บทที่ 311 เบิกฟ้าเข้าสู่กาย ยอมเป็นปีศาจ (2)
“ไม่~!”
คุณชายไป๋คุกเข่าลงแล้วทุบพื้น
ใบหน้าที่เดิมทีสุภาพเป็นกันเองเหมือนปัญญาชน ตอนนี้เต็มไปด้วยความไม่ยอมและจะเป็นจะตาย
เขาละอายใจอย่างยิ่ง “เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร! เป็นเพราะช่วยแซ่ไป๋ หากไม่ใช่เพราะแซ่ไป๋ช้า สหายเสิ่นคงไม่ตาย!”
พวกเอ๋าอูก็มีสีหน้าย่ำแย่ยิ่งเช่นกัน ถึงพวกเขาจะเป็นปีศาจ แต่ก็มีสติปัญญา กระทั่งรู้จักหลักการตอบแทนบุญคุณยิ่งกว่าเผ่ามนุษย์ส่วนใหญ่เสียอีก
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียน ยอมสละชีวิตของตนเพื่อช่วยปีศาจพวกเขา
นี่คือจิตใจแบบใดกัน นี่คือจิตใจที่ยอมเป็นปีศาจ คือยอดความรักที่ทำให้เผ่าปีศาจทั้งหมดต้องน้ำตาไหลพราก
ในอดีตกาลมีพระพุทธองค์เฉือนเนื้อให้เหยี่ยวกิน ในวันนี้มีสหายเสิ่นสละชีวิตช่วยปีศาจ ซาบซึ้งใจ น่าซาบซึ้งใจจริงๆ!
นี่สิคือพันธมิตรเผ่ามนุษย์ที่แท้จริง คือสะพานมิตรภาพของเผ่าปีศาจและเผ่ามนุษย์!
“นับจากนี้ไป แซ่ไป๋ยินดีจะเลี้ยงดูครอบครัวเขาแทนสหายเสิ่น บิดาของสหายเสิ่นคือบิดาของแซ่ไป๋ สหายของสหายเสิ่นคือสหายของแซ่ไป๋ ภรรยาของสหายเสิ่นคือภรรยา…คือพี่สะใภ้ของแซ่ไป๋ ชีวิตนี้ ขอส่งเสริมคุณธรรมยิ่งใหญ่ที่ยอมเป็นปีศาจของสหายเสิ่น หากผิดคำสาบาน ขอให้ฟ้าดินร่วมประณาม”
คุณชายไป๋ชูแปดหนวดสาบานจากใจจริง สาบานต่อฟ้า
สำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญที่ก้าวสู่เส้นทางการฝึกบำเพ็ญแล้ว คำสาบานจะกล่าวกันตามใจไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ฝึกบำเพ็ญระดับแก่นพลังทองขึ้นไป แทบจะตรงตามจริง
แน่นอน จำกัดเพียงคำสาบานประเภท ‘ไม่ตายดี’
หากเจ้าสาบานว่า ‘จากนี้ข้าจะดีกับคู่ครอง ไม่เช่นนั้นจะต้องลอยขึ้นเป็นเซียน’ เช่นนั้น สวรรค์จะไม่สนใจเจ้า
กระทั่งอาจจะคิดเอาว่าเป็น ‘ไม่ตายดี’
สรุปคือ คุณชายไป๋สาบานเช่นนี้มาจากใจจริง
เพียงแต่อวี้เผียนเซียนด้านข้างมองคุณชายไป๋ด้วยแววตาคับแค้นใจนิดๆ คำสาบานเช่นนี้ต้องให้นางเป็นคนพูดไม่ใช่หรือ
“จากนี้ไป เผียนเซียนก็ยินดีเลี้ยงดูครองครัวของสหายเสิ่นเช่นกัน บิดาของสหายเสิ่นคือบิดาของเผียนเซียน สหายของสหายเสิ่นคือสหายของเผียนเซียน ภรรยาของสหายเสิ่นก็คือ…พี่สาวของเผียนเซียน ชาตินี้ภพนี้ ขอสรรเสริญคุณธรรมยิ่งใหญ่ยอมเป็นปีศาจของสหายเสิ่น หากผิดคำสาบาน ขอให้ฟ้าดินร่วมประณาม”
เมื่อกล่าวคำสาบานนี้แล้ว องค์หญิงเงือกอวี้เผียนเซียนก็หน้าแดงขึ้นมา
เต่าดำสองด้านอู่อู๋ตี๋ องค์รัชทายาทมังกรลำดับเจ็ดเอ๋าอู คุณชายเซี่ยปูเทพทองคำ ซาห้าวาฬฉลามคลั่งกระหายเลือด ก็บ้างชูมือชูก้ามปูสาบานเช่นกัน
“ข้าก็เช่นกัน”
“ข้าก็เช่นกัน”
“ข้าก็เช่นกัน”
“ข้าก็เช่นกัน”
อืม ที่ไม่ได้สาบานซ้ำอีกรอบ หลักๆ เป็นเพราะพวกเขาคิดว่าน้ำของเขตทะเลเบิกฟ้ามากพอแล้ว
…….
ชั่วขณะที่เสิ่นเทียนพลันมีบุตรชายบุตรสาวเพิ่มมาหลายคน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาดขึ้นกลางหมอกเบิกฟ้า
แสงกระบี่สีครามสว่างจ้าสายหนึ่งพุ่งออกมาจากกลางหมอกเบิกฟ้า ส่องแสงโบราณกาล!
หมอกเบิกฟ้าที่หมื่นวิชาไม่อาจสั่นคลอนได้แม้แต่นิด ขนาดพลังฤทธิ์ของระดับอริยะยังถูกแยกและหลอมรวม ถูกฟันขาดออก
ใช่ ถูกแสงกระบี่สายหนึ่งฟันขาด!
แสงกระบี่นั้นมีอานุภาพที่สุดแห่งยุค เหมือนกับตัดกาลเวลายุคโบราณ แม้แต่หมอกเบิกฟ้ายังถูกฟันขาด
นี่คือกระบี่ที่ทุกคนคุ้นเคยอย่างยิ่ง เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน พวกเขาเคยเห็นเสิ่นเทียนใช้วิชากระบี่นี้
หรือว่า
ภายในใจทุกคนเกิดความหวังไร้ที่สิ้นสุดขึ้น
“หัตถ์ปฐมกาลทลายเวหา!”
เสียงตะโกนดังสนั่นฟ้าเก้าชั้นดินสิบชั้น เหมือนกับเสียงฟ้าร้องบนพื้นราบ
แสงสีขาว เขียว ดำ แดงและเหลืองห้าสีพุ่งออกมาจากรอยแยกนั้น จากนั้นมีฝ่ามือห้าสียักษ์ขนาดร้อยจั้งคู่หนึ่งยื่นมาจากรอยแยกนั้น ดันปราการหมอกเบิกฟ้าออก
จะเห็นได้ว่าหมอกเบิกฟ้าหมุนม้วนอย่างบ้าคลั่ง อีกทั้งฝ่ามือห้าสียังถูกกัดกร่อนอย่างรวดเร็ว
ทว่าความเร็วที่มือห้าสีถูกกัดกร่อนก็ยังช้ากว่าพลังฤทธิ์ธรรมดาถูกกัดกร่อนมาก
ในระหว่างนี้ เงาสีทองสว่างจ้าบินออกมาจากรอยแยกที่ถูกดันออกนั้น
ใช่ นั่นคือเสิ่นเทียน!
ตอนนี้เขาหน้าซีดขาวเล็กน้อย ปีกข้างหลังอ่อนแสงลงไปอย่างชัดเจน ดูท่าคงเสียพลังปราณเดิมไปไม่น้อยในการหนีออกมา
แต่เขาก็ยังพุ่งออกมา พุ่งออกจากการห้อมล้อมของหมอกเบิกฟ้าต้องห้าม หากแพร่งพรายออกไปคงได้สั่นสะเทือนห้าดินแดน
ถึงอย่างไรตั้งแต่โบราณกาลมา เขตทะเลเบิกฟ้าเป็นที่ยอมรับว่าเป็นแดนต้องห้าม และหมอกเบิกฟ้าก็ยังเป็นที่ยอมรับยิ่งกว่าว่า ‘หมอกมรณะ’
มันแยกพลังงานได้ทุกชนิด ต่อให้เป็นพลังฤทธิ์ที่ควบแน่นด้วยระดับผู้อริยะก็ยังถูกกลืนกินในพริบตา
ทว่าแสงกระบี่นั้นของเสิ่นเทียน การฟันนั้น สามารถฉีกหมอกเบิกฟ้าได้
แม้ไม่นานจะโดนหมอกเบิกฟ้ากัดกร่อน แต่ก็ยื้อเวลาได้นานกว่าไอเซียนที่ควบแน่นของผู้อริยะ
นี่หมายความว่าอะไร
ระดับพลังงานในตัวเสิ่นเทียนตอนนี้ หรือว่าจะแกร่งยิ่งกว่าพลังฤทธิ์ไอเซียนที่ผู้อริยะระดับฝ่าด่านเคราะห์ควบแน่นขึ้นมาอีก
คิดๆ ดูแล้วก็น่าสะพรึงอย่างยิ่ง!
……..
“สหายเสิ่น เจ้าไม่เป็นไรนะ!”
ทุกคนเดินเข้ามาพร้อมกัน ก่อนถามด้วยความห่วงใย
ทว่าเสิ่นเทียนกลับขวางทุกคนไว้ ก่อนนั่งขัดสมาธิลงบนชายหาด “อย่าเข้ามา!”
“พี่เสิ่นเทียนวางใจเถอะ ข้าจะให้ท่านพ่อช่วยท่านสุดความสามารถ!”
เอ๋าอูกำหมัดเล็กแน่น “เกาะมังกรดำทะเลอุดรข้ามีสมบัติมากมาย ขอแค่พี่เสิ่นต้องการ ข้าจะเอามาให้ท่าน!”
อวี้เผียนเซียนพยักหน้าเช่นกัน “แม้เผ่าเทพเงือกจะมีศักยภาพแฝงไม่มากเท่าเกาะมังกรดำ แต่พี่เสิ่นมีบุญคุณช่วยชีวิตเผียนเซียน หากต้องการอะไรก็บอกมาได้เลย”
คนอื่นๆ ก็พากันพูดว่าขอแค่เสิ่นเทียนออกปาก ก็ยินดีจะทุ่มกำลังช่วยเสิ่นเทียนต่อต้านหมอกเบิกฟ้า
แม้แต่ฉีเซ่าเสวียนยังขยับศีรษะมาข้างๆ อย่างไม่ยอมเช่นกัน บอกว่าหาเสิ่นเทียนต้องการ ก็จะถ่ายทอดคัมภีร์จักรพรรดินิพพานอมตะให้ครึ่งส่วน
อืม พวกเจ้ามีไมตรีกันมากจริงๆ
ทำเอาเสิ่นเทียนกระดากอายจะขอค่าตอบแทนที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้เลย
เรื่องความรู้สึกอะไรนี่ ทำให้เรียกร้องเงินได้ยากจริงๆ
……
“ทุกคนไม่ต้องกังวล แม้แซ่เสิ่นจะโดนหมอกเบิกฟ้าเข้ากาย แต่จิตวิญญาณยังไม่ถูกกัดกร่อน”
เสิ่นเทียนยิ้ม “หากช่วยไม่ได้จริงๆ อย่างมากก็สละร่างนี้ เปลี่ยนร่างฝึกบำเพ็ญ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนถึงโล่งอก
ก็จริง แม้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะอยู่ระดับแก่นพลังทอง แต่ก็มีกำลังรบสะท้านฟ้า
ฉีเซ่าเสวียนกล้ารับรองเลยว่า แก่นพลังทองประหลาดของเสิ่นเทียนใหญ่ขนาดนั้น ความชำนาญในระดับแก่นพลังทองย่อมไม่ด้อยกว่าตนแน่นอน
หากเสิ่นเทียนยินยอมก็น่าจะทุบแก่นเป็นดรุณได้ตลอดเวลา
และหากทุบแก่นเป็นดรุณแล้ว ก็หาร่างที่เหมาะสมยึดร่างเกิดใหม่ก็จบ
เสียดายก็แต่ร่างนี้ของเสิ่นเทียน ถึงอย่างไรกายสมบัติเช่นนี้ก็คงมีไม่กี่ร่างในห้าดินแดน!
เวลานี้ ทุกคนต่างหมดอารมณ์กันนิดๆ ความรู้สึกเฝ้ารอตามหาสมบัติก็น้อยลงไปมาก
แต่เสิ่นเทียนไม่สนใจเลย กระทั่งตื่นเต้นอยากรู้อย่างลองนิดๆ
สิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงคือ เกาะแห่งนี้ถูกหมอกเบิกฟ้าหนาแน่นปกคลุมมาหลายพันปีแล้ว เหมือนจะไม่มีใครเคยเข้าไป
ทุกแห่งในเกาะมีสมุนไพรวิญญาณล้ำค่าอย่างยิ่ง วางไว้ในโลกภายนอกยังทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์สนใจ
กระทั่งสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์บางอย่างมีอายุหลายร้อยปี แม้แต่ผู้อริยะระดับฝ่าด่านเคราะห์ยังสนใจ
แต่เมื่อคิดได้ว่าตอนนี้เสิ่นเทียน ‘ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย’ สมุนไพรวิญญาณทั้งหมดจึงมอบเสิ่นเทียนมากกว่าครึ่งเป็นสิทธิพิเศษ
ไม่ว่าเสิ่นเทียนจะเกรงใจอย่างไร ทุกคนก็ไม่ยอม เอาแต่ยัดใส่มือเสิ่นเทียน
ฉีเซ่าเสวียนเห็นแล้วทั้งชื่นชมและเคารพ สร้างเกียรติให้กับเผ่ามนุษย์จริงๆ
สหายเสิ่น เจ้าสมกับเป็นคู่ต่อสู้ในชีวิตนี้ของข้าแซ่ฉี!
…………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน