บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 314

บทที่ 314 เจ้าคิดว่าข้าไม่มีเกียรติรึ

ทุกคนค้นหารอบๆ ตำหนักเทพคุนเผิงอีกสักพัก

แต่ก็ไม่ได้อะไรอย่างอื่น นักผจญภัยที่บุกเข้ามาในตำหนักเทพคุนเผิงคนก่อนคงจะกวาดของไปหมดแล้ว

ในตำหนักเทพคุนเผิงเหลือเพียงตำหนักใหญ่กว้างโล่ง ไม่มีอาวุธวิเศษหรืออาวุเทพใดๆ

เมื่อคิดได้ดังนั้น ทุกคนจึงออกจากตำหนักเทพคุนเผิงกลับมาบนเกาะอีกครั้ง

ตอนนี้ทั้งเกาะนอกจากเขตใจกลางที่มีหมอกเบิกฟ้าหนาแน่นปกคลุมแล้ว ที่อื่นๆ ถูกพวกเสิ่นเทียนค้นหาไปพอประมาณแล้ว

โชคลิขิตเศษที่เหลือ มีค่าไม่มากสำหรับทุกคนแล้ว

ดังนั้นเสิ่นเทียนจึงเสนอให้ทุกคนกลับไปรอบนอกเกาะอีกครั้ง รอยอดค่ายกลเบิกฟ้าเปิด

แน่นอนว่าเวลาการรอเช่นนี้เป็นการสุ่ม

หากโชคดีวันสองวันก็เจอ หากโชคไม่ดีถูกขังสองสามเดือนก็เป็นเรื่องปกติ

นี่คือหนึ่งในสาเหตุที่โอรสสวรรค์มากมายเริ่มหยุดการผจญภัยในเดือนเก้าและกลับไปรอบนอกเกาะดาราเบิกฟ้า

ถึงอย่างไรความปรารถนาก็ไร้ที่สิ้นสุด

หากหลังจากเดือนเก้าเจ้ายังผจญภัยในส่วนลึกเขตทะเลเบิกฟ้า เจอเกาะทะเลที่มีหมอกเบิกฟ้าหนาแน่นปกคลุมเปิดออก เจ้าจะเข้าไปหรือไม่

เกิดเจ้าเข้าไปแล้ว เกาะนี้ไม่เปิดอีกในสองสามเดือน ขังเจ้าไว้ในยอดค่ายกลเบิกฟ้าล่ะจะทำอย่างไร

ตั้งแต่โบราณมา มีอัจฉริยะที่คิดว่าจะโชคดีตายในเขตทะเลเบิกฟ้ามานับไม่ถ้วนแล้ว

ในนั้นส่วนมากเป็นสุดยอดโอรสสวรรค์น่าตื่นตกใจ ช่างน่าเสียดาย

…..

โชคดีที่เวลาในการรอไม่ได้จืดชืด

ทุกคนเสี่ยงอันตรายมาสองครั้งได้โชคลิขิตมาไม่น้อย เดิมทีต้องใช้เวลาพอประมาณในการหลอมรวม

ขณะรอหมอกเบิกฟ้าเปิดออกอีกครั้ง ทุกคนนำน้ำตาดาวเทพสมุทรออกมาดูดซับ ฝึกฝนวิชาคุนเผิงที่ตนได้มาต่อ

แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ประลองกัน ศักยภาพของทุกคนจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ส่วนเสิ่นเทียนเองก็ต้องการเวลาที่มากพอเพื่อควบคุมวิชาคุนเผิง รวมถึงกระบวนท่าสังหารมากมายที่ซ่อนในวิชานี้

นี่เป็นมรดกที่ซับซ้อนเข้าใจยากมาก ต้องใช้เวลาศึกษาและขัดเกลาอย่างมาก

สารภาพตามตรง หากไม่ใช่เพราะวิชาคุนเผิงมีอานุภาพพอใช้ได้ เสิ่นเทียนก็ไม่ค่อยอยากจะฝึกเลย ถึงอย่างไรในตัวเขาก็มีมรดกเยอะมาก ทั้งคัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้จริงเอย คัมภีร์จักรพรรดิเทพสวรรค์เอย หัตถ์ปฐมกาลทลายเวหาเอย สามสิบหกค้อนสวรรค์รกร้างเอย…

ถ้าเสิ่นเทียนใช้กำลังวังชาฝึกทุกวิชา ก็คงจะเหนื่อยมากจริงๆ

เฮ้อ ไฉนต้องมอบมรดกให้ข้าเยอะเช่นนี้กัน

แค่คิดก็น่ากลุ้มใจแล้ว

ท่ามกลางการฝึกฝนที่ทั้งเต็มอิ่มและน่าสนใจ เวลาผ่านไปครึ่งเดือนอย่างรวดเร็ว

ในครึ่งเดือนนี้ศักยภาพของทุกคนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอวี้เผียนเซียนกับสี่คุณชาย

แม้วิชาในเผ่าพวกเขาจะเป็นสุดยอดวิชาอสูร แต่เทียบกับวิชาคุนเผิงแล้ว คนละระดับกันเลย

ตอนนี้ตระหนักความหมายลึกลับส่วนหนึ่งมาจากวิชาคุนเผิง นี่คือมหาโชคลิขิตสำหรับพวกเขา เป็นการเปิดทั้งเส้นทางการบำเพ็ญเซียนในอนาคต

ผนวกกับมีน้ำตาดาวเทพสมุทรช่วย ศักยภาพของห้าคนจึงเพิ่มขึ้นหลายเท่าในครึ่งเดือน

แน่นอน ฉีเซ่าเสวียนก็ก้าวหน้าอย่างมากเช่นกัน

เพียงแต่ตอนนี้เขากำลังวุ่นอยู่กับการพิสูจน์กระบวนท่าจู่โจมจากวิชาเผิงที่ตนตระหนักได้และในคัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้จริง ไม่ได้สนใจการเพิ่มระดับพลังเท่าไร

ดังนั้นรากฐานของฉีเซ่าเสวียนจึงมั่นคงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก แต่กำลังรบเพิ่มขึ้นเพียงเท่าเดียว

ทว่ากำลังรบหนึ่งเท่าของเขาก็สูงกว่าคนอื่นๆ หลายเท่า

ทางด้านเอ๋าอู ตอนนี้ยังคงเป็นเหมือนปลาเค็มไร้ความฝัน~

………

เปรี้ยง~

เสียงเปรี้ยงๆ ดังขึ้น ปราการหมอกเบิกฟ้าแตกออกอีกครั้ง

ทุกคนตาเป็นประกายขึ้นมา ต่างสำแดงวิชาหลบหนีที่เร็วที่สุดบินไปนอกปราการหมอก

พวกคุณชายซายังใช้วิชาคุนเผิงที่เพิ่งตระหนักมาใหม่บินออกไปเพื่อความปลอดภัย กลัวว่าจะอยู่ในสถานการณ์น่าอายเหมือนตอนเข้ามา ถูกปราการเบิกฟ้าอุดทาง ถึงตอนนั้นต้องให้เสิ่นเทียนออกมือมาช่วยอีก

แต่ครั้งนี้ทุกคนออกมาจากปราการเบิกฟ้าได้ราบรื่นมาก ไม่เจอสถานการณ์อันตรายเหมือนตอนเข้ามา

รอยแยกปราการหมอกคงอยู่ราวสิบลมหายใจ ทำให้พวกเขาบินออกมาได้สบายๆ

ถึงตอนนี้ ทุกคนมีสีหน้าแววตาผ่อนคลาย

ฟู่ ถือว่าปลอดภัยแล้ว!

สี่คุณชายมองหน้ากันเหมือนตัดสินใจอะไรบางอย่าง

คุณชายไป๋แห่งเผ่าเทพหมึกยักษ์ป้องมือให้เสิ่นเทียนด้วยความเคารพ “ดีที่การผจญภัยครั้งนี้มีสหายเสิ่นดูแล พวกข้าถึงได้รอดมาได้อย่างปลอดภัย ทั้งยังได้โชคลิขิตเช่นนี้

แต่สหายเสิ่นกับสหายฉีมีศักยภาพเหนือชั้น คงจะอยากเข้าไปผจญภัยในเกาะทะเลที่ลึกกว่า ถึงจะได้โชคลิขิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พวกเราสี่คุณชายมีศักยภาพไม่ถึง หากอยู่กับทั้งสองท่านต่อไป เกรงว่าจะมีแต่ถ่วงขาทั้งสองท่าน

ดังนั้นพวกเราจึงคิดหน้าคิดหลังแล้ว ขอแยกกับทั้งสองท่านไปผจญภัยกันเองดีกว่า! รอสหายเสิ่นกับสหายฉีผจญภัยเสร็จ พวกเราค่อยมารวมกันที่เมืองสุขาวดีและต้อนรับทั้งสองท่าน”

ตอนที่คุณชายไป๋พูดนั้น อีกสามคุณชายมีสีหน้าที่จริงใจและตรงไปตรงมามาก

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็จริงจังเช่นกัน

เมื่อครึ่งเดือนก่อนเสิ่นเทียนเกือบถูกปราการหมอกเบิกฟ้าปกคลุมกัดกินเพราะช่วยพวกเขา

นี่ทำให้พวกเขารู้สึกผิดมาก ถึงอย่างไรโดยเนื้อแท้แล้วพวกเขาก็ไม่ได้เป็นญาติเป็นสหายกับเสิ่นเทียนและฉีเซ่าเสวียน

ต่อให้มีเกาะมังกรดำชักจูง แต่การเกาะโชคลิขิตคนอื่นเยอะเช่นนี้ เท่ากับติดค้างน้ำใจครั้งใหญ่ ขืนยังไร้ยางอายไม่ยอมไปอีก ก็อาจจะทำให้คนอื่นเขารำคาญได้

นอกจากนี้ ในใจพวกเขายังมีความคิดอื่นอีก

นั่นคืออาศัยช่วงที่การผจญภัยยังไม่จบลงนี้ กลับไปตรวจสอบคัมภีร์ลับในเผ่า ดูว่ามีวิธีใดที่จะช่วยเสิ่นเทียนยับยั้งหมอกเบิกฟ้าในกายได้หรือไม่

หากเป็นเช่นนั้นก็พอจะตอบแทนบุญคุณช่วยชีวิตก่อนหน้านี้กับเสิ่นเทียนได้ ทำให้พวกเขาไม่ต้องละอายใจอะไรมากขนาดนั้นแล้ว

สี่คุณชายพูดจบ อวี้เผียนเซียนก็มองเสิ่นเทียนด้วยความอาลัยอาวรณ์ “สหายเสิ่น เผียนเซียนมีระดับพลังต่ำ ก็ขอลาตรงนี้เช่นกัน สหายเสิ่นผจญภัยจบเมื่อไรก็เป่าหอยสังข์ได้ทุกเมื่อ ถึงตอนนั้นเผียนเซียนยินดีจะร้องระบำให้สหายเสิ่นเป็นการส่วนตัว”

ขณะพูดอยู่นั้น เผียนเซียนก็หน้าแดงเรื่อ ดวงตาแฝงไว้ด้วยความเขินอาย

อืม เหมือนปลาน้ำแดงที่สุด

……

เมื่อเห็นทุกคนยึดมั่นจะไปเช่นนี้ เสิ่นเทียนก็จนปัญญานิดๆ

เขาเอ่ยปากโน้มน้าว ทว่าห้าคนเหมือนจะตัดสินใจไว้ก่อนแล้ว จึงยืนหยัดจะไป

แต่ก็เหมือนที่พวกเขาบอก ที่ที่เสิ่นเทียนและฉีเซ่าเสวียนจะไป คือส่วนลึกยิ่งกว่าของทะเลดาราเบิกฟ้า

หากเจอสถานการณ์กะทันหันอย่าง ‘ระลอกคลื่นปราการหมอกเบิกฟ้า’ อีก ต่อให้เสิ่นเทียนมีศักยภาพแกร่งกว่านี้ ก็ยากจะดูแลสหายทุกคนได้

ถึงอย่างไรสี่คุณชายและอวี้เผียนเซียนก็ได้ทรัพยากรไปเยอะมาก ดวงชะตาก็แกร่งขึ้นไม่น้อยแล้ว

ตอนนี้กลับไปผจญภัยรอบนอกเขตทะเลเบิกฟ้าก็ไม่ใช่ทางเลือกที่แย่

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็มองหน้าผากของสี่คุณชายอย่างลึกซึ้งทีหนึ่ง

จากนั้นเขาพูดด้วยรอยยิ้ม “ช่างเถอะ ในเมื่อทุกท่านยึดมั่นเช่นนี้ แซ่เสิ่นก็จะไม่บังคับทุกคน หากทุกคนเชื่อแซ่เสิ่น เมื่อไปถึงรอบนอกเกาะดาราเบิกฟ้าแล้ว ก็ลองไปค้นหาเขตทะเลทางตะวันออกดู บางทีอาจจะเจอเกาะดาราเบิกฟ้าที่มีคุณลักษณะค่อนข้างดี อาจจะได้โชคลิขิตเหนือความคาดหมายก็ได้”

อืม ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนก็เห็นจากหน้าผากสี่คนนี้ว่าโชคลิขิตของพวกเขาอยู่บนเกาะทางตะวันออก

แม้คุณภาพจะเทียบกับวิชาคุนเผิงไม่ได้ กระทั่งเทียบกับน้ำตาดาวเทพสมุทรห้าร้อยสองเม็ดไม่ได้ แต่แมลงวันเล็กกว่านี้ก็ยังเป็นเนื้อ

ได้ถือโอกาสเพิ่มดวงชะตานิดหน่อยด้วย อย่างไรก็เป็นเรื่องดี

“เขตทะเลทางตะวันออกรึ แซ่ไป๋เข้าใจ ขอบคุณที่สหายเสิ่นเตือน!”

เมื่อได้ฟังคำชี้แนะจากเสิ่นเทียน ก็คิดโยงไปถึงข่าวลือซุบซิบเกี่ยวกับเสิ่นเทียนที่ได้ฟังมาจากหลี่อวิ๋นเฟิง

คุณชายไป๋พลันมีสีหน้าดีใจขึ้นมา “เดี๋ยวพวกข้าจะไปหาสมบัติที่เขตทะเลทางตะวันออก หากได้อะไรมา จะไม่ลืมบุญคุณที่สหายเสิ่นชี้แนะแน่นอน สหายอวิ๋นเฟิงเคยบอกข้อบังคับของสหายเสิ่นกับแซ่ไป๋เรื่องลัทธิเทพแบ่งครึ่งอยู่ แซ่ไป๋เข้าใจ”

คุณชายไป๋พูดพลางขยิบตาอย่างซุกซน

เดิมทีเสิ่นเทียนยิ้มอยู่ โชคลิขิตของสี่คนนี้รวมกับการชี้แนะของข้า ก็น่าจะได้มาแปดเก้าส่วนไม่ห่างจากสิบ

มีดวงชะตาอีกระลอกเข้าคลัง มีความสุขจริงๆ

แต่เมื่อได้ยินคำว่า ‘ลัทธิเทพแบ่งครึ่ง’ เสิ่นเทียนก็หน้าดำมืดขึ้นเรื่อยๆ

ไอ้พวกบ้าหลิวไท่อี่กับหลี่อวิ๋นเฟิงพูดอะไรกับคนข้างนอกกันแน่ เหตุใดถึงแพร่งพรายมายังทะเลอุดร

ลัทธิเทพแบ่งครึ่งอะไร

นั่นเรียกลัทธิปรมาจารย์เซียน อีกทั้งยังเปลี่ยนรูปแบบฟอกความบริสุทธิ์แล้วด้วย!

พูดอย่างกับว่าแซ่เสิ่นบอกพวกเจ้าว่าที่ใดมีโชคลิขิตเพราะละโมบเงินพวกเจ้าอย่างนั้นแหละ!

นี่มันใส่ร้ายกันอย่างไม่มีหลักฐานชัดๆ!

ทำร้ายจิตใจกันเกินไปแล้ว

เดิมทีเสิ่นเทียนก็ไม่คิดจะรับเงินอยู่แล้ว ในเมื่อพวกเจ้าพูดจาทำร้ายกันเช่นนี้ แซ่เสิ่นก็ขอไม่ปัดค่าตอบแทนแล้วกัน

หึ!

นี่คือค่าเสียชื่อเสียงของแซ่เสิ่น!

……

หลังจากสอดแทรกมุกตลกกินดื่มกันเรียบร้อย ทุกคนก็แยกย้ายกันเดินทาง

สี่คุณชายกับอวี้เผียนเซียนมีศักยภาพค่อนข้างอ่อนแอก็ย้ายไปผจญภัยรอบนอกเกาะดาราเบิกฟ้า ส่วนฉีเซ่าเสวียน เสิ่นเทียนและเอ๋าอูเข้าไปลึกกว่าเดิม

อืม เดิมทีด้วยศักยภาพของเอ๋าอูก็ต้องถอยเช่นกัน เหลือแค่เสิ่นเทียนกับฉีเซ่าเสวียนสองคน

แต่ช่วยไม่ได้ที่เอ๋าอูให้เสิ่นเทียนกับฉีเซ่าเสวียนขี่ได้!

ไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้จริงที่เสิ่นเทียนหรือฉีเซ่าเสวียนฝึกฝน ก็ประสานกับเอ๋าอูโจมตีร่วมกันได้ ทำให้กำลังรบเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เสิ่นเทียนอย่างไรก็ได้อยู่แล้ว ถึงอย่างไรกลอุบายที่แกร่งที่สุดของเขาก็ไม่ใช่คัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้จริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน