บทที่ 218 ถ้าไม่เช่นนั้นก็ปรองดองกันไว้ดีกว่า!
ตึง!
ตึงๆ!
ตึงๆๆ!
มารโลหิตสูงสิบกว่าจั้งเหมือนกับคนยักษ์โลหิต
พวกมันแผ่กลิ่นอายพลังกระหายเลือดทั้งตัวพร้อมกับพุ่งกระโจนใส่ทุกคนในหุบเขา
จินอวี่ถือดาบนักรบทองคำในมือ ยืนอยู่ตรงหน้ามารโลหิตอย่างโอหัง ความโอหังของเผ่าพญาอินทรีปีกทองไม่ยอมให้เขาหนี!
ก็ได้!
หลักๆ เพราะเมื่อครู่เพิ่งใช้วิชาลับระเบิดพลังมากไปหน่อย ตอนนี้จึงอ่อนแรง ยืนบนพื้นยังต้องอาศัยดาบนักรบทองคำค้ำยัน ไม่มีทางหนีไปได้เลย
เมื่อเห็นฝ่าเท้าของมารโลหิตยักษ์เหยียบเข้ามาทางตน จินอวี่ก็หลับตาลงช้าๆ
ช่างเถอะ แม้จะตายในมือสัตว์ประหลาดโสมมนี่ แต่ดีเลวอย่างไรก็สู้จนตัวตาย แค่โดนเจ้านี่เหยียบตาย รสชาติชีวิตหนักไปหน่อยเท่านั้นเอง
แต่ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ทำให้เผ่าอินทรีสวรรค์ขายหน้า!
ก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนช่วยข้า ตอนนี้ข้าร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา ถือว่าทดแทนบุญคุณช่วยชีวิตแล้ว
หากโลกบำเพ็ญเซียนมีชาติหน้าจริงๆ ข้าจะต้องเป็นอินทรีสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่ช้าก็เร็วจะต้องอัดไอ้หนุ่มหน้าขาวนี่ให้หมอบให้ได้
เหอะๆ แค่คิดก็มีความสุขแล้ว!
…………
หืม เหตุใดนานแล้วยังไม่ตายอีกล่ะ
จินอวี่ลืมตาซ้ายขึ้นเงียบๆ มองไปเหนือศีรษะ
พบว่ามีร่างเงาเปลวไฟสายฟ้าสีทองลุกท่วมตัวกำลังยืนอยู่เหนือเขาอย่างโอหัง
มือขวามีอานุภาพค้ำยันฟ้า ยันฝ่าเท้ายักษ์ของมารโลหิตเอาไว้ ไม่ว่ามารโลหิตจะดิ้นอย่างไรก็ไม่ขยับแม้แต่นิด ส่วนข้อมือซ้ายเสิ่นเทียนมีเถาวัลย์สีเขียวมรกตยื่นออกมา ร้อยหกคนไว้เหมือนกับพวงองุ่น
พลังฤทธิ์ในตัวพวกเขาลดลงอย่างรวดเร็ว อ่อนแรงอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าโดนเสิ่นเทียนเอาไปทำเป็นแบตสำรอง
“เจ้านกเหลือง เจ้ายังติดค้างศิลาวิญญาณข้าห้าสิบกว่าล้านก่อน! ยังตายไม่ได้”
เสียงหยอกล้อของเสิ่นเทียนดังแว่วมาจากอากาศ วินาทีต่อมาเถาวัลย์สีเขียวมรกตก็เก็บเข้าไปในข้อมือ
พลังวิญญาณที่แตกกระจายของหกคนจากลัทธิวิญญาณร้ายถูกเสิ่นเทียนสูบกินเหือดแห้ง จนล้มลงกับพื้น
จุดตันเถียนของพวกเขาถูกเสิ่นเทียนตีแตก ยังเล่นลูกไม้อะไรไม่ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ส่วนมือซ้ายเสิ่นเทียนปรากฏค้อนสีม่วงอมทองอันหนึ่ง เปลวไฟสีทองหลั่งทะลักไปในค้อนอย่างบ้าคลั่ง
ตอนนี้ สายฟ้าในมวลอากาศสั่นสะเทือน เหมือนกับเพลงสงครามที่ทำให้คนเลือดร้อน!
“อยากให้สหายของข้าตายไปพร้อมกับพวกเจ้าหรือ เหอะๆ น่าหัวร่อ! พวกเจ้าเคยเห็นข้าตอนกำลังรบสูงสุดหรือไม่”
เสิ่นเทียนเงยหน้าขึ้นช้าๆ สายตาเปล่งแสงสว่างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ค้อนม่วงทองพลันขยายใหญ่ขึ้นหลายจั้ง มีสายฟ้าสีทองวนเวียนทั้งตัวค้อน!
น้ำมวลหนักสีขาวเงินปกคลุมไว้ มวลอากาศรอบๆ ค้อนบิดเบี้ยว เหมือนรับแรงกดดันและน้ำหนักไม่ไหว
“ไปให้พ้น!”
ค้อนเทพที่ตัดสลับสีทองกับสีเงินทุบใส่ฝ่าเท้ามารโลหิต ทำให้ฝ่าเท้าแข็งแกร่งของมารโลหิตนั้นแหลกกระจาย
ร่างมารโลหิตใหญ่โตถูกฟาดปลิวไปเกือบร้อยเมตร ใต้เข่าเท้าขวาแหลกละเอียดทั้งหมด กลายเป็นฟองโลหิต
พวกเฮยหยวนมองตาค้าง พวกเขาคาดไม่ถึงเลยว่าเมื่อครู่เสิ่นเทียนจะยังกักพลังเอาไว้!
กำลังรบที่แท้จริงของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์คนนี้น่ากลัวกว่าที่พวกเขาคิด!
“ยังมีอีกสองตัวหรือ”
เหอะๆ ช้าเกินไปแล้ว!
ตอนนี้มารโลหิตอีกสองตัวข้ามผ่านเสิ่นเทียน กำลังจะบุกเข้าไปในกลุ่มพวกลูกศิษย์แล้ว
เสิ่นเทียนทำเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นชา ผิวกายเกิดเปลวไฟอัคคีอรุณใต้ลุกขึ้นมาโดยพลัน รวมเป็นเกราะอัสนีปักษาชาด
ในชุดเกราะอัสนีปัญจธาตุของเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมนั้น เต่าดำเน้นการป้องกัน มังกรเขียวเน้นการเยียวยา พยัคฆ์ขาวเน้นการสังหาร กิเลนเน้นทำให้บริสุทธิ์
และเกราะอัสนีปักษาชาดจะเพิ่มความเร็วให้กับผู้ใช้มากที่สุด มอบความเร็วดั่งปักษาเทพให้กับมนุษย์
ขณะเดียวกัน ปีกทองคำเซียนสีทองบริสุทธิ์คู่หนึ่งก็ลอยขึ้นมาจากข้างหลังเสิ่นเทียน
ชุดเกราะเปลวเพลิงผนวกกับปีกเทพทองคำ เปลวไฟลุกท่วมรอบกาย เส้นผมยาวสีทองโบกสะบัดท่ามกลางพลังรุนแรง
ตอนนี้เสิ่นเทียนเปล่งแสงสีแดงอมทองสว่างราวกับเทพลงมาเยือนจากบนฟ้า รูปงามองอาจห้าวหาญ ทำให้คนกราบไหว้!
นี่สิคือความเร็ว!
ปีกเทพขนนกข้างหลังขยับเบาๆ เสิ่นเทียนพลันมาปรากฏระหว่างมารโลหิตสองตัวนั้นกับศิษย์ฝ่ายเซียน
ไสหัวไป!
ภายใต้สายตาตกตะลึงของศิษย์ทั้งหมด เสิ่นเทียนกวัดแกว่งค้อนม่วงทองที่ใหญ่กว่าคนอื่นๆ หลายเท่า ฟาดลงใส่หน้าอกมารโลหิตสองตัวนั้นอย่างแรง
บึ้ม!
บึ้ม!
เพียงลมหายใจสั้นๆ มารโลหิตสองตัวนั้นลอยไปไกลร้อยเมตร ตกลงที่เดียวกับสหายมัน
หน้าอกพวกมันเว้าลงไป เกราะที่รวมออกมาต้านไว้ได้พริบตาเดียวก็ถูกค้อนน้ำมวลหนักทุบแตก
……
ศิษย์ฝ่ายเซียนที่ยืนอยู่ข้างหลังเสิ่นเทียนมองเขาด้วยแววตาเป็นประกายดาวเล็กๆ
ในโลกบำเพ็ญเซียนที่ปลาใหญ่กินปลาเล็กแห่งนี้ ผู้แข็งแกร่งเป็นที่เคารพเสมอ โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งคนนี้ยังมีใบหน้าที่เหนือธรรมดาอีก
อีกทั้งผู้แข็งแกร่งรูปงามคนนี้ยังมีเอฟเฟคพิเศษอีกต่างหาก!
ข้างหลังเสิ่นเทียนในยามนี้เป็นปรากฏการณ์ห้าสัตว์เทพลอยอยู่พร้อมกัน แผ่พลังยิ่งใหญ่ ปีกเทพทองคำยังทอดเป็นเงาปีกลงมา
มือกำค้อนม่วงทอง สายฟ้าสว่างจ้าขยับวูบวาบรอบกายเสิ่นเทียน
ภาพลักษณ์นี้มันไร้พ่ายจริงๆ!
ศิษย์พี่หญิงน้องหญิงทั้งหมดในตอนนี้ต่างมองด้วยความหลงใหล กระทั่งศิษย์น้องชายพวกนั้นยังมองเสิ่นเทียนด้วยแววตาเร่าร้อนอย่างยิ่ง
นั่นคือความเลื่อมใส คือความศรัทธาและความเคารพจากใจจริง เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องเป็นวีรบุรุษเยี่ยงศิษย์พี่เสิ่น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน