“ข้าว่าเจ้าหมอนี่คิดจะเกาะกระแสเสี่ยวหลิงเซียนดันตัวเองขึ้นมาเสียมากกว่า ไร้ยางอายสิ้นดี”
“ใช่แล้ว ยังจะเรียกพี่เซียนอะไรอีก! ไม่ใช่ว่าจะเป็นหน้าม้าที่ร้านหินวิญญาณหามากระมัง!”
“บอกว่าความสามารถในการค้นวิญญาณประเมินแร่ทั่วหล้าไร้เทียมทาน ใครจะไปรู้ว่าคือการแสดงหรือไม่”
“แม้กระทั่งเสี่ยวหลิงเซียนก็เปิดหินแค่วันละก้อน แต่เจ้าหมอนี่กลับเปิดอย่างต่อเนื่องมากมายเช่นนี้”
“โลภมากไม่รู้จักพอ ข้าว่าเป็นนักต้มตุ๋นเสียมากกว่า!”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว!”
……
“ห้ามพวกเจ้าใส่ร้ายพี่เซียน”
“แม่นางเสี่ยวหลิงเซียนเนี่ยนะ จะคู่ควรที่เทียบกับพี่เซียนหรือ”
“พี่เซียนช่วยผู้มีวาสนาเปิดหินโดยไม่เสียดายพลังปราณ และยังไม่บังคับเรียกเก็บผลตอบแทน”
“เขาจิตใจดีเช่นนี้ ทุ่มเทเช่นนี้ พวกเจ้ากล้าดียังไงมาว่าเขา!”
……
เสิ่นเทียนชงักไปสักพัก จากนั้นครุ่นคิด
หมายความว่าผู้ชายเหล่านี้เป็นแฟนคลับของเสี่ยวหลิงเซียน?
เป็นเพราะข้าก็มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นในสวนหมื่นวิญญาณ ดังนั้นคนเหล่านี้จึงไม่พอใจ?
มองดูผู้ชายเหล่านี้ที่กำลังตำหนิตนเองด้วยความโกรธเคือง
ในใจของเสิ่นเทียนกลับไม่ได้รู้สึกอะไร
ก็แค่พวกคนที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ กล่าวหาผู้อื่นอย่างไร้สมองตามมุมมองของตนเอง
บนโลกอินเทอร์เน็ตในภพที่แล้ว เสิ่นเทียนเจอคนประเภทจอมยุทธ์คีย์บอร์ดและแฟนคลับไร้สมองมามากแล้ว
พูดอย่างไม่น่าฟังหน่อย แม้กระทั่งไอดอลที่คนเหล่านี้กำลังติดตาม
ก็มีความเป็นไปได้ที่จะรู้สึกว่าคนเหล่านี้ไร้สมอง
มันไม่คุ้มค่าที่จะมาโกรธเคืองคนเหล่านี้
……
นึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย เตรียมตัวเดินออกห่างจากที่นี่
อย่างไรเสีย การอยู่ห่างจากพวกคนมีสติปัญญาต่ำเป็นความเคยชินที่ดี
ทว่าแฟนคลับเหล่านั้นเหมือนจะสังเกตเห็นเสิ่นเทียนแล้ว
พวกเขากรูกันเข้ามาหาเสิ่นเทียนทั้งหมด
แต่ละคนกล่าวกับเสิ่นเทียนด้วยความโกรธ “เจ้าก็คือเสิ่นเอ้าเทียนใช่หรือไม่! ได้ยินมาว่าเจ้าอ้างตนว่าเป็นท่านเซียน เจ้าคิดว่าเจ้าคู่ควรกับชื่อนี้หรือ”
“ในสวนหมื่นวิญญาณมีเสี่ยวหลิงเซียน ฉายา ‘ท่านเซียน’ ของเจ้านี้จงใจจะเป็นคู่แข่งใช่หรือไม่”
“เสิ่นเอ้าเทียน เจ้าคิดว่าทักษะค้นวิญญาณประเมินแร่ของเจ้ากับเสี่ยวหลิงเซียน ใครเหนือกว่ากัน”
……
เผชิญหน้ากับข้อสงสัยและคำถามของผู้คน เสิ่นเทียนไม่ได้ตอบอะไร
เพราะเขารู้ดีว่าเผชิญหน้ากับคนเช่นนี้ ถึงจะอธิบายอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์
วิธีการเอาชนะคนโง่เขลาที่ดีที่สุดก็คือเผชิญหน้ากับคนโง่เขลา
หลังจากนั้นมองข้ามคนโง่เขลาไปอย่างสวยงาม
“หลบหน่อย หลบหน่อย พวกเราต้องรีบไปร้านหินวิญญาณร้านต่อไป!”
กุ้ยกงกงและฉินเกาเข้ามาคุ้มกันเสิ่นเทียน ช่วยเขาขวางคนที่พุ่งเข้ามา
ส่วนผู้มีวาสนาทั้งยี่สิบคนก็ยืนเรียงตัวเป็นกำแพงมนุษย์เพื่อเสิ่นเทียน
อย่างไรก็ดี พวกเขายังหวังท่านเซียนพาพวกเขาไปสู่ความมั่งคั่ง!
ในตอนนั้นเอง มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากฝูงชนอย่างกะทันหัน
“เสี่ยวหลิงเซียนมาแล้ว!”
“ว้าว ในที่สุดเสี่ยวหลิงเซียนของข้าก็มาแล้ว ดูเหมือนวันนี้แต่งตัวสวยยิ่งกว่าเมื่อวานเสียอีก!”
“เสี่ยวหลิงเซียน ที่นี่มีคนอ้างตัวว่าเป็นท่านเซียนมาเอาเปรียบเจ้า รีบมาเปิดโปงเขาเร็ว!”
“คนแซ่เสิ่น กล้าแข่งกับเสี่ยวหลิงเซียนหรือไม่ ใครแพ้ไสหัวออกจากสวนหมื่นวิญญาณ!”
“ใช่ ไสหัวออกจากสวนหมื่นวิญญาณ!”
……
ฝูงชนถอยแยกเปิดทาง เสี่ยวหลิงเซียนในชุดกระโปรงยาวเดินเข้ามา
นางโดดเด่นแตกต่างจากคนธรรมดา เยื้องกรายเข้ามาราวกับเทพธิดา ยังมีเสน่ห์งดงามล้มชาติล้มเมืองเฉกเช่นครั้งแรกที่เจอนางเมื่อวาน
แต่ทว่า มองเสี่ยวหลิงเซียนในตอนนี้ จิตใจของเสิ่นเทียนนิ่งสงบ
เหตุผลง่ายมาก เพราะเขารู้ตื้นลึกหนาบางของเสี่ยวหลิงเซียนหมดแล้ว
แม่นางผู้นี้ไม่ใช่เทพธิดาที่เชี่ยวชาญทักษะวิญญาณอะไรทั้งสิ้น
แต่เป็นหน้าม้าขายแร่ตัวจริงเสียงจริงที่ปลอมยิ่งกว่าเสิ่นเทียนเสียอีก!
ใครจะเป็นคนเปิดโปงใครกันแน่!
……
เสี่ยวหลิงเซียนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเสิ่นเทียนอย่างเชื่องช้าทีละก้าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน