บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 281

บทที่ 281 เคราะห์สวรรค์คือปีศาจโอหัง (1)

ปรากฏร่างคนขึ้นกลางอากาศ พวกเขาคือผู้อาวุโสของฝ่ายเซียนใหญ่ๆ

เรื่องใหญ่ที่ฉีเซ่าเสวียนท้าสู้กับสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ได้ดึงดูดสายตาของทั้งโลกบำเพ็ญเซียนดินแดนบูรพา

กล่าวได้ว่าเรื่องแพ้ชนะในศึกนี้ถึงขั้นส่งผลถึงบารมีและฐานะของแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่เป็นเรื่องสำคัญมาก

อย่ามองว่าเป็นเพียงรุ่นเยาว์ระดับแก่นพลังทองสู้กัน ความจริงแล้วมีผู้อริยะคอยดูแลและท้าทายกันในเงามืดไม่ใช่แค่คนสองคน

เดิมทีฟางฉางกับจางอวิ๋นซีร่วมมือกันกดดันฉีเซ่าเสวียนก็ทำให้ขุมอำนาจที่ถูกบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงยำจำนวนมากสบายอกสบายใจ

ตอนนี้เกิดเคราะห์สวรรค์น่าตกใจขึ้นบนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์อีก จึงยิ่งดึงดูดใจคน

มีแต่คนบอกว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนรุ่นนี้มีมหาโชคอยู่ข้างกาย เป็นบุตรแห่งโชคที่ไม่ด้อยไปกว่าฉีเซ่าเสวียน

กระทั่งคนส่วนใหญ่บอกว่าดวงชะตาและพรสวรรค์ของเสิ่นเทียนเหนือกว่าฉีเซ่าเสวียน

คำพูดนี้จริงหรือไม่ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สร้างกระแสหรือไม่ เดี๋ยวได้รู้กันแล้ว

…………

เคราะห์สวรรค์บนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ยังคงรวมตัวกันเรื่อยๆ

อำนาจสวรรค์รุนแรงทำให้ผู้แข็งแกร่งมากมายบนฟ้าถอยหนี ไม่อยากถูกดึงเข้าไปพัวพัน

ไม่ใช่เพราะอำนาจเคราะห์สวรรค์บนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งอะไรขนาดนั้น แต่เป็นเพราะเจ้าเคราะห์สวรรค์นี่เจ้าคิดเจ้าแค้น

ไม่ว่าระดับพลังแข็งแกร่งเพียงใด หากเจ้าเข้าไปในเคราะห์อัสนีของคนหรือสุดยอดสมบัติอื่น ก็จะถูกเพ่งเป้าแน่นอน

อีกทั้งเคราะห์อัสนียังแข็งแกร่งหรืออ่อนแอตามระดับพลัง ปรับระดับความแกร่งของเคราะห์อัสนีโจมตีใส่เจ้า ให้การบริการอย่างรู้ใจเจ้ามาก

ดังนั้น ยิ่งเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีระดับพลังสูงมากเท่าไรก็ยิ่งไม่กล้าล่วงเกินเคราะห์สวรรค์

ส่วนคนโหดที่กล้าฟาดแส้ใส่เมฆเคราะห์หรือตบฝ่ามือใส่ อืม…ล้วนอนาถกันมานักต่อนักแล้ว

สายฟ้าดังเปรี๊ยะๆ เริ่มตกลงมาจากชั้นเมฆ กลายเป็นดาบยาวสายฟ้าฟันใส่ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์

ปรากฏเสี้ยวร่างสีดำร่างหนึ่งลอยขึ้นบนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ท่ามกลางสายตาของทุกคน ผิวกายคลุมด้วยเกราะแสงสีดำเมี่ยม ต้านไปทางสายฟ้าพวกนั้น

เปรี้ยง!

เปรี้ยงๆๆ~!

เปรี้ยงๆๆๆๆ~

สายฟ้าฟันใส่วัตถุสีดำนั้นดั่งดาบยาว ประกายแสงสว่างวาบ

ตอนนี้ทุกคนเห็นของสีดำนั้นชัดเจนแล้ว นี่ไม่ใช่บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียน แต่เป็นไข่สีดำ

มันหมุนช้าๆ กลางอากาศ พลังวิญญาณโดยรอบในระยะพันจั้งเหมือนกลายเป็นน้ำวนใหญ่ หลั่งไหลเข้าไปในไข่สีดำนั้นอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อพลังวิญญาณหลั่งไหลเข้าไปในไข่นั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ลายมังกรบนเปลือกไข่ก็ชัดเจนขึ้น กระทั่งมีเสียงมังกรดังขึ้น

เอ๋าอูใต้สะโพกฉีเซ่าเสวียนมีสีหน้าย่ำแย่ ส่งเสียงครวญครางเบาๆ

“แรงกดดันสูงมาก นะ…นี่คือแรงกดดันจากสายเลือด เป็นไปได้อย่างไร ข้าเป็นมังกรดำระดับแปดแท้ๆ!”

เอ๋าอูที่เดิมทียืนอยู่บนฟ้าตกลงพื้นอย่างแรง อำนาจคุกคามยิ่งใหญ่ถาโถมใส่ตัวเขา กดเขาจนต้องก้มหน้าลง

นี่ไม่ใช่กลอุบายพิเศษอะไร แต่เป็นการกดดันจากส่วนลึกของสายเลือด เป็นการกดดันของเผ่ามังกรระดับสูงต่อเผ่ามังกรระดับล่าง

และเพราะเหตุนี้เอง ภายในใจเอ๋าอูถึงเหลือเชื่อยิ่งกว่า ถึงอย่างไรเขาก็เป็นมังกรดำระดับแปด

หลายพันปีมานี้ในดินแดนบูรพา เขาคือเผ่ามังกรที่มีพรสวรรค์สูงสุดแล้ว

ต่อให้นับรวมโอรสสวรรค์เผ่ามังกรเกาะมังกรดำทั้งหมดในหมื่นปีมานี้ เขาก็อยู่ในห้าอันดับแรก

อีกทั้งความบริสุทธิ์ของสายเลือดมังกรดำระดับแปดอีกสี่คนก็อาจจะไม่สูงกว่าเขา ไม่มีทางสร้างอำนาจคุกคามให้เขาได้แกร่งขนาดนี้

ถึงเอ๋าอูจะยังเยาว์วัย แต่ก็มีความโอหังของเผ่ามังกร เขาไม่ยอมให้อำนาจมังกรที่ไม่รู้ที่มาที่ไปกดดันเช่นนี้แน่ เขาถึงได้กำลังต่อต้านอยู่

แขนขาและนิ้วเท้าทั้งห้าของเขาฝังลึกลงดิน ร่างมังกรยกขึ้นด้วยความไม่ยอม มองบนฟ้ายอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ด้วยความโอหัง

เขาอยากจะเห็นให้ชัดว่าไข่มังกรลึกลับนี่เป็นใครกันแน่ จะต้องเห็นให้ชัด!

“เป็นแค่ไข่มังกรที่ไม่รู้ที่มาที่ไป ก็คิดจะให้ข้าศิโรราบรึ อย่าหวังเลย กระดูกมังกรข้าเป็นโลหะ ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ!”

สามนาทีต่อมา เอ๋าอูหมอบลงไปแล้ว

เฮ้อ ต่อต้านเหนื่อยชะมัดเลย

ในเมื่อรู้สึกถึงอำนาจคุกคามจากส่วนลึกสายเลือดว่าไข่มังกรนี่มีสายเลือดบริสุทธิ์กว่าข้า เช่นนั้นก็น่าจะไม่ผิดแล้ว!

เมื่อเผชิญหน้ากับเผ่ามังกรที่มีสายเลือดบริสุทธิ์กว่าตน การหมอบแสดงความเคารพก็ไม่ใช่เรื่องน่าขายหน้า

อืม ความรู้สึกที่ได้หมอบกับพื้นดูคนใหญ่คนโตฝ่าด่านเคราะห์นี่ก็ดีเหมือนกัน

ฉีเซ่าเสวียนด้านข้างเอามือตบหน้าผาก พูดไม่ออก

นี่น้องเล็ก หากเจ้าไม่ไหวจริงๆ ไฉนไม่บอกแต่แรก

เป็นสหายทำสัญญาเทพมังกรกับแซ่ฉี เกียรติของเจ้าก็คือเกียรติของข้าแซ่ฉีด้วย

ทำปากดีต่อหน้าคนมากขนาดนี้ จากนั้นถูกตบหน้าทุกนาที นี่เจ้าจะให้แซ่ฉีเอาหน้าไปไว้ที่ใด

น่าขายหน้ามาก

…….

“แค่กๆ สหายของแซ่ฉีสภาพไม่ค่อยดี เราหยุดพักการต่อสู้ชั่วคราวดีหรือไม่”

เมื่อเห็นฟางฉางกับจางอวิ๋นซีที่มองตาเป็นมันแล้ว ฉีเซ่าเสวียนถึงกับกลืนน้ำลาย เหงื่อซึมออกมาจากหน้าผาก

สารภาพตามตรง หากเอ๋าอูไม่มีปัญหา พวกเขาจะใช้วิชาโจมตีประสานในคัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้จริงด้วยกัน กวาดล้างทุกคนให้เรียบ

อย่าว่าแต่ฟางฉางกับจางอวิ๋นซีเลย ต่อให้เป็นจางอวิ๋นถิงลงสนามอย่างเป็นทางการ ฉีเซ่าเสวียนก็มั่นใจอย่างยิ่งว่าจะเอาชนะได้ทั้งหมด

แต่ตอนนี้เจ้ามังกรน้อยเอ๋าอูถูกกดดันให้หมอบลง ลุกไม่ขึ้น แล้วจะสู้อย่างไร

อีกทั้งฉีเซ่าเสวียนยังรู้สึกได้ชัดเจนว่ากำลังรบของตนถูกลดกำลังรบ

แม้เขาจะได้โชคลิขิตมามากมาย แต่แก่นหัวใจสำคัญของกำลังรบเขาคือคัมภีร์จักรพรรดิเคหาสน์ม่วง คัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้จริงและคัมภีร์จักรพรรดินิพพานอมตะ

คัมภีร์จักรพรรดินิพพานอมตะในนั้นเน้นใช้การรักษาฟื้นฟู คัมภีร์จักรพรรดิเคหาสน์ม่วงกับคัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้จริงเน้นการต่อสู้

แต่พลังแห่งมังกรแท้จริงในตัวเขามีต้นกำเนิดร่วมกับเอ๋าอู จึงถูกเผ่ามังกรระดับสูงกว่ากดลงเช่นกัน

เพียงแค่แรงกดดันที่เขารู้สึก ไม่ถึงขั้นก้มหัวอย่างเอ๋าอูเท่านั้น

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ฉีเซ่าเสวียนก็ยังรู้สึกว่ากำลังรบของตนในตอนนี้ลดลงสองถึงสามส่วนขึ้นไปแล้ว เขาในสภาพนี้ หากสู้กับฟางฉางและจางอวิ๋นซีอีก ก็มีโอกาสสูงมากที่จะถูกลากถูไปกับพื้นอย่างบ้าคลั่ง

ดังนั้นถึงจะอับอายกว่านี้ ฉีเซ่าเสวียนได้แต่ยื่นคำร้องขอยืดการต่อสู้ไปก่อน รอเจ้าหนูเอ๋าอูฟื้นกลับมา

พยัคฆ์ขาวสายฟ้ามองฉีเซ่าเสวียนอย่างเฉยชา เสียงเย็นชาของจางอวิ๋นซีดังขึ้น “เจ้า บอกว่าจะเอาจริงไม่ใช่รึ”

ฉีเซ่าเสวียนพูดไม่ออก

กายแท้วิญญาณยักษ์ของฟางฉางแบกทวนยาว เหมือนกำลังคิดอยู่ว่าจะกระแทกที่ใดถึงจะสบายใจดี “เจ้าบอกว่าอยากเลือดร้อน ว่าพวกเรายังแกร่งไม่พอไม่ใช่รึ”

ฉีเซ่าเสวียนเงียบ

ความรู้สึกแสบร้อนตีขึ้นที่ใบหน้า ฉีเซ่าเสวียนแอบใช้พลังวิญญาณสีม่วงปกคลุมทั้งตัว

ถ้ารู้ว่ากระดูกแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เคี้ยวยากแต่แรก เขาคงไม่ปากดีขนาดนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน