บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 241

บทที่ 241 อาเจ็กเสี่ยวช่วยเก่งโครต

“เจ้าพูดว่าไรนะ” ชิงหยู่ถลึงตาใส่ สีหน้าและน้ำเสียงเข้มงวด

“ศิษย์หลานข้าไม่ได้ล้อเล่นนะ เจ้าก็รู้ความสามารถของพวกข้าดี อย่าว่าแต่สำนักเทียนอู่จงที่ว่าใหญ่มโหฬารนักหนา ต่อให้รวมทั้งอู๋อจงแล้วมาเทียบกับพวกข้าก็เป็นได้แค่การปาไข่ใส่ศิลา ในตอนนั้นพวกข้าเคยพยายามเชิญชวนให้เจ้ามาอยู่ฝ่ายเรา แต่น่าเสียดายที่เจ้าปฏิเสธ มิเช่นนั้นตอนนี้ก็คงไม่ต้องยุ่งยากเช่นนี้”

คนในชุดคลุมสีดำยิ้มเย้ยหยันแล้วมองมาทางชิงหยู่ แล้วพูดเสริมว่า “ข้าก็ไม่ได้ล้อเล่นเหมือนกัน เห็นแก่ที่ข้าเองก็เคยเป็นคนของสำนักเทียนอู่จงมาก่อน ขอเตือนเจ้าส่งมอบกุญแจแก่ข้า เพื่อรักษาความสงบสุขของสำนักเทียนอู่จงไว้ มิเช่นนั้นเกรงว่าคนในสำนักเทียนอู่จงทั้งหมดคงไม่มีโอกาสได้เห็นแสงอาทิตย์ในยามรุ่งขึ้นแล้ว”

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขาในตอนนี้ไม่เหลือเค้าความไม่เอาไหนหรือชอบดื่มเหล้าเสเพลเหมือนก่อนหน้า ลักษณะท่าทางเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ชิงหยู่แปรเปลี่ยนเป็นดุเดือดรุนแรงดั่งคมดาบ

เป็นดั่งที่ชายในชุดคลุมสีดำได้พูดไว้ พวกเขาเคยพยายามชักชวนเขาให้เข้าไปเป็นพวกเดียวกัน ดังนั้นเขาเข้าใจถึงความเก่งกาจของพวกเขาดี การที่จะโค่นล้มสำนักเทียนอู่จงพวกเขาสามารถทำได้จริง ภายในหัวคิดใคร่ครวญหนัก ชิงหยู่หายใจเข้าลึกๆทำให้อารมณ์ผ่อนเบาลงมาบ้าง

เขาเอ่ยปากพูดว่า “ตอนนี้เป็นช่วงเวลาของการแข่งขันทั้งห้าสำนัก ข้ามอบกุญแจให้กับพวกเจ้าก็เท่ากับว่าข้ายอมให้เขตลับเทียนอู่จงตกอยู่ในอันตราย หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป สี่สำนักที่เหลือไม่ปล่อยสำนักเทียนอู่จงไว้แน่ ดังนั้นหากเจ้าอยากได้ อย่างน้อยก็ควรบอกให้ข้ารู้ว่าพวกเจ้าคิดจะทำอะไร? ”

“สบายใจได้ ต่อให้การแข่งขันทั้งห้าสำนักจะถูกทำลายจนสิ้นซาก เพียงเบื้องบนออกคำสั่ง สี่สำนักที่เหลือไม่กล้าหาเรื่องสำนักเทียนอู่จงของเจ้าหรอก สำหรับเรื่องที่พวกข้าจะทำอะไร……”

เขานิ่งไปครู่หนึ่ง คนในชุดคลุมสีดำจ้องมองและสังเกตชิงหยู่หนึ่งรอบ พูดต่อจากเมื่อครู่ “พวกข้าแค่ต้องการจับคนคนหนึ่งเท่านั้น เมื่อจับนางได้แล้วจะหยุดลงมือทันที ไม่ส่งผลต่อการแข่งขันของพวกเจ้า”

“จับใคร?”

“จูนหยูนเสวี่ยสำนักเจี้ยนจง เจ้าดูสิ ข้ายอมพูดตามตรงแล้ว เพียงแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งของสำนักเจี้ยนจง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับสำนักทียนอู่จงเลย จะเป็นหรือตายไม่ส่งผลกระทบต่อสำนักเทียนอู่จง เจ้ายังจะลังเลอะไร? หรือว่าเจ้าจะยอมให้สำนักเทียนอู่จงต้องสูญสลายเพียงเพราะเด็กผู้หญิงคนหนึ่งของสำนักเจี้ยนจงหรือ?” คนในชุดคลุมสีดำเพิ่งจะพูดจบ ชิงหยู่โยนสิ่งของบางอย่างให้กับเขา

เมื่อชิงหยู่เห็นเขารับของเอาไว้แล้ว สีหน้าแลดูเคร่งขรึมหม่นหมอง “นี่คือกุญแจสำรอง ใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น อย่าลืมเรื่องที่เจ้าพูดไว้ล่ะ จับแต่คนของสำนักเจี้ยนจง อย่าแตะต้องศิษย์ของสำนักเทียนอู่จงเด็ดขาด โดยเฉพาะศิษย์น้องของข้า”

“ศิษย์หลานสบายใจได้ ศิษย์น้องของเจ้าดูแล้วฝีมือไม่เลว หากมีโอกาส เจ้าสามารถพานางมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพวกข้าได้ อนาคตมิอาจคาดการณ์ได้ ฮ่าๆๆๆ” ชายในชุดคลุมสีดำแหงนหน้าหัวเราะเสียงดัง หยิบกุญแจสำรองในมือแล้วจากไปทันที ร่างกายของชิงหยู่ตึงและเกร็งไม่ทั้งตัว จนกระทั่งคนนั้นเดินจากไปไกลเหลือเพียงเขาคนเดียว ถึงจะยอมถอนหายใจยาวออกมาอย่างหนักหน่วง

เหลิ่งยวนกวาดตามองชิงหยู่ กำลังจะหันหน้ากลับไปรายงานพอดี กลับได้ยินเสียงของชิงหยู่พูดขึ้นว่า “จูนหยูนเสวี่ยสำนักเจี้ยนจง? พวกเขาต้องการจับตัวเจ้าหรือจับตัวแม่นายของกองทัพเย่สิงกันแน่ ศิษย์น้องแล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า?”

เขาหันหน้ากลับมาทันที นัยน์ตาเหลิ่งยวนจ้องมองชิงหยู่อย่างโหดร้าย ในใจคิดสงสัยว่าชิงหยู่รู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร? เหลิ่งยวนไม่รอช้า รีบกลับไปรายงานโม่อู๋เยว่ทันที

ในที่ลับที่ใช้ซ่อนตัว เหลิ่งยวนนำเรียนเรื่องทั้งหมดนี้ให้กับโม่อู๋เยว่โดยที่ไม่ตกหล่นสักคำ เหลิ่งยวนเอ่ยปากพูดว่า “ข้าได้ทิ้งสัญลักษณ์สติบนร่างกายของบุคคลนั้น นายท่าน ต้องการให้ข้าฆ่าพวกมันทิ้งไหม?”

“ไม่ต้อง” โม่อู๋เยว่ตอบปฏิเสธไป

เขารู้แผนการของจูนจิ่ว และเขาจะไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ดูแค่ว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะดำเนินและควบคุมอย่างไรก็พอ สำเร็จถือเป็นเรื่องดี แต่หากพ่ายแพ้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยังมีเขา โดยที่ไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด

โม่อู๋เยว่เงยหน้าอย่างทะนงตน ปลายหางตาเห็นชิงหยู่กลับมาด้วยสีหน้าที่หม่นหมอง สายตาของเขาฉายแววสนใจ การที่ชิงหยู่ยอมส่งมอบกุญแจก็เพื่อปกป้องสำนักเทียนอู่จงอย่างไม่ต้องสงสัย และเพื่อปกป้องเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ด้วย เพราะคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังต้องการจับตัวจูนหยูนเสวี่ย

สถานะของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยังไม่ถูกเปิดโปง เรื่องที่นางยกยอสร้างอำนาจบารมีให้กับจูนหยูนเสวี่ย ตอนนี้ดูแล้วสำเร็จเป็นอย่างมาก ปลาตัวใหญ่ติดกับดักเหยื่อตกปลาเสียแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้ใครจะเป็นผู้ชนะในตอนท้าย ต้องค่อยๆดูกันไป

โม่อู๋เยว่เอามือเท้าคางไว้พร้อมหรี่ตาลงต่ำ สติของเขาทะลุไปยังเขตลับเทียนอู่ และจดจ่อจ้องมองจูนจิ่วอย่างจริงจัง ริมฝีปากบางยกสูงขึ้น เผยรอยยิ้มร้ายและอันตราย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ