Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 840

สรุปบท ตอนที่ 840 ตอบแทนคุณด้วยความแค้น: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 840 ตอบแทนคุณด้วยความแค้น จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 840 ตอบแทนคุณด้วยความแค้น คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 840 ตอบแทนคุณด้วยความแค้น
หลินสวินเงียบงัน

คำพูดของลิ่นไท่เจินตรงไปตรงมามากพอจริงๆ บอกเขาชัดเจนว่าอย่าได้มีความคิดทะเยอทะยานเลยเถิด ธิดาเทพแห่งเผ่าจิ้งจอกสวรรค์บรรพตเขียวของพวกเขาสูงส่งไม่อาจเอื้อม

เพียงแต่…

ในใจของหลินสวินกลับมีความโกรธกรุ่นที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้

แรกเริ่มเดิมที เหตุที่เขาตกปากรับคำลิ่นเหวินจวินว่าจะมาส่งและปกป้องซย่าเสี่ยวฉงตลอดทาง ก็ไม่เคยมีความคิดเป็นอื่นมาก่อน!

ทว่าตอนนี้ตนเพิ่งมาถึง ก็ถูกคนเอ่ยเตือนเช่นนี้ จะไม่ให้หลินสวินโกรธได้อย่างไร

นี่เห็นเขาหลินสวินเป็นตัวอะไรไปแล้ว

ทว่าท้ายที่สุดหลินสวินก็ยังข่มเอาไว้ อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็นผู้อาวุโสของซย่าเสี่ยวฉง ถึงจะบอกว่าไม่สุภาพต่อตนมาก ทว่าทั้งหมดก็ทำไปเพราะหวังดีต่อซย่าเสี่ยวฉง หลินสวินไม่อยากไปถือสาอะไรเช่นกัน

“วางใจเถิด ระหว่างข้ากับเสี่ยวฉงไม่ได้มีอะไรเลยแม้แต่น้อย”

สุดท้ายหลินสวินก็พูดเพียงแค่ประโยคเดียวเท่านั้น

ลิ่นไท่เจินร้องอ้อคราหนึ่งก่อนกล่าว “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าต้องการอะไรก็พูดมาตรงๆ เถิด คิดเสียว่าเป็นการตอบแทนและชดเชยจากเผ่าข้า”

ไม่ได้ขอบอกขอบใจ ไม่มีคำทักทายอบอุ่น มีเพียงกิริยาท่าทางแยกหน้าที่กับเรื่องส่วนตัวชัดแจ้งและเปี่ยมด้วยกลิ่นอายแห่งการตักเตือน

ทุกอย่างนี้ล้วนกำลังบอกหลินสวินว่าทางที่ดีอย่าได้มีเจตนาอื่นอีกเป็นดีที่สุด

หลินสวินมุ่นคิ้ว ในใจยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นเรื่อยๆ ตลอดการเดินทางนี้ เขาพานพบการไล่ล่าสังหารจากเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬอยู่บ่อยครั้ง เรียกได้ว่าฝ่าความเป็นความตาย ประสบความลำบากและเสี่ยงอันตรายมากมาย กว่าจะพาซย่าเสี่ยวฉงมาส่งถึงที่นี่โดยสวัสดิภาพได้

ทว่าสิ่งที่รออยู่ไม่ใช่ความซาบซึ้ง กลับเป็นการปฏิบัติเช่นนี้ จะให้เขารู้สึกดีด้วยได้อย่างไร

ดังนั้นหลินสวินจึงเอ่ยตรงๆ ว่า “การตอบแทนและชดเชยคงไม่จำเป็นแล้ว ประเดี๋ยวข้าก็จะจากไปแล้ว”

ในใจของเขารู้สึกผิดหวังและกรุ่นโกรธ คร้านจะซักถามเรื่องการเดินทางไปแดนชัยบูรพาแล้ว เขาไม่เชื่อว่าหากปราศจากความช่วยเหลือจากเผ่าจิ้งจอกสวรรค์บรรพตเขียวแล้ว จะไร้หนทางมุ่งสู่แดนชัยบูรพา!

ใครเลยจะคิด การที่เขาตอบเช่นนี้กลับทำให้ลิ่นไท่เจินปั้นหน้าขรึม มุ่นคิ้วกล่าว “พ่อหนุ่ม เจ้ายังไม่ถอดใจหรือ มีบุญคุณเผ่าข้าย่อมตอบแทน คงไม่อาจติดหนี้บุญคุณแล้วไม่ใช้คืนได้เป็นอันขาด”

เห็นได้ชัดว่านางทึกทักเอาเองว่าหลินสวินกำลังใช้การถอยเพื่อรุก ซ้ำยังข่มขู่ตนอยู่ เพราะฉะนั้นน้ำคำของนางจึงเปลี่ยนเป็นไม่เกรงใจ หว่างคิ้วเจือแววเย็นชา

นางไม่สามารถทำใจ ให้คนนอกเผ่าคนใดมาพัวพันกับธิดาเทพแห่งเผ่าจิ้งจอกสวรรค์บรรพตเขียวของพวกตนได้!

หลินสวินยิ้มกล่าวว่า “หากข้าต้องการการตอบแทนจริงๆ เกรงว่าพวกท่านคงไม่สามารถชดเชยได้เพียงพอ ข้าว่าช่างมันเถิด”

เขาหาได้พูดถ้อยคำโกรธเคือง ตลอดทางเขาอารักขาซย่าเสี่ยวฉงมาส่ง สังหารผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬมาไม่รู้ตั้งเท่าไร

อีกอย่าง ก็เป็นเพราะเขาถึงทำให้หญิงสาวปริศนาปรากฏตัว กวาดล้างถิ่นอาศัยในแดนฐิติประจิมของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬราบเป็นหน้ากลางในคราวเดียว สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ ผู้แข็งแกร่งระดับราชันตายไปตั้งไม่รู้เท่าใด

นี่เท่ากับช่วยเผ่าจิ้งจอกสวรรค์บรรพตเขียวขจัดมหันตภัยซึ่งซุกซ่อนอยู่อย่างไร้ร่องรอยทีเดียว!

บุญคุณระดับนี้ หากทวงค่าตอบแทนจริงๆ จะตอบแทบได้ง่ายๆ หรือ

เพียงแต่สีหน้าของลิ่นไท่เจินยิ่งอึมครึมมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าหลินสวินกำลังมองข้ามความหวังดีของผู้อื่น นางก็คร้านจะพูดไร้สาระอีกต่อไป จึงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “เห็นว่าเจ้ามีปราณระดับกระบวนแปรจุติ จะมอบสมบัติลับระดับสวรรค์ให้แก่เจ้าแล้วกัน เมื่อเปรียบกับสมบัติมรรคราชันทั่วไปก็ไม่ได้ด้อยกว่ากัน คิดว่ามันคงเพียงพอจะชดเชยและตอบแทนเจ้าได้”

นี่คือทีท่าประหนึ่ง ‘ให้ทาน’ แก่ผู้ยากไร้ก็ไม่ปาน ซ้ำยังเจือกลิ่นอายห้ามปฏิเสธเอาไว้ ราวกับการกระทำนี้เป็นการยอมให้หลินสวินมากแล้ว

สิ่งนี้ทำให้หลินสวินเกือบควบคุมอารมณ์ในใจไม่อยู่ รังเกียจเดียดฉันท์ถึงขีดสุด

ในมือเขาไม่ได้มีเพียงสมบัติระดับพลิกฟ้าอย่างยานขนส่งอวกาศและดาบหักเท่านั้น ยังมีธนูวิญญาณไร้แก่นสาร ศรแห่งนภาคราม เจดีย์ไร้อักษร กระทั่งในเจดีย์สมบัติยังสะกดสมบัติล้ำค่าเอาไว้อีกไม่น้อย ไหนเลยจะสนใจสมบัติลับระดับสวรรค์แค่ชิ้นเดียว

เพียงแต่เหลือบมองซย่าเสี่ยวฉงที่กำลังพูดคุยอย่างสนุกสนานไกลออกไป สุดท้ายในใจหลินสวินก็อึดอัดเล็กน้อย ลอบทอดถอนใจเฮือกหนึ่งในทันที กล่าวว่า “ในเมื่อเป็นดังนี้ เช่นนั้นก็ขอบคุณมาก”

ทันใดนั้นลิ่นไท่เจินก็คลี่รอยยิ้มแห่งชัยชนะบางๆ เสี้ยวหนึ่ง สีหน้าท่าทางยิ่งดูหยิ่งผยองมากขึ้น ล้วงกล่องหยกใบหนึ่งออกมาแล้วยื่นให้หลินสวิน “รับสมบัตินี้แล้ว เจ้ากับเผ่าข้าต่างก็ไม่ได้ติดหนี้กัน หวังว่าเจ้าจะรักษาตัวเอง”

หลินสวินคร้านจะอิดออด รับกล่องหยกเอาไว้แล้วโยนมันเข้าไปในแหวนเก็บของโดยไม่ได้มองเลยสักนิด

จากนั้นเขาหมุนกายมาหยุดอยู่ข้างๆ ซย่าเสี่ยวฉง ไม่ได้สนใจสายตามุ่งร้ายอยากสังหารคนของลิ่นไท่เจินโดยสิ้นเชิง กล่าวว่า “เสี่ยวฉง ข้าจะจากไปก่อนแล้ว”

ซย่าเสี่ยวฉงตกใจ ดีดตัวดังผึง “พี่หลินสวิน ข้าก็จะไปพร้อมกับท่านด้วย!”

ลิ่นไท่เจินเห็นดังนี้ บนใบหน้าฉายแววมืดทะมึนทันที รู้สึกโมโหอยู่ในใจ เจ้าเด็กนี่ยังมีหน้าบอกว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเสี่ยวฉง!?

“ข้ามีเรื่องด่วนต้องไปทำ หลังจากนี้ถ้ามีเวลาว่างข้าจะมาหาเจ้า” หลินสวินลูบหัวเด็กสาวเบาๆ ร่วมทางกันมาตลอด ในใจของเขาค่อนข้างทำใจไม่ได้เช่นกัน

ท้ายที่สุดเขาก็ยังตัดใจ หมุนกายแล้วจากไป

“พี่หลินสวิน!”

ซย่าเสี่ยวฉงหมายจะตามไป แต่กลับถูกลิ่นไท่เจินขวางเอาไว้ สิ่งนี้ทำให้นางค่อนข้างหัวเสียและโกรธเคือง ร้องตะโกนไม่หยุด เห็นหลินสวินเดินไกลออกไปเรื่อยๆ หยาดน้ำตาก็ร่วงเผาะลงมาอาบดวงหน้าเรียวเล็กอันบริสุทธิ์ของนางอย่างห้ามไม่อยู่

ลิ่นไท่เจินเห็นดังนี้ ความอึมครึมที่หว่างคิ้วก็ยิ่งทบทวีขึ้นเรื่อยๆ

นางมีชีวิตมาจนป่านนี้ ไหนเลยจะมองไม่ออกว่าเด็กน้อยคนนี้บังเกิดความพึ่งพาอาศัยอันใหญ่หลวงต่อเด็กหนุ่มคนนั้น เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าอาจจะเกิดความหวั่นไหวตั้งนานแล้ว!

“เสี่ยวฉง เจ้าเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทาง ไปพักผ่อนให้เต็มที่เสียหน่อยดีกว่า”

ลิ่นไท่เจินกล่าวพลางใช้วิชาลับสะกดจิตซย่าเสี่ยวฉง ทำให้นางผล็อยหลับไป

จากนั้น นางทอดมองไปยังทิศทางที่หลินสวินจากไป หว่างคิ้วผุดแววเย็นชาแวบผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง

……

ระหว่างทางหลินสวินรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย ยากจะระบายออกมา เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าหลังจากมาถึงเขาบรรพตเขียวแล้วจะเจอเรื่องน่ารังเกียจเช่นนี้

ลิ่นไท่เจินจรดนิ้วปานกระบี่ ซัดลำแสงกระบี่สีม่วงคลุ้งนภา ลำแสงคมกริบเจิดจ้าพวยพุ่ง ปกคลุมทั่วเวิ้งฟ้า กลิ่นอายเข่นฆ่าน่าสะพรึงกลัวเป็นที่สุด

หลินสวินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งเฮือก ยังคงไม่ตอบโต้ โคจรก้าวย่างชือน้ำแข็งหลบเลี่ยงพลางกล่าว “นี่คือความเห็นของเผ่าจิ้งจอกสวรรค์บรรพตเขียวของท่าน หรือว่าเป็นการตัดสินใจของท่านคนเดียวกันแน่”

ฝนกระบี่คมกริบเฉือนห้วงอากาศเป็นรอยเหวอะหวะน่าสยดสยองนับไม่ถ้วน ชวนขนลุก เพียงแต่ยังคงไม่อาจทำร้ายถูกตัวหลินสวิน

สิ่งนี้ทำให้ลิ่นไท่เจินอดรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยไม่ได้ ไอสังหารที่หว่างคิ้วยิ่งทบทวีขึ้นเรื่อยๆ กล่าวว่า “ใกล้ตายอยู่รอมร่อ ยังถามมากความอะไรกัน ยอมรับความตายแต่โดยดี ข้าจะมอบความตายอย่างง่ายดายแก่เจ้า!”

ตูม!

เงาร่างของนางเหาะเหิน ฝ่ามือลากไล้ แสงเรืองรองสีม่วงสายแล้วสายเล่ากลายเป็นลำแสงกระบี่อันน่ากลัว รายล้อมด้วยพลังอสนีแน่นขนัด พุ่งไปปกคลุมหลินสวิน

การโจมตีนี้เรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัว หากเปลี่ยนเป็นหลินสวินคนก่อน คงไม่กล้าสัมผัสลำแสงคมกริบของนางเป็นแน่

“ยายแก่ คิดว่าข้ากลัวเจ้าจริงๆ หรือ”

หลินสวินกัดฟันกรอด แค้นจนไม่อาจข่มกลั้นเอาไว้อย่างสิ้นเชิง ยายแก่คนนี้ไม่เพียงตอบแทนคุณด้วยความแค้น ซ้ำยังหมายเข่นฆ่าจนสิ้นซากอีกด้วย เวลานี้ต่อให้ซย่าเสี่ยวฉงมาเอง เขาก็จะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว

ตูม!

ทันใดนั้นกลิ่นอายรอบกายของหลินสวินพลันเปลี่ยนไป โดดเด่นเหนือโลกีย์ มีอานุภาพกดข่มไร้เทียมทาน ราวกลืนกินเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน

เทียบกับเมื่อครู่ เขาเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน แสงเรืองรองพิสุทธิ์คละคลุ้งรอบกาย พลังเจตจำนงแห่งมรรคอิ่มเอิบกู่ก้อง เงามายาจักระเทพสายหนึ่งปรากฏที่หลังศีรษะ สาดแสงเจิดจรัสไร้ที่สิ้นสุด ส่องสว่างทั่วแดนดิน!

หืม?

ลิ่นไท่เจินหรี่ตาลงน้อยๆ ค่อนข้างประหลาดใจ เด็กหนุ่มระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่ง ถึงกับครอบครองกลิ่นอายแข็งกร้าวปานนี้ สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกเหนือความคาดหมายอย่างอดไม่อยู่

แต่จากนั้นนางก็แค่นเสียงเย็นชา ในฐานะราชันกึ่งระดับ นางไม่กลัวคนด้อยอาวุโสเกิดทีหลังแค่คนเดียวหรอก!

นางแหวกอากาศพุ่งปราดออกมา สองมือกางเป็นกรงเล็บ คมกระบี่สายฟ้าสีม่วงพร่างพรมลงมา ประดุจน้ำตกหลั่งริน

เพียงแต่ในพริบตานี้เอง หว่างคิ้วของหลินสวินพลันมีคมดาบสีขาวผ่องปานหิมะพุ่งปราดออกมา ประดุจภาพฝันฟุ้งเฟ้อ เปล่งแสงวิเศษผ่องอำไพ

ชิ้ง!

คมดาบโฉบพุ่งขึ้น พลังของมันดุจสายรุ้งวิเศษ ประหนึ่งเบื้องบนสามารถเฉือนเก้าชั้นฟ้า เบื้องล่างสามารถตัดใต้พิภพให้ขาดสะบั้น!

“อ๊าก…!”

ลิ่นไท่เจินส่งเสียงกรีดร้องออกมา แขนขวาถูกฟันขาดทันที ลอยคว้างกลางอากาศ ร่างซีกซ้ายของนางก็ถูกซัดเข้าอย่างจังเช่นกัน ฉีกแหวกเป็นปากแผลลึกเห็นกระดูก เกือบถูกกรีดอกคว้านท้อง แหงนหน้าขึ้นร่วงตกลงจากห้วงอากาศทั้งอย่างนั้น

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์