บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 35

บทที่ 35 ปราณกระบี่แม่น้ำฉางสะเทือนฟ้าดิน
“ในที่สุดลูกๆ ของข้า…ก็จะมีพ่อแล้ว!”

ผมสีดำปกคลุมทั่วทั้งใบหน้า ทำให้มองเห็นรูปลักษณ์ไม่ชัดเจน

แต่เฉพาะการแต่งกายและน้ำเสียงที่น่ากลัวของนาง ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกขนลุกแล้ว

สภาพเช่นนี้ จู่ๆ มาบอกว่าจะให้เป็นพ่อลูกๆ ของนางหรือ

พอหันไปมองเหล่าวิญญาณทารกที่รายล้อมอยู่ข้างมารดาภูตผีเก้าโอรส…เสิ่นเทียนขนลุกซู่ขึ้นมาทันที

สมัยนี้แม้กระทั่งพวกวิญญาณร้ายก็ไม่ปกติถึงเช่นนี้เลยหรือ

เฮ้อ หน้าตาดีเกินไปก็เป็นปัญหาอย่างหนึ่ง!

……

ผู้จริงแท้เฮยเสวี่ยยิ้มชั่วร้าย “มารดาภูตผีชอบเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้หรือ เราคุยกันได้ ขอเพียงมารดาภูตผีช่วยข้าสกัดกั้นผู้คุมกฎเหล่านี้

หลังจากที่ข้าจับเจ้าหมอนี่มาป้อนลูกกลอนควบคุมจิต ถึงเวลานั้นมารดาภูตผีอยากทำอะไรก็ได้!”

มารดาภูตผีเก้าโอรสเหลือบมองผู้จริงแท้เฮยเสวี่ย ในแววตาเต็มไปด้วยความดุร้ายที่เยือกเย็น “ฮิๆ จริงหรือ”

ถึงเป็นผู้จริงแท้เฮยเสวี่ยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุก

เขารู้ดีกว่าทุกคน วิญญาณร้ายตนนี้ชั่วร้ายเพียงใด

ตามหลักแล้ว มารดาภูตผีเก้าโอรสไม่ใช่สาวกของลัทธิวิญญาณร้าย แต่เป็นสมบัติวิเศษชิ้นหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการบูชายัญของสมาชิกระดับสูงของลัทธิวิญญาณร้าย

สมบัติวิเศษชิ้นนี้จำเป็นต้องหาหญิงพรหมจรรย์ที่เกิดในช่วงวันเดือนปีและเวลาที่ตกเลขคู่

หลังจากที่หญิงสาวสวมชุดแต่งงานและขึ้นเกี้ยว กำลังเตรียมเข้าสู่พิธีแต่งงาน ก็จะสังหารคนในครอบครัวของนางไม่เว้นแม้กระทั่งคนแก่และเด็กต่อหน้านาง

จากนั้นดูดวิญญาณเข้ามาผนึกไว้ในสมบัติวิเศษ คอยบูชาตลอดทั้งวันทั้งคืน

เมื่อนานวันเข้า นางก็จะกลายเป็นวิญญาณร้ายที่อาฆาตแค้น

ต้องรอจนกระทั่งมีวิญญาณของเด็กทารกห้าร้อยดวงขึ้นไป สมบัติวิเศษมารดาภูตผีเก้าโอรสถึงจะถือว่าหลอมเสร็จสมบูรณ์

มารดาภูตผีเก้าโอรสที่ผ่านการหลอมอย่างสมบูรณ์ อานุภาพของมันอยู่ในระดับดวงจิตดรุณขึ้นไป

เมื่อใดที่อัญเชิญมันออกมา ทั่วทั้งอาณาจักรจะกลายเป็นนรก

ขณะนี้ มารดาภูตผีตนนี้หลวมรวมเข้ากับวิญญาณทารกแล้วสามร้อยกว่าดวง จึงมีพลังเพียงครึ่งหนึ่งของระดับดวงจิตดรุณ

แต่ผู้จริงแท้เฮยเสวี่ยสามารถสัมผัสได้ สมบัติวิเศษชิ้นนี้เริ่มอยู่เหนือการควบคุมของเขาแล้ว

หลายปีมานี้ เขาไม่กล้าหลอมรวมวิญญาณทารกเข้าไปในสมบัติวิเศษต่อ

ทั้งหมดก็เป็นเพราะกลัวว่ามารดาภูตผีจะแข็งแกร่งเกินไป และหันกลับมาแว้งกัดเขาแทน

ถ้าหากเป็นเช่นนั้น เขาต้องตายอย่างน่าอนาถแน่นอน

ทว่าผู้จริงแท้เฮยเสวี่ยในตอนนี้ถูกปิดล้อม เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีก ได้แต่บูชามารดาภูตผีด้วยเลือด ลองเสี่ยงเดิมพันดูสักครั้ง

“ฮิๆ จำคำพูดของเจ้าไว้ให้ดีล่ะ นี่คือเตาหลอมชั้นดีเลย ข้าจะดูดเขาให้แห้งเสีย!”

มารดาภูตผีเก้าโอรสหัวเราะอย่างชั่วร้าย จากนั้นพุ่งเข้าไปหาผู้คุมกฎระดับแก่นพลังทองทั้งสามคน

ส่วนวิญญาณทารกสามร้อยกว่าดวงที่อยู่ด้านหลังของนางไปปิดล้อมผู้บำเพ็ญระดับสร้างฐานยี่สิบกว่าคน

ปราณกระบี่อันทรงพลังที่เหล่าผู้คุมกฎฟาดฟันออกมา มีพลังทำลายต่อวิญญาณร้ายเหล่านี้น้อยมาก

ชั่วขณะนั้น กลุ่มผู้คุมกฎที่มาช่วยเหลือตกอยู่ในการควบคุมทั้งหมด

ถ้าหากไม่มีผู้แข็งแกร่งมาช่วยเหลือ การพ่ายแพ้หรือถูกฆ่าเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น

“แหะๆ เจ้าหนูยอมรับชะตากรรมเสียเถอะ!” ผู้จริงแท้เฮยเสวี่ยหัวเราะชั่วร้ายแล้วกล่าว “ทำให้ข้าต้องสูญเสียเลือดจำนวนมาก คอยดูว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร!”

กล่าวจบ มีแสงสีทองปกคลุมทั่วร่างผู้จริงแท้เฮยเสวี่ย ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าไปหาเสิ่นเทียน

เขาถือลูกลอนควบคุมจิตไว้ในมือ ขอเพียงสามารถป้อนลงท้องของเสิ่นเทียนได้

ถึงเวลานั้น ทุกอย่างก็จะสำเร็จ

……

เมื่อเห็นผู้จริงแท้เฮยเสวี่ยพุ่งไปทางเสิ่นเทียน สีหน้าของกุ้ยกงกงและฉินเกาเปลี่ยนไปทันที

“องค์ชายรีบถอยไป บ่าวจะช่วยต้านโจรชั่วคนนี้เอง!”

คนทั้งสองไปขวางอยู่ตรงหน้าเสิ่นเทียนพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย บนใบหน้าเต็มไปด้วยความแน่วแน่ของการมองความตายว่าคือการกลับสู่ธรรมชาติ

พวกเขาไม่มีทางปล่อยให้ให้องค์ชายตกอยู่ในอันตรายถึงขั้นชีวิตเด็ดขาด!

ทว่าในตอนที่ผู้จริงแท้เฮยเสวี่ยยิ่งเข้าใกล้คนทั้งสามนั้น เสิ่นเทียนก็ผลักกุ้ยกงกงและฉินเกาออกอย่างเชื่องช้า

“ดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว! เหตุใดเจ้าต้องบีบบังคับให้ข้าลงมือด้วย”

เสิ่นเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ ยื่นมือขวาออกไป ใช้นิ้วเป็นกระบี่

ทันใดนั้น มีแสงอันร้อนแรงระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา

ร่างเงาของคนที่สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบก่อตัวขึ้นในแสง

ร่างนี้แลดูให้ความรู้สึกที่เลือนราง แต่กลับปลดปล่อยกลิ่นอายที่แข็งแกร่งออกมา

ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้น ราวกับว่าแม้กระทั่งความว่างเปล่าก็กำลังพังทลายลง

เขาถือกระบี่เล่มใหญ่ไว้ในมือ แทงมันออกไปอย่างไม่แยแส

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน