บทที่ 393 กระแสมิติปั่นป่วน ราชินีหงส์อมตะ!
หลังทะลวงมิติมา ไม่นานพวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สองคนก็มารวมกับผู้อาวุโสและศิษย์คนอื่นของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
ไม่ใช่แค่ผู้แข็งแกร่งของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับศิษย์โอรสสวรรค์แกนหลักของแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
เดิมทีพวกเขากำลังฝึกฝนอยู่บนเวทีประลองในสุสานจักรพรรดิอีกาทอง แต่จู่ๆ ก็ถูกเคลื่อนย้ายออกมา
นั่นคือหลังวิญญาณอาฆาตอีกาทองเก้าตัวได้รับการโปรดสัตว์ มหาจักรพรรดิอีกาทองเสร็จสิ้นปณิธานก่อนตาย จึงส่งผู้บำเพ็ญนอกจากพวกเสิ่นเทียนออกไป
ถึงอย่างไรนับจากนี้ไป สุสานจักรพรรดิอีกาทองก็ถือว่าเป็นของส่วนตัวของเสิ่นเทียนแล้ว
แต่พวกเขาเพิ่งออกมาได้ไม่นาน สุสานจักรพรรดิก็ถูกแสงกระบี่แยกเป็นสองส่วน พังทลายลงทั้งหมด
นี่ทำให้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่แค้นเคืองเสียดาย แต่ก็แอบกลัวอยู่นิดๆ
หากเมื่อครู่พวกเขายังอยู่นั้น เกรงว่าคงรอดยาก
ถึงอย่างไรในกระแสมิติปั่นป่วนที่เกิดขึ้นจากสุสานจักรพรรดิอีกาทองพังทลายลง ต่อให้เป็นผู้อริยะก็ยังไม่กล้ารอบรองว่าตนจะปลอดภัย
ส่วนผู้บำเพ็ญต่ำกว่าระดับอริยะ แทบจะต้องตายอย่างแน่นอน!
“เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตออกมาแล้ว!”
“แต่ว่า…เหตุใดถึงไม่เห็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ล่ะ”
มีคนสงสัย พวกเขาไม่เห็นเสิ่นเทียน ภายในใจเต้นตึกตัก เกิดความตระหนกขึ้นมา
“อาจารย์ ศิษย์น้องอยู่ที่ใด เหตุใดถึงไม่เห็นเขา”
จางอวิ๋นซีก้าวเข้ามาเร็วๆ ตอนนี้ใบหน้างดงามมีความกังวลอย่างชัดเจน
ถึงอย่างไรอานุภาพของกระบี่เมื่อครู่นี้ก็น่ากลัวมากจริงๆ เห็นได้ชัดว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงสะท้านโลกที่พวกเขาไม่รู้
ไม่ใช่แค่นาง องค์หญิงหลิงหลงสือหลิงหลง คุนอวี้ และโอรสสวรรค์ที่สนิทสนมกับเสิ่นเทียนต่างเดินเข้ามา ทุกคนต่างถามว่าเสิ่นเทียนอยู่ที่ใด
ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อม ไม่นึกเลยว่าเทียนเอ๋อร์จะมีสหายสนิทมากขนาดนี้
คนพวกนี้ล้วนเป็นสุดยอดโอรสสวรรค์ของขุมอำนาจใหญ่ต่างๆ รวมพวกเขาเข้าด้วยกันจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มาก
ศิษย์ข้าเทียนเอ๋อร์มีบุคลิกแห่งราชาเซียนจริงๆ โอรสสวรรค์แปดทิศยังต้องแหงนหน้ามอง!
ฮิๆๆๆๆ~
ประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อม เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยอย่างเฉยชา “ศิษย์พี่ ข้าจะไปรายงานกับผู้อาวุโสสูงสุดก่อน เรื่องที่นี่ยกให้ท่านแล้วกัน”
เมื่อเอ่ยจบ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ก้าวเข้าไปในมิติ หายไปต่อหน้าทุกคน
“ศิษย์น้อง…เจ้า…บ้าจริง!”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตอึ้งไป แต่ไม่นานก็ตั้งสติกลับมาได้
ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์นี่ จะทิ้งปัญหายุ่งยากไว้ให้เขาชัดๆ
ปัญหาคือ ข้าก็ไม่อยากรับปัญหายุ่งยากนี้เหมือนกัน!
คนพวกนี้เป็นสหายสนิทที่สุดของเสิ่นเทียน หากรู้ว่าเสิ่นเทียนเป็นอะไรไป จะไม่มาฉีกทึ้งข้ารึ
คนอื่นไม่ว่า แค่ด่านจางอวิ๋นซีก็ผ่านไปไม่ได้แล้วนะ
“ข้า…ข้าก็ต้องไปด้วย…”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกลอกตา ก่อนกำลังจะตามไปด้วย
แต่จางอวิ๋นซีจะไม่รู้ความคิดของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตได้หรือ
ท่านพ่อไปได้ แต่อาจารย์ลุงไปไม่ได้
นางเดินมาหนึ่งก้าว ขวางหน้าผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไว้ “รบกวนอาจารย์ลุงบอกข้าด้วยว่าศิษย์น้องไปอยู่ที่ใด”
“ศิษย์หลาน คือว่า…ข้า…”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเกาศีรษะ ไม่รู้จะเริ่มพูดจากที่ใด
“ขอให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต/อาจารย์ลุง บอกพวกเราด้วยว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์/ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ใด”
ไม่ใช่แค่จางอวิ๋นซี โอรสสวรรค์ที่สนิทสนมกับเสิ่นเทียนพวกนั้นก็พากันเดินเข้ามา
เมื่อเห็นดังนั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตรู้สึกศีรษะโตขึ้นมาแล้ว
หากมีเพียงจางอวิ๋นซี ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตคงคิดหาทางตีมึนผ่านไปได้ แต่ตอนนี้โอรสสวรรค์มากมายกำลังซักถาม ข้าต้านไว้ไม่ไหวหรอกนะ!
“เอาล่ะ ศิษย์พี่ ข้ารายงานเรื่องนี้กับเหล่าผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ผิวกายปกคลุมด้วยแสงทอง
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมองมาด้วยความดีใจใหญ่ “ศิษย์น้องเจ้าดีจริงๆ เลย มาช่วยแก้ปัญหาให้กับข้าด้วย!”
หืม
ไม่ใช่สิ!
เจ้าเป็นคนโยนปัญหาให้กับข้าแท้ๆ ตอนนี้ออกมาอีก หมายความว่าอย่างไรกัน
“ทุกท่านใจเย็นก่อน ฟังข้าอธิบายอย่างละเอียดก่อน”
เสียงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เฉยชา ก่อนจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
แน่นอน เรื่องกระบี่สะท้านฟ้าจากจักรพรรดินีที่สุดแห่งยุคนั้น เขาพูดให้คลุมเครือผ่านไป
นี่คือไพ่ตายของเสิ่นเทียนคนเดียว ทั้งยังเกี่ยวพันกันใหญ่โต เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเผยไปไม่ได้
….
“อะไรนะ มีวิญญาณร้ายต่างแดนยึดวิญญาณแท้มหาจักรพรรดิรึ”
เมื่อได้ฟังคำอธิบายของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ทุกคนก็ตัวสั่นสะท้าน นัยน์ตาฉายแววตื่นกลัว มิน่าสุสานมหาจักรพรรดิถึงถล่มลง
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ในที่นี้ล้วนเป็นเสาเอกของแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ๆ จะไม่รู้จักวิญญาณร้ายต่างแดนได้อย่างไร
แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีวิญญาณร้ายใดแทรกซึมมหาจักรพรรดิและยึดร่างได้
ถึงอย่างไรมหาจักรพรรดิก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในห้าดินแดน หากวิญญาณร้ายนั้นแทรกซึมยึดร่างได้กระทั่งมหาจักรพรรดิ คนอื่นๆ จะเอามาสู้กับมัน
มิน่า หายนะครั้งนั้นเมื่อหมื่นปีก่อนถึงจะเกิดขึ้นอีกครั้ง กระทั่งยังน่ากลัวกว่าหายนะครั้งนั้นเมื่อหมื่นปีก่อนอีกหรือ
จากนั้นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เอ่ยต่อ “ขอให้ทุกคนวางใจ มหาจักรพรรดิอีกาทองเหลือเพียงเสี้ยววิญญาณแท้ ประมาทไปชั่วครู่ถึงได้เกิดเหตุไม่คาดคิด
วิญญาณร้ายต่างแดนยังไม่แกร่งถึงขนาดมหาจักรพรรดิยังต้านไม่ได้ ขอแค่พวกเราร่วมใจสามัคคีกัน กับอีแค่วิญญาณร้ายจะต้องกำจัดให้สิ้นซากได้แน่นอน”
เมื่อเอ่ยจบแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็มองโอรสสวรรค์หนุ่มสาวทุกคน ก่อนพูดนิ่งๆ “สหายน้อยทุกท่านวางใจเถอะ เทียนเอ๋อร์เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายข้า ข้าได้ขอให้ผู้อาวุโสสูงสุดที่เหนือกว่าระดับอริยะออกมือกันทั้งหมดแล้ว จะต้องพาเทียนเอ๋อร์กลับมาได้อย่างแน่ แน่นอน ขอแค่เป็นศิษย์เทพสวรรค์ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะไม่ทิ้งใครเด็ดขาด”
ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ เฉยชาแต่แน่วแน่
ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องแสดงทัศนคตินี้ออกไป!
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ หลังจากได้ฟังคำพูดโน้มน้าวของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ทุกคนก็คึกคักขึ้นมา
“เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นห่วงเป็นใยชนรุ่นหลังจริงๆ พอออกมาก็แจ้งกับทุกคนให้ไปตามหาบุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียนทันทีเลย”
“ฮือๆ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดีเกินไปแล้วกระมัง! ไม่ใช่แค่มีบุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียนที่อุทิศตัวเพื่อคนอื่น แม้แต่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังมีคุณธรรมสูงส่งเช่นนี้”
“อยากจะร้องไห้ ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องให้ศิษย์ชนรุ่นหลังในเผ่าข้าไปเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ให้ได้”
“ข้าก็เหมือนกัน มีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับบุตรศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ ข้าไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว!”
“ข้าก็เช่นกัน!”
“ข้าก็เช่นกัน!”
……
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์คนอื่นด้านข้างถึงกับมุมปากกระตุก
นี่ก็คุยโม้ได้รึ มีอะไรให้คุยโม้กัน
เสิ่นเทียนเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ทั้งยังเป็นบุตรแห่งโชคที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติการณ์
สุดยอดโอรสสวรรค์เช่นนี้ไปอยู่แดนศักดิ์สิทธิ์ใด แดนศักดิ์สิทธิ์นั้นก็ต้องช่วยเขาโดยยอมจ่ายทุกอย่างกระมัง!
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ช่วยเสิ่นเทียนอย่างสุดความสามารถ นี่ก็ปกติมากเลยไม่ใช่รึ นี่ควรค่าให้พวกเจ้าซาบซึ้งใจ คิดว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รักใคร่สามัคคีกันรึ
เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาคับแค้นใจของศิษย์ข้างหลังแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จากแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นก็รู้สึกถึงความคับแค้นใจแรงกล้าพุ่งขึ้นหัวใจ
แต่สำหรับโอรสสวรรค์ที่สนิทสนมกับเสิ่นเทียน ต่างใจสั่นสะท้าน
“วิญญาณร้ายต่างแดนเป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้หลิงหลงจะติดต่อท่านพ่อและแจ้งเรื่องนี้ แน่นอน บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียนตกไปในกระแสมิติปั่นป่วนเพื่อปกป้องห้าดินแดน ข้าจะไม่นั่งอยู่เฉยดูดายเด็ดขาด ข้าจะขอให้ท่านพ่อช่วยอย่างเต็มที่ พาบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กลับมา”
องค์หญิงหลิงหลงเอ่ยขึ้น ทำให้คนรอบข้างตัวสั่นไหว
สือหลิงหลงเป็นคนระดับใดกัน องค์หญิงแห่งราชวงศ์ต้าฮวง เป็นบุตรสาวที่รักที่สุดของจักรพรรดิสือต้าฮวง
ในเมื่อนางเอ่ย ก็หมายความว่าตัดสินใจดีแล้ว
“ขอบคุณองค์หญิงหลิงหลงด้วย”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าเล็กน้อย รับน้ำใจนี้แล้ว
“ผู้อาวุโสเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ เรื่องตามหาบุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน พวกข้าก็ขอร่วมด้วยเช่นกัน”
เหล่าโอรสสวรรค์พากันเอ่ยขึ้น เริ่มติดต่อผู้อาวุโสในเผ่าตน
เวลานี้ ดินแดนบูรพาสั่นสะเทือนแล้ว
สัตว์ประหลาดระดับอริยะมากมายทนการรบเร้าจากรุ่นเยาว์ไม่ไหว พากันมุดเข้าไปในกระแสมิติปั่นป่วน
และทุกอย่างนี้ เสิ่นเทียนไม่รู้เลย
…….
กระแสมิติปั่นป่วน กฎเกณฑ์ยุ่งเหยิงมากมายคือห้วงมิติตัดสลับกัน
ที่นี่เป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างยิ่ง มีเพียงผู้แข็งแกร่งเหนือกว่าระดับอริยะเท่านั้นถึงจะเดินทางในห้วงมิติได้ พอจะก้าวเข้าไปได้
ต่อให้เป็นผู้บำเพ็ญระดับอริยะเข้ามาที่นี่ หากไม่รีบออกไปก็ต้องกล้ำกลืนความแค้นถูกฝังกระดูกอยู่ที่นี่
และตอนนี้เอง ร่างเงาเสิ่นเทียนลอยขึ้นมาช้าๆ
อีกด้านหนึ่ง
มีสายฟ้าเคราะห์ภัยสะท้านโลกลอยขึ้นมากลางกระแสมิติปั่นป่วนไร้พรมแดน
ประกายสายฟ้าสั่นไหว หมุนม้วนไปสามพันลี้ เหมือนกับจะทำลายฟ้าดินให้กลับไปเบิกฟ้าใหม่อีกครั้ง
ภายใต้สายฟ้าเคราะห์ภัยนี้ มีร่างหนึ่งยืนอยู่กลางอากาศ เงาหงส์ข้างหลังมีขนาดพันจั้ง เปลวไฟร้อนแรงล้นฟ้า มุดเข้าไปในมิติเบิกฟ้า
เห็นได้ชัดว่านี่คือผู้แข็งแกร่งสุดยอดคนหนึ่งกำลังฝ่าด่านเคราะห์
หากมีผู้แข็งแกร่งที่สุดในห้าดินแดนอยู่ที่นี่ ได้เห็นอำนาจเทพเช่นนี้จะต้องจำได้ในทีแรกแน่นอน
คนที่ฝ่าด่านเคราะห์ตอนนี้ก็คือราชินีปีศาจอันดับหนึ่งของดินแดนทักษิณ หญิงหงส์แห่งเผ่าหงส์อมตะ…ราชินีหงส์อมตะ!
นั่นคือสุดยอดธิดาสวรรค์ของดินแดนทักษิณ เข่นฆ่าจนมีชื่อเสียงโด่งดังในศึกตัดฟ้าเมื่อหมื่นปีก่อน เป็นศัตรูคู่แค้นขององค์หญิงขั้นหนึ่งเผ่ามังกรดำเอ๋าปิง!
ความต่างของสองคนคือเมื่อหมื่นปีก่อนเอ๋าปิงเกิดเหตุไม่คาดคิดสิ้นชีพลง ไม่ได้ฝึกบำเพ็ญเป็นเวลาหมื่นปี
แต่ราชินีหงส์อมตะมีขวัญกำลังใจฮึกเหิมมาตลอดหมื่นปี บรรลุถึงระดับสูงสุดที่ไม่มีผู้แข็งแกร่งสุดยอดคนใดในห้าดินแดนกล้าดูถูกแล้ว
ต่อให้เคราะห์อัสนีระบายความกลัดกลุ้ม ราชินีหงส์อมตะก็ยังเหมือนภูเขาไท่ซาน ปล่อยให้เคราะห์อัสนีชะล้าง
ฉึก!
ตอนนี้เองเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น!
แสงกระบี่สีขาวเงินสายหนึ่งพุ่งมาจากกลางกระแสมิติปั่นป่วนไร้พรมแดน ทะลวงผ่านมิติไร้ที่สิ้นสุดเข้ามา
นั่นคือเจตจำนงกระบี่สะท้านโลก เยือนสวรรค์เก้าชั้น ขึ้นถึงจุดสูงสุด
ผ่านไปที่ใด แม้แต่เศษมิติยังแตกกระจายตาม กลายเป็นอากาศธาตุไปทั้งหมด
“หืม”
ราชินีหงส์อมตะยังตั้งตัวไม่ทันก็เห็นแสงกระบี่นี้ทะลวงเข้ามา ฟันเคราะห์อัสนีกลางนภากลายเป็นความว่างเปล่า
จากนั้น คลื่นพลังของแสงกระบี่นี้ก็หมุนม้วนเข้าใส่ราชินีหงส์อมตะ
หลบรึ
หลบไม่ได้เลย!
โชคดีที่แสงกระบี่นี้ไม่ได้พุ่งตรงใส่ราชินีหงส์อมตะ เพียงแค่คลื่นพลังกระจายมาเท่านั้น แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น อานุภาพสูงสุดนั้นก็ยังทำให้ราชินีหงส์อมตะกระอักเลือด กลิ่นอายพลังพลันเหือดแห้งลงไป
เปลวไฟร้อนระอุพุ่งทะลักมาจากในกายราชินีหงส์อมตะ วนเวียนรอบตัวนาง แผ่พลังน่ากลัวออกมา
ใบหน้างดงามที่สุดเผยความจริงจังเสี้ยวหนึ่ง ตอนนี้นางฝ่าด่านเคราะห์มาถึงช่วงเวลาสำคัญ วิชา ลำดับและพลังในกายอยู่ในความสงบนิ่งอย่างน่าประหลาดยิ่ง
และความสงบนิ่งเช่นนี้ กลับพังทลายลงเมื่ออยู่ต่อหน้ากระบี่นั้น
นางรู้สึกว่าพลังงานบ้าคลั่งในตัวนาง ตอนนี้คุมไม่อยู่แล้ว
“กำราบให้ข้า!”
ราชินีหงส์อมตะเอ่ยอย่างเฉยชา ก่อนเคลื่อนกำลังทั้งหมด เตรียมกำราบเปลวเพลิงที่ปะทุในกาย
น่าเสียดายที่เหมือนจะได้ผลไม่ค่อยชัดเจนนัก
พรึ่บ!
ประกายไฟแตกกระจาย อัคคีอรุณใต้พ่นออกมาทั้งหมด
เปลวไฟเอ่อล้นทะลักถาโถมเข้ามาปกคลุมราชินีหงส์อมตะ
กรรซ์!
แต่จากนั้นก็มีเสียงหงส์ร้องดังสนั่นฟ้า เงาเทพหงส์มหึมาสะท้อนกลางห้วงมิติไร้พรมแดน
เพลิงเทพอีกชนิดทะลักมาจากในกายราชินีหงส์อมตะ พลังยิ่งใหญ่ขึ้นไม่หยุดหย่อน ไม่อยากเชื่อว่าจะกำราบอัคคีอรุณใต้ลงไปได้
“กำราบ!”
ราชินีหงส์อมตะตะคอกเบาๆ เก็บเปลวเพลิงสองชนิดเข้าไปในกาย ถึงจะให้ปรากฏการณ์น่ากลัวค่อยๆ สลายไป
ทว่าตอนนี้เอง ดวงตานางพลันมีความแปลกประหลาดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในนั้นเหมือนจะมีเปลวเพลิงต่างกันสองชนิดกำลังโหมไฟลุก
นี่ จะเห็นได้ชัดว่าธาตุไฟเข้าแทรกแล้ว!
…..
ห่างไปไม่ไกล มีลำแสงสายหนึ่งบินเข้ามาใกล้ที่นี่อย่างรวดเร็ว
นั่น คืออาวุธจักรพรรดิที่มหาจักรพรรดิอีกาทองมอบให้เสิ่นเทียน เตาหลอมเทพสุริยะ
ภายใต้การผลักดันด้วยกระแสมิติปั่นป่วน เสิ่นเทียนรู้สึกวิงเวียนศีรษะ เวียนหัวมาก สุดท้ายก็ได้แต่นำเตาหลอมเทพสุริยะออกมา อยู่ในเตาหลอมเทพ ลดอาการวิงเวียนศีรษะได้
เพียงแต่เสิ่นเทียนไม่รู้เลยว่าสุดท้ายกระแสมิติปั่นป่วนไปจะในทิศทางใด
ได้แต่ลอยไปตามคลื่น~
…………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน