เหอะ โชคลิขิตอันประเสริฐอย่างนั้นหรือ เจ้ามันก็แค่ลูกจ้างคนหนึ่งเท่านั้น
สิ่งของที่เปิดออกมาล้วนแต่เป็นอุปกรณ์การแสดงที่พวกเขาเตรียมไว้ให้เจ้าล่วงหน้า มันไม่ใช่โชคลิขิตอะไรทั้งสิ้น
สามารถมองเห็นภาพสิถึงจะแปลก!
“เสียน้ำใจข้าหมด”
เสิ่นเทียนถอนหายใจอย่างเสียดายกับสิ่งที่ทำลงไป และเตรียมตัวไปจากที่นี่
ในตอนนั้นเอง เสี่ยวหลิงเซียนกระตุกแขนเสื้อของเสิ่นเทียนด้วยท่าทางที่น่าสงสาร “แล้วคุณชายซ่งล่ะ จะทำอย่างไร?”
ถึงแม้คุณชายซ่งจะเป็นคนหื่นกาม แต่เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!
ก็ถูกกุ้ยกงกงทำร้ายจนหน้าบวมเหมือนหัวหมูและฟันร่วงออกจากปาก แลดูน่าเวทนาอย่างยิ่ง
ด้วยสถานะและเส้นสายของเถ้าแก่ซ่งในสวนหมื่นวิญญาณ ถ้าหากไม่มีคำอธิบายให้ ในอนาคตเสี่ยวหลิงเซียนต้องลำบากไม่น้อย
กุ้ยกงกงครุ่นคิด “องค์ชาย หรือไม่พวกเราฆ่าคนปิดปากเลย!”
“ฆ่ากะผีสิ!”
เสิ่นเทียนเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าคุณชายซ่ง กล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าก็บอกแต่แรกสิ ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมบอกแต่แรก?”
“หากเจ้าอธิบายให้มันชัดเจนแต่แรก ก็ไม่ต้องมาโดนกระทืบแล้วไม่ใช่หรือ”
“ข้าก็คิดว่าเจ้ากำลังจะลวนลามนายหญิงเสียอีก!”
เสี่ยวหลิงเซียนกล่าวเตือน “ข้าเป็นเพียงสาวน้อย สาวน้อย!”
เสิ่นเทียนพยักหน้า “อืม ลวนลามสาวน้อย โดนกระทืบก็สมควรแล้ว”
“เช่นนี้ก็แล้วกัน! คิดเสียว่าวันนี้ข้าอบรมสั่งสอนเจ้าแทนพ่อของเจ้าโดยไม่คิดค่าตอบแทน ระหว่างพวกเราถือว่าหายกันได้หรือไม่?”
เสิ่นเทียนเจรจาอย่างจริงใจ แต่ดูเหมือนผลลัพธ์ที่ได้จะไม่เป็นอย่างที่คิด
คุณชายซ่งจ้องเสิ่นเทียนด้วยสายตาที่เคียดแค้น ในส่วนลึกของดวงตามีประกายของความอำมหิต
เสิ่นเทียนยิ้ม กล่าวอย่างเย็นชา “ทำไม? ไม่พอใจ? อยากกลับไปฟ้องพ่อของเจ้าใช่หรือไม่ จากนั้นกลับมากู้หน้าคืนอย่างนั้นหรือ?”
เสิ่นเทียนหยิบป้ายคำสั่งสีทองที่สลักลวดลายมังกรสีแดงชิ้นหนึ่งออกมาแล้วกล่าว “ข้าจะบอกเจ้าก็ได้ ข้าคือองค์ชายหกเสิ่นเอ้าแห่งอาณาจักรต้าเหยียน เดินไม่เปลี่ยนชื่อ นั่งไม่เปลี่ยนแซ่!”
“ต่อไปเสี่ยวหลิงเซียนอยู่ในความคุ้มครองของข้า ห้ามพวกเจ้ารังแกนางเด็ดขาด!”
“หากไม่พอใจ ไปตามล้างแค้นข้าที่พระราชวังได้ทุกเมื่อ”
กล่าวจบ เสิ่นเทียนหันหลังเดินจากไปด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่ง
เหลือไว้เพียงเสี่ยวหลิงเซียนและคุณชายซ่งที่ยืนอยู่ตรงที่เดิม
ใบหน้าของคนหนึ่งเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและชื่นชม ส่วนใบหน้าของอีกคนเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและสิ้นหวัง
……
การค้าขายที่ตระกูลซ่งทำเกี่ยวข้องกับการประเมินมูลค่าสินค้า ย่อมรู้อยู่แล้วว่าป้ายคำสั่งในมือของเสิ่นเทียนไม่ใช่ของปลอม
บวกกับเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของกุ้ยกงกงและการเรียกขานเรียงนามของเสิ่นเทียน คุณชายซ่งแทบจะสามารถมั่นใจได้ว่าเสิ่นเทียนคือองค์ชายที่ออกมาจากวัง
เพียงแต่สิ่งที่เขาไม่มีทางคาดคิดก็คือเลขอักษรที่อยู่ด้านหลังของป้ายคำสั่งชิ้นนั้นไม่ใช่หก แต่เป็นสิบสามต่างหาก
ถ้าหากเป็นองค์ชายทั่วไป คุณชายซ่งก็ยังพอมีความคิดที่จะกู้หน้าคืนอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม การที่ตระกูลซ่งสามารถทำการค้าขายหินแร่วิญญาณ แสดงให้เห็นว่าตระกูลของพวกเขาก็พอมีต้นทุนและเส้นสายในโลกบำเพ็ญเซียนอยู่บ้าง ถึงเป็นราชวงศ์ในทางโลกก็ต้องไว้หน้าพอสมควร
แต่สถานะขององค์ชายหกอยู่เหนือสามัญท่ามกลางบรรดาองค์ชายทั้งหมดของอาณาจักรต้าเหยียน
ในเมืองหลวงที่กว้างใหญ่ของอาณาจักรต้าเหยียน มีผู้ใดบ้างที่ไม่รู้จักความน่าเกรงขามขององค์ชายหกเสิ่นเอ้า
สามารถฝึกบำเพ็ญถึงระดับแดนหลอมปราณขั้นเก้าในวัยเพียงสิบแปดปี จนถูกท่านผู้อาวุโสของแดนเทวาดาวประกายพรึกกำหนดตัวไว้ให้เป็นลูกศิษย์ อนาคตไร้ขีดจำกัด
ตราบใดที่ชีวิตไม่ถดถอยต่ำลง อย่างน้อยในอนาคตเสิ่นเอ้าก็ต้องเป็นถึงผู้แท้จริงในช่วงแก่นพลังทอง
ถ้าหากโชคดี ถึงขั้นมีความหวังกลายเป็นผู้สูงศักดิ์ของช่วงดวงจิตดรุณ
ต้องกล่าวก่อนว่าแม้แต่บรรพชนของตระกูลซ่ง ก็บรรลุเพียงขั้นสูงของช่วงมหาธาตุจักระ
อัจฉริยะที่ล้ำเลิศอย่างเสิ่นเอ้า ใช่บุคคลที่คุณชายเถ้าแก่ซุ้มตระกูลซ่งอย่างเขาสามารถล่วงเกินได้หรือ?
คุณชายซ่งดับความคิดที่จะไปล้างแค้นแทบในทันที
อย่างน้อย ข้าก็ยังมีชีวิตอยู่ มันไม่ดีหรือ?
……
ในขณะเดียวกัน เสิ่นเทียนได้เดินออกจากสถานที่เกิดเหตุไปไกลแล้ว
“ขายหน้า ขายหน้าสิ้นดี!”
เสิ่นเทียนเงยหน้าขึ้นถอนหายใจยาว เขาอดทนพอแล้วกับวงรัศมีสีดำที่อยู่เหนือศีรษะของตนเอง
ผู้อื่นสวมบทวีรบุรุษช่วยหญิงงามล้วนแต่เป็นไปอย่างราบรื่น
แต่พอมาถึงเขา กลับเจอหน้าม้าร้านแร่
นี่ควรจะไปขอคำอธิบายจากที่ไหนได้
“เมื่อไหร่ถึงจะสามารถหลุดพ้นจากวงแหวนสีดำที่อยู่เหนือศีรษะนี่เสียที!”
เสิ่นเทียนไม่คาดหวังวงรัศมีสีแดงอะไรทั้งสิ้น ขอเป็นสีเขียวก็ยังดี!
“องค์ชายใจเย็นก่อน นี่เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด”
กุ้ยกงกงกล่าวปลอบใจด้วยสีหน้าที่เห็นใจ
เสิ่นเทียนหันไปมองกุ้ยกงกงด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบ “เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดจริงหรือ?”
กุ้ยกงกงชะงักเล็กน้อย
กุ้ยกงกงและฉินเกาเห็นเสิ่นเทียนตะโกนไม่หยุด สีหน้าก็เริ่มครุ่นคิด
“ท่านลุงกุ้ย องค์ชายสามารถค้นวิญญาณแสวงแร่จริงหรือ”
“แม้ว่าองค์ชายทรงเคยอ่านตำรามากมาย แต่เรื่องการค้นหาวิญญาณประเมินแร่เป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง ไม่มีปรมาจารย์คอยชี้แนะ เกรงว่าไม่มีทางเชี่ยวชาญ”
“คงไม่ได้เป็นเพราะองค์ชายเขาได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจจากเรื่องก่อนหน้านี้มากเกินไป จนเสียสติไปแล้วกระมัง!”
“พฤติกรรมช่วงนี้ขององค์ชายไม่ค่อยปกติเสียเท่าไหร่ หรือว่าการคาดเดาก่อนหน้านี้ถูกต้อง! แต่ว่าตอนนี้หมอหลวงไม่ได้อยู่ที่นี่สิ!”
เสิ่นเทียนกล่าว “ข้าไม่ได้เป็นบ้า ข้าปกติดีทุกอย่าง!”
เจ้าสองคนนี้ก็ไม่รู้จักช่วยตะโกนเรียกหาแขกเลยสักนิด ทำงานไม่เป็นเลยจริงๆ!
ในตอนนั้นเอง มีคนผ่านทางเกิดรู้สึกสนใจจึงเดินเข้ามาถาม
“นี่ ถ้าหากเปิดออกมาเป็นศิลาวิญญาณ จะไม่แบ่งแม้แต่แดงเดียวใช่หรือไม่”
เสิ่นเทียนยิ้มอย่างมั่นใจ “คำพูดของข้าเชื่อถือได้อยู่แล้ว บอกว่าไม่แบ่งก็คือไม่แบ่ง”
คนผ่านทางกล่าว “แล้วถ้าหากข้าเลือกหินแร่วิญญาณตามที่เจ้าบอกแล้วเกิดขาดทุนขึ้นมาจะทำอย่างไร เจ้าคงไม่ได้เป็นพวกนกต่อหรอกใช่หรือไม่!”
เสิ่นเทียนรู้สึกอึ้ง คำถามของพี่ชายผู้นี้ ถือว่าเกือบจี้โดนจุดของเขา
ใช่แล้ว!
เหตุใดวิธีการป่าวประกาศที่เหมือนกัน กลับไม่มีคนสงสัยว่าเสี่ยวหลิงเซียนเป็นหน้าม้า!
พอมาเป็นเขา เหตุใดคนผ่านทางเหล่านี้จึงช่างมีไหวพริบยิ่งนัก
หรือว่าเป็นเพราะดวงชะตา?
……
คิดแล้วคิดอีก เสิ่นเทียนรู้สึกว่าความสามารถของตนเองไม่น่ามีข้อผิดพลาดอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้เขาจึงยิ้มเล็กน้อย “ข้าช่วยคนที่มีวาสนาค้นหาวิญญาณประเมินแร่ เพียงเพื่อทำคุณสร้างกุศล ถ้าหากเปิดออกมาเป็นของวิเศษ ไม่แบ่งแม้แต่แดงเดียว หากไม่ใช่ของวิเศษ จ่ายตามราคาก็สิ้นเรื่อง”
หากเปิดออกมาเป็นของวิเศษให้ข้าทั้งหมด ไม่มีของวิเศษเขาเป็นคนจ่ายทั้งหมด?
มีเรื่องดีเช่นขนมเปี๊ยะตกลงมาจากฟากฟ้าหรืออย่างไร
ทันใดนั้น คนผ่านทางรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว
บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นรบกวนท่านเซียนช่วยข้าเลือกสักก้อนเถอะ!”
เสิ่นเทียนจ้องคนผ่านทางอยู่หลายวินาที ส่ายศีรษะเล็กน้อย
“น่าเสียดายยิ่งนัก ข้ากับท่านไม่มีวาสนาต่อกัน”
…………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน