บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 311

บทที่ 311 เบิกฟ้าเข้าสู่กาย ยอมเป็นปีศาจ (1)

ศพปลาหมึกยักษ์ขนาดหลายร้อยจั้งลอยอยู่บนผิวทะเล

เสิ่นเทียนยืนถือกระบี่ ร่างกลายเป็นยิ่งใหญ่เหยียดตรงในสายตาของทุกคน

แม้ฉีเซ่าเสวียนจะเห็นเคล็ดกระบี่นี้เป็นครั้งที่สอง ก็ยังคงตื่นตกใจจากใจจริง

จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นที่ไม่เคยเห็นวิชากระบี่นี้ ตอนนี้ทั้งกายและใจตกตะลึงและนับถือไปแล้ว

นี่สิคือเคล็ดกระบี่สูงสุดที่แท้จริง

‘โลหิตมรกตส่องดอกตันเกย’ ของเผ่าอสรพิษดำทะเลมรกตอะไรนั่น เทียบกับทักษะกระบี่นี้แล้วเหมือนกับของเด็กเล่น

ความต่างมากเกินไปจริงๆ!

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ แก่นภายในของปลาหมึกนี่มอบให้แซ่ไป๋ได้หรือไม่”

คุณชายไป๋แห่งเผ่าเทพหมึกยักษ์มองปลาหมึกมหึมานั้นด้วยดวงตาเป็นประกายสว่างพร่างพราว

ปลาหมึกนี้มีสายเลือดแก่กล้า แม้จะไม่มีสติปัญญา อาศัยเพียงกำลังรบโดยสัญชาตญาณก็ยังเทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์

สำหรับคุณชายไป๋แล้ว หากได้แก่นภายในมันมาหลอมรวมดูดซับ จะเพิ่มศักยภาพของตนไปจนถึงมีส่วนช่วยในการยกระดับสายเลือดอย่างมาก

คุณชายไป๋มองเสิ่นเทียนด้วยดวงตาลุกวาว นำน้ำตาดาวเทพสมุทรออกมาห้าเม็ด “แซ่ไป๋ยินดีใช้น้ำตาดาวเทพสมุทรห้าหยดแลก”

แม้น้ำตาดาวเทพสมุทรจะล้ำค่า แต่ใช้ไปสามเม็ดก็เพียงพอแล้ว หลังจากห้าเม็ดแทบจะไม่มีผล

สู้เอามาแลกเป็นแก่นภายในของปลาหมึกนี่ดีกว่า ถึงอย่างไรแก่นภายในก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเป็นพิเศษกับคนอื่นๆ

“ในเมื่อสหายไป๋ต้องการก็เอาไปได้เลย ไฉนต้องเอาน้ำตาดาวอะไรนั่นมาแลก”

เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย ก่อนใช้หนึ่งกระบี่ผ่าศพปลาหมึกสัตว์ร้าย ตัดแก่นภายในยักษ์ขนาดจั้งกว่าออกมา

อืม พลันรู้สึกว่าแก่นพลังทองของข้ามีขนาดปกติเลย

เสิ่นเทียนโยนแก่นภายในให้คุณชายไป๋ “แก่นภายในอยู่นี่ สหายไป๋เอาน้ำตาดาวคืนไปเถอะ!”

เมื่อเอ่ยจบ เสิ่นเทียนก็มองแก่นภายในในมือคุณชายไป๋ ใบหน้าเผยรอยยิ้มไม่ใส่ใจ

แซ่เสิ่นมีน้ำตาดาวสองร้อยกว่าเม็ด ยังต้องสนใจห้าเม็ดของเจ้ารึ

จริงๆ เลย…

แน่นอน หากเจ้าจะให้ให้ได้ แซ่เสิ่นก็จะไม่เกรงใจเช่นกัน

คุณชายไป๋เป็นคนทำงานด้านข่าวกรอง คนที่ทำงานด้านนี้มีใครบ้างไม่ใช่เด็กฉลาด…แค่กๆ ปีศาจฉลาด ก็ไม่ใช่อีก

ถึงอย่างไรในทุกคนที่นี่ วัดที่กำลังรบแล้ว คุณชายไป๋อาจจะไม่ติดอันดับชั้นนำ

แต่การวางตัว เหอะๆ ฉีเซ่าเสวียนอะไรนั่น เอ๋าอูอะไรนี่ เป็นน้องเขาหมด!

คุณชายไป๋เก็บแก่นภายในไป ก่อนจะยัดน้ำตาดาวห้าเม็ดใส่มือเสิ่นเทียน “บุตรศักดิ์สิทธิ์ลำบากสังหารปลาหมึกนี่เช่นนี้ จะให้แซ่ไป๋รับผลประโยชน์ไปคนเดียวได้อย่างไร นี่ก็อาจจะเกินไปหน่อย”

เมื่อเอ่ยจบ เขาก็ควักน้ำตาดาวหยดหนึ่งส่งให้ฉีเซ่าเสวียนอีก “เมื่อครู่ตอนสังหารปลาหมึกนี่ สหายฉีก็ลำบากเช่นกัน ขอให้สหายฉีรับน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ไว้ด้วย”

คุณชายไป๋มีน้ำตาดาวเทพสมุทรทั้งหมดสิบห้าเม็ด ให้ไปทีเดียวหกเม็ด ตนเหลือเพียงเก้าเม็ด

แต่ในระดับบางอย่าง เขาก็ได้รับการยอมรับจากเสิ่นเทียนและฉีเซ่าเสวียนเช่นกัน

ถึงอย่างไรโชควาสนาคำนี้ ต้องผลัดกันรับผลัดกันแบ่งถึงจะยืนยาว

หากเอาเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว โชควาสนาจะหมดลงอย่างรวดเร็ว

อืม นี่เป็นสิ่งที่คุณชายไป๋ได้ฟังมาจากหลี่อวิ๋นเฟิง และหลี่อวิ๋นเฟิงก็ฟังมาจากผู้จริงแท้หลิวไท่อี่คนนั้นของลัทธิปรมาจารย์สวรรค์

คุณชายไป๋คิดว่าหลี่อวิ๋นเฟิงพูดถูกต้อง รับผลประโยชน์อีกฝ่ายมาแล้วก็ต้องตอบแทน

ไม่เช่นนั้น คนอื่นเขาจะคิดว่าปีศาจน้อยอย่างเจ้าไม่รู้จักวางตัว

…….

“สหายไป๋ เจ้านี่จริงๆ เลย เกรงใจไปแล้ว!”

ในเมื่อคุณชายไป๋มอบให้ด้วยความจริงใจเช่นนี้ เสิ่นเทียนก็จะปฏิเสธน้ำใจของเขาไม่ได้

แหวนเก็บของในมือเขาขยับแสงวูบหนึ่ง กระบี่วารีครามเข้าไปในแหวนอีกครั้ง น้ำตาดาวเทพสมุทรห้าเม็ดก็เข้าไปในแหวนพร้อมกัน

เฮ้อ ใครว่าปีศาจกับมนุษย์ในโลกนี้ไม่ถูกกัน นี่ก็สนิทสนมกันดีไม่ใช่รึ!

เสิ่นเทียนคิดว่าอคติที่เผ่ามนุษย์มีต่อเผ่าปีศาจคือภูเขาใหญ่ ต้องเคลื่อนออก

หลังจากหมึกยักษ์ถูกสังหาร หมู่เกาะตรงหน้าก็เผยมาตรงหน้าพวกเสิ่นเทียน

จะบอกว่าเผยก็ไม่ถูกต้องเท่าไร เพราะภายนอกหมู่เกาะนี้ถูกหมอกเบิกฟ้าหนาแน่นปกคลุม เข้าไปไม่ได้

มีเพียงชายหาดเล็กรอบนอกหมู่เกาะที่ออกมานอกหมอกเบิกฟ้า อีกทั้งยังผลุบๆ โผล่ๆ

“เดาว่าต้องรออีกสักพักถึงจะเข้าเกาะนี้ได้ รอหน่อยเถอะ!”

ปีกข้างหลังเสิ่นเทียนขยับแสง พลันมาลงมาชายหาดในพริบตา

พวกฉีเซ่าเสวียนดูทิศทางลมตามเสิ่นเทียน ย่อมตามหลังเขาไปติดๆ

หลังจากเดินทางมาเป็นเวลานาน ทุกคนเสียพลังฤทธิ์ไปไม่ถือว่าน้อย ตอนนี้ต้องพักสักหน่อย

ทว่าตอนนี้เอง หมอกเบิกฟ้าบนน่านฟ้าเหนือหมู่เกาะเกิดเสียง ‘เปรี้ยงๆๆ’ เปิดออกด้วยความบังเอิญพอดี

“สหายเสิ่นเป็นบุตรแห่งโชคจริงๆ เพิ่งมาถึงหน้าเกาะก็เริ่มเลย”

คุณชายไป๋กำลังนั่งบนแก่นภายในสูงจั้งกว่า หนวดแปดเส้นพันแก่นภายในไว้แน่น กำลังเตรียมหลอมรวม

เพราะปกติแล้ว หมู่เกาะที่ยิ่งมีหมอกเบิกฟ้าหนาแน่นมากเท่าไร ช่วงการเปิดและปิดก็จะยาวนานมากเท่านั้น

บางครั้งขนาดรอต่อเนื่องไปสิบวันครึ่งเดือน ปราการหมอกก็ยังไม่เปิด นี่เป็นเรื่องปกติมาก

คุณชายไป๋เตรียมจะใช้เวลาสองสามวันนี้หลอมรวมแก่นภายใน เสริมศักยภาพรอบหนึ่งก่อนแล้วค่อยว่ากัน

แต่ไม่นึกเลยว่าเขาเพิ่งตั้งท่าเตรียมตัว ‘นั่งคร่อมกอดแก่นพลัง’ ปรากฏว่าม่านเบิกฟ้านั้นก็แตกออก

นี่น่าอายแล้ว

“รอข้าด้วย ทุกท่านรอข้าด้วย!”

คุณชายไป๋พยายามเก็บแก่นภายในนี้เข้าไปในกายอีกครั้งไปพลาง เอาศีรษะมุดเข้าไปในปราการเบิกฟ้าไปพลาง

ไม่ใช่เขาคนเดียว

ตอนนี้คุณชายซา คุณชายเซี่ย คุณชายอู่และเอ๋าอูกำลังเอาศีรษะมุดเข้าไปอย่างยากลำบาก

อำนาจคุกคามที่เกิดจากหมอกเบิกฟ้านี้รุนแรงกว่าหมู่เกาะนั้นที่เจอน้ำตาดาวเทพสมุทรมาก แทบจะเข้าไปได้ยากมาก

โชคดีมากที่มีฉีเซ่าเสวียนกับเสิ่นเทียนเปิดทางอยู่ข้างหน้า ลดแรงกดดันไปมหาศาล ไม่เช่นนั้นต่อให้หมู่เกาะเปิด พวกเขาก็อาจจะเข้าไปไม่ได้

…….

เปรี้ยง~

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน