บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 475

ใช้ลี่หยุนซูเป็นโล่กำบัง จูนจิ่วรอดพ้นจากการจับกุมขององครักษ์ชุดปักสีเงินไปได้อย่างราบรื่นสามครา พวกเขาคงคิดไม่ถึง ว่าจูนจิ่วจะใช้สถานะของสาวใช้ในการปลอมตัว เดินผ่านหน้าพวกเขาไปอย่างสว่าผ่าเผย

ปลอดภัยราบรื่นตลอดทาง จูนจิ่วก็มาถึงที่พักของลี่หยุนซู เวลานี้ จูนจิ่วก้าวเท้าอย่างเลื่อนลอยบนหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กชั้นหนึ่ง นางกำหมัดไว้แน่นเพื่อรักษาสติรับรู้สุดท้ายของตนเอง นางเอ่ยขึ้นมาว่า “หาห้องรับแขกให้ข้าหนึ่งห้อง ไล่ทุกคนออกไปให้หมด ไม่ให้ใครเข้าใกล้ทั้งสิ้น รวมถึงเจ้าด้วย”

“ได้”

หยุดไปชั่วครู่ จูนจิ่วก็พูดอีกว่า “เจ้าเฝ้าอยู่ข้างนอก หากเห็นเหลิ่งยวน ให้เขารักษาการณ์เฝ้าระวัง ไม่ว่าจะได้ยินเสียงเคลื่อนไหวใดๆ พวกเจ้าก็ห้ามเข้ามาเด็ดขาด ”

ลี่หยุนซูถูกควบคุมเอาไว้ พยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย

จูนจิ่วเดินเข้าไปยังห้องรับแขกที่ลี่หยุนซูชี้ทางให้ เข้าไปแล้วปิดประตู จูนจิ่วขาอ่อนจนเซล้มลงไปบนพื้น หายใจเข้าลึกๆ จูนจิ่วเลิกแขนเสื้อขึ้นมองไปยังข้อมือ

ผิวที่ขาดดุจหิมะตอนนี้ถูกย้อมไปด้วยสีชมพู อุณหภูมิร้อนสูง ชีพจรก็เต้นเร็วมาก พิษกู่หลงรักเหมือนกับม้าป่าพยศ ควบคุมไม่อยู่แล้ว ที่ปะทุขึ้นพร้อมกันกับพิษกู่หลงรักยังมียาอีกหนึ่งชนิดที่ไม่อาจบรรยายได้ ตู๋กูชิงนั้นมีเป้าหมายจะเอาตัวนางให้อยู่หมัดในคราเดียว ฉะนั้นฤทธิ์ยาจึงแรงมาก

สามารถทำให้หญิงสาวเสียพรหมจรรย์ และกลายเป็นหญิงสำส่อนเสาะหาความสำราญอย่างไม่สิ้นสุดแน่นอน

สายตามีแววแห่งไอสังหารวาบผ่านไปอย่างรวดเร็ว พริบตาก็กลับคืนสู่ความสงบ จูนจิ่วนั่งอยู่กับพื้น นางดึงเอาเข็มเงินออกทีละเล่ม ควบคุมฤทธิ์ยาไว้ไม่อยู่ เช่นนั้นก็ไม่ต้องควบคุมแล้ว

“โม่อู๋เยว่”ช้าๆชัดๆทีละคำ จูนจิ่วร้องเรียกอย่างสงบ

เสียงกระดิ่งที่ข้อมือดังขึ้น ชั่วขณะที่เสียงที่รื่นหูของกระดิ่งดังขึ้นก็ปลอบโยนให้จิตใจที่ว้าวุ่นและปรารถนาของจูนจิ่วสงบลง ราวกับคนที่กำลังจมน้ำแล้วคว้าฟางเส้นหนึ่งเอาไว้ได้ จูนจิ่วร้องเรียกอีกครั้ง “โม่อู๋เยว่”

……

เหลิ่งยวนจับตัวเมี่ยวยู่เอ๋อได้ ง่ายดายราวกับจับลูกไก่แล้วก็หักคอนาง มองเมี่ยวยู่เอ๋ออย่างดูถูกเหยียดหยาม ขณะที่ตายใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อและตื่นตะลึง นางตายก็คงคิดไม่ถึง ว่าเหลิ่งยวนจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้

หงยิงบอกเพียงว่าให้ล่อเหลิ่งยวนออกไปก็พอ ไม่เคยคิดว่า นางต้องเสียสละชีวิตน้อยๆของตนเองเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ตอนนี้เมี่ยวยู่เอ๋อเสียใจก็คงไม่ทันการณ์แล้ว ไปบอกกับยมราชเถอะ

ฆ่าเมี่ยวยู่เอ๋อก็ใช้เวลาไปแค่หนึ่งก้านธูปเท่านั้น เหลิ่งยวนหมุนตัวจะรีบกลับไปอารักขาอยู่ข้างกายจูนจิ่ว แต่พอหันหน้าไปก็ต้องนิ่งอึ้ง “ที่นี่คือที่ไหน”

เวลาเดินไปเรื่อยๆ เหลิ่งยวนเดินวกไปวนมาก็เดินจากไปจากสวนป่านี้ไม่ได้ เขาเข้าใจขึ้นมาทันที นี่เขาถูกกักขังเอาไว้ในค่ายกลเสียแล้ว

การแก้ค่ายกลคือจุดอ่อนของเขา แต่จะทำอย่างไรดี เหลิ่งยวนร้อนใจดุจไฟเผาแต่ก็ไร้หนทาง เขาลองร้องเรียกจูนจิ่วก็ผ่านไปนานมากแล้วก็ไม่ได้ยินเสียงจูนจิ่วตอบรับ

ไม่สู้ตีค่ายกลให้แตก ทำลายมันซะ สะเทือนตำหนักไท่หวงแล้วอย่างไร ความปลอดภัยของแม่นางจูนต่างหากสำคัญที่สุด

เหลิ่งยวนประสานมือ ในแววตาของเขาปรากฏไฟสีเลือด ยกมือขึ้นข่วน กลางอากาศปรากฏรอยข่วนแหลมคมสามเส้นที่มีสีเลือด แควก

เสียงฉีกขาดของท้องฟ้ากับแผ่นดินดังขึ้น เขาสวนป่าทั้งลูกถูกสะเทือนจนทรุดไปครึ่งหนึ่ง ค่ายกลย่อมถูกทำลายลง เหลิ่งยวนรีบพุ่งตัวออกไป

เพิ่งจะออกไป เหลิ่งยวนก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของเจ้านายของตนเอง หัวใจของเขากระตุกไปทีหนึ่ง สีหน้าขาวซีดลงทันที ทำไมเจ้านายจึงกลับมาแล้ว หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่นางจูน จบเห่แน่

เหลิ่งยวนค้นหาที่มาของกลิ่นอาย หันศีรษะพุ่งตัวตามไปยังทิศที่กลิ่นอายของโม่อู๋เยว่ส่งผ่านมา ……

เขาไม่รู้ การกระทำอันน่าตื่นตะลึงของเขาที่ทำลายสวนป่าจนเป็นที่ดึงดูดสายตาของคนในตำหนักไท่หวง และด้วยเหตุนี้ ดึงดูดให้คนของตู๋กูชิง ให้พวกเขาออกห่างจากจุดที่ซ่อนของจูนจิ่วด้วย ต่างก็มุ่งตรงมาทางนี้

ตอนที่เหลิ่งยวนมาถึง เงยหน้าขึ้นก็มองเห็นลี่หยุนซูยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่หน้าประตูลานบ้าน พอเห็นเขา ลี่หยุนซูก็อ้าปากเอ่ยขึ้นว่า “น้องจูนบอกเอาไว้ว่า ให้เจ้าและข้าคอยเฝ้าปกป้องอยู่ข้างนอก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่ให้เข้าไปข้างใน ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ