บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 356

สรุปบท บทที่ 356 งานล่าสัตว์ทิพย์เริ่มขึ้น: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

สรุปเนื้อหา บทที่ 356 งานล่าสัตว์ทิพย์เริ่มขึ้น – บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว

บท บทที่ 356 งานล่าสัตว์ทิพย์เริ่มขึ้น ของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ต้าวเมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 356 งานล่าสัตว์ทิพย์เริ่มขึ้น

กติกามีสามข้อ ข้อที่หนึ่ง เป็นหรือตายโชคชะตาฟ้าลิขิต ผู้ชนะเท่านั้นจึงอยู่รอด

ได้ยินก็รู้ความหมาย สัตว์ทิพย์จะฆ่าไม่เลือก และไม่ห้ามที่คนจะฆ่าเพื่อแย่งชิงกันเอง ความเป็นความตายของผู้แพ้อยู่ในกำมือของผู้ชนะ เป็นกติกาที่โหดร้ายมาก งานล่าสัตว์ทิพย์ยังไม่ทันได้เริ่มขึ้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดและการปะทะอย่างดุเดือดแล้ว ไม่มีใครกลัว แต่กลับกลอกตามองไปรอบๆราวกับจะคิดแผนร้ายต่อผู้อื่น

กติกาข้อที่สอง ผู้อาวุโสรองพูดว่า “ในป่าตงผิงมีอยู่สามจุด ซ้ายขวาและตรงกลาง สำนักศึกษาไท่ชูของพวกเราเดินไปทางด้านขวาสุดของป่าตงผิง เดินตรงไปเรื่อยๆจนถึงจุดที่ลึกที่สุดที่เป็นจุดสูงสุดของป่าตงผิง เดินข้ามไปยังเส้นเขตแดนสีแดงที่อยู่ตีนเขา ซึ่งถือเป็นวงกลมแห่งชัยชนะ”

“หลังจากเข้าวงกลมแห่งชัยชนะแล้ว ทั้งสามด้านจะมีแท่นเพลิงสามจุด พวกเจ้าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะจุดแท่นไฟทุกคน เมื่อแท่นไฟถูกจุดขึ้น วงกลมแห่งชัยชนะจะเริ่มปิดสนิท ที่สุดผู้ชนะจะถูกคัดเลือกออกมาจากในนั้น ส่วนคนอื่นๆ”ผู้อาวุโสรองกวาดมองไปที่ทุกคน

ลูบเคราแล้วพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “ไม่เข้าสู่วงกลมแห่งชัยชนะถือว่าเป็นผู้แพ้ จะเสียเวลาในการเข้าร่วมงานล่าสัตว์ทิพย์เสียเปล่า ”

ได้ยินเสียงของผู้อาวุโสรองที่แฝงไว้ด้วยความรังเกียจและไม่ชอบใจ ในเหล่าลูกศิษย์ย่อมมีคนที่ใจเต้นตุ้มๆต่อมๆขึ้นมา โดยเฉพาะลูกศิษย์นอกสำนัก พวกเขามีพลังน้อยที่สุด มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกกีดกันให้อยู่นอกวงกลมแห่งชัยชนะ

งานล่าสัตว์ทิพย์จะไม่แบ่งว่าเป็นลูกศิษย์ภายในหรือภายนอก ทุกคนไม่สนว่าจะมีสถานะหรือฝึกฝนถึงขั้นไหน ต่างปฏิบัติอย่างยุติธรรม และผู้ชนะจะได้รับป้ายหลิงซู จุดนี้ผู้อาวุโสรองไม่ได้พูดขึ้นตอนนี้ เขาพูดต่อไปว่า

ผู้อาวุโสรอง“กติกาข้อที่สาม ในวงกลมแห่งชัยชนะจะเลือกเพียงหนึ่ง จะเป็นสนามรบที่ฆ่าฟันกันอย่างดุเดือด มีเพียงผู้ชนะเท่านั้นจึงจะมีที่ยืน แต่ว่าพวกเจ้าวางใจได้ คนที่สามารถเข้าสู่วงกลมแห่งชัยชนะสีเลือดได้ล้วนเป็นคนมีฝีมือในสำนัก ถึงเวลาจะมีการแจกจ่ายยาสำหรับช่วยชีวิตพวกเจ้า ”

ได้ยินดังนี้ จูนจิ่วก็ขมวดคิ้วสงสัย

แจกจ่ายยาช่วยชีวิต ไม่ นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นการผลักเข้าสู่มือของเทพแห่งความตาย แต่พอได้ยินว่ามียาช่วยชีวิต ลูกศิษย์ต่างก็คงจะทุ่มเททั้งหมดเพื่อให้ได้เข้าสู่วงกลมแห่งชัยชนะสีเลือดอย่างไร้ข้อกังขา ไม่ชนะไม่รามือ กระทั่งจะมีคนฆ่ากันเองเพราะยาช่วยชีวิต แย่งชิงกันเอง

แต่ว่านี่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับนาง จูนจิ่วยิ้นเย็น เลือดสาดก็ดี โหดร้ายก็ดี เพราะสุดท้ายผู้ชนะต้องเป็นนาง จุดจบของผู้แพ้นางไม่ต้องไปคำนึงถึง

กติกาสามข้อ แต่ละข้อโหดร้ายขึ้นเรื่อยๆ ผู้อาวุโสรองพูดจบแล้ว สะบัดมือหนึ่งครั้งเสียงพลุดังขึ้นไปบนฟ้า เปิดปาก เอ่ยด้วยเสียงดังไปทั่วสี่ทิศ “งานล่าสัตว์ทิพย์เริ่มแล้ว ทุกคนเข้าสู่ป่าตงผิงได้”

มู่จิ่งหยวน “พวกเราไปกันเถอะ”

“ช้าก่อน”หยุนหนีตะโกนขึ้นกะทันหัน นางก้าวเท้าใหญ่ๆเข้ามาจ้องมองจูนจิ่ว สีหน้าไม่พอใจ ทั้งโมโห ทั้งแค้นใจ แต่หยุนหนีก็ยังคงมีรอยยิ้มที่ชวนหลงใหลอยู่บนใบหน้า พูดกับจูนจิ่วอย่างอ่อนโยน “ศิษย์น้องจูน หากว่าเจ้าพบเจอกับอันตรายในป่าตงผิง เจ้าสามารถใช้เกาทัณฑ์สัญญาณนี้ขอความช่วยเหลือจากข้าได้”

เลิกคิ้วขึ้น จูนจิ่วมองเกาทัณฑ์ที่หยุนหนีส่งมาให้

นางยังไม่ได้ตอบกลับ มู่จิ่งหยวนก็พูดขึ้นก่อนว่า “ศิษย์น้องหยุนหนี นี่เจ้าสงสัยในความสามารถของข้าหรือ มีข้าอยู่ ศิษย์น้องจูนจะมีอันตรายได้อย่างไร”

“กันไว้ดีกว่าแก้ก็เท่านั้น ศิษย์พี่มู่คงไม่โกรธกระมัง ”หยุนหนียิ้มให้กับมู่จิ่งหยวน ในใจกลับแค้นมู่จิ่งหยวนนัก หากว่ามู่จิ่งหยวนไม่กลับมา ไม่ไปหาพวกมู่จิ่งหยวน ตอนนี้จูนจิ่วก็คงจะเป็นกลุ่มเดียวกับนาง จะมีประโยชน์ต่อแผนของนางอย่างมาก

น่าโมโห ทั้งหมดถูกมู่จิ่งหยวนทำวุ่นวายไปหมด จึงทำให้หยุนหนีอดไม่ได้ที่จะแค้นเคืองศิษย์พี่ที่ก่อนหน้านี้นางเคยทั้งเลื่อมใสและชื่นชมมาก่อน เมื่อมีผลประโยชน์อยู่ตรงหน้า จะนับประสาอะไรกับแค่การชื่นชม

จูนจิ่วยื่นมือออกไปรับเกาทัณฑ์สัญญาณเอาไว้ นางพยักหน้าเบาๆให้กับหยุนหนี ยิ้มด้วยความเย็นชาห่างเหิน “ขอบคุณศิษย์พี่หยุนหนี”

ตอนที่เจอเข้ากับสัตว์ทิพย์ตัวแรก มู่จิ่งหยวนอดไม่ได้ที่จะดีใจ

เขาเอ่ยขึ้นอย่างดีอกดีใจว่า “ลิงปากนกอินทรีหางเสือดาวชั้นสาม พวกเราใครจะเป็นคนจัดการมันดี”

ไม่รอให้จูนจิ่วกับชิงหยู่เปิดปากพูด มู่จิ่งหยวนได้ยินเพียงเสียงร้องเหมียวๆขออาสาอย่างแข็งขัน เขานิ่งอึ้งไปสักพัก หันกลับไปมองก็เห็นเสี่ยวอู่ยืดอก สายตาเย็นเหยียบจ้องมองลิงปากนกอินทรีหางเสือดาวพร้อมลับคมเล็บ เห็นทีท่าแล้ว คงต้องให้เสี่ยวอู่จัดการแล้ว

มู่จิ่งหยวนตะลึง “เสี่ยวอู่มัน”

“ให้เสี่ยวอู่ไปเถอะ เสี่ยวอู่ไป สู้ไม่ไหวให้เรียกข้า”

“เหมียว”เสี่ยวอู่ขานรับอย่างยินดี พุ่งตัวออกไปราวสายฟ้าเงยหน้าปะทะเข้ากับลิงปากนกอินทรีหางเสือดาว เสียงลิงร้อง ต่อด้วยเสียงเหมียวๆ ยังมีเสียงกรงเล็บแหลมคมที่ข่วนเข้าไปในเนื้อกับเสียงชนกัน

มู่จิ่งหยวนอ้าปาก น้ำเสียงแหบแห้ง “ศิษย์น้องจูน เจ้าให้เสี่ยวอู่ไปหรือ นั่นมันลิงปากนกอินทรีหางเสือดาว”สัตว์ทิพย์ชั้นสาม ไม่ใช่หมาข้างถนน และไม่ใช่กระต่ายป่า นั่นมันสัตว์ทิพย์ชั้นสาม สำหรับเสี่ยวอู่แล้วมันคงไม่มีทางเอาชนะได้

มู่จิ่งหยวนรู้ว่าจูนจิ่วใส่ใจเสี่ยวอู่มาก หากเสี่ยวอู่เกิดเรื่องขึ้นมา จูนจิ่วอาจจะร้องไห้ก็ได้

จูนจิ่วยิ้มอย่างลำพองใจ นางพูดว่า “ศิษย์พี่มู่รอดูเอาเถอะ เสี่ยวอู่อาจจะไม่แพ้ก็ได้”

มู่จิ่งหยวน ??เขาเกรงว่าเสี่ยวอู่จะถูกโจมตีจนตาย แพ้ไม่แพ้อะไรกัน หรือว่าจูนจิ่วจะไม่รู้เลยว่าแมวของตัวเองมีกึ๋นแค่ไหนกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ