บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 120

บทที่120หากอยากมีชีวิตอยู่เจ้าก็ต้องฆ่านาง

จูนจิ่วยกกริชเชือดคอนักฆ่ากลุ่มหมาป่าละโมบนางหมุนตัวและก้มลงเชือดเลือดหยดลงที่พื้นซ่าซ่านางหันหลังไปเห็นผู้นำกลุ่มหมาป่าละโมบคุกเข่าอยู่ตรงหน้านางก็หัวเราะขึ้นมา:“โผล่มาจากไหนกันล่ะนี่?”

“มาฝึกกลยุทธ์เป็นเพื่อนเจ้า”โม่อู๋เยว่เดินเข้ามา

จูนจิ่วได้ยินเสียงเท้าของโม่อู๋เยว่ที่เดินเข้ามานางก็ขมวดคิ้วขึ้นทันทีส่วนนักฆ่าที่เหลืออยู่ก็เข้ามาสมทบกำลังเห็นโม่อู๋เยว่ไม่ได้ลงมือทำอะไรจากนั้นพวกมันก็ใช้ระเบิดควันอำพลางตัวทันที

โม่อู๋เยว่ยืนอยู่ข้างๆนางเขามองผู้นำกลุ่มหมาป่าละโมบด้วยสายตาที่เยือกเย็นและไร้ความปรานี

ใบหน้าที่อวบอ้วนและมีรอยแผลจากมีดตอนนี้ดวงตาสั่นระริกขี้ขลาดหรือหวาดกลัวนั้นแยกไม่ออกชายผู้นี้เป็นใครกัน?ทำไมเขาถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้!เขาเป็นผู้นำของกลุ่มหมาป่าละโมบเขาเป็นนักจิตชั้นหก!

เขาไม่กล้าที่จะมองตาของโม่อู๋เยว่บนหลังของเขาเหมือนกำลังแบกภูเขาเป็นพันๆลูกจนทำให้เขาสั่นไปทั้งตัวไม่มีแรงแม้ที่จะลุกขึ้นมา

โม่อู๋เยว่พูดขึ้นมาว่า:“สำหรับนักฆ่าคนอื่นๆนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่มีความขี้ขลาดแต่อย่างใดไม่มีการหนีในศึกรบครั้งนี้มันก็ถือว่าพอใช้ได้สามารถฝึกกลยุทธ์เป็นเพื่อนเจ้าได้เพื่อให้ก้าวข้ามไปอีกขึ้น”

ให้นักจิตชั้นหกประลองฝีมองกับนางมันจะเป็นการสุรุ่ยสุร่ายไป

จูนจิ่วสายตาเปล่งประกายด้วยความสนใจนางถามขึ้นมาว่า:“จะฝึกอย่างไร?”

“ข้าจะระงับจิตของเขาตั้งแต่นักจิตชั้นสองเมื่อผ่านไปทุกๆสิบหมากพลังของมันจะลดลงไปชั้นหนึ่งระหว่างนี้เจ้าก็สามารถฆ่ามันได้แล้ว”

โม่อู๋เยว่ยิ้มพร้อมทั้งถามจูนจิ่วว่า:“เจ้ากลัวไหม?”

“หากฆ่ามันก่อนที่พลังมันจะฟื้นคืนมาจะง่ายท่าไหร่?ทำไมจะต้องกลัวด้วยปล่อยมันมาเถอะ”จูนจิ่วหมุนโยวยิ่งไปมาพร้อมที่จะลุยแล้ว

เมื่อเห็นจูนจิ่วตั้งตารอยคอยอย่างสนใจเช่นนี้แล้วโม่อู๋เยว่ก็ยิ้มมุมปากทันทีเขามองไปที่จูนจิ่วและยิ้มอย่างสดใสและมีเสน่ห์ยืนอยู่ท่ามกลางศพโม่อู๋เยว่เหมือนปีศาจแต่ไม่รู้ว่าเป็นปีศาจที่มีเสน่ห์หรือเป็นปีศาจที่โหดร้ายหรือจะโหดเหี้ยมเหมือนปีศาจงูที่ไม่มีความรู้สึกกันแน่?

จูนจิ่วมองหน้าเขาก็รู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว

สิ่งเหล่านี้ไม่เหมาะกับโม่อู๋เยว่แต่นางก็ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยจูนจิ่วลดสายตาลงจากนั้นก็พูดขึ้นในใจว่า:“บางทีอาจจะไม่มีปีศาจใดที่เทียบกับเขาก็เป็นได้เขาไม่ใช่ปีศาจและเขาก็ไม่ใช่คนเช่นกัน”

“แล้วเขาเป็นอะไรล่ะ?”

โม่อู๋เยว่:“เสี่ยวจิ่วข้าปล่อยมันมาแล้ว”

สายตาของเขาเปล่งประกายขึ้นมาทันใดพลังของผู้นำที่ลดลงไปชั้นหนึ่งก็ฟื้นกลับคืนมาได้เขารีบลุกขึ้นและได้ยินนำเสียงที่โม่อู๋เยว่พูดเยาะเย้ย:“หากอยากมีชีวิตอยู่เจ้าก็ฆ่านางสิ”

เหลิ่งยวน:“……”

เสี่ยวอู่:“……”

ถึงแม้จะรู้ว่าคำพูดนี้ของโม่อู๋เยว่ก็เพื่อที่จะให้ผู้นำกลุ่มหมาป่าละโมบตื่นตัวให้จูนจิ่วต้อสู้อย่างมีศักดิ์ศรีแต่มันก็ยิ่งอันตรายยิ่งขึ้นและยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าชาตินี้โม่อู๋เยว่จะครองโสดไปตลอดชีวิต

เสี่ยวอู่หันไปมองเจ้านายของตนเองและในตอนนี้ผู้นำกลุ่มหมาป่าละโมบก็ได้ลุกขึ้นมาแล้ว!

ต่อให้พลังจะถูกระงับให้เหลือเพียงแค่นักจิตชั้นสองแต่ด้วยประสบการณ์เป็นสิบๆปีของผู้นำกลุ่มหมาป่าละโมบและตัวตนของมันที่เป็นถึงนักจิตชั้นหกความเข้าใจการใช้พลังและการสังหารที่นับไม่ถ้วนจูนจิ่วแทบจะเทียบไม่ได้เลยแค่เขาลงมือก็เหมือนฟ้าผ่าลงแล้ว

ผู้นำกลุ่มหมาป่าละโมบเชื่อในคำพูดของโม่อู๋เยว่หากตนเอาชนะนางได้ตนก็จะรอดถึงแม้ว่าคำพูดของมังกรนั้นไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ก็ตามนอกจากคำมั่นคำสัญญาของคู่ชีวิตของเขาแล้วอย่างอื่นนั้นก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขา!

จูนจิ่วเงยหน้ามองผู้นำกลุ่มหมาป่าละโมบจากนั้นพลังของนางก็เพิ่มขึ้นมากกว่านักจิตชั้นสองมาก

พลังแข็งแกร่งจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ