พลังหมัดของหลินสวินเรืองแสง ปะทะเข้ากับค้อนยักษ์สายฟ้าที่ทะลวงอากาศเข้ามาอย่างจัง สายฟ้าสาดกระเซ็น ส่งเสียงคำรามอึกทึกเสียดหู
ในเวลาเดียวกัน เงาแส้สีสันสดใสแต่ละวงปกคลุมลงมา ฉีกทำลายห้วงอากาศ อานุภาพน่าตกใจ หมายจะกักร่างของหลินสวินไว้
หลินสวินไม่ถอยแต่ยังเดินหน้า ปากส่งเสียงออกไป ระลอกคลื่นสีทองแผ่กระจาย เขย่าเงาแส้เต็มท้องฟ้าจนแหลกสลาย แปรเป็นละอองแสงแตกซ่าน
ส่วนมือซ้ายของเขาใช้ประทับปี้อั้นออกมา มือขวาสำแดงความเร้นลับของเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ สู้กับราชันกึ่งระดับที่มาจากสองข้าง
โครม ตูมๆ
ห้วงอากาศพังทลายราวกับถูกระเบิด
หลินสวินคนเดียวเผยวิชามรรคเยี่ยมยอดที่แตกต่างกัน เผชิญหน้ากับการล้อมโจมตีของราชันกึ่งระดับสี่คนในเวลาเดียวกัน ผงาดผยองและแข็งแกร่งถึงขีดสุด
ที่น่ากลัวที่สุดคือ ในระหว่างนั้นวิญญาณแห่งพลังจิตของเขายังควบคุมดาบหัก โจมตีคู่ต่อสู้อยู่อีกที่ของสนามรบ
ในบรรดาคู่ต่อสู้เหล่านั้นก็มีราชันกึ่งระดับสองคนเช่นกัน!
พวกโค่วซิงอึ้งค้างไปแล้ว ตกใจจนพูดไม่ออก เดิมทีพวกเขายังคิดว่าจะช่วย แต่ไม่นานก็พบว่า ไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะแทรกแซงเลยด้วยซ้ำ
มีเพียงแม่นางเยวี่ยที่เรียกกระพรวนสีม่วงพวงหนึ่งออกมา สำแดงความลึกลับอันไม่มีที่สิ้นสุดของมรรคแห่งศาสตร์ดนตรี ดังกริ๊งๆ อยู่ในสนามรบ ช่วยดาบหักของหลินสวินสกัดกั้นการพุ่งสังหารของศัตรู
แม้จะเป็นเช่นนี้ในใจแม่นางเยวี่ยก็ยังสั่นสะเทือน นางสามารถคาดการณ์ได้ว่าหลินสวินแข็งแกร่งอย่างมาก แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้!
ทอดสายตามองไปในบรรดาคนรุ่นเยาว์ของทั้งดินแดนรกร้างโบราณ กลัวว่าคงหาคนที่ทำได้ขนาดนี้ได้ไม่กี่คน
ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นถึงราชครูผู้คุมอำนาจหกคนของลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์ แต่ละคนล้วนเป็นราชันกึ่งระดับ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติที่พุ่งเข้ามาโจมตี!
แต่หลินสวินกลับใช้พลังปราณระดับกระบวนแปรจุติพลิกสถานการณ์ในตอนนี้ ปะทะกลุ่มศัตรูอย่างจัง!
……
“ฆ่า!”
ทุกคนจากลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์สู้จนเดือดดาลแล้วจริงๆ ดวงตาแดงก่ำขึ้นมา พวกเขาระดมกำลังมา กลับถูกเด็กหนุ่มคนหนึ่งขวางไว้ นี่ขายหน้าเกินไปแล้ว
ในเวลาเดียวกันพลังต่อสู้ของหลินสวินก็ทำให้พวกเขาตกใจ ตระหนักได้ว่านี่คือปีศาจที่มีอานุภาพเย้ยฟ้า จะมองแบบทั่วๆ ไปไม่ได้เด็ดขาด
สิ่งที่ทำให้พวกเขาทนไม่ได้ที่สุดคือ สู้กันจนถึงตอนนี้พวกเขากลับไม่ได้เปรียบเลยสักนิด ถึงขั้นไม่สามารถกำราบคู่ต่อสู้ไว้ได้!
“เจ้าหนุ่ม เจ้าเป็นใครกันแน่” ชายชราที่เป็นหัวหน้าตะเบ็งเสียง เขารู้สึกหวั่นหวาด สงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นผู้สืบทอดชั้นยอดที่มาจากสำนักน่าพรั่นพรึงสำนักใดสำนักหนึ่ง
ราชันกึ่งระดับคนอื่นๆ เองก็โกรธจนหน้าเขียว ในใจตื่นตะลึง
พวกเขายังสงสัยว่า หากไม่ใช่เพราะพวกเขาร่วมมือกันโจมตี คงไม่สามารถสู้กับเด็กหนุ่มคนนี้ได้!
และในสายตาพวกเขา ในโลกปัจจุบันก็มีเพียงแค่เหล่าปีศาจไร้เทียมทานที่อยู่ในสำนักโบราณเท่านั้นจึงจะมีพลังต่อสู้พลิกฟ้าปานนี้ สามารถต่อสู้ข้ามระดับ วิปริตอย่างที่สุด
หลินสวินไม่พูด รอบตัวเขาพลังต่อสู้โคจร เงาร่างราวกับเทพมารโจมตี มีพลานุภาพกลืนกินโลก เข้าปะทะเต็มกำลัง
การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดมาก แรงกดดันยิ่งใหญ่ไม่ใช่ธรรมดา ทว่าในสถานการณ์ที่ล่อแหลมเช่นนี้ ทำให้ร่างกายของหลินสวินถูกกระตุ้นอย่างสิ้นเชิง ใช้การต่อสู้เคี่ยวกรำพลังยุทธ์ ทั้งร่างรู้สึกปลอดโปร่งสะใจที่ได้ปลดปล่อยถึงขีดสุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ตอนที่อยู่ในเทศกาลโคมกถามรรค เขาได้เคี่ยวกรำของตนสู่ขอบเขตมกุฎแล้ว สามารถกดดันกลุ่มผู้กล้า เข่นฆ่าอวี่หลิงคงอย่างแข็งกร้าว แม้เป็นการประชันในมกุฎมรรคา ก็มีอานุภาพที่เพียงพอจะโจมตีศัตรูให้พ่ายแพ้ยับเยิน
แต่นี่ไม่ได้หมายถึงความสมบูรณ์!
พลังปราณของเขายังไม่เคยไปถึงขั้นสมบูรณ์ในระดับกระบวนแปรจุติ
เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นวิชามรรคอันเยี่ยมยอดอย่างธารดาราหลอมเพลิง หรือหกกระบวนเฉือนวัฏจักรฟ้า เขาก็ไม่เคยเข้าใจแก่นพิสุทธิ์ของมันอน่างปรุโปร่ง
นอกจากนี้การควบคุมมหามรรคธาตุไฟของเขาก็อยู่ในระดับท่วงทำนองแห่งมรรคเท่านั้น ห่างจากระดับเจตจำนงแห่งมรรคอีกก้าวหนึ่ง…
เหล่านี้ไม่ใช่ข้อบกพร่อง แต่เป็นพลังแฝง มีเพียงการขุดออกมาอย่างหมดจด และบรรลุให้ถึงขั้นสมบูรณ์ จึงจะเรียกได้ว่าเป็นมกุฎสมบูรณ์ที่แท้จริง
บางทีในสายตาของคนอื่น เขาได้ยืนอยู่ในระดับที่สูงพอจะทำให้คนรุ่นเยาว์ทุกคนตะลึง แต่สำหรับหลินสวินเอง นี่ยังไม่พอเลยสักนิด
อย่างน้อยเมื่อเทียบกับอวิ๋นชิ่งไป๋ศัตรูของเขา ก็ยังไม่พอ!
‘วิถียุทธ์ไร้ขอบเขต!’
ในระหว่างการต่อสู้ ในใจหลินสวินเกิดความเข้าใจอย่างหนึ่ง
พลังปราณมีระดับจำกัด แต่วิชายุทธ์กลับไร้ขอบแดน!
อย่างเช่นตอนนี้ พลังปราณของเขาหยุดอยู่ที่ระดับกระบวนแปรจุติขั้นกลาง แต่กับการควบคุมและสำแดงวิชายุทธ์ สามารถค้นพบศักยภาพแฝงรูปแบบใหม่ได้ทุกครั้งไป
ศักยภาพแฝงเช่นนี้มาจากมรรคและวิชาที่ฝึก การหยั่งถึงปริศนาแห่งมหามรรค สามารถทำให้อานุภาพวิชายุทธ์เผยพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าได้
เช่นเดียวกัน การฝึกวิชาลับการต่อสู้ ก็สามารถทำให้อานุภาพวิชายุทธ์ได้รับการยกระดับในรูปแบบใหม่เช่นกัน!
พูดง่ายๆ ก็คือ พลังปราณเป็นต้นกำเนิดของพลัง ตัดสินความแข็งแกร่งและอ่อนแอของวิชายุทธ์
ส่วนวิชาลับที่ฝึกฝน รวมทั้งความเร้นลับแห่งมหามรรคที่หยั่งถึง สามารถทำให้วิชายุทธ์แสดงอานุภาพที่ยิ่งใหญ่กว่าได้!
อย่างเช่นหลินสวินในตอนนี้ พลังปราณอาจจะยังอยู่ในระดับกระบวนแปรจุติขั้นกลาง แต่ไม่ว่าจะเป็นวิชามรรคธารดาราหลอมเพลิงหรือหกกระบวนเฉือนวัฏจักรฟ้าที่เขาฝึก ขอเพียงแค่นัยเร้นลับนี้ถูกควบคุมอย่างสิ้นเชิง ย่อมสามารถทำให้พลังต่อสู้ของเขาเกิดการยกระดับอย่างชัดเจน
เช่นเดียวกัน การบรรลุและควบคุมมหามรรคธาตุไฟและมรรคดับดารากลืนกินไปได้อีกก้าว ก็สามารถทำให้พลังต่อสู้ในตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
นี่ก็คือความเชื่อมโยงระหว่างมหามรรค วิชาลับและวิถียุทธ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์