บทที่ 209 ใครทำอะไรไว้ก็ให้คนนั้นมารับผิด
ในดินแดนทักษิณ เผ่าหงส์คือผู้ปกครองสูงสุด
ทว่าใต้เผ่าหงส์ก็ยังมีหลายเผ่าใหญ่ที่มีอำนาจเทียบเท่าแดนศักดิ์สิทธิ์
ในนั้น เผ่านกยูงกับเผ่าเทพพญาอินทรีปีกทองเป็นผู้ค่อนข้างโดดเด่น มีกำลังแฝงไม่ด้อยไปกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์
เทียบกับเผ่าพญาอินทรีปีกทองที่มีความเร็วสูงสุดในฟ้าดินกับสุดยอดพลังโจมตีแล้ว เผ่านกยูงชำนาญอิทธิฤทธิ์พวกปัญจธาตุมากกว่า
และแสงเทพห้าสีนี้ก็คือมรดกสูงสุดของเผ่าเทพนกยูง
เล่าลือว่ามีเพียงนกยูงที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ถึงขีดสุดและมีกายเทพปัญจธาตุสวรรค์ประทานเท่านั้นถึงมีสิทธิ์ฝึกฝนวิชานี้
เมื่อฝึกวิชานี้สำเร็จจะสามารถชิงคน อาวุธและสิ่งของทุกอย่างในปัญจธาตุได้ เรียกว่าได้มาทุกอย่าง!
ข่งเมิ่งคือโอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุคที่มีสายเลือดเผ่าเทพนกยูงบริสุทธิ์ที่สุดในรอบพันปีนี้ วันที่นางเกิด บนฟ้าหมู่บ้านบนเขานกยูงดินแดนทักษิณยังปกคลุมด้วยเมฆสวรรค์ห้าสี แสงเทพเป็นพันเป็นหมื่นส่องแสงสลับกัน
เทวรูปนกยูงตรงส่วนลึกภูเขาคืนชีพ ข้ามเวลาหมื่นปีมาสำแดงปาฏิหาริย์ถ่ายทอดวิชาสูงสุดนี้ให้กับข่งเมิ่ง
จากนั้นมา ข่งเมิ่งก็กลายเป็นองค์หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเผ่าเทพนกยูง มีฐานะสูงกว่าผู้อาวุโสมากมาย เหตุผลก็ง่ายมาก เพราะเผ่าเทพนกยูงเสียผู้อาวุโสพวกนี้กระทั่งเจ้าเผ่าไปได้ แต่ข่งเมิ่งคือความหวังของเผ่าเทพนกยูง จะให้เกิดอะไรขึ้นกับนางไม่ได้!
ถึงอย่างไรนกยูงห้าสีตัวนั้นเมื่อยุคบรรพกาลก็ยังเคยสังหารกระทั่งเซียนมาแล้ว!
แม้ข่งเมิ่งจะยังเยาว์วัยมาก แค่อายุยี่สิบปี แต่กลับแสดงบุคลิกไร้พ่ายออกมา
อาศัยแสงเทพห้าสีที่ชิงได้ทุกสรรพสิ่งไร้พ่ายในดินแดนทักษิณ แม้แต่องค์หญิงของเผ่าเทพหงส์ยังยอมแพ้จากใจจริง
นางคืออันดับหนึ่งในรายนามแก่นพลังทองของดินแดนทักษิณ
อันดับนี้ เดิมทียังมีโอรสสวรรค์เผ่าปักษาแคลงใจกันไม่น้อย ต่อมาโอรสสวรรค์อันดับเจ็ดในรายนามแก่นพลังทองได้ท้าสู้กับข่งเมิ่ง แต่ก็แพ้พ่ายไปในชั่วครู่เดียว
หลังผ่านการต่อสู้ครั้งนี้มา บารมีของข่งเมิ่งก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก!
กระทั่งมีคนเทียบนางกับราชินีหงส์อมตะตอนยังเยาว์วัยว่ามีบุคลิกของราชินีหงส์ตอนยังสาว
และยังมีข่าวลือแว่วมาว่าราชินีหงส์ชื่นชมข่งเมิ่งมาก บางทีอาจจะรับนางเป็นบุตรบุญธรรม
สรุปคือในเผ่าปีศาจดินแดนทักษิณ ฐานะของข่งเมิ่งสูงส่งมาก!
นางแค่ยืนตรงหน้าฉินอวิ๋นตี๋ ยิ้มราวกับความฝันก็ทำให้ฉินอวิ๋นตี๋เกิดแรงกดดันในใจอย่างมหาศาล ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นผู้ไร้พ่ายอย่างแท้จริง แม้จะถูกลดพลังบำเพ็ญเหลือระดับสร้างฐาน ก็ยังค่อนข้างตึงมือ!
“เจ้า คืออัจฉริยะน้อยคนนั้นของเผ่าเทพนกยูงรึ”
ฉินอวิ๋นตี๋มีเหงื่อซึมออกมาจากหน้าผาก ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรข้างหลังพร้อมจู่โจมทุกเมื่อ
“อาวุธวิเศษนี่น่าสนใจ”
ข่งเมิ่งเล่นปืนหยินหยางพิฆาตอสูรที่ชิงมาจากข้างหลังฉินอวิ๋นตี๋
แสงห้าสีในมือนางขยับประกายวาว ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรนั้นพลันแยกออกจากกัน
บึ้ม~!
ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรระเบิดตัวเอง แรงระเบิดน่าสะพรึงถาโถมใส่ แต่กลับไม่ทำอันตรายขนนกของข่งเมิ่งแม้แต่น้อย
แสงเทพห้าสีต้านแรงระเบิดทั้งหมดไว้ ไม่ให้มันกระจายออกมาแม้แต่นิด
“เป็นตราเวทระเบิดตัวเองที่เยี่ยมมาก ดูท่าคงมาจากมือของยอดฝีมือ”
รอยยิ้มบนใบหน้าข่งเมิ่งงดงามขึ้นทีละน้อย มองฉินอวิ๋นตี๋ “ข้าชอบอาวุธวิเศษนี้มาก เอามาให้ข้าสองสามกระบอก ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า”
ให้ข้าสองสามกระบอก ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า
น้ำเสียงของข่งเมิ่งเป็นปกติมาก ความสัมพันธ์ระหว่างเผ่ามนุษย์กับเผ่าปีศาจไม่สำคัญอะไรมาตั้งแต่โบราณแล้ว ถึงข่งเมิ่งจะไม่มีใจสังหารเผ่ามนุษย์ แต่ก็ไม่ถือสาจะแย่งของจากมนุษย์
ก็เหมือนกับตอนนี้เผ่ามนุษย์ล่าปีศาจและชิงแก่นปีศาจกับวัตถุดิบไป ต่างก็ไม่ยินยอมเช่นกัน
จะให้หรือไม่ให้
ฉินอวิ๋นตี๋กัดฟัน “อย่าฝันไปเลย!”
เมื่อเอ่ยจบ ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรหกสิบสามกระบอกที่เหลือก็เปิดฉากยิง
เปลวไฟสีฟ้าพุ่งออกจากปากปืน ยิงใส่ข่งเมิ่งที่ว่องไวอย่างกับเซียน
ปัง~
ปังๆๆ~
ปังๆๆๆๆ~
…….
จินอวี่กับเฮ่ออู๋ซวงข้างหลังข่งเมิ่งยังมีสีหน้าหวาดกลัวกับเรื่องที่ผ่านมา พวกเขาบาดเจ็บจากกลอุบายนี้ของฉินอวิ๋นตี๋ ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรพวกนี้หลบยากเกินไป!
“เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้”
ข่งเมิ่งยังคงยิ้มราบเรียบ นางใช้สองมือประสานมุทราลึกลับ ก่อนจะกางนกยูงเหมือนกับดอกบัว
โล่แสงเทพห้าสีลอยขึ้นมาตรงหน้าข่งเมิ่ง กันกระสุนทองคำวิญญาณล่วงลงพื้นทีละนัด แค่เกิดระลอกคลื่นบางๆ เท่านั้น
“เป็นไปได้อย่างไร!”
นัยน์ตาฉินอวิ๋นตี๋เต็มไปด้วยความหวาดกลัว นี่คือการโจมตีที่ทะลวงเขตแดนเวทแก่นพลังทองได้
ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรหกสิบกว่ากระบอกยิงกระสุนทองคำวิญญาณไปพร้อมกัน ต่อให้เป็นจุดสูงสุดระดับแก่นพลังทองยังต้องระมัดระวัง
ตอนนี้อยู่ในสนามรบบรรพกาล ระดับพลังถูกจำกัดไว้เหลือระดับสร้างฐาน โอรสสวรรค์เผ่านกยูงนี่จะต้านไว้ได้อย่างไร
“เสียมารยาท!”
ดวงตาข่งเมิ่งเต็มไปด้วยความเฉยชา นางลากมือขวางามเบาๆ
ทันใดนั้นแสงเทพห้าสีก็ยิงออกไป ม้วนปืนหยินหยางพิฆาตอสูรสิบกว่ากระบอกเข้ามาในพริบตา
หากไม่ใช่เพราะฉินอวิ๋นตี๋เห็นท่าไม่ดีรีบควบคุมปืนหยินหยางพิฆาตอสูรที่เหลือถอยมา เกรงว่าคงจะโดนยึดอาวุธไปทั้งหมดแล้ว
“แกร่งมาก!”
ฉินอวิ๋นตี๋มองข่งเมิ่งอย่างจริงจัง เขารู้สึกว่าข้างหลังมีแต่เหงื่อเย็นๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน