ตระกูลใหญ่ที่เก่าแก่และชื่อเสียงเลื่องลือ ในแดนฐิติประจิมสามารถเทียบหน้าเทียบตากับเหล่าสำนักโบราณได้
และจงหลีอู๋จี้ก็คือบุตรเทพแห่งยุคของตระกูลนี้ ชื่อเสียงโด่งดังในฐิติประจิมมานานแล้ว อานุภาพดุร้ายฉาวโฉ่ เป็นบุคคลเหี้ยมโหดไร้เทียมทานในบรรดาคนรุ่นเยาว์อย่างแน่นอน
ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ที่ชื่อเสียงของหลินสวินเพิ่งจะโด่งดังและสะเทือนแดนฐิติประจิม จงหลีอู๋จี้ก็เคยประกาศกร้าวต่อหน้าทุกคนแล้วว่าหากเทพมารหลินกล้าปรากฏตัวในเทศกาลโคมกถามรรค เขาจงหลีอู๋จี้จะเป็นคนแรกที่สังหารหลินสวิน!
วันนี้แม้จงหลีอู๋จี้ยังมาไม่ถึง แต่เหล่าคนในตระกูลของเขาก็ได้โดยสารคชสารมังกรหยกดำมา หมายจะแทรกแซงเรื่องนี้!
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้สะเทือนไปทั่วบริเวณ ผู้คนต่างหันมองไม่หยุด
แม้แต่บรรดาผู้กล้าในที่นั้นก็ขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ตระกูลจงหลีกลับกล้าแทรกแซง ทั้งยังแข็งกร้าวถึงเพียงนี้ จะให้ซาหลิวฉานยกโอกาสสังหารเทพมารหลินให้ตรงๆ!
ถูกคนขัดจังหวะเช่นนี้ ทีแรกในใจซาหลิวฉานก็ไม่พอใจไม่น้อย หลังจากได้ยินท่าทีอันแข็งกร้าวของตระกูลจงหลียิ่งทำให้สายตาของเขาวาบแววเย็นเยียบ ในใจเดือดดาลยิ่ง
แต่ไม่ทันที่เขาจะตอบสนอง ในที่นั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้ง!
แกว๊ก!
เสียงร้องใสสะเทือนเก้าสวรรค์แผ่กระจายไปทั่ว พลันเห็นบนฟากฟ้า ชายหญิงกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่บนหงส์เขียวตัวใหญ่ยักษ์เกรียงไกร ร้องคำรามเข้ามา
คนกลุ่มนี้แข็งกร้าวกว่าตระกูลจงหลี นั่งหงส์เขียวผ่านเหนือศีรษะของเหล่าผู้ฝึกปราณไปโดยตรง ก่อนจะลงมาเยือนในบริเวณนั้น
ผู้ฝึกปราณหลายคนไม่พอใจ คิดว่าการกระทำเช่นนี้แฝงความเย้ยหยัน แต่พอเห็นฐานะของผู้มาเยือนชัดแล้วสีหน้าต่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่กล้าพูดอะไรมาก
เผ่าหงส์เขียว!
นี่คือเผ่าใหญ่หนึ่งในห้าอันดับแรกของแดนฐิติประจิม เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในบรรดาสิ่งมีชีวิตวิญญาณต่างเผ่าพันธุ์ ไม่ด้อยกว่าตระกูลจงหลีเลยสักนิด!
“โชคดีที่ไม่ได้มาช้าเกินไป ถึงก่อนจงหลีอู๋จี้นั่นก้าวหนึ่ง”
เสียงไพเราะเสนาะหูราวกับกระดิ่งลมดังขึ้น พลันเห็นว่าบนหลังหงส์เขียวตัวนั้น หญิงสาวที่เป็นผู้นำซึ่งอยู่ในชุดสีเขียว ผมงามมวยม้วน ใบหน้างดงามไร้ที่ติเดินนำลงมาก่อน
นางงามมากจริงๆ ทั้งยังดูอ่อนเยาว์มาก เพียงแต่ท่าทางกลับดูเย็นชาและสันโดษเกินไป มีความรู้สึกเย่อหยิ่งที่ราวกับสลักอยู่ในขั้วกระดูก พาให้ไม่กล้าสบตา
ชิงเหลียนเอ๋อร์!
สีหน้าของผู้ฝึกปราณในที่นั้นเปลี่ยนไปอีกครั้ง นี่เป็นถึงธิดาเทพแห่งยุคของเผ่าหงส์เขียวเชียวนะ พรสวรรค์โดดเด่น ความสามารถน่าทึ่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ชื่อเสียงสะเทือนไปทั่วหล้าตั้งนานแล้ว
ผู้ฝึกปราณหลายคนในแดนฐิติประจิมต่างคิดว่า ชิงเหลียนเอ๋อร์ถึงขั้นมีพลังที่สามารถทัดเทียมจี้ซิงเหยา ผู้สืบทอดเรือนกระบี่เร้นปุจฉา!
ชิงเหลียนเอ๋อร์เองก็เป็นผู้กล้าไร้เทียมทานคนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย หากไม่พูดถึงความสามารถ เพียงแค่ชื่อเสียงก็เหนือกว่าซาหลิวฉานและจงหลีอู๋จี้ไประดับหนึ่ง
ทันทีที่ชิงเหลียนเอ๋อร์มาถึง สายตาอันเยียบเย็นก็หยุดอยู่ที่หลินสวิน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย มีความเย่อหยิ่งที่ไม่ปกปิดเลยสักนิด
คำพูดของนางเรียบช้าและผ่อนคลาย พูดนิ่งๆ ว่า “เจ้าก็คือหลินสวินที่ทุกคนยกให้เป็นเทพมารหรือ ดีมาก ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัวเสียที ตอนนั้นข้าเคยบอกว่า ข้าจะให้เจ้าคุกเข่าสำนึกผิดต่อหน้าทุกคน ยอมรับว่าตนไม่ได้เป็นอย่างที่เล่าลือ เจ้า… รู้หรือไม่”
คำพูดนี้ผู้ฝึกปราณในที่นั้นไม่มีใครไม่รู้ ช่วงก่อนหน้านี้ถึงขั้นเป็นที่ฮือฮาไปทั่วทั้งแดนฐิติประจิม
เพียงแต่คำพูดนี้แฝงความดูถูกและเย้ยหยันเทพมารหลินตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ตอนนี้ชิงเหลียนเอ๋อร์พูดกับเทพมารหลินต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ นี่ดูตรงไปตรงมาเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ปกปิดแววเย้ยหยันเลยสักนิด ทำให้กลุ่มผู้ฝึกปราณลอบตกใจ
จู่ๆ หลินสวินก็ยิ้ม ดวงตาพินิจชิงเหลียนเอ๋อร์หัวจรดเท้า ก่อนจะพูดเหมือนกำลังใคร่ครวญบางอย่างอยู่ “ที่แท้เจ้าก็คือชิงเหลียนเอ๋อร์คนนั้น ต่ำทรามตามคาด!”
ทุกคนเบิกตาโพลง อึ้งจนอ้าปากค้าง แทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง
เมื่อครู่นี้ชิงเหลียนเอ๋อร์ไม่เกรงใจเลยสักนิด ทันทีที่มาถึงก็สร้างความลำบากใจให้เทพมารหลิน แต่เห็นได้ชัดว่าเทพมารหลินก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้รังแกได้ง่ายๆ แข็งกร้าวยิ่งกว่านาง โต้กลับด้วยคำว่า ‘ต่ำทราม’ ตรงๆ!
แม้แต่เหล่าผู้กล้า มุมปากก็กระตุกอย่างยากจะสังเกตเห็นทีหนึ่ง ทอดสายตามองทั่วหล้า ใครบ้างจะกล้าด่าธิดาเทพคนปัจจุบันของเผ่าหงส์เขียวเช่นนี้
ไป๋หลิงซีอมยิ้ม นางเข้าใจหลินสวินดี ตอนอยู่ในจักรวรรดิจื่อเย่าก็กล้าบีบบังคับให้หลิงเทียนโหวคุกเข่า บนโลกนี้จะมีเรื่องอะไรที่เขาไม่กล้าทำกัน
เพียงแค่ด่าว่าต่ำทรามเท่านั้น นี่ถือว่าเบาแล้ว
แต่ตอนนี้ผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะกลับไม่คิดเช่นนี้ พวกเขาต่างมุ่นคิ้ว สีหน้าแฝงความรังเกียจ คิดว่าคำพูดของหลินสวินหยาบช้าและไม่เข้าท่า
เพียงแต่พวกเขากลับมองข้ามไปโดยปริยายว่าคำพูดที่ชิงเหลียนเอ๋อร์พูดเมื่อครู่นี้ ยิ่งแฝงความเย้ยหยันอย่างไม่ปกปิดเลยสักนิด!
ในดวงตาคู่ใสของชิงเหลียนเอ๋อร์สาดประกายน่าหวาดหวั่น ถูกด่าว่าต่ำทรามต่อหน้าทุกคน นี่ทำให้นางเองยังคาดไม่ถึง
นางเป็นถึงธิดาเทพคนปัจจุบันของเผ่าหงส์เขียว ฝึกปราณมาจนถึงวันนี้ ฐานะนางสูงส่งราวกับจันทราบนฟากฟ้า เป็นที่ชื่นชมของผู้คนนับไม่ถ้วน เรียกได้ว่าขอลมได้ลม ขอฝนได้ฝน เคยถูกปฏิบัติเช่นนี้ซะที่ไหน
“ดูเหมือนว่า แม้ตายเจ้าก็ไม่ยอมรับผิดสินะ!”
ไอสังหารพลุ่งพล่านขึ้นในใจชิงเหลียนเอ๋อร์ นางก้าวเข้ามาเบาๆ เงาร่างเพรียวยาวแผ่แสงศักดิ์สิทธิ์อันน่าหวั่นหวาด อานุภาพน่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
นางตัดสินใจแล้วว่าจะลงมือ สังหารหลินสวินเพื่อล้างความอับอาย!
“ช้าก่อน!”
แต่ในเวลานี้เอง คนตระกูลจงหลีที่นั่งคชสารมังกรหยกดำมาก็ตะเบ็งเสียง เข้ามาขัดขวาง
“เทพมารหลินคนนี้เป็นคนที่นายน้อยตระกูลข้าจะกำราบ ขอให้แม่นางถอยสักก้าว ยกเขาให้เป็นอย่างไร”
ชายหนุ่มที่ดูฉลาดเฉียบแหลมคนหนึ่งพูดขึ้น เขามีนามว่าจงหลีขุย นับว่าเป็นบุคคลชั้นยอดคนหนึ่งในตระกูลจงหลีเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์