บทที่ 206 หญิงมังกรฉุนเฉียวผู้มีท่าทีแปลกประหลาด
เมื่อเห็นกระบี่ยักษ์พันจั้งแทงเข้ามาทางตนมืดฟ้ามัวดินแล้ว เสิ่นเทียนถึงกับขนหัวลุก
ถ้าโดนกระบี่นี่แทง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้เป็นผู้บำเพ็ญระดับดวงจิตดรุณก็ยังถูกบดเป็นเศษเนื้อ!
ปรากฏเถากลืนกินเซียนสีเขียวมรกตขึ้นใต้เท้าเสิ่นเทียน หมายจะดึงเขาหนีลงดิน ทว่าเมื่อกระบี่ยักษ์พันจั้งค่อยๆ เข้ามาใกล้เสิ่นเทียน ขนาดมันกลับหดเล็กลงด้วยความเร็วระดับสายตามองทัน
ไม่นานจากกระบี่ยักษ์พันจั้งก็กลายเป็นกระบี่ยาวสีแดงสามฉื่อ กระบี่นี้เป็นสีแดงดั่งโลหิตทุกส่วน บนตัวกระบี่ยังมีแสงสีแดงสั่นกระเพื่อมดั่งสายน้ำ
มันส่งเสียงกระบี่ใสราวกับเสียงคำรามของมังกรและหงส์
แม้แต่มวลอากาศตรงขอบคมกระบี่ยังถูกฉีกออก เกิดเป็นรอยแยก
กระบี่ดี!
กระบี่ดีจริงๆ!
เสิ่นเทียนตาเป็นประกาย เกิดความปรารถนาหลั่งทะลักขึ้นมาในกาย
ความกระหายนี้ซับซ้อนยิ่ง ด้านหนึ่งมาจากความกระหายของกายเทพกระบี่ฟ้าที่มีต่อกระบี่เทพ อีกด้านคือความกระหายของคัมภีร์คบเพลิงที่มีต่อทองคำเตรียมเซียน
เสิ่นเทียนรู้สึกไม่ดีเลย วิชาบ้านี่มันอะไรกันแน่ แม้แต่กระบี่อาวุธเตรียมเซียนก็ยังอยากจะกินหรือ
ไม่กลัวมันทะลุกระเพาะรึ
เสิ่นเทียนยังไม่ทันคิดอะไรมาก กระบี่สีแดงนั้นก็พุ่งมาตรงหน้าเขาแล้ว
พบว่าแสงบนตัวกระบี่นี้ค่อยๆ หุบเข้าไป กลายเป็นกระบี่โบราณธรรมดาไม่มีความต่างใดๆ เลย แต่เขารู้ว่านี่คือร่างคืนสู่ความเป็นจริงของมัน
หากมันถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้งก็จะระเบิดอานุภาพทั้งหมดและเปล่งประกายคมกริบสูงสุดอย่างในอดีตอีกครั้ง
เสิ่นเทียนยื่นมือขวาออกมากำด้ามกระบี่สีแดงนั้น เขารู้สึกอุ่นๆ เย็นๆ ที่มือสัมผัส สบายมือมาก แต่ขณะเดียวกับที่เขาจับกระบี่เล่มนี้ เขายังรู้สึกว่าตนเหมือนหลอมรวมเป็นหนึ่งกับมัน
เจตจำนงกระบี่ที่แผ่ออกมารอบตัวเขามหาศาลมากขึ้น ทำให้ทุกคนรอบข้างหายใจติดขัด!
ตอนนี้ พวกจ้าวเฮ่ากับฉินอวิ๋นตี๋ถอยห่างจากเสิ่นเทียน
เพราะในระยะหลายจั้งรอบตัวเสิ่นเทียนกลายเป็นเขตแดนเจตจำนงกระบี่โหมซัดสาดไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ไอกระบี่สีโลหิตตัดสลับกันแผ่คลุมทุกพื้นที่ ราวกับว่าจะสังหารทุกคนที่เข้ามาในพื้นที่นี้
อานุภาพของกระบี่เล่มนี้เรียกได้ว่าสะเทือนโลก!
เสิ่นเทียนชูกระบี่สีแดงในมือขึ้นช้าๆ มีประกายแสงกระบี่ลอยขึ้นมาในดวงตา
ประกายสายฟ้าสีดำและเขียวค่อยๆ ลอยขึ้นมาบนผิวกาย นั่นคืออัสนีเทพธาตุน้ำลำดับแปดกับธาตุไม้ลำดับหนึ่ง
น้ำเกิดไม้ ไม้เกิดไฟ สายฟ้าสีดำและเขียวค่อยๆ หายไป สุดท้ายกลายเป็นอัสนีเทพปักษาชาดธาตุไฟลำดับสามที่เปล่งแสงสว่างพร่างพราวอย่างยิ่ง
อัสนีเทพปักษาชาดที่ตัดสลับกันเสริมด้วยอัคคีอรุณใต้ก็เหมือนมีชีวิตขึ้นมา มันวนเวียนรอบกระบี่สีแดง
ตอนนี้เสิ่นเทียนใช้มือลูบตัวกระบี่ กายกระบี่สีแดงสั่นไหวเบาๆ แสงกระบี่สว่างขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะค่อยๆ ฟันกระบี่ใส่หุบเขาตรงหน้า
ชิ้ง~!
ไอกระบี่อัคคีสายฟ้าน่ากลัวหลายแสนจั้งแผ่ขยายจากตัวกระบี่แดง ฟันใส่ตรงหน้าอย่างจัง
กระบี่นี้ไม่ใช่ทักษะกระบี่ชั้นยอดอะไร และไม่ใช่คัมภีร์กระบี่เป็นเอกแห่งยุคอะไร แค่รูปแบบการฟันที่ง่ายที่สุดและหยาบที่สุด
ทว่าเมื่อฟันกระบี่นี้ลงไป กลับปรากฏรอยแยกน่าสะพรึงขึ้นกลางหุบเขา
ตรงปลายไอกระบี่ฟันใส่หน้าผา หน้าผานั้นถล่มลงมา เกิดฝุ่นควันคละคลุ้ง
ประกายอัคคีสายฟ้าในอากาศยังตัดสลับกับไอกระบี่ ส่องแสงวาววับไม่มั่นคง!
พริบตานั้น ผู้ฝึกกระบี่อย่างพวกจ้าวเฮ่า เสิ่นเอ้าและกุ้ยกงกงข้างๆ ต่างมีสีหน้าตื่นตกใจ
ไม่มีใครรู้สึกรุนแรงเท่าพวกเขาตอนนี้อีกแล้ว เพราะตอนนี้จิตกระบี่ของพวกเขากำลังสั่นไหว
เมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่ของเสิ่นเทียน เจตจำนงกระบี่ในใจพวกเขาก็แทบจะอดใจอยากกราบไหว้ไม่ไหว
“อานุภาพน่ากลัวมาก กระบี่นี้มากพอจะสังหารระดับดวงจิตดรุณเลยกระมัง!”
“กระบี่นี้น่ากลัวมากจริงๆ สมกับเป็นอาวุธเตรียมเซียน!”
“นี่คือเจตจำนงกระบี่น่าสะพรึงของกายเทพกระบี่ฟ้าหรือ เมื่อครู่สหายเสิ่นยังไม่ได้ใช้ทักษะกระบี่เลย แต่กลับมีอานุภาพน่ากลัวถึงเพียงนี้!”
“แกร่งมาก นี่คือกระบี่ของน้องสิบสามหรือ เหอะๆ ข้าฝึกวิถีกระบี่ไปจะมีประโยชน์อะไรอีก”
“ทักษะกระบี่ของพี่เสิ่นสุดยอดมาก สมกับเป็นคนที่เหลียนเอ๋อร์ยอมรับ!”
…….
เสิ่นเทียนไม่รู้ถึงความตื่นตกใจภายในใจของทุกคน
ตอนนี้เขาจมอยู่ในอานุภาพของกระบี่นั้น ยากจะถอนตัวขึ้น
แม้ว่ากระบี่เมื่อครู่นี้ เขาจะไม่ได้สำแดงอานุภาพแท้จริงของกายเทพกระบี่ฟ้ากับกระบี่ชาด แต่ต่อให้กระตุ้นอานุภาพส่วนน้อยที่สุดในนั้นก็ยังมากพอจะทำให้เขาสังหารระดับดวงจิตดรุณธรรมดาได้
นี่คืออานุภาพของอาวุธเตรียมเซียนหรือ
รักเลยๆ!
จากนี้ข้าก็จะมีไพ่ตายเพิ่มมาอีกชิ้น
ต้องคิดหาทางฝึกฝนทักษะกระบี่ร้ายกาจอีกสักสองสามวิชา แล้วข้าก็จะเป็นนักกระบี่ที่รูปหล่อที่สุดในดินแดนบูรพา!
เขาถือกระบี่ชาดในมือพลางรู้สึกถึงความทึ่มทื่อและดีใจจากตัวกระบี่ ซึ่งเขาพอใจกับตรงนี้มาก
“ข้ามีนามว่าเสิ่นเทียน จากนี้นามของเจ้าถือกระบี่ฟ้าสังหาร หวังว่าภายภาคหน้าจะมีโอกาสที่ข้าจะได้ยกระดับเจ้าเป็นอาวุธเซียน ทำให้ชื่อเสียงของเจ้าเลื่องลือห้าดินแดน!”
เสิ่นเทียนเพิ่งกล่าวจบก็เห็นกระบี่ชาดเปล่งแสงสว่างจ้า เหมือนมีความสุขมาก ก่อนตัวมันจะดิ้นหลุดจากมือเสิ่นเทียนและพุ่งมาหาเขา!
ฟิ้ว~!
ตอนที่เสิ่นเทียนคิดว่า ‘กระบี่สังหารฟ้า’ นี่ไม่พอใจที่ตนเปลี่ยนชื่อมันและคิดจะฆ่าเขานั้น กระบี่ชาดกลับไม่ได้แทงใส่เสิ่นเทียน แต่กลายเป็นแสงสีแดงมุดเข้าไปในกายเขา
เสิ่นเทียนส่องดูในกายพบว่ากระบี่ชาดเล่มนี้วิ่งไปอยู่กลางกลีบปอดเขา มันแผ่ไอกระบี่ดั้งเดิมออกมา หล่อหลอมกลีบปอดของเขา
ทางด้านพลังในตัวเสิ่นเทียนก็ส่งจากกลีบปอดกลายเป็นพลังงานธาตุทองที่บริสุทธิ์ที่สุดหล่อเลี้ยงกระบี่ชาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน