บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 394

บทที่ 394 ข้ายอมตายดีกว่ายอมก้มหัว!

กลางกระแสมิติปั่นป่วน เปลวไฟสีสันงามตาบานออกดั่งดอกไม้

ราชินีหงส์อมตะหลับตาปิดสนิท นั่งขัดสมาธิกลางมิติ พลังโอ่อ่ายิ่งใหญ่

ภายในตัวนางมีเปลวเพลิงน่ากลัวสองชนิดตัดสลับกันไม่หยุด พุ่งชนกัน เกิดคลื่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง

แม้ราชินีหงส์อมตะจะโคจรวิชาสุดกำลัง แต่อัคคีอรุณใต้ฉุนเฉียวก็ยังคงบ้าคลั่ง เหมือนจะเผาราชินีหงส์อมตะเป็นเถ้าถ่าน

หลักๆ เป็นเพราะอัคคีอรุณใต้ที่ราชินีหงส์อมตะควบคุมอยู่แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ

อัคคีอรุณใต้เป็นไฟศักดิ์สิทธิ์อันดับสิบในรายนามไฟศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีมีอานุภาพน่ากลัวเช่นนี้อยู่แล้ว

แต่ได้ราชินีหงส์อมตะหล่อหลอมมาหมื่นปี อานุภาพของอัคคีอรุณใต้ก็น่าสะพรึงถึงที่สุด กระทั่งไม่เป็นรองไฟศักดิ์สิทธิ์อันดับต้นๆ ในรายนามไฟศักดิ์สิทธิ์

ตอนนี้อัคคีอรุณใต้บ้าคลั่งขึ้นมา ทำให้ผู้แข็งแกร่งอย่างราชินีหงส์อมตะต้องรับความทุกข์ถูกไฟเผาผลาญใจ

ดีที่ในกายราชินีหงส์อมตะยังมีเปลวเพลิงอีกชนิด ต่อต้านกับมันได้

เปลวเพลิงชนิดนี้มีนามว่าเพลิงอมตะหงส์เทพ

เพลิงอมตะหงส์เทพอยู่อันดับสี่ในรายนามไฟศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ไฟศักดิ์สิทธิ์มรดกของเผ่าหงส์อมตะ

ในเปลวเพลิงชนิดนี้แฝงไว้ด้วยพลังชีวิตทรงพลังอย่างยิ่ง มอบพลังควบคุมการอาบเพลิงเกิดใหม่ได้เรื่อยๆ

มีไฟศักดิ์สิทธิ์ชนิดนี้ ในด้านการฟื้นฟูเรียกได้ว่าแข็งแกร่งถึงที่สุด

ต่อให้บาดเจ็บสาหัสใกล้ตายก็ยังใช้สิ่งนี้นิพพานเกิดใหม่ได้

ตอนนี้ราชินีหงส์อมตะกำลังใช้เพลิงอมตะหงส์เทพต้านทานกับอัคคีอรุณใต้ ถึงได้ยืนหยัดต่อไปไหว

ถึงอย่างไรปราณกระบี่นั้นก็น่ากลัวจริงๆ แม้แต่เคราะห์สวรรค์ยังฟันขาด แค่ปราณกระบี่นั้นที่กระจายออกมาก็ทำให้ราชินีหงส์อมตะบาดเจ็บสาหัสได้

“ไฟศักดิ์สิทธิ์สองชนิดปะทะกัน ขืนทำให้สงบลงไม่ได้ เกรงว่าวันนี้ต้องเป็นปัญหาแน่”

ราชินีหงส์อมตะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง พลังแห่งสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินเดิมทีแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว ตั้งแต่โบราณกาลมามีน้อยคนนักที่จะมีสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินในตัวมากกว่าสองชนิดขึ้นไป ปกติคนที่กล้าลองเช่นนี้จะถูกการปะทะกันระหว่างสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินสองชนิดฉีกร่างเป็นเสี่ยงๆ

ในตัวราชินีหงส์อมตะมีไฟศักดิ์สิทธิ์สองชนิด ปกติย่อมแข็งแกร่งอย่างยิ่ง การโจมตีไร้พ่าย

แต่ตอนนี้อยู่สภาพบาดเจ็บสาหัส ไฟศักดิ์สิทธิ์สองชนิดกลับกลายเป็นภัยที่เป็นปัญหาอย่างยิ่ง ดีไม่ดีอาจจะทำลายฐานรากมรรคของตนได้

และตอนนี้เอง พลังงานในกระแสมิติปั่นป่วนกระเพื่อมขึ้นมา

‘หืม’

ราชินีหงส์อมตะสังเกตเห็นในทันที หันไปมองก็เห็นแสงเทพสายหนึ่งกำลังพุ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว

‘นี่มัน…เตาหลอมเทพสุริยะของมหาจักรพรรดิอีกาทองรึ’

ราชินีหงส์อมตะตาเป็นประกาย นางย่อมรู้ข่าวการปรากฏของมหาจักรพรรดิอีกาทอง

มหาจักรพรรดิอีกาทองเป็นมหาจักรพรรดิเผ่าปีศาจ หลังจากลอยขึ้นโลกเซียนเมื่อแปดหมื่นปีก่อนก็ไม่มีข่าวคราวมาอีก

ทว่าตั้งแต่ข่าวเกาะมหานทีปรากฏ ราชินีหงส์อมตะก็รีบมาในตอนแรก อยากจะสำรวจ

แต่ก็จนปัญญาเพราะนอกเกาะมหานทีมีเขตแดนที่มหาจักรพรรดิอีกาทองวางเอาไว้ กันนางไว้ข้างนอก

บังเอิญที่ว่าราชินีหงส์อมตะมีความรู้สึกในใจว่าเคราะห์สวรรค์ครั้งต่อไปจะมาถึงแล้ว

นางจึงเข้าไปในห้วงมิติ เข้าไปในกระแสมิติปั่นป่วนของทะเลอุดร ตั้งใจจะใช้ชีพจรวิญญาณเขตแดนของมหาจักรพรรดิอีกาทองฝ่าด่านเคราะห์

แต่นางไม่คาดคิดเลยว่ากระบี่สะท้านฟ้าที่มาอย่างกะทันหันจะทำให้นางบาดเจ็บสาหัส

ทว่าตอนนี้ได้เห็นเตาหลอมเทพสุริยะของมหาจักรพรรดิอีกาทอง นี่ทำให้ราชินีหงส์อมตะดีใจขึ้นมา

“มหาจักรพรรดิอีกาทองควบคุมไฟแท้สุริยะ และเตาหลอมเทพสุริยะเป็นอาวุธจักรพรรดิของมหาจักรพรรดิอีกาทอง บางทีอาจจะมีไฟแท้สุริยะหลงเหลืออยู่ หากข้าหลอมรวมไฟแท้สุริยะได้ ก็จะให้ไฟศักดิ์สิทธิ์ในกายสงบลง แก้วิกฤติครั้งนี้ได้แน่นอน บางทีอาจจะพัฒนาไปอีกขั้นก็ได้”

ตอนนี้ราชินีหงส์อมตะอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก การจะแก้ไขก็ต้องได้ไฟศักดิ์สิทธิ์อีกชนิด สร้างเป็นสถานการณ์สามฝ่ายสมดุลกัน

ก่อนจะใช้วิชาลับนิพพานในคัมภีร์จักรพรรดิเทพหงส์ ถึงจะฟื้นฟูกลับมาได้

แต่เงื่อนไขนี้ยากยิ่ง ถึงอย่างไรในกระแสมิติปั่นป่วนจะมีไฟศักดิ์สิทธิ์ปรากฏมาได้อย่างไร

แต่ตอนนี้การปรากฏของเตาหลอมเทพสุริยะทำให้ราชินีหงส์อมตะได้เห็นความหวัง หากหลอมรวมไฟแท้สุริยะได้ นางมั่นใจมากว่าจะแก้วิกฤติครั้งนี้ได้ บางทีอาจจะอาศัยพลังของไฟแท้สุริยะทะลวงคอขวดของตน ระดับพลังพัฒนาไปอีกขั้น

ดังนั้น ราชินีหงส์อมตะจึงยื่นมืองามเล็กและเรียวยาวออกมาอย่างไม่ลังเล คว้าไปทางเตาหลอมเทพสุริยะก่อนจะดึงเข้ามา

แกร๊ง!

เตาหลอมเทพสั่นสะเทือน

เสิ่นเทียนในเตาหลอมเทพสุริยะพลันตกใจตื่น

นี่มันอะไรกัน

ข้าเมารถถึงได้ให้ขับขี่อัตโนมัติเดี๋ยวเดียว ก็ชนแล้วรึ

แต่ประเด็นสำคัญคือที่นี่คือกระแสมิติปั่นป่วนนะ!

ยังมีคนขับรถคนอื่นด้วยหรือ หรือว่าจะชนเข้ากับปราการมิติ

เมื่อคิดได้ดังนั้นเสิ่นเทียนก็ดีใจ

ถ้าเป็นปราการมิติจริงๆ ก็ดี นั่นหมายความว่าในที่สุดเขาก็จะได้ออกจากที่บ้าๆ นี่สักที!

เสิ่นเทียนพุ่งออกจากเตาหลอมเทพสุริยะ เตรียมทำลายปราการมิติอย่างมั่นใจเพื่อออกจากกระแสมิติปั่นป่วน

ทว่าทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นก็พบว่าสถานการณ์แปลกๆ ไป

ตรงหน้าเขามีร่างหนึ่งลอยอยู่ เป็นหญิงสวมชุดขนหงส์สีแดงเพลิง รูปร่างร้อนแรงดั่งไฟ ใบหน้างดงามเหมือนแกะสลักขึ้นจากหยกวิญญาณ เนื้อหิมะกระดูกหยก เอกลักษณ์เย็นยะเยือก ไม่เป็นรองสตรีใดที่เสิ่นเทียนเคยพบมา

อาจพูดได้ว่าเอกลักษณ์สูงส่ง เย็นเยือกและงดงามที่สุด มากพอจะสร้างความตกใจกับทั้งห้าดินแดน

ขณะเดียวกัน เสิ่นเทียนรู้สึกได้ว่าในตัวร่างนี้แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายพลังที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

เทียบเท่ากับอาจารย์!

……

ไม่ใช่กระมัง

ในกระแสมิติปั่นป่วนไร้ขอบเขตจะมีการคงอยู่ที่น่าสะพรึงเช่นนี้ได้หรือ

“คิกๆ ไม่นึกเลยว่าในเตาหลอมเทพสุริยะจะมีมนุษย์รูปงามเช่นนี้อยู่”

ราชินีหงส์อมตะพิจารณามองเสิ่นเทียนอย่างสนอกสนใจ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ

ใบหน้าเสิ่นเทียนเหนือธรรมดา ราวกับเซียนบนฟ้ามาเยือน หล่อเหลากว่ามนุษย์ทุกคนที่นางเคยพบมาในหมื่นปีนี้

ราชินีหงส์อมตะคือเจ้าผู้ครองดินแดนทักษิณ เป็นผู้แข็งแกร่งเผ่าปีศาจสูงสุด

แต่ก่อนอื่นนางเป็นสตรี อีกทั้งยังเป็นพวกหลงรูป!

เมื่อเห็นว่าตนถูกจับจ้อง เสิ่นเทียนก็หัวใจบีบรัดตัว “เอ่อ…ผู้อาวุโส ผู้เยาว์ไม่ได้ตั้งใจบุกรุกเข้ามา ขออย่าได้ถือสาเลย”

แต่ว่าเสิ่นเทียนก็พบว่าการที่หน้าตาดีก็มีประโยชน์เหมือนกัน อย่างน้อยก็ไม่ถูกคนอื่นตบตายในทีเดียว

“ใช้ศักยภาพระดับนิพพาน กล้าท่องในกระแสมิติปั่นป่วน เจ้าหนูกล้าหาญมากนะ! กระทั่งยังควบคุมเตาหลอมเทพสุริยะของมหาจักรพรรดิอีกาทองได้ เจ้าเป็นใครกันแน่”

ราชินีหงส์อมตะเองก็แปลกใจเช่นกัน ต้องรู้ว่าในกระแสมิติปั่นป่วน ขนาดผู้อริยะยังไม่กล้าอยู่นาน ผู้สูงศักดิ์สวรรค์แค่สัมผัสก็ตายทันที

แต่เสิ่นเทียนใช้ระดับพลังนิพพานอยู่ดีในที่นี่ กระทั่งแม้แต่เตาหลอมเทพสุริยะของมหาจักรพรรดิอีกาทองยังอยู่ในมือเขา

นี่ทำให้ราชินีหงส์อมตะเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา ว่าใครกันที่มีพรสวรรค์เช่นนี้

“เรียนผู้อาวุโส ผู้เยาว์คือศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เสิ่นเทียน”

เสิ่นเทียนตอบกลับ แต่ในใจพินิจพิเคราะห์ไม่หยุด

ตอนนี้สถานการณ์ไม่ดี ต้องหาทางหนีออกไป

ถึงอย่างไรการคงอยู่นี้ก็น่ากลัวเกินไป อยู่กับนางจะทำให้เขาไม่รู้สึกปลอดภัยเอาเสียเลย

“แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รึ อ้อ หรือจะเป็นบุตรแห่งโชคชะตาสวรรค์ในตำนานคนนั้นกัน”

ราชินีหงส์อมตะเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจนิดๆ

ราชินีหงส์อมตะได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเสิ่นเทียนมาบ้าง ได้ยินได้ฟังมาจากพวกรุ่นเยาว์ทั้งหมด เคยทำให้ดินแดนทักษิณสั่นสะเทือนอยู่ช่วงหนึ่ง

ถึงอย่างไรข่าวที่ยอดธิดาสวรรค์สูงสุดแห่งเผ่านกยูงห้าสีนำกลับมาก็ทำให้โอรสสวรรค์มากมายเกิดความไม่ยอมในใจ อยากจะไปท้าสู้กับเสิ่นเทียน

แต่การคงอยู่ระดับราชินีหงส์อมตะจะสนใจหรือ

แต่ไม่นึกเลยว่าตอนนี้จะได้พบเสิ่นเทียนในกระแสมิติปั่นป่วน นี่ทำให้นางเกิดความสนใจในตัวเสิ่นเทียนมากกว่าเดิม นางอยากรู้ว่าเจ้าหนูนี่มีอะไรพิเศษกันแน่

“ผู้อาวุโสหยอกเล่นแล้ว นั่นเป็นแค่ชื่อเสียงจอมปลอมที่ถูกแพร่งพรายออกไปเกินจริงเท่านั้น”

เสิ่นเทียนรู้ว่าอยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งระดับนี้ จะเสแสร้งอวดดีไม่ได้

ทว่าราชินีหงส์อมตะกลับเพ่งสายตามองมาทันที

“หืม เหตุใดข้าถึงรู้สึกถึงกลิ่นอายพลังของหญิงแก่เอ๋าปิงนั่นจากตัวเจ้าล่ะ ไม่นึกเลยว่านางหญิงแก่นั่นจะยังไม่ตาย ทั้งยังทำสัญญากับมนุษย์อีก

แต่นี่ก็เข้าใจได้ หญิงมังกรตัวนี้มีนิสัยหลงรูป ชอบหาคนหน้าตาหล่อเหลา เหอะๆ หน้าไม่อายจริงๆ อยากเป็นมังกรแก่กินหญ้าอ่อน”

ราชินีหงส์อมตะพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยเยาะ เห็นได้ชัดว่าไม่ลงรอยกับเอ๋าปิง

เมื่อได้ยินดังนั้นเสิ่นเทียนก็ขนลุกขึ้นมาในใจ

ตอนนี้ เขาคาดเดาฐานะของร่างเงานี้ได้รางๆ แล้ว

ไม่ลงรอยกับเอ๋าปิง และยังมีศักยภาพแข็งแกร่งเช่นนี้!

นอกจากเจ้าผู้ครองดินแดนทักษิณ…ราชินีหงส์อมตะแล้ว จะมีใครอีก

“ผู้อาวุโสราชินีหงส์ จู่ๆ ผู้เยาว์ก็นึกได้ว่ามีเรื่องนิดหน่อยที่บ้าน ขอตัวก่อน”

เสิ่นเทียนขนลุกบนแผ่นหลัง นี่คือผู้แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุค และยังเป็นศัตรูคู่แค้นของเอ๋าปิง ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะเจอนาง

ตอนนี้ราชินีหงส์อมตะยังรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเอ๋าปิงแล้ว จะปล่อยเขาไปง่ายๆ ได้อย่างไร

ดังนั้นเสิ่นเทียนคิดว่าหลีกไปจะดีกว่า!

พูดจบแล้วเสิ่นเทียนก็กระตุ้นวิชาคุนเผิง อยากจะออกจากที่นี่

“หยุดอยู่ตรงนั้น ข้าไม่กินเจ้าหรอก”

ในตัวราชินีหงส์อมตะมีอำนาจคุกคามแก่กล้ากระจายออกมา ทำให้เสิ่นเทียนตัวแข็งทื่อ

เมื่อได้ฟังคำพูดของราชินีหงส์อมตะ เสิ่นเทียนก็รู้สึกเย็นในใจ

จบแล้วๆ!

ข้าไม่รอดแล้ว!

แต่เสิ่นเทียนก็รู้สึกว่าราชินีหงส์อมตะเหมือนจะไม่มีเจตนาร้ายต่อตน

“ผู้อาวุโสราชินีหงส์อมตะ มีอะไรที่ช่วยได้ ผู้เยาว์จะช่วยอย่างเต็มที่เลย”

เสิ่นเทียนหมุนตัวกลับมาเอ่ยอย่างจนปัญญา

“มาผู้อาวุสงผู้อาวุโสอะไรกัน ข้าแก่ขนาดนั้นรึ เรียกพี่สาว!”

ราชินีหงส์อมตะเอ่ยราบเรียบ มองเสิ่นเทียนเหมือนยิ้มทีเล่นทีจริง มีความงดงามของสตรีหลากหลาย

เสิ่นเทียนพูดไม่ออก

เหตุใดสตรียุคนี้ถึงชอบให้คนอื่นเรียกว่าพี่สาวกันจัง

“พี่สาวหงส์ ข้าเห็นกลิ่นอายพลังในกายท่านเหมือนจะปั่นป่วน ที่ข้ามีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานกับสามประกายวารีเทพ บางทีอาจจะมีประโยชน์ได้”

เสิ่นเทียนเองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังฉุนเฉียวในกายราชินีหงส์อมตะแล้ว อานุภาพน่ากลัวนั้นทำให้ท้องนภาจะถล่มทลายลง

เสิ่นเทียนใจสั่นไหว

นี่มันอะไรกัน

ไม่ใช่ว่าลงนามสัญญากันแล้วรึ เหตุใดถึงยังลงมือกับข้าอีก

ราชินีหงส์อมตะเหมือนเห็นความสงสัยในใจเสิ่นเทียนจึงเอ่ยราบเรียบ “วางใจเถอะ ข้าไม่ได้ต้องการชีวิตของเจ้า ตอนแรกข้ากำลังฝ่าด่านเคราะห์ที่นี่ แต่จู่ๆ แสงกระบี่สายหนึ่งก็ทำให้ข้าบาดเจ็บสาหัส ทำให้ไฟศักดิ์สิทธิ์ในกายข้าบ้าคลั่งขึ้นมา ตอนนี้ข้าต้องขอยืมใช้ไฟแท้สุริยะมานิพพานบำเพ็ญ”

เสิ่นเทียนได้ยินดังนั้นก็ใจฝ่อขึ้นมาทันที

แสงกระบี่ที่โจมตีราชินีหงส์อมตะนั่น คงไม่ใช่กระบี่นั้นที่จักรพรรดินีใช้จากในแหวนทองสัมฤทธิ์นั่นหรอกนะ!

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็ยิ่งมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ

มีเพียงจักรพรรดินีที่สุดแห่งยุคนั้นเท่านั้นที่จะทำอันตรายผู้แข็งแกร่งสุดยอดอย่างราชินีหงส์อมตะได้

จะให้ราชินีหงส์อมตะรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นนางต้องฉีกทึ้งข้าแน่

ด้วยเหตุนี้ เสิ่นเทียนจึงใจฝ่อขึ้นมานิดๆ “ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว พี่สาวราชินีหงส์จะให้ผู้เยาว์ทำอย่างไร ผู้เยาว์จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ใบหน้างดงามที่สุดนั้นของราชินีหงส์อมตะถึงมีความแดงเรื่อวูบผ่าน

แม้นางจะปกปิดไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่พ้นสายตาเสิ่นเทียน

ตอนนี้เสิ่นเทียนพลันพบว่าราชินีหงส์อมตะเหมือนจะมีอาการผิดปกติเล็กน้อย

เสิ่นเทียนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เห็นในดวงตาของราชินีหงส์อมตะมีประกายไฟสองสายตัดสลับกัน

เวลานี้ กลิ่นอายว้าวุ่นใจลอยขึ้นมาจากในใจเสิ่นเทียน

“ตอนนี้ข้าธาตุไฟเข้าแทรก เจ้าบังเอิญโผล่มาที่นี่พอดี ดูท่าคงจะเป็นชะตาฟ้าลิขิต”

ราชินีหงส์อมตะเอ่ย แต่กลับหน้าแดงขึ้นมา

ตอนนี้นางลงนามสัญญากับเสิ่นเทียนแล้ว ย่อมไม่มีทางสังหารเขาเอาไฟ

แต่ราชินีหงส์อมตะรู้ว่ายังมีอีกวิธีหนึ่ง ที่จะกำราบไฟศักดิ์สิทธิ์ในกายได้เช่นกัน

นั่นคือบทวิชาลับคู่ประสานที่เคยบันทึกไว้ในคัมภีร์จักรพรรดิเทพหงส์ เป็นการฝึกคู่ประสานกับผู้ร่วมลงนามเทพหงส์ สองฝ่ายจะได้ประโยชน์กันอย่างมาก กระทั่งมีประโยชน์ยิ่งกว่าหลอมรวมไฟแท้สุริยะ

ดังนั้น ราชินีหงส์อมตะจึงคิดจะใช้วิธีนี้กำราบไฟศักดิ์สิทธิ์ในกาย

“ช่างเถอะ ถึงเจ้าจะมีพลังบำเพ็ญอ่อนแอ แต่ใบหน้าก็พอจะคู่ควรกับข้า วันนี้เป็นลาภปากกับเจ้าแล้ว!”

ราชินีหงส์อมตะเอ่ยขึ้น ประกายไฟในดวงตารุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

เหมือนว่าราชินีหงส์อมตะกำลังจะธาตุไฟเข้าแทรกแล้ว เหนี่ยวนำให้จิตวิญญาณสั่นไหว ถึงได้ตัดสินใจเช่นนี้

แต่จุดนี้ ราชินีหงส์อมตะเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

นางเพียงแค่คิดในใจว่า ข้าทำเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ ไม่ใช่เพราะเจ้าหนูนี่มีใบหน้าหล่อเหลาเด็ดขาด

ไม่ใช่เด็ดขาด!

……

เสิ่นเทียนได้ยินดังนั้นก็ตัวแข็งทื่อ

อะไรนะ

นางหมายความว่าอย่างไรกัน

อะไรคือเป็นลาภปากกับข้า

ข้าต้องทำอะไร

แต่ไม่นานเสิ่นเทียนก็เข้าใจ ราชินีหงส์อมตะได้ใช้รูปแบบดวงจิตส่งวิชาลับคู่ประสานในคัมภีร์เทพหงส์มาให้แล้ว

นี่ทำให้เสิ่นเทียนตัวสั่นสะท้าน

บ้าจริง หญิงแก่นี่กระหายในตัวข้า!

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก นี่มันน่าสะเทือนจิตใจเกินไปแล้วกระมัง!

ข้าบริสุทธิ์มาตลอด จนถึงตอนนี้ยังมีกายแห่งหยางบริสุทธิ์นะ!

คิดจะทำให้กายเนื้อข้าด่างพร้อยรึ

ไม่มีทาง!

ข้ายอมตายเสียดีกว่ายอมก้มหัว!

เสิ่นเทียนเอ่ยขึ้น “พี่สาวราชินีหงส์ ข้าเพิ่งเคยเป็นครั้งแรก”

ก็ได้ หลังจากสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังน่ากลัวที่แผ่มาจากราชินีหงส์อมตะแล้ว

เสิ่นเทียนก็กลัวขึ้นมานิดๆ

ภาษิตว่าบุรุษงอได้ยืดได้ ยาวได้สั้นได้ หยาบได้ละเอียดได้ อ่อนได้แข็งได้!

นี่ไม่ใช่เพราะข้ากลัวตายหรอก!

ไม่ใช่เด็ดขาด!

ราชินีหงส์อมตะชำเลืองตามองเสิ่นเทียนทีหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะ “ครั้งแรกแล้วอย่างไร ต้องให้รางวัลเจ้ารึ อีกอย่าง ข้าก็เพิ่งเคยเป็นครั้งแรกเหมือนกัน เจ้าไม่ได้เสียเปรียบ”

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ ราชินีหงส์อมตะก็หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย

นางโบกมืองาม ดูดเสิ่นเทียนมาไว้ข้างกาย เพลิงเทพร้อนแรงพลันพุ่งขึ้นฟ้า สร้างเป็นลานฝึกบำเพ็ญเปลวไฟลุกโชติช่วง

เวลานี้ ทิวทัศน์ใบไม้ผลิไร้พรมแดนถูกเปลวไฟลุกโชตช่วงปกคลุม

เหลือเพียงเสียงน่าหลงใหลที่เหมือนมีและเหมือนไม่มีดังกึกก้องในห้วงมิติ

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน