และยังดึงดูดผู้ชมระหว่างทางไม่น้อยมาร่วมวงด้วย กลายเป็นขบวนขนาดใหญ่
ตอนที่มาถึงร้านวิญญาณสวรรค์ ผู้คนอัดแน่นไปเกือบครึ่งถนน
สองพ่อลูกเถ้าแก่ซ่งได้ยินความเคลื่อนไหวรีบเดินออกมาพบกับเสิ่นเทียนที่เป็นผู้นำในชุดนักพรตเต๋าและถือป้ายไว้ที่มือ
“ท่านพ่อ เขาจริงด้วย!”
ถึงแม้จะเปลี่ยนชุดและติดหนวดสองเส้น
แต่มันก็ไม่สามารถบดบังความหล่อของเขา คุณชายซ่งจำเสิ่นเทียนได้ในทันที
ก็ได้ ประเด็นคือหน้าตาของเสิ่นเทียนค่อนข้างโดดเด่น
แค่เปลี่ยนชุดติดหนวดก็แปลว่าเปลี่ยนโฉมแล้วหรือ?
คิดว่าคนอื่นตาบอดหรืออย่างไร!
ในแววตาของเถ้าแก่ซ่งเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด กล่าวเสียงเบา “ถ้าหากเป็นเขาจริง เจ้าก็คิดเสียว่าจำเขาไม่ได้ คนผู้นี้ลึกซึ้งไม่อาจหยั่ง พวกเราล่วงเกินไม่ได้!”
ตั้งแต่ตอนที่เสิ่นเทียนก้าวเข้าร้านวิญญาณสวรรค์ เถ้าแก่ซ่งเริ่มตรวจดูภูมิหลังเบื้องลึกของเสิ่นเทียน
ทว่าเขามองไม่ออก
เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังวิญญาณบนร่างกายเสิ่นเทียนแม้แต่น้อย
โดยทั่วไป สถานการณ์เช่นนี้มีความเป็นไปได้เพียงสองอย่าง
อย่างแรกคือพลังบำเพ็ญของเสิ่นเทียนอยู่เหนือเขา
อย่างที่สองคือวิชาที่เสิ่นเทียนฝึกฝนข่มวิชาที่เขาฝึกอย่างสมบูรณ์ และไม่เหนือกว่าเพียงแค่ระดับเดียว
ไม่ว่าความเป็นไปได้อย่างไหน ล้วนแต่แสดงให้เห็นว่าภูมิหลังของเสิ่นเทียนค่อนข้างมีอิทธิพล
ไม่ใช่บุคคลที่ตระกูลซ่งอย่างเขาสามารถล่วงเกิน
บวกกับเมล็ดเจ็ดสมบัติน้ำเต้าเซียนที่เสิ่นเทียนเปิดออกมาก่อนหน้านี้ เถ้าแก่ซ่งรีบเค้นรอยยิ้มออกมาทันที
“ไม่ทราบว่าท่านเซียนเอ้าเทียนมาเยือน ข้าเสียมารยาทที่ไม่ได้ออกมาต้อนรับ หวังว่าท่านเซียนจะไม่ถือสา!”
เสิ่นเทียนอึ้งไปชั่วขณะ เกรงใจกันเช่นนี้เลยหรือ!
หันไปมองคุณชายซ่งที่กำลังยืนเค้นรอยยิ้มอยู่ด้านข้าง เสิ่นเทียนครุ่นคิดในใจ
ดังนั้น เจ้าโง่นี่จำข้าไม่ได้หรือ
ดูเหมือนบทแค่เปลี่ยนชุดและติดหนวดสองเส้นก็สามารถเปลี่ยนโฉม
ในโลกอื่นค่อนข้างได้ผล
…
นึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนถอนหายใจ “เถ้าแก่ซ่งเกรงใจเกินไปแล้ว”
เถ้าแก่ซ่งกล่าวประจบ “ได้ยินมานาน ท่านเซียนเสิ่นไม่เพียงมีทักษะวิญญาณที่ล้ำเลิศ รูปลักษณ์ยิ่งสง่างามเหนือสามัญ ดุจดั่งเซียนเยือนโลก วันนี้ได้เห็นกับตาตนเอง สมคำร่ำลือยิ่งนัก”
เถ้าแก่ซ่งเกรงใจมากเช่นนี้ มันทำให้เสิ่นเทียนรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
อย่างไรก็ดี เมื่อวานข้าเพิ่งกระทืบลูกชายของเจ้า วันนี้เจ้ากลับมาชมข้าเช่นนี้
นี่มันไม่เข้ากับบทในนิยายบําเพ็ญเซียนเลย!
ในเมื่ออีกฝ่ายเกรงใจเช่นนี้ก็ไม่ควรหักหน้า เสิ่นเทียนกล่าว “เถ้าแก่ซ่งกล่าวเกินไปแล้ว รูปลักษณ์ของลูกชายท่านไม่ธรรมดา เหม่งนูนสมบูรณ์ ในวันข้างหน้าเขาจะเป็นอัจฉริยะการบำเพ็ญเซียน อนาคตไร้ขีดจำกัด!”
คุณชายซ่งที่อยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดของเสิ่นเทียน รู้สึกโมโหจนปากเบี้ยว
รูปลักษณ์ไม่ธรรมดาแม่เจ้าสิ มันก็เป็นเพราะโดนเจ้ากระทืบจนบวมต่างหากเล่า!
เหม่งนูนสมบูรณ์อะไรของเจ้า นั่นมันเป็นเพราะโดนเจ้าทำร้ายจนหัวโน!
เพิ่งกระทืบข้าเมื่อวาน วันนี้จงใจเปลี่ยนชุดติดหนวดมาเยาะเย้ย
คนแซ่เสิ่น เจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว!
เถ้าแก่ซ่งพยายามดึงลูกชายที่ต้องการเข้าไปกระทืบเสิ่นเทียน
“ไม่ทราบว่าที่ท่านเซียนมาในวันนี้ มีอะไรจะชี้แนะ”
ก่อนที่เสิ่นเทียนจะได้เอ่ยปาก คนมีวาสนาทั้งสี่ตอบพร้อมกัน “ท่านเซียนมาช่วยพวกเราค้นวิญญาณประเมินแร่”
ค้นวิญญาณประเมินแร่?
หรือปั่นกระแส?
ไม่ใช่!
เถ้าแก่ซ่งขมวดคิ้ว ถ้าหากเป็นการปั่นกระแส เพราะเหตุใดเขาถึงไม่รู้เรื่อง?
อย่างไรก็ดีถ้าทางด้านของเขาไม่ได้เตรียมหินแร่วิญญาณ จะปั่นกระแสอย่างไร
“หรือว่าเจ้าหมอนี่มีความสามารถในการค้นวิญญาณประเมินแร่จริง”
เถ้าแก่ซ่งรู้สึกเย็นวูบในใจ
ในโลกบำเพ็ญเซียน บุคคลที่สามารถฝึกทักษะค้นวิญญาณประเมินแร่ได้สำเร็จ มีคนใดบ้างที่ไม่เนื้อหอม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน