Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 758

ตอนที่ 758 หนทางเบื้องหน้าราวห้วงสมุทร อนาคตไพศาลกว้างไกล
ส่วนลึกของทะเลกลืนวิญญาณ ลึกลับและอันตราย มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์อันเป็นหนึ่งในจตุโบราณสถานบรรพกาล และมีสุสานสมุทรฝังมรรคที่แปลกประหลาดและไม่เป็นมงคล

หลินสวินเคยท่องแดนลับอสูรมารอริยะในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เคยเห็นวานรเฒ่าที่จำศีลอยู่ในเกาะอริยะปัญจธาตุ นี่เป็นถึงอริยะที่แท้จริงผู้หนึ่งเชียว

และเคยเข้าไปใน ‘ดินแดนแห่งดวงกมลในแท่นบูชา’ ได้รับมรรคคาถาเร้นลับเกินคาดเดาบทหนึ่ง และได้รับวิชาอริยมรรคที่แท้จริงเล่มหนึ่ง… วิชาอริยะยุทธ์!

เช่นเดียวกัน หลินสวินก็เคยเจอเรื่องอัปมงคลและแปลกประหลาดมากมายในสุสานสมุทรฝังมรรค อย่างเช่นศพเทพบรรพกาลที่ลอยอยู่กลางทะเลยาวหลายพันจั้ง ใหญ่เท่าผืนดิน

และเคยเห็นภิกษุตาบอดที่กลิ่นอายน่าสะพรึงไร้ที่เปรียบ รวมทั้งเงาร่างอันพร่าเบลอและผู้หญิงที่อยู่ภายใต้หมอกสีเทา

หากการคาดเดาของหลินสวินไม่ผิด ทั้งสองน่าจะเป็นบุคคลน่าหวาดหวั่นที่ก้าวสู่ระดับอริยเทพแล้วอย่างแน่นอน

ถึงขั้นที่หลินสวินยังนึกถึงอาหูเด็กสาวชุดเหลืองผู้ลึกลับ ตอนที่กลับจากทะเลกลืนวิญญาณ เขาถูกกลุ่มราชันตามฆ่า เป็นเพราะได้รับการช่วยเหลือจากอาหูจึงพ้นเคราะห์ครั้งนั้นมาได้!

ยามนี้คิดดูแล้ว หลินสวินกลับพบว่า ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ แดนลับอสูรมารอริยะ หรือสุสานสมุทรฝังมรรค ความลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายในล้วนเหนือจินตนาการอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ตนเข้าใจและค้นพบเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น

และป่าต้นหม่อนในสมรภูมิกระหายเลือดยิ่งไม่ธรรมดา ภายในหมอกโลหิตฟุ้ง กว้างใหญ่ราวกับไม่มีที่สิ้นสุดนั้น สิ่งมีชีวิตระดับอริยเทพที่น่าหวาดหวั่นมากมายซ่อนตัวอยู่ภายใน ถึงขั้นที่มีตำหนักมรรคที่แสงอริยะทะลวงฟ้า ทำให้อริยมรรคต่างไม่ลังเลที่จะต่อสู้เพื่อช่วงชิง!

“จริงดังว่า โลกชั้นล่างนี้มีดินแดนที่เหลือเชื่อมากมาย ไม่ได้แห้งแล้งอย่างที่คนในดินแดนรกร้างโบราณกล่าว”

หลินสวินเงียบไปนานค่อยกล่าวทอดถอนใจ

เพราะเคยเห็น เขาจึงยิ่งแน่ใจในความลึกลับและไม่ธรรมดาของโลกชั้นล่าง!

และตามที่จักรพรรดิบอก ความลับอันยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในโลกชั้นล่างนี้ มีเพียงตอนที่หลินสวินก้าวสู่ขอบเขตระดับมกุฎราชันแล้ว จึงจะมีโอกาสไปทำความเข้าใจและค้นหา นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งเกินไปแล้ว

“ราชครูบนหอดูดาวหลวง เจ้าสำนักของสำนักศึกษามฤคมรกต เฒ่าโดดเดี่ยวในเรือนโอบดารานิทราบุหลัน รวมทั้งเจียวที่ซ่อนตัวอยู่ในทะเลตะวันออกของจักรวรรดิตัวนั้น… หากโลกชั้นล่างแห้งแล้งอย่างที่เล่าลือ พวกเขาจะยอมจำศีลอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”

แววตาจักรพรรดิลุ่มลึก มาถึงระดับเช่นเขา ย่อมมองความลึกลับมากมายบนโลกนี้ออกแล้ว ก็เพราะยืนอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองได้ไกล

“ยังมีราชันเถื่อนมากมายที่อยู่ในเผ่าพ่อมดเถื่อนเก้าสาย ขุมอำนาจสิ่งมีชีวิตบรรพกาลที่ยึดครองส่วนลึกของทะเลกลืนวิญญาณ… พวกเขาก็ล้วนรอคอยมหวาสนาที่ซ่อนอยู่ในโลกชั้นล่างมิใช่หรือ”

พูดถึงตรงนี้จักรพรรดิพลันส่ายหน้ากล่าว “ความเร้นลับเหล่านี้ยังห่างไกลเกินไปสำหรับเจ้าในตอนนี้ เจ้าจำไว้เพียงว่า ถ้าอยากผงาดขึ้นในมหาสงคราม ก้าวสู่มรรคามกุฎราชันในตำนาน ดินแดนรกร้างโบราณคือสถานที่เดียวที่สามารถมอบโอกาสเช่นนี้ให้เจ้าได้”

“และพอถึงตอนที่เจ้าก้าวสู่มกุฎราชัน โลกชั้นล่างนี้ก็สามารถให้โอกาสเจ้าในการก้าวไปอีกขั้นบนเส้นทางมหามรรค!”

ความหมายเรียบง่ายมาก นั่นคือถ้าอยากกลายเป็นมกุฎราชัน ก็ต้องไปดินแดนรกร้างโบราณ และหลังจากกลายเป็นมกุฎราชันแล้ว หากต้องการก้าวขึ้นไปอีกขั้น ก็ต้องหวนกลับมายังโลกชั้นล่าง!

หลินสวินเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว

จักรพรรดิกำลังชี้ทางให้ตน!

“องค์ชายเก้าถูกกู้ตงถิงแห่งสำนักกระบี่เทียมฟ้าพาตัวไปแล้ว ต่อไปหากพวกเจ้าได้พบกัน ถ้าเป็นไปได้อยากให้เจ้าไว้ชีวิตเขา” จู่ๆ จักรพรรดิก็พูดขึ้น ท่าทางดูลังเลเล็กน้อย

เขาในตอนนี้ความเย่อหยิ่งน่าเกรงขามถดถอยลงไปหลายส่วน และมีความรู้สึกสับสนของผู้อาวุโสในตระกูลเพิ่มเข้ามา

ไม่ว่าอย่างไรองค์ชายเก้าจ้าวจิ่งเจินก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา แต่ระหว่างหลินสวินและสำนักกระบี่เทียมฟ้ามีความแค้นใหญ่หลวงต่อกัน จักรพรรดิรู้ดีว่าถ้าหลินสวินเจอลูกชายไม่เอาไหนคนนี้ของตน จะต้องเกิดความขัดแย้งอย่างแน่นอน

“ได้”

หลินสวินเงียบไปครู่จึงรับปาก “แต่ถ้าเขาดึงดันจะเป็นศัตรูกับข้า…”

“เช่นนั้นก็ฆ่าซะ!” จักรพรรดิพูดออกมาทีละคำ สีหน้าเรียบเฉย

“เจ้าไปดินแดนรกร้างโบราณคราวนี้ หากพบเรื่องเดือดร้อนใดสามารถไปหาจิ่งเซวียนได้ นางโตที่นั่น อีกทั้งข้างกายยังมีบุคคลชั้นยอดคอยดูแล เชื่อว่านางจะยินดีที่ไปหานางมาก”

ตอนที่จักรพรรดิพูดเช่นนี้ แววตากลับแฝงแววประหลาดเสี้ยวหนึ่ง มองจนหลินสวินอึดอัดไปทั้งตัว นี่กำลังเสี้ยมตนให้ไปปฏิสัมพันธ์กับจ้าวจิ่งเซวียนให้มากขึ้นงั้นหรือ

นี่ก็…

หลินสวินพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ

วู้ม!

จักรพรรดิไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น พลันสะบัดแขนเสื้อ แท่นบูชาห้าสีที่อยู่ตรงหน้าก็เกิดเสียงคำรามราวกับตื่นจากการหลับใหล แผ่แสงอริยะศักดิ์สิทธิ์หลากสีพุ่งทะลวงฟ้ากะทันหัน แปรเป็นทางเดินมายาที่งดงามเส้นหนึ่ง พาดขวางระหว่างฟ้าดิน

พริบตานี้สัตว์ประหลาดเฒ่ามากมายในนครต้องห้ามต่างตกใจ ส่งจิตรับรู้เข้ามาในส่วนลึกของพระราชวังโดยพร้อมเพรียง

ที่ตรงนั้นแสงรุ้งงดงามทะลวงฟ้า ราวกับความฝัน

“หลินสวินจะไปแล้ว!”

ทันใดนั้นสัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านี้ต่างตระหนักได้ ว่าช่องทางสู่ดินแดนรกร้างโบราณเปิดออกแล้ว

“กลับมาคราวหน้า หากสามารถต้องตาข้าได้ ข้าจะเลี้ยงเจ้ามื้อใหญ่!”

เรือนโอบดารานิทราบุหลัน ร่างอันผอมแห้งของเฒ่าโดดเดี่ยวยืดตรง นัยน์ตาขุ่นมัวเผยประกายประหลาด

“เส้นทางการเปลี่ยนชะตา ฝืนฟ้าตัดวิถี พิบัติเคราะห์กฎกรรม ตอนนั้นลู่ป๋อหยาแบกรับแทนเจ้า ตอนนี้ก็อยู่ที่เจ้าแล้ว…”

บนหอดูดาวหลวง ราชครูพิงราวกั้นทอดสายตามองไปไกล พึมพำเสียงเบา

“ศิษย์พี่ เขาไปแล้ว”

สำนักศึกษามฤคมรกต ภายในกระท่อมเชิงเขาภูผาบันไดสวรรค์ ชายชราที่เคยเห็นหลินสวินไต่ภูผาบันไดสวรรค์กับตาตื่นจากอาการเมาค้าง

“สำนักกระบี่เทียมฟ้า แดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ ความแค้นของลู่ป๋อหยา… ยังไม่ถึงดินแดนรกร้างโบราณ เขาก็เกิดความขัดแย้งกับที่นั่นมากมายแล้ว การเดินทางครั้งนี้ไม่เงียบเหงาแน่”

เจ้าสำนักยิ้มพูดเนิบๆ

“ในที่สุดดาวอสูรน้อยนี่ก็ไปแล้ว!”

“เจ้าตัวซวย ไปซะที!”

ในเวลาเดียวกัน ขุมอำนาจใหญ่อย่างตระกูลจั่ว ฉินและฉือ เหล่าคนใหญ่คนโตที่เกลียดหลินสวินเข้ากระดูกต่างโล่งอกอย่างสิ้นเชิง ราวกับยกภูเขาออกจากอก

ณ หอสรวลทรัพย์

ภายในเรือนหลังหนึ่ง จู่ๆ ก็มีเสียงเพลงอันฮึกเหิมทรงพลังดังขึ้น จังหวะดนตรียิ่งใหญ่เกรียงไกร

ทันใดนั้นแขกทั้งหอต่างหยุดการกระทำในมือโดยพร้อมเพรียง เผยท่าทางสดับตรับฟัง เพราะพวกเขาคุ้นเคยกับลำนำนี้เป็นอย่างดี

“ธาราธารโคจรคล่อง ไหลเวียนว่องมโหฬาร

มังกรซ่อนทะยานห้อ กรงเล็บล้อระบำหาญ

พยัคฆ์น้อยร้องคำราม ล้วนครั่นคร้ามร้อยชีวิน

อินทรีแรกโผผิน ธุลีดินละล่องลอย…”

เสียงเพลงที่ชัดเจนและไพเราะดังขึ้นพร้อมดนตรีที่ปลุกพลัง แต่ละคำแต่ละประโยคราวกับลมพายุสะเทือนไหว ทำให้จิตใจคนฮึกเหิม อารมณ์ราวกับถูกจุดให้ลุกโหมขึ้นมา

“อนาคตราวห้วงสมุทร ไพศาลดุจไร้เขตเอย…”

หอสรวลทรัพย์ทั้งหอ ผู้ฝึกปราณมากมายต่างอดไม่ได้ต้องยกตะเกียบของตนขึ้นมาเคาะถ้วยที่อยู่ตรงหน้า ร้องตามไปด้วย

เสียงอันฮึกเหิมห้าวหาญนั่น เมื่อรวมกันแล้วมีพลังที่สะเทือนใจคน สั่นไหวอยู่ท่ามกลางฟ้าดิน ทำให้ทุกคนเลือดร้อนพลุ่งพล่าน

นี่คือลำนำผู้กล้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์