมสลาย!

ตำราทองสาส์นหยก!

ยามรับรู้ถึงภาพนี้ ที่เชิงเขาหัวใจของผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าต่างเต้นแรง ลมหายใจหอบกระชั้น สายตาเต็มไปด้วยความหลงใหลและตื่นตะลึง

ตำราทองสาส์นหยกเล่มเดียว แผ่แสงมรรคส่องสว่างไปทั่วภูผาธารา และกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์นั่นถึงขั้นทำให้จิตใจของผู้ฝึกปราณจมดิ่งลงไปอีกด้วย!

ตำราทองสาส์นหยกเล่มนี้จะต้องเป็นมหาศุภโชคที่ลึกลับที่สุด สูงส่งที่สุด และมีค่าที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!

ทำให้ทุกคนตะลึงและยากจะเชื่อ

อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ เหล่าผู้ฝึกปราณที่เคยขึ้นไปบนยอดเขาทั้งเก้าล้วนได้รับศุภโชคมาแล้วไม่มากก็น้อย

ใครจะสามารถจินตนาการได้ว่า ตอนที่พวกเขาคิดว่าทุกอย่างกำลังจะสิ้นสุดลง ยังมีศุภโชคที่ใหญ่ยิ่งกว่าปรากฏขึ้นบนโลก

“น่าชังนัก!”

“ตำราทองสาส์นหยกนั่นศักดิ์สิทธิ์เพียงนี้ จะต้องเป็นมรดกสูงสุดที่เกี่ยวข้องกับอริยมรรคอย่างแน่นอน น่าชังนักที่พวกข้าไม่มีวาสนา!”

“ทำไม ทำไมถึงเป็นเช่นนี้”

ผู้แข็งแกร่งหลายคนตีอกชกหัว ขัดเคืองใจอย่างที่สุด

แม้แต่เหล่าผู้แข็งแกร่งที่เคยได้รับวาสนาในตำหนักโบราณมาแล้ว ยามนี้ต่างไม่จำยอมถึงที่สุด ในใจเต็มไปด้วยความขมขื่น

ตอนนี้พวกเขาถูกพลังผนึกต้องห้ามกีดกันอยู่ตรงเชิงเขา ได้แต่มองวาสนาหนึ่งเดียวในโลกปรากฏขึ้นมาโดยไม่สามารถทำอะไรได้ และไม่มีโอกาสจะไปช่วงชิง

ความรู้สึกแบบนั้นทรมานมากจริงๆ!

และสำหรับพวกซูซิงเฟิง ภาพที่อยู่ตรงหน้าช่างเหมือนกับถูกไม้ฟาดใส่จนพวกเขาหัวสมองมึนงงกันหมด ในใจอัดอั้นแทบจะกระอักเลือด

ถ้ารู้แต่แรกว่าบนยอดเขานั่นยังมีวาสนาหนึ่งเดียวในโลกอย่างตำราทองสาส์นหยกซ่อนอยู่ มีหรือที่พวกเขาจะเลือกไปเล่นงานหลินสวิน

เสียดายที่บนโลกนี้ไม่มียารักษาโรคเสียใจภายหลัง ตอนนี้พวกเขาก็ได้แค่มองอย่างอิจฉาตาร้อน แต่กลับไม่มีโอกาสได้ช่วงชิง อัดอั้นจนแทบจะช้ำใน

ส่วนเซียวหรัน เขายิ่งเงียบกว่าเดิม สีหน้าอึ้งงัน สองหมัดกำแน่นจนปลายนิ้วจิกเข้าเนื้อฝ่ามือ เส้นเลือดเขียวบนหลังมือนูนขึ้นมา

เห็นได้ชัดว่าเขากำลังพยายามควบคุมคลื่นที่พลุ่งพล่านในใจ ระงับอารมณ์ที่อัดอั้น ไม่จำยอม ผิดหวัง และโกรธเกรี้ยว

“ดูนั่น เจ้าหนูนั่นปรากฏตัวแล้ว!”

ห่างออกไปเจ้าคางคกตาเป็นประกาย ตื่นเต้นอย่างที่สุด เมื่อเห็นในอาศรมที่อยู่เหนือท้องฟ้าปรากฏเงาร่างแต่ละร่าง และในนั้นก็มีหลินสวิน

“ดูเหมือนว่าพวกเขายืนหยัดจนถึงท้ายที่สุด เท่ากับได้รับการยอมรับบางอย่าง จึงสามารถเข้าไปช่วงชิงตำราทองสาส์นหยกเล่มนั้นในอาศรมได้”

จ้าวจิ่งเซวียนพึมพำเบาๆ ใบหน้างามกระจ่างเผยแววแปลกประหลาด นางยิ่งรู้สึกเหลือเชื่อกับความสามารถของหลินสวิน

“เป็นบุตรเทพหนิวทุนเทียนเผ่าข้า! ฮ่าๆๆ ซุภโชคครั้งนี้จะต้องเป็นของเผ่าวัวมารทรงพลังของข้าอย่างแน่นอน!”

เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจดังแว่วขึ้นในที่นั้น เป็นเสียงของผู้แข็งแกร่งเผ่าวัวมารทรงพลัง แต่ละคนต่างตื่นเต้นอย่างที่สุด

พวกเขาเห็นร่างสูงใหญ่กำยำของหนิวทุนเทียนปรากฏตัวขึ้นในอาศรม ท่าทางสง่าผ่าเผยน่าเกรงขาม

“ธิดาเทพเมิ่งเหลียนชิงเผ่าข้าก็อยู่ด้วย วาสนานี้จะเป็นของใครยังไม่แน่หรอก!”

“หึ! อย่าได้มองข้ามเผ่าเต่าทมิฬของข้าเด็ดขาด!”

“เหอะๆ มหาศุภโชคปรากฏขึ้น แน่นอนว่าบุตรเทพเผ่าโห่วเมฆาจะไม่พลาด”

ทันใดนั้นผู้แข็งแกร่งเผ่าหงส์หิรัณย์ เผ่าเต่าทมิฬและเผ่าโห่วเมฆาในที่นั้นต่างส่งเสียงและจ้องมองกัน สถานการณ์เกิดความตึงเครียด

ผู้แข็งแกร่งเผ่าอื่นๆ เห็นเช่นนี้ ในใจต่างอิจฉา ขมขื่นและจนปัญญา

บนยอดเขา ภายในอาศรมโบราณที่สร้างอยู่กลางอากาศ ตอนนี้มีคนทั้งหมดห้าคนโผล่ออกมา ได้แก่หลินสวิน หนิวทุนเทียน เมิ่งเหลียนชิง เสวียนหลัวจื่อ และข่งซิ่ว

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ตำราทองสาส์นหยกเล่มนั้น ถูกกำหนดให้เป็นของใครคนใดคนหนึ่งในบรรดาพวกเขาทั้งห้า!

สำหรับคนอื่นๆ ไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะไปช่วงชิง ได้แต่มองโดยไม่สามารถทำอะไรได้ แค่คิดก็คงรู้ว่าความรู้สึกเช่นนี้มันน่าหงุดหงิดเพียงใด

“หึๆ อย่าลืมว่าในอาศรมนั่นยังมีเด็กหนุ่มเทพมารเผ่ามนุษย์คนนั้นอยู่ด้วย! ไม่ว่าหนิวทุนเทียนจากเผ่าวัวมารทรงพลัง เมิ่งเหลียนชิงจากเผ่าหงส์หิรัณย์ หรือจะเป็นข่งซิ่วจากเผ่าโห่วเมฆา เสวียนหลัวจื่อจากเผ่าเต่าทมิฬ ถ้าอยากได้ตำราทองสาส์นหยกเล่มนั้น ผ่านด่านเด็กหนุ่มเทพมารก่อนค่อยพูดเถอะ!”

มีผู้แข็งแกร่งเผ่าอื่นๆ ทนดูไม่ไหว จึงส่งเสียงหัวเราะเยาะ

ได้ยินเช่นนี้ในลานพลันเกิดเสียงอึกทึกทันที

มีคนคิดว่ามีเด็กหนุ่มเทพมารเผ่ามนุษย์คนนั้นอยู่ ผลงานการรบของเขานั้นดุดันอย่างที่สุด ใครกล้ามองข้ามเขา รับรองว่าต้องซวย!

นี่ทำให้เผ่าวัวมารทรงพลัง เผ่าหงส์หิรัณย์ เผ่าโห่วเมฆาและเผ่าเต่าทมิฬไม่พอใจ ต่างส่งเสียงกล่าวโทษ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์