Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 680

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 680 ผู้ก่อกวน
ตอนที่ 680 ผู้ก่อกวน
โดย
ProjectZyphon
นี่คือบุคคลชั้นยอดระดับกระบวนแปรจุติผู้หนึ่ง!

หลินสวินคาดเดาในใจ เขาเคยสังหารมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติหกคนอย่างพวกฉินเสวียนตู้ จั่วเป่าอิ๋งมาก่อน ค่อนข้างเข้าใจพลังของระดับนี้อยู่ก่อนแล้ว

ดังนั้นในการโจมตีเมื่อครู่ หลินสวินจึงรับรู้ว่าผู้อาวุโสผมเทาชุดม่วงคนนั้นไม่ธรรมดา เป็นยอดคนในระดับกระบวนแปรจุติผู้หนึ่ง

นี่กลับไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ที่ชวนประหวั่นคือพลังบนตัวผู้อาวุโสผมเทาชุดม่วงพร้อมพรั่งและสมบูรณ์ หาใช่คนที่พวกฉินเสวียนตู้สามารถเทียบเทียมได้

นี่ก็คือผลกระทบที่เกิดจาก ‘มรรคบกพร่อง’

พวกฉินเสวียนตู้บรรลุระดับกระบวนแปรจุติในโลกชั้นล่าง อยู่ในจักรวรรดิจื่อเย่าสามารถเหยียดหยันหยิ่งทระนง ทว่าในสายตาของบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง มรรคาของพวกเขาเห็นชัดว่าบกพร่องอยู่ก่อนแล้ว เทียบกับผู้ฝึกปราณระดับกระบวนแปรจุติซึ่งมีมรรคาสมบูรณ์อย่างแท้จริง เห็นชัดว่าด้อยกว่าอยู่บ้าง

ก่อนหน้านี้หลินสวินยังไม่เข้าใจจุดนี้ แต่เพราะผ่านประสบการณ์นานัปการที่ส่วนลึกทะเลกลืนวิญญาณ ทำให้เขาซ่อมเสริมมหามรรคแห่งตนและก้าวเข้าสู่มกุฎมรรคา ถึงได้ตระหนักได้อย่างลึกซึ้ง ว่าภายใต้สถานการณ์ที่มหามรรคบกพร่อง สามารถสร้างผลกระทบต่อผู้ฝึกปราณได้มากเพียงใด

ไม่แปลกที่บรรดาชนรุ่นเยาว์ที่ขอเพียงเป็นผู้กล้าซึ่งต้องการแสวงหามรรคา ล้วนต้องจากไป มุ่งหน้าไปฝึกปราณยังดินแดนรกร้างโบราณ

ที่พวกเขาแสวงหาคือหนทางอันสมบูรณ์ซึ่งต่างจากโลกชั้นล่าง!

จุดนี้คือสิ่งสำคัญอย่างไม่ต้องสงสัย

และเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้อาวุโสผมเทาชุดม่วงทรงพลัง ไม่ใช่เพียงระดับขอบเขตที่พวกฉินเสวียนตู้อยู่

ตูม!

หลินสวินไม่ทันคิดมากความ ผู้อาวุโสผมเทาชุดม่วงก็เปิดฉากการโจมตีครั้งที่สองอย่างทรงพลานุภาพยิ่งกว่าเดิม

“ข้ากลับอยากลองดูว่าเจ้าสามารถบีบขีดจำกัดพลังของข้าออกมาได้หรือไม่!”

หลินสวินสูดหายใจลึก ความเร้นลับแห่งวิชาอริยะยุทธ์โคจรและแผ่ออกมาจากในใจ ทำให้พริบตานั้นจิตต่อสู้ของเขาประหนึ่งลุกโหม

ตั้งแต่จากทะเลกลืนวิญญาณและหวนคืนนครต้องห้ามจนถึงตอนนี้ หลินสวินยังไม่เคยพบเจอคู่ต่อสู้ที่พอจะประลองสักคน ตอนนี้ผู้อาวุโสชุดคลุมม่วงปรากฏตัว ทำให้เขาไม่เพียงไม่หวาดกลัว กลับยิ่งเฝ้ารออยู่บ้าง

เพียงแต่ไม่รอให้ทั้งสองต่อสู้อีกครา เงาร่างหนึ่งพลันมาถึงกลางลาน ขวางหน้าผู้อาวุโสชุดคลุมม่วงนั่น

“เสวียนสิง พวกเรามาเป็นแขก หาใช่มาต่อยตีสังหารไม่ เจ้าถอยไปเสียเถอะ”

นี่คือชายหนุ่มที่ดูเยาว์วัยยิ่งผู้หนึ่ง สวมชุดคลุมยาวเขียวเข้ม นัยน์ตาสะอาดบริสุทธิ์ดุจเด็กทารก หางตากลับเกิดรอยตีนกาเล็กน้อย เพิ่มกลิ่นอายเปี่ยมประสบการณ์ให้เขาส่วนหนึ่ง

ชายหนุ่มสองมือไพล่หลังท่าทางนิ่งสงบสบายๆ แต่กลับมีความเกรงขามยิ่งใหญ่ประการหนึ่ง ทำให้ผู้คนมีความรู้สึกว่าตัวเล็กจ้อยเงยมองภูเขาสูง

ไม่ว่าใครล้วนไม่สังเกตเห็นว่าเขาปรากฏตัวอย่างไร แต่พริบตาที่ปรากฏกายก็กลายเป็นศูนย์รวมสายตาของทุกคน!

รวมถึงหลินสวินที่ยามนี้นัยน์ตาพลันหดรัดตัว จิตใจเกิดแรงกดดันอย่างหนักหน่วง ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือราชันระดับสังสารวัฏผู้หนึ่ง!

ทั่วทั้งลานเงียบสนิทไร้เสียง มีเพียงชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงนั้น เอวตั้งหลังตรงดั่งยอดคีรี ประหนึ่งสามารถค้ำฟ้าดิน สูงใหญ่และไม่อาจสั่นคลอน

ผู้อาวุโสชุดคลุมม่วงที่ถูกเรียกว่า ‘เสวียนสิง’ เวลานี้สีหน้าแปรเปลี่ยน อยากจะพูดแต่ก็หยุดปากไว้หลายครา ในที่สุดจึงเงียบแล้วถอยไปอีกฝั่ง

เหตุการณ์นี้ขับเน้นให้ที่มาของชายหนุ่มคนนั้นไม่ธรรมดายิ่งกว่าเดิม

เขาก็คือผู้อาวุโสเยวี่ยซิวแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับสังสารวัฏผู้หนึ่งที่กิตติศัพท์โด่งดังแม้แต่ในดินแดนรกร้างโบราณ!

“พาพวกเขาออกไปจากที่นี่ก่อน” เยวี่ยซิวกล่าวกำชับลอยๆ

เสวียนสิงลังเลอยู่บ้าง ในใจเขายังคงขุ่นข้องและกรุ่นโกรธ กล่าวว่า “ผู้อาวุโส เมื่อครู่…”

“ทุกอย่างเมื่อครู่ข้าล้วนเห็นหมดแล้ว ฝีมือสู้เขาไม่ได้ยังยั่วยุ ได้รับบทเรียนบ้างก็ไม่เห็นเป็นไร หรือผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ของเราแพ้ไม่เป็น?”

น้ำเสียงเยวี่ยซิวราบเรียบ แต่กลับทำให้เสวียนสิงหน้าเปลี่ยนสี สัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันน่าหวาดกลัว เขาไม่กล้าลังเลอีก พาพวกหนานกงหั่วรีบเร่งจากไป

ฮู่ว…

อาจารย์และศิษย์ทั้งหมดตรงนั้นเห็นดังนี้จึงแอบเป่าปากโล่งอก สายตาที่มองไปยังเยวี่ยซิวยิ่งเพิ่มความนับถือชื่นชมเสี้ยวหนึ่ง

ความสง่างามและห้าวหาญเช่นนี้ อาจเป็นบุคลิกแท้จริงที่แดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์พึงมีกระมัง

“หลินสวิน ข้าเคยได้ยินเรื่องของเจ้ามา แม้แต่เจ้าสำนักของพวกเจ้าก็ยังชื่นชมเจ้า”

เยวี่ยซิวอมยิ้มพลางมองมายังหลินสวิน “แต่เมื่อเห็นภาพต่างๆ เมื่อครู่ทำให้ข้ายิ่งมั่นใจ เจ้าไม่ธรรมดาดังที่เล่าลือจริงๆ เป็นอย่างไร สนใจไปฝึกปราณที่แดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์หรือไม่”

ทั่วทั้งลานแตกตื่นทันใด แต่ละคนทั้งตื่นตะลึงทั้งฮึกเหิม

ใครเล่าจะคาดคิด หลินสวินเพิ่งจะถล่มพวกผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ไปยกหนึ่ง แต่บัดนี้บุคคลเบื้องสูงของแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ถึงกับไม่ใส่ใจสิ่งเหล่านี้ กลับเชื้อเชิญหลินสวินไปฝึกปราณยังแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ด้วยตนเอง

ช่างเหนือความคาดหมายเกินไปแล้ว!

แม้แต่หลินสวินยังอึ้งงันไปเล็กน้อย

“เจ้าวางใจได้ เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้จะไม่กระทบต่อการบำเพ็ญเพียรในแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ของเจ้าเด็ดขาด อีกทั้งด้วยศักยภาพและพลังแฝงที่เจ้ามี ข้าเชื่อว่ามีเพียงการฝึกปราณในแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์เท่านั้น พวกมันจึงจะไม่ถูกฝังกลบไป”

แววชื่นชมบนสีหน้าเยวี่ยซิวไม่มีปิดบังแม้แต่น้อย จริงใจเป็นอย่างยิ่ง

แม้รูปลักษณ์เขาดูเยาว์วัย แต่ตัวเขาเป็นถึงสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับสังสารวัฏ ถึงกับชักชวนชนรุ่นหลังคนหนึ่งด้วยตนเองเช่นนี้ ช่างทำให้ผู้คนเกินคาดหมายจริงๆ

ศิษย์อาจารย์ทั้งหมดตรงนั้นต่างตื่นเต้นยิ่ง แต่ก็รู้สึกทอดถอนใจด้วย บางทีอาจมีเพียงคนเช่นอาจารย์เสี่ยวหลิน จึงจะสามารถทำให้ราชันระดับสังสารวัฏผู้หนึ่งต้อนรับเช่นนี้ได้

หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่น เมื่อพบการเชื้อเชิญเช่นนี้ เกรงว่าคงตอบรับอย่างไม่ต้องคิดนานแล้ว

ถึงอย่างไรนี่ก็คือศุภโชคที่ยากจะได้มา หากสามารถจากโลกชั้นล่างเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์เพื่อบำเพ็ญเพียร ก็แทบไม่ต่างอะไรกับก้าวเดียวทะยานฟ้า!

แต่หลินสวินกลับกำลังใคร่ครวญ

หาใช่ว่าเขาไม่ไหวหวั่น ในแผนการของเขา เดิมคิดว่าหลังตระเตรียมเรื่องราวทุกอย่างก็จะมุ่งหน้าไปฝึกปราณยังดินแดนรกร้างโบราณ

ที่เขาลังเล เป็นเพราะตอนนี้มีเรื่องราวมากมายยังไม่ได้จัดการ จึงไม่อาจตกปากรับคำได้ชั่วขณะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์