บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 311

บทที่ 311 ความปรารถนาที่จะอยู่รอดอันแรงกล้า

ไม่มีหญิงใดไม่ชื่นชอบที่คนอื่นชมว่าตนสวย โดยเฉพาะยังเป็นคนที่หล่อเหลาราวกับปีศาจจำแลงเช่นนี้เอ่ยปากชม ปากบางยกขึ้น นัยน์ตาของจูนจิ่วมีแววยิ้มเล็กน้อย แต่เสี่ยวอู่กลับรู้สึกหึงหวง มันโมโหจนใช้ร่างตัวเองทับหลังเท้าของจูนจิ่วอย่างหนัก ราวกับจะใช้น้ำหนักของร่างตัวเองในการดึงดูดความสนใจของจูนจิ่ว

เสี่ยวอู่คำรามเหมียมๆขึ้น “เหมียวเองก็ชมเจ้านายทุกวันว่าสวย งามที่สุดน่ามองที่สุด ก็ไม่เคยเห็นเจ้านายจะดีใจเท่านี้มาก่อน ”

“ข้าก็ดีใจนะ”จูนจิ่วก้มศีรษะ นางรองขยับเท้าดูแต่เสี่ยวอู่ก็รีบใช้แรงมากขึ้นกดเท้าของนางไม่ให้เคลื่อนไหว เงยหน้าที่เต็มไปด้วยขนขาวราวหิมะ เสี่ยวอู่มองจ้องและร้องขึ้นว่า “ไม่จริง”

จูนจิ่ว “นี่ไม่เหมือนกัน เสี่ยวอู่เป็นคนในครอบครัว ข้าเองก็ชมเจ้าทุกวันว่าน่ารักมิใช่หรือ ส่วนอู๋เยว่……”

“เขาไม่ใช่คนในครอบครัว ”จูนจิ่วยังพูดไม่จบ เสี่ยวอู่ได้ทีก็ชิงปากไวพูดสรุปไปก่อน โม่อู๋เยว่ไม่ใช่คนในครอบครัว มันต่างหากที่ใช่ ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องหึงแล้ว คิดถึงตรงนี้ เสี่ยวอู่ก็ผ่อนคลายร่างกายลงหมอบอย่างสบายใจอยู่บนหลังเท้าของจูนจิ่ว หางสะบัดไปมาอย่างได้ใจ

จูนจิ่วรู้สึกจนใจอยู่บ้าง แต่เพราะเอ็นดูเสี่ยวอู่จึงไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืด ไม่เช่นนั้นตัวน่ารักของนางก็คงต้องหึงขึ้นมาอีกเป็นแน่

ในที่ลับตา เหลิ่งยวนกำลังตัวสั่นสะท้านขณะที่เจ้านายของตนกำลังมีสีหน้าดำคร่ำเคร่ง ดวงตาสีทองคู่นั้นราวกับหุบเหวแสนลึก เหลิ่งยวนร้องไห้แต่ไร้น้ำตา แม่นางจูนท่านรักและเอ็นดูเสี่ยวอู่ แล้วเขาล่ะจะทำอย่างไร ในสมองราวกับมีแสงหนึ่งวาบผ่าน เหลิ่งยวนเกิดความคิด เขาเปิดปากเอ่ยขึ้น “เฟิ่งเซียวเป็นเสด็จปู่ของแม่นางจูน แต่ก็ไม่สามารถมากับแม่นางจูนได้ แต่เจ้านายท่านมาได้นี่นา ฉะนั้นเจ้านายย่อมเป็นมากกว่าคนในครอบครัว ใครก็ไม่สามารถเทียบได้”เห็นได้ชัดว่าความปรารถนาที่จะมีชีวิตรอดของเหลิ่งยวนนั้นแรงกล้ามาก

โม่อู๋เยว่ได้ยินเช่นนี้ แม้จะไม่เปิดปากพูดอะไรแต่ก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศรอบตัวที่ผ่อนคลายและอบอุ่นขึ้นมาบ้าง สามารถทำให้เหลิ่งยวนหายใจได้คล่องขึ้น

พอเงยหน้าเหลิ่งยวนก็เห็นชิงหยู่เดินมา ในใจกระตุกวูบหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น“ชิงหยู่เป็นอะไรไป ”

จูนจิ่วรอชิงหยู่อยู่ที่นี่ เห็นชิงหยู่ที่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยเดินมาแต่ไกล แขนเสื้อและขากางเกงล้วนเปื้อนฝุ่นและดิน แต่พอสำรวจอย่างละเอียดแล้วก็ไม่พบว่าร่างกายได้รับบาดเจ็บแต่กลับดูสดชื่นมีชีวิตชีวาด้วยซ้ำ สีหน้าดูสะใจ“ศิษย์น้อง”ชิงหยู่เห็นจูนจิ่วก็ก้าวใหญ่ๆเข้าไปหา

“ศิษย์พี่ท่านไปทำอะไรมา”

“สั่งสอนคนไม่กี่คน ศิษย์น้องแล้วเจ้าล่ะวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง”มุมปากของชิงหยู่มีรอยยิ้ม ดูสบายอกสบายใจ

จูนจิ่วขยับเท้า เสี่ยวอู่กระโดดออกไปข้างกายจูนจิ่วหมุนตัวเดินไปยังภูเขา จูนจิ่วหยักยิ้มเอ่ยขึ้นว่า “วันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นเยอะ พวกเรากลับไปค่อยว่ากัน ใช่แล้ว ข้าไปหาผู้ดูแลหวางเพื่อขอเปลี่ยนที่อยู่สองที่ เพิ่งไปดูมาก็ไม่เลว”

“เอ๋”ชิงหยู่ได้ยินแล้วก็ไม่ต้องครุ่นคิดรู้ได้ในทันทีว่าวันนี้จูนจิ่วคงใช้ชีวิตอย่างยอดเยี่ยมแน่นอน ชิงหยู่ไม่ต้องกังวลว่าจูนจิ่วจะถูกรังแก ศิษย์น้องของเขาร้ายกาจถึงเพียงนี้ ใครจะกล้ารังแกนาง หากมี เช่นนั้นคงต้องเปลี่ยนเป็นเขาที่ต้องถลกแขนเสื้อกำหมัดขึ้นมาแล้ว

จูนจิ่วและชิงหยู่เดินเคียงกันในลานบ้าน เหมือนกับที่นางขอ ผู้ดูแลหวางไม่อยากตายจึงไม่กล้าละเลยแม้สักนิด นั่งลงบนตั่งนุ่ม ชิงหยู่ได้รับรู้ถึงเรื่องที่จูนจิ่วประสบในวันนี้ สีหน้าปรับเปลี่ยนสลับไปมาสุดท้ายก็ขมวดคิ้วนิ่งขรึมลง

กำหมัดจนเสียงดังกรอด ชิงหยู่เอ่ยขึ้น “นี่ช่างดูถูกเจ้าจูเก่อชิวคนนั้นเกินไปแล้ว แม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่รอดไม่เกินคืนนี้ ก็ควรจะสั่งสอนมันระบายความแค้นบ้าง ยังมีเจ้าผู้ดูแลหวางอีก คิดไม่ถึงว่าเบื้องหลังเขาจะเป็นผู้อาวุโสของสำนักไท่ชู”

“จูเก่อชิวก็แค่คนผ่านทางที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร แต่ผู้อาวุโสใหญ่ ข้ารู้สึกไม่เข้าใจอยู่บ้าง ห้องหนังสือมีตำราสำคัญ เทียงฉิวเป็นกำลังสำคัญของสำนักศึกษาเทียนซู ไม่ได้มีสมัครพรรคพวกที่สำนักศึกษาไท่ชู แต่หากเขาไม่ใช่คนของเทียงฉิว ทำไมเขาต้องต่อการกับท่านและข้า ”จูนจิ่วพูด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ