ตั้งแต่หลินสวินหวนกลับนครต้องห้ามเมื่อคืน กระทั่งบุกสังหารตระกูลรองของตระกูลหลินตัวคนเดียวยามรัตติกาล อีกทั้งยามนี้ยังห้าวหาญฉีกหน้าสองตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงตระกูลจั่วและฉิน ทั่วทั้งนครต้องห้ามครึกโครมไม่รู้เท่าไหร่
ความวุ่นวายฉากนี้กำลังโหมกระหน่ำ สั่นคลอนประสาทของทุกขุมอำนาจ แต่ละฝ่ายต่างให้ความสนใจว่าหลินสวินจะก่อเรื่องถึงขั้นไหนกันแน่
และเมื่อเผชิญกับการยั่วยุและท้าทายของตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิตซึ่งหลินสวินเป็นผู้นำ ตระกูลจั่วและตระกูลฉินจะใช้วิธีเช่นไรมารับมือตอบโต้
เหตุการณ์บานปลายถึงบัดนี้ ใกล้ถึงเวลาเผยคำตอบแล้ว!
เพราะวันนี้ตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิตราวพายุลูกโต ใช้วิธีนองเลือดอย่างแข็งกร้าว ช่วงชิงกิจการซึ่งเดิมเป็นของตระกูลหลินกลับคืนจากมือตระกูลจั่วและฉินแห่งแล้วแห่งเล่า
กระทั่งถึงตอนนี้เหลือเพียง ‘หอสมบัติตะวันมงคล’ แห่งเดียวแล้ว
หากแม้แต่ที่นี่ยังถูกตระกูลหลินยึดคืน เช่นนั้นในการชิงชัยนี้ ความน่าเกรงขามของตระกูลจั่วและฉินคงเท่ากับถูกโจมตีอย่างรุนแรง
แต่ความเป็นจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือ
แน่นอนว่าไม่มีทาง!
ในฐานะที่ตระกูลจั่วและฉินเป็นตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงแห่งนครต้องห้าม แน่นอนว่าไม่มีทางอดทนให้เหตุการณ์อัปยศอดสูเช่นนี้เกิดขึ้น
และถ้าพวกเขาดำเนินการจู่โจมกลับชะล้างความอัปยศก่อนหน้า คงไม่มีทางปล่อยให้หอสมบัติตะวันมงคลถูกหลินสวินชิงไปอีกเด็ดขาด!
“ตระกูลจั่วและฉินสองตระกูลนี้ช่างสงบจิตสงบใจจริง เริ่มตั้งแต่เมื่อคืนจวบจนบัดนี้ต่างไม่ทำการอันใด คล้ายไม่ไยดีต่อการยั่วยุของหลินสวิน”
ในที่ลับมีสายสืบส่วนหนึ่งจากแต่ละขุมอำนาจกำลังพูดคุย
“บางทีพวกเขาอาจแค่กำลังรวบรวมพลจึงยังไม่ลงมือก็เท่านั้น ทันทีที่ลงมือจะต้องเอาให้ถึงตายในคราเดียวประหนึ่งสายฟ้าฟาดแน่!”
นี่คือความคิดของคนส่วนใหญ่
อย่างไรเสียนั่นก็คือตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูง อำนาจล้นฟ้าสะเทือนจักรวรรดิ ไม่มีใครเชื่อว่าเมื่อพวกเขาพบเจอการยั่วยุ จะอดทนอดกลั้นและไม่เคลื่อนไหว
“ตระกูลหลินนี่บ้าระห่ำเกินไปแล้ว ถึงแม้รีบเร่งคิดอยากแก้แค้นแค่ไหน แต่อาศัยพลังของพวกเขาตอนนี้ ไหนเลยจะสามารถเป็นคู่ต่อกรของตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงได้”
“ควรพูดว่าหลินสวินนั่นบ้าระห่ำเกินไป เมื่อคืนเพิ่งจะจัดการปัญหาภายในตระกูลหลิน ยังไม่ทันรวมกันอย่างสมบูรณ์ ก็บุ่มบ่ามไปท้าทายตระกูลจั่วและตระกูลฉิน คนยที่กล้าทำเช่นนี้ คงมีแค่หลินสวินผู้ได้ชื่อว่า ‘ป่าเถื่อนไม่เกรงกลัวสิ่งใด’ นั่นคนเดียวเท่านั้น”
คนไม่น้อยต่างทอดถอนใจ ความกล้าของหลินสวินถือว่าขึ้นชื่อในนครต้องห้าม ใครต่างไม่อาจจินตนาการ ว่าเขาอาศัยอะไรมากล้าทำเช่นนี้กันแน่
บรรดาขุมอำนาจส่วนหนึ่งถึงขั้นมอบฉายา ‘เจ้ากล้าหลิน’ แก่หลินสวิน!
เพราะการกระทำของหลินสวินกำเริบเสิบสานยิ่ง ตั้งแต่ก่อนหน้าจนปัจจุบัน ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นบนตัวเขาต้องทำให้ผู้คนตกตะลึงอ้าปากค้างยากจะเชื่อ
กระทั่งถึงตอนนี้ เมื่อตระกูลหลินท้าทายตระกูลจั่วและฉินโดยตรง ฉายา ‘เจ้ากล้าหลิน’ นี้นับวันยิ่งถูกคนรู้จักคุ้นเคยมากขึ้นเรื่อยๆ
ช่างใจกล้าเหลือเกินจริงๆ!
กระทั่งสามารถใช้คำว่าบ้าคลั่งมาพรรณนา บางทีเรียกว่า ‘เจ้าบ้าหลิน’ ก็คงไม่มีคนค้านเป็นแน่
ถึงอย่างไรในหลายพันปีที่ผ่านมา จักรวรรดิยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ตระกูลหลินซึ่งไม่ได้เป็นแม้แต่ตระกูลทรงอิทธิพล ภายใต้การนำของเด็กหนุ่มใจกล้าคับฟ้าคนหนึ่ง กลับพุ่งไปท้าทายอำนาจตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูง นี่เกรงว่ามีแต่คนบ้าเท่านั้นถึงจะทำเรื่องเช่นนี้ได้
อีกทั้งสิ่งที่ทำให้แต่ละขุมอำนาจหมดคำพูดและตระหนกที่สุดคือ ผู้ที่หลินสวินท้าทายไม่ใช่แค่ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงตระกูลเดียว!
“นี่ไม่ใช่ว่าหาเหาใส่หัวรึ”
“ครานี้เจ้ากล้าหลินต้องล้มหัวกระแทกเลือดอาบแน่ ถึงขั้นจะทำให้พวกเขาตระกูลหลินสิ้นชื่อไม่เหลือซาก! ทันทีที่ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงแสดงอานุภาพ ใช่สิ่งที่พวกเขาตระกูลหลินสามารถแบกรับไหวหรือ”
“น่าเสียดาย เจ้ากล้าหลินนี่หากสามารถแก้ไขนิสัย ‘ป่าเถื่อนขวางโลก’ นั่นของเขาได้ อาศัยตำแหน่งเด็กหนุ่มปฐมาจารย์สลักวิญญาณของเขา หลังจากนี้ต้องประสบความสำเร็จเป็นที่จับตามองทั่วหล้าแน่ แต่ว่าเสียดาย ครั้งนี้เขาคงประสบภัยเพราะความใจกล้าของตัวเองซะแล้ว”
เสียงที่ไม่เห็นด้วยกับหลินสวินถาโถมขึ้นในนครต้องห้ามอย่างลับๆ
และสายตาทั้งของเมืองต่างกำลังรวมอยู่ที่ ‘หอสมบัติตะวันมงคล’ ทั้งสิ้น ติดตามทุกการเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นที่นี่อย่างเหนียวแน่น
พวกเขาต่างรู้ดีว่าที่แห่งนี้ใกล้จะเกิดมรสุมแล้ว ไม่ว่าใครแพ้ใครชนะ ล้วนสะเทือนทั้งนครต้องห้าม กระทั่งสะเทือนทั้งจักรวรรดิ
“มาแล้ว!”
“โอ้ เจ้ากล้าหลินมาด้วยตัวเองเลย! นี่เขากะทุ่มสุดตัวรึ”
“คราวนี้มีเรื่องสนุกให้ดูแล้ว!”
สายตานับไม่ถ้วนในเวลานี้ ต่างแอบมองไปยังสุดถนนอันเปลี่ยวดายอ้างว้างนั่น
…
“ดูท่าที่นี่คงไม่อ้างว้างอย่างที่เห็นภายนอกนะ”
ทันทีที่เหยียบเข้าถนนสายนี้ พลังจิตวิญญาณไพศาลของหลินสวินก็สัมผัสได้ว่า ในมุมลับตามากมายซุ่มซ่อมด้วยสายสืบเต็มไปหมด
“ไม่ต้องสนใจ ก็แค่พวกหนูตัวเล็กๆ ที่แต่ละขุมอำนาจส่งมาเท่านั้น” จ้าวไท่ไหลไม่ใส่ใจ
“ทำไมข้ารู้สึกเหมือนพายุฝนกำลังมา…” หลินไหวหย่วนประหลาดใจสงสัยอยู่บ้าง เขารับรู้ถึงบรรยากาศกดดันบีบอัดที่บอกไม่ถูกสายหนึ่ง
หลินสวินยิ้มรับไม่ออกความเห็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์