เดิมทีเสี่ยวอู่ยังไม่ตื่น เพราะว่าพลังยังดูดซับไม่หมดมันคิดว่าอย่างน้อยต้องนอนต่ออีกครึ่งเดือน แต่เสี่ยวอู่ได้ยินเข้า
มันได้ยินเสียงในหัวใจของเจ้านายตัวเอง ฝึกคู่อะไรนั่น แล้วยังมีเรื่องคู่วิญญาณอีก รอมันตื่นคงต้องไปร่วมพิธีแต่งงานของเจ้านายกับโม่อู๋เยว่แล้วกระมัง เสี่ยวอู่จึงสะดุ้งตื่นขึ้นกะทันหัน แยกเขี้ยวยิงฟัน
จ้องเขม็งไปที่โม่อู๋เยว่ เสี่ยวอู่พูดว่า “เจ้านาย อย่าหลงกลเด็ดขาด เจ้านายมีคนให้เลือกเป็นภูเขา ทำไมต้องแขวนตัวเองไว้กับเขาด้วย”
“ฟู่”จูนจิ่วสำลัก หัวเราะออกมา
นางยื่นมือไปผลักโม่อู่เยว่แต่ก็ผลักไม่ออก เงยหน้ามองใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีดำของโม่อู่เยว่ ยิ้มบางๆ “เสี่ยวอู่พูดไม่ผิด เพื่อท่านแล้วต้องทิ้งคนทั้งภูเขา เหมือนข้าจะขาดทุนอยู่นะ”
“ภูเขาเป็นร้อยรวมกัน ก็ดีสู้ข้าคนเดียวไม่ได้ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แน่ใจหรือว่าขาดทุน ”โม่อู่เยว่ขมวดคิ้ว แววตาสีทองฉายแววยโสเอาแต่ใจ มีเขาคนเดียว ก็เหนือกว่านับพันนับหมื่น
หลงตัวเองซะไม่มี แล้วใครใช้ให้เขามีสิทธิ์ที่จะหลงตัวเองอย่างนี้เล่า
มุมปากโค้งขึ้นอีก จูนจิ่วพูดว่า “ขาดทุนหรือไม่อยู่ที่ข้า ตอนนี้ท่านปล่อยข้าก่อน ไม่เช่นนั้นแมวของข้าจะข่วนท่านแล้ว”มองท่าทีของเสี่ยวอู่ ราวกับกำลังรอที่จะข่วนใบหน้าของโม่อู๋เยว่ให้ลายไปเลย แม้ว่าพุ่งเข้าหาก็คงข่วนไม่ถึง แต่เสี่ยวอู่ก็ยังคงมีความหวังล้มๆแล้งๆ
โม่อู๋เยว่ไม่ได้ปล่อย แววตาสีทองลึกซึ้งมองไปยังจูนจิ่ว ปากบางเผยอขึ้น น้ำเสียงที่แหบพร่าแฝงแววแห่งการรอคอย “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยังไม่ได้ตอบข้า เจ้ายินดีหรือไม่”
“ยินดี แต่ข้าไม่อยากทำ”
“เพราะอะไร”
“ข้าไม่เคยชื่นชอบใครมาก่อน ยิ่งไม่เคยรักใครมาก่อนด้วย แต่ข้าคิดว่า ถ้าข้าได้รักใครเข้าคงเป็นเรื่องของตลอดชีวิต ไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน ”จูนจิ่วจับมือโม่อู๋เยว่ มาวางไว้บริเวณหัวใจ
จูนจิ่วพูดต่อว่า “แม่ข้าใช้เวลากว่าสิบเดือนในการสร้างหัวใจดวงหนึ่งขึ้นมา ข้าเองก็ทะนุถนอมมาหลายปี ข้าจะไม่ยอมอนุญาตให้ใครมาทำร้ายมันได้ รวมถึงตัวข้าเอง อู๋เยว่ท่านเข้าใจหรือไม่ ”
ไม่รัก ก็ไม่เจ็บปวด ฉะนั้นนางต้องระวังตัว ไม่อนุญาตให้ตัวเองหวั่นไหวง่ายๆ
แม้ว่าโม่อู๋เยว่จะทำให้นางได้รับความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้นางหัวใจเต้นเร็วขึ้น ทำให้นางมีความสุข ทำให้นางอดใจไว้ไม่ได้ แต่นางก็ยินดีที่จะระมัดระวังใจตัวเองไว้บ้าง เพราะนางรู้จักโม่อู๋เยว่ไม่มากพอ นี่ทำให้จูนจิ่วรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย
แต่คำพูดของจูนจิ่วที่จริงจังนี้ พอไปถึงหูของโม่อู่เยว่เขาจับใจความได้แต่คำแรก
โม่อู๋เยว่ฉีกยิ้มมุมปาก แววตาสีทองสว่างวาบขึ้นมา เขามองจูนจิ่วอย่างนิ่งลึก “พูดเช่นนี้ ข้าคงจะเป็นคนแรกที่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ชอบและรักสินะ”
จูนจิ่ว ……
เสี่ยวอู่……
“ข้าไม่ได้ยอมรับเสียหน่อย ว่าข้าชอบท่าน ”มุมปากกระตุก จูนจิ่วจ้องโม่อู๋เยว่อย่างโมโห
โม่อู๋เยว่ยังคงยิ้ม ชั่วร้ายมีเสน่ห์และหยอกเย้า
เขาเชยคางของจูนจิ่วขึ้น ก่อนที่จูนจิ่วจะทันรู้ตัวก็บรรจงจูบลงมาเสียแล้ว ปากบางที่เย็นเฉียบ ปลายลิ้นที่เจ้าเล่ห์ค่อยๆดุนเพื่อเปิดแนวฟัน จูนจิ่วขมวดคิ้วกำลังจะตอบโต้ ของเย็นๆสิ่งหนึ่งก็ส่งเข้ามาในปาก จากนั้นโม่อู๋เยว่ก็ถอยห่างออกไป
ของสิ่งนั้นพอเข้าปากไปก็ละลายทันที จูนจิ่วยังไม่ทันได้รับรู้ว่าของสิ่งนั้นคืออะไร นางขมวดคิ้วมองไปยังโม่อู๋เยว่ “เมื่อครู่เจ้าป้อนข้ากินอะไร ”
“เลือดหัวใจ”
จูนจิ่ว ??
โม่อู๋เยว่ก้มหน้า เอาหน้าผากของตัวเองชนกับหน้าผากของจูนจิ่วเบาๆ ดวงตาสีทองสีทองจ้องมองดวงตาของจูนจิ่วอย่างใกล้ชิด เห็นแววตาของโม่อู๋เยว่ จูนจิ่วก็สงบลงอย่างช่วยไม่ได้ เขาพูดว่า “ข้าขอใช้เลือดหัวใจของข้าสาบาน ที่ข้ามีทั้งหมดล้วนเป็นของเจ้าทั้งสิ้น เจ้ายังไม่รักข้า ไม่เป็นไร เวลาที่ข้ามีทั้งหมดสามารถใช้เพื่อรอเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ รอให้เจ้าค้นพบว่าข้าคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของเจ้า ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...