บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 12

บทที่ 12 ท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน
ในที่สุด ตอนนี้เสิ่นเทียนก็เข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดบนศีรษะของเสี่ยวหลิงเซียนจึงไม่มีภาพของโชคลิขิตปรากฏขึ้น

เหอะ โชคลิขิตอันประเสริฐอย่างนั้นหรือ เจ้ามันก็แค่ลูกจ้างคนหนึ่งเท่านั้น

สิ่งของที่เปิดออกมาล้วนแต่เป็นอุปกรณ์การแสดงที่พวกเขาเตรียมไว้ให้เจ้าล่วงหน้า มันไม่ใช่โชคลิขิตอะไรทั้งสิ้น

สามารถมองเห็นภาพสิถึงจะแปลก!

“เสียน้ำใจข้าหมด”

เสิ่นเทียนถอนหายใจอย่างเสียดายกับสิ่งที่ทำลงไป และเตรียมตัวไปจากที่นี่

ในตอนนั้นเอง เสี่ยวหลิงเซียนกระตุกแขนเสื้อของเสิ่นเทียนด้วยท่าทางที่น่าสงสาร “แล้วคุณชายซ่งล่ะ จะทำอย่างไร?”

ถึงแม้คุณชายซ่งจะเป็นคนหื่นกาม แต่เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!

ก็ถูกกุ้ยกงกงทำร้ายจนหน้าบวมเหมือนหัวหมูและฟันร่วงออกจากปาก แลดูน่าเวทนาอย่างยิ่ง

ด้วยสถานะและเส้นสายของเถ้าแก่ซ่งในสวนหมื่นวิญญาณ ถ้าหากไม่มีคำอธิบายให้ ในอนาคตเสี่ยวหลิงเซียนต้องลำบากไม่น้อย

กุ้ยกงกงครุ่นคิด “องค์ชาย หรือไม่พวกเราฆ่าคนปิดปากเลย!”

“ฆ่ากะผีสิ!”

เสิ่นเทียนเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าคุณชายซ่ง กล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าก็บอกแต่แรกสิ ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมบอกแต่แรก?”

“หากเจ้าอธิบายให้มันชัดเจนแต่แรก ก็ไม่ต้องมาโดนกระทืบแล้วไม่ใช่หรือ”

“ข้าก็คิดว่าเจ้ากำลังจะลวนลามนายหญิงเสียอีก!”

เสี่ยวหลิงเซียนกล่าวเตือน “ข้าเป็นเพียงสาวน้อย สาวน้อย!”

เสิ่นเทียนพยักหน้า “อืม ลวนลามสาวน้อย โดนกระทืบก็สมควรแล้ว”

“เช่นนี้ก็แล้วกัน! คิดเสียว่าวันนี้ข้าอบรมสั่งสอนเจ้าแทนพ่อของเจ้าโดยไม่คิดค่าตอบแทน ระหว่างพวกเราถือว่าหายกันได้หรือไม่?”

เสิ่นเทียนเจรจาอย่างจริงใจ แต่ดูเหมือนผลลัพธ์ที่ได้จะไม่เป็นอย่างที่คิด

คุณชายซ่งจ้องเสิ่นเทียนด้วยสายตาที่เคียดแค้น ในส่วนลึกของดวงตามีประกายของความอำมหิต

เสิ่นเทียนยิ้ม กล่าวอย่างเย็นชา “ทำไม? ไม่พอใจ? อยากกลับไปฟ้องพ่อของเจ้าใช่หรือไม่ จากนั้นกลับมากู้หน้าคืนอย่างนั้นหรือ?”

เสิ่นเทียนหยิบป้ายคำสั่งสีทองที่สลักลวดลายมังกรสีแดงชิ้นหนึ่งออกมาแล้วกล่าว “ข้าจะบอกเจ้าก็ได้ ข้าคือองค์ชายหกเสิ่นเอ้าแห่งอาณาจักรต้าเหยียน เดินไม่เปลี่ยนชื่อ นั่งไม่เปลี่ยนแซ่!”

“ต่อไปเสี่ยวหลิงเซียนอยู่ในความคุ้มครองของข้า ห้ามพวกเจ้ารังแกนางเด็ดขาด!”

“หากไม่พอใจ ไปตามล้างแค้นข้าที่พระราชวังได้ทุกเมื่อ”

กล่าวจบ เสิ่นเทียนหันหลังเดินจากไปด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่ง

เหลือไว้เพียงเสี่ยวหลิงเซียนและคุณชายซ่งที่ยืนอยู่ตรงที่เดิม

ใบหน้าของคนหนึ่งเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและชื่นชม ส่วนใบหน้าของอีกคนเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและสิ้นหวัง

……

การค้าขายที่ตระกูลซ่งทำเกี่ยวข้องกับการประเมินมูลค่าสินค้า ย่อมรู้อยู่แล้วว่าป้ายคำสั่งในมือของเสิ่นเทียนไม่ใช่ของปลอม

บวกกับเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของกุ้ยกงกงและการเรียกขานเรียงนามของเสิ่นเทียน คุณชายซ่งแทบจะสามารถมั่นใจได้ว่าเสิ่นเทียนคือองค์ชายที่ออกมาจากวัง

เพียงแต่สิ่งที่เขาไม่มีทางคาดคิดก็คือเลขอักษรที่อยู่ด้านหลังของป้ายคำสั่งชิ้นนั้นไม่ใช่หก แต่เป็นสิบสามต่างหาก

ถ้าหากเป็นองค์ชายทั่วไป คุณชายซ่งก็ยังพอมีความคิดที่จะกู้หน้าคืนอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตาม การที่ตระกูลซ่งสามารถทำการค้าขายหินแร่วิญญาณ แสดงให้เห็นว่าตระกูลของพวกเขาก็พอมีต้นทุนและเส้นสายในโลกบำเพ็ญเซียนอยู่บ้าง ถึงเป็นราชวงศ์ในทางโลกก็ต้องไว้หน้าพอสมควร

แต่สถานะขององค์ชายหกอยู่เหนือสามัญท่ามกลางบรรดาองค์ชายทั้งหมดของอาณาจักรต้าเหยียน

ในเมืองหลวงที่กว้างใหญ่ของอาณาจักรต้าเหยียน มีผู้ใดบ้างที่ไม่รู้จักความน่าเกรงขามขององค์ชายหกเสิ่นเอ้า

สามารถฝึกบำเพ็ญถึงระดับแดนหลอมปราณขั้นเก้าในวัยเพียงสิบแปดปี จนถูกท่านผู้อาวุโสของแดนเทวาดาวประกายพรึกกำหนดตัวไว้ให้เป็นลูกศิษย์ อนาคตไร้ขีดจำกัด

ตราบใดที่ชีวิตไม่ถดถอยต่ำลง อย่างน้อยในอนาคตเสิ่นเอ้าก็ต้องเป็นถึงผู้แท้จริงในช่วงแก่นพลังทอง

ถ้าหากโชคดี ถึงขั้นมีความหวังกลายเป็นผู้สูงศักดิ์ของช่วงดวงจิตดรุณ

ต้องกล่าวก่อนว่าแม้แต่บรรพชนของตระกูลซ่ง ก็บรรลุเพียงขั้นสูงของช่วงมหาธาตุจักระ

อัจฉริยะที่ล้ำเลิศอย่างเสิ่นเอ้า ใช่บุคคลที่คุณชายเถ้าแก่ซุ้มตระกูลซ่งอย่างเขาสามารถล่วงเกินได้หรือ?

คุณชายซ่งดับความคิดที่จะไปล้างแค้นแทบในทันที

อย่างน้อย ข้าก็ยังมีชีวิตอยู่ มันไม่ดีหรือ?

……

ในขณะเดียวกัน เสิ่นเทียนได้เดินออกจากสถานที่เกิดเหตุไปไกลแล้ว

“ขายหน้า ขายหน้าสิ้นดี!”

เสิ่นเทียนเงยหน้าขึ้นถอนหายใจยาว เขาอดทนพอแล้วกับวงรัศมีสีดำที่อยู่เหนือศีรษะของตนเอง

ผู้อื่นสวมบทวีรบุรุษช่วยหญิงงามล้วนแต่เป็นไปอย่างราบรื่น

แต่พอมาถึงเขา กลับเจอหน้าม้าร้านแร่

นี่ควรจะไปขอคำอธิบายจากที่ไหนได้

“เมื่อไหร่ถึงจะสามารถหลุดพ้นจากวงแหวนสีดำที่อยู่เหนือศีรษะนี่เสียที!”

เสิ่นเทียนไม่คาดหวังวงรัศมีสีแดงอะไรทั้งสิ้น ขอเป็นสีเขียวก็ยังดี!

“องค์ชายใจเย็นก่อน นี่เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด”

กุ้ยกงกงกล่าวปลอบใจด้วยสีหน้าที่เห็นใจ

เสิ่นเทียนหันไปมองกุ้ยกงกงด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบ “เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดจริงหรือ?”

กุ้ยกงกงชะงักเล็กน้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน