แม่นางที่มาโดยไม่ได้รับเชิญผู้นี้คือเสี่ยวหลิงเซียน
หลังจากเสี่ยวหลิงเซียนหงุดหงิดจากไปเมื่อตอนกลางวัน ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห
ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่มีทางเชื่อว่า เสิ่นเทียนที่มีอายุไล่เลี่ยกับตนเองจะเป็นถึงปรมาจารย์ชีพจรวิญญาณ
ต้องบอกก่อนว่าในโลกของการบําเพ็ญเซียน ปรมาจารย์ชีพจรวิญญาณส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นพวกตาแก่ที่มีอายุพอๆ กับวัตถุโบราณ!
หลังจากครุ่นคิด เสี่ยวหลิงตัดสินใจไปตรวจสอบเสิ่นเทียน
นางอยากรู้ว่าเจ้าหมอนี่มีความสามารถจริง หรือแค่หลอกลวงเหมือนกับนางกันแน่
ด้วยเหตุนี้หลังจากเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าแล้ว เสี่ยวหลิงเซียนก็แฝงตัวเข้าไปในฝูงชน
ต้องยอมรับเลยว่าทักษะการแต่งหน้าของเด็กสาวคนนี้สามารถพิชิตผู้ชายได้ในพริบตา
เมื่อเสี่ยวหลิงเซียนเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าให้ดูอัปลักษณ์แล้ว ฝูงชนไม่มีใครจำนางได้แม้แต่คนเดียว
ด้วยวิธีนี้ เสี่ยวหลิงเซียนเดินตามหลังเสิ่นเทียนมาทั้งวันแล้ว
ชั่วโมงแรกที่ดูการเปิดหิน ‘เจ้าหมอนี่ต้องเป็นพวกต้มตุ๋นแน่นอน ต้องเป็นวิชาบังตา’
ชั่วโมงที่สองของการเปิดหิน ‘ถึงขั้นจ้างคนผ่านทางตั้งมากมาย ทักษะการแสดงไม่เลวเสียด้วย!’
ชั่วโมงที่สามของการเปิดหิน ‘ทำไมเถ้าแก่ร้านเหล่านี้ดูไม่เหมือนกำลังแสดงเลย’
ชั่วโมงที่สี่ของการเปิดหิน ‘เจ้าหมอนี่…คงจะไม่ใช่ปรมาจารย์ชีพจรวิญญาณจริงๆ กระมัง!’
ชั่วโมงที่ห้าของการเปิดหิน ‘ให้ตาย ได้แล้ว ได้แล้ว ได้อีกแล้ว!’
……
หลังจากหินแร่ถูกเปิดออกมาทีละก้อนอย่างต่อเนื่อง ผู้มีวาสนาแต่ละคนดีใจจนน้ำตาไหล
ในที่สุดเสี่ยวหลิงเซียนก็ต้องยอมรับ นางเสแสร้งทำเป็นเก่งมาโดยตลอด ส่วนเสิ่นเทียน…
ร้ายกาจของจริง!
ดังนั้นนางจึงค่อยๆ ถูกผู้มีวาสนาที่อยู่รอบตัวล้างสมองทีละนิด และอดไม่ได้ที่จะเข้าร่วมลัทธิปรมาจารย์เซียนด้วย!
อย่างไรเสีย ‘ซื้อหินแร่วิญญาณตามท่านเซียน ปีหน้าตำหนักเซียนอยู่ใกล้มหาสมุทร’ คำกล่าวประโยคนี้ก็มีแรงดึงดูดมากเกินไป
……
“เจ้าคิดจะทำอะไร!”
ครั้นเผชิญหน้ากับคำถามของเสิ่นเทียน เสี่ยวหลิงเซียวไม่ได้ตอบ
นางกล่าวเอาอกเอาใจ “พี่เสิ่นท่านคงเหนื่อยแล้วกระมัง! หลิงเอ๋อร์นวดไหล่ทุบน่องให้ท่านดีหรือไม่”
ในขณะที่พูด เสี่ยวหลิงเซียนนั่งยองลงตรงหน้าเสิ่นเทียน จากนั้น…
เริ่มทุบน่องให้เสิ่นเทียนอย่างเบามือ!
อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย รู้สึกสบายจริงๆ!
เสิ่นเทียนสัมผัสความรู้สึกสักพัก ฝีมือนางไม่ได้ด้อยไปกว่ากุ้ยกงกงสักเท่าไร
เพียงแต่ถ้าหากแฟนคลับของนางมาเห็นภาพนี้เข้า เกรงว่าคงไม่รู้ว่ามีกี่คนที่หัวใจต้องแตกสลาย!
“เป็นอย่างไรบ้าง พี่เสิ่น แรงประมาณนี้ได้หรือไม่”
เด็กสาวเงยหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้มที่สดใส ราวกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน
แต่ว่าในสายตาของเสิ่นเทียน มักจะรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลเสมอ
เขาเหลือบมองเสี่ยวหลิงเซียน “เจ้ากำลังคิดจะทำอะไร”
‘เมื่อกลางวันยังด่าข้าว่าสารเลวอยู่เลย พอตอนนี้มาเรียกข้าว่า ‘พี่เสิ่น’ เต็มปากเต็มคำ แถมยังนวดไหล่ทุบน่องให้ข้าเองอีก
ผู้หญิงคนนี้มาเอาอกเอาใจอย่างไร้เหตุผล ต้องมีอะไรแอบแฝงแน่’
เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นเทียน รอยยิ้มบนใบหน้าของเสี่ยวหลิงเซียนยิ่งดูสดใสมากขึ้น
นางมองเสิ่นเทียนพลางคุกเข่าลงพื้นด้วยความเคารพ “พี่เสิ่นโปรดรับหลิงเอ๋อร์เป็นลูกศิษย์ด้วย!”
……
อะไรนะ!
เจ้าพูดว่าอะไรนะ!
เสิ่นเทียนตกตะลึง “รับเจ้าเป็นศิษย์?”
“ใช่แล้ว!”
เสี่ยวหลิงเซียนเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นเทียน ใบหน้าที่งดงามละเอียดอ่อนของนางเต็มไปด้วยความจริงใจ
“หลิงเอ๋อร์จริงจังนะ! พี่เสิ่นได้โปรดรับหลิงเอ๋อร์เป็นศิษย์ด้วย สอนวิชาค้นวิญญาณประเมินแร่ให้หลิงเอ๋อร์ด้วยเถิด”
ตายๆๆๆ!
ผู้หญิงที่งามเพริศพริ้งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเจ้า ขอให้เจ้ารับนางไว้ เจ้าสามารถทนได้หรือ
ขอเพียงเป็นผู้ชายปกติ ไม่มีใครสามารถทนได้หรอกกระมัง!
แต่ว่าเสิ่นเทียนอดกลั้นเอาไว้ได้
เหตุผลนั้นง่ายมาก
เขามีทักษะค้นวิญญาณประเมินแร่ที่ไหนกันล่ะ
หากรับผู้หญิงคนนี้ไว้ จะให้สอนอะไร เครื่องดนตรีหรือ
ถึงเวลานั้นความไม่แตกหรอกหรือ!
“ข้าปฏิเสธ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน