บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 418

บทที่ 418 ฮวงสือออกคำสั่ง จี้เซี่ยเปิดรับสมัคร!

หวังเสินซวีมองโอสถเสริมสวรรค์ในมือพลางรู้สึกกระบอกตาร้อนผ่าว

“สหายเสิ่นมีคุณธรรมสูงเทียมฟ้า ท่านเป็นผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ!”

หวังเสินซวีความสุขในใจมาก!

อู้หู! อู้หู!

โอสถเสริมสวรรค์! โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า!

โอสถนี่ลงท้อง แซ่หวังจะไม่บินขึ้นเลยรึ

หวังเสินซวีเอาโอสถเสริมสวรรค์ใส่ปากอย่างไม่ลังเล ก่อนจะเริ่มหลอมรวม

ไม่นานผิวกายเขาก็เปล่งแสงเทพ รอบตัวแผ่กลิ่นอายพลังที่ยิ่งใหญ่ยิ่ง

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภามองไปทางหวังเสินซวีไกลๆ นัยน์ตาพลันฉายแววเฝ้ารอคอย

หวังเสินซวีมีกายศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา!

เมื่อได้กินโอสถนี้ ไม่ว่าจะคุณสมบัติกายหรือพรสวรรค์ก็จะผลัดเปลี่ยน!

นั่นจะไม่ได้หมายความว่าข้าก็จะได้ประกาศต่อทุกคนว่า ‘ศิษย์ข้าเสินซวีมีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิ’ หรือ

อืม

ก่อนหน้านี้เหมือนว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงจะโอ้อวดต่อหน้าข้าเช่นนี้ รอเสินซวีหลอมรวมโอสถเสริมสวรรค์ก่อน ข้าจะดูว่าเจ้านั่นจะอวดต่อไปอย่างไร คงต้องอิจฉาจนตายแน่!

อ๊าก~

ความรู้สึกได้ลืมตาอ้าปากนี้ แค่คิดก็มีความสุขมากแล้ว!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภามีใบหน้าเฝ้ารอคอยและใฝ่ฝัน เหมือนว่าได้เห็นแววตาอิจฉาริษยาของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงแล้ว

เขาลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้ เขาเกือบจะอดใจไม่ไหวสังหารศิษย์ชั่วของตน

….

จะว่าไป โอสถเสริมสวรรค์ได้มาง่ายๆ เช่นนี้เลยรึ

เดี๋ยวข้าไปลองดูดีหรือไม่

ทันใดนั้น เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาก็เกิดความคิดอันกล้าหาญขึ้น แต่เขามองเสิ่นเทียน ก่อนจะมองพวกรุ่นเยาว์ สุดท้ายก็ส่ายหน้า

มีคนอยู่ล้อมรอบมากไปจริงๆ เขาวางเกียรตินี้ลงไม่ได้ ถึงอย่างไรก็เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาผู้ยิ่งใหญ่ ก็ต้องมีเกียรติเหมือนกัน

ตอนนี้เอง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เดินมาจากด้านข้างช้าๆ

ความคิดที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาเพิ่งกดลงไปก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ถึงข้าจะวางเกียรติไปหารุ่นเยาว์พวกนั้นไม่ได้ แต่ก็ยังมีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไง!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาเคลื่อนความคิด ก่อนจะรีบเดินเข้าไป “สหายหลงหยวน ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า!”

……

เปรี้ยง!

หวังเสินซวีที่กินโอสถเสริมสวรรค์ไปแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ข้างหลังเขายิงแสงหมื่นจั้ง ห้วงอากาศสั่นไหวครั้งแล้วครั้งเล่า เหนี่ยวนำเป็นมิติไร้รูปหลายชั้น

ภายใต้การเสริมด้วยพลังของมิตินี้ ร่างหวังเสินซวีกลายเป็นมายาลอยล่อง เหมือนจะหลอมรวมเข้าไปในความว่างเปล่า

ไม่ใช่แค่นั้น แม้แต่ห้วงอากาศข้างหลังเขายังกลายเป็นภาพมายา ราวกับมีมิติเปิดออก สะท้อนออกมาเป็นโลกมิติ!

พลังอำนาจหมุนม้วนไปแปดทิศ ดึงดูดสายตาสนใจของคนมากมาย

“นี่คือกายศักดิ์สิทธิ์ท้องนภารึ”

“มิติไร้พรมแดนนั่น ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ยังหนาวสั่นเลย”

มีคนร้องตกใจ มองหวังเสินซวีที่กำลังผลัดเปลี่ยนคุณสมบัติกายด้วยแววตาตื่นตกใจ

สายเลือดท้องนภาแข็งแกร่งอย่างยิ่งมาแต่โบราณแล้ว มีพลังควบคุมมิติ สู้กับผู้บำเพ็ญคนอื่นข้ามขั้นได้ง่ายๆ

เพียงแต่ว่าสายเลือดนี้มีอายุขัยไม่มาก ใช้ชีวิตเป็นต้นกำเนิดกระตุ้นกำลังรบที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะกายศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา ทุกคนมีอายุสั้นตายแต่เยาว์วัย

ดังนั้นถึงทุกคนจะกลัวสายเลือดท้องนภา แต่ก็ไม่ถึงกับเกรงกลัว

ทว่าตอนนี้เมื่อดูดซับพลังโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า กายศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาของหวังเสินซวีเกิดการผลัดเปลี่ยน อานุภาพของคุณสมบัติกายนี้แกร่งขึ้นอย่างมาก!

ราวกับว่ารวมกับห้วงอากาศเป็นหนึ่งเดียว กลายเป็นผู้ควบคุมมิติ!

ไม่ใช่แค่นั้น แม้แต่กลิ่นอายชีวิตของหวังเสินซวียังฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว

เส้นผมขาวดอกเลาในตอนแรกกลายเป็นผมดำ ขอบตาดำเหมือนหมีแพนดาก็หายไปทั้งหมด ทุกส่วยในร่างกายเขาแผ่พลังชีวิตที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง

ขณะเดียวกัน พลังบำเพ็ญของหวังเสินซวีก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดดวงจิตดรุณถึงหยุดลง

ด้วยโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้านี้ หวังเสินซวีไม่ใช่แค่ให้คุณสมบัติกายตัวเองผลัดเปลี่ยน แม้แต่การเผาอายุขัยตลอดหลายปีมานี้ยังฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด

ตอนนี้ หวังเสินซวีเรียกได้ว่ามีจิตใจเร่าร้อนฮึกเหิม!

บึ้ม!

กลิ่นอายพลังหลั่งทะลักอย่างบ้าคลั่ง

แสงเทพส่องสว่างมาจากในกาย กลิ่นอายพลังยิ่งใหญ่ถึงขีดสุด

ยามนี้ หวังเสินซวีเหมือนกับเทพเจ้าผู้ควบคุมท้องนภาทั้งหมด มาเยือนโลกมนุษย์!

ฉีเซ่าเสวียนด้านข้างยอมรับว่าเขาอิจฉา!

โอสถเสริมสวรรค์นี่ แม้แต่ผู้อริยะยังสนใจ แล้วนับประสาอะไรกับเขา

แม้แต่หวังเสินซวียังได้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเสริมพลัง ได้เพิ่มศักยภาพอย่างมาก

หากเขาฉีเซ่าเสวียนได้โอสถนี้ จะไม่แกร่งขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร

แต่ดีเลวอย่างไรเขาก็เป็นอดีตอันดับหนึ่งในดินแดนบูรพา มีความโอหัง จะไปเหมือนหวังเสินซวีได้อย่างไร เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะหน้าด้านขนาดนั้น!

นี่ทำให้สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาก

ฉีเซ่าเสวียนอยากได้โอสถเสริมสวรรค์แต่ก็อายที่จะเลีย จึงได้แต่มองเสิ่นเทียนด้วยความคับอกคับใจ

ลูกประคำในอกเสื้อเสิ่นเทียนสั่นไหวขึ้นมา “นายท่าน จิ่วเอ๋อร์รู้สึกถึงแรงอาฆาตรุนแรงจากตัวบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง!”

เสิ่นเทียนงุนงง

เสิ่นเทียนหันไปมองก็เห็นฉีเซ่าเสวียนมองตนด้วยความคับแค้นใจมาก

ท่าทางนั้น เหมือนกับภรรยาน้อยที่ไม่ได้รับความโปรดปรานเลย

…..

เสิ่นเทียนเห็นดังนั้นก็เผยรอยยิ้ม

เขาจะไม่เข้าใจความคิดฉีเซ่าเสวียนได้อย่างไร

ถึงอย่างไรไอคิวของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เป็นที่ยอมรับว่าสูงส่ง!

เพราะให้โอสถเสริมสวรรค์ไปมากขนาดนั้นแล้ว ก็จะขาดคนนี้ไปไม่ได้!

มิหนำซ้ำฉีเซ่าเสวียนก็เป็นบุตรแห่งมหาโชคที่มีวงรัศมีสีม่วง!

กุยช่ายคุณภาพสูงเช่นนี้ เสิ่นเทียนไม่รังเกียจเลยถ้าจะได้มาเยอะๆ!

ตอนนี้เองหวังเสินซวีพุ่งเข้าไปก่อน ขวางหน้าฉีเซ่าเสวียนอย่างองอาจห้าวหาญ เห็นเขาเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง แสงหมื่นจั้งข้างหลังโอ่อ่ายิ่งใหญ่ ความรู้สึกโอ้อวดมาเต็ม

เขาชำเลืองตามองฉีเซ่าเสวียนอย่างเฉยชา “ผู้อาวุโสฉี กล้าสู้กันหน่อยหรือไม่”

ตอนนี้ในใจหวังเสินซวีกำลังลำพองใจ!

สายเลือดท้องนภาไม่อ่อนแอกว่าใครมาแต่โบราณกาลแล้ว!

แต่เขาถูกฉีเซ่าเสวียนกดอยู่เหนือกว่ามาตลอด คับอกคับใจมาก

หากไม่ใช่เพราะอายุขัยเขาไม่พอสู้กับฉีเซ่าเสวียน บางทีสองคนอาจจะตัดสินแพ้ชนะกันไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน แซ่หวังได้โอสถมา! กำลังรบเพิ่มขึ้น อายุขัยฟื้นกลับมา!

ข้าคิดว่าข้าพร้อมแล้ว!

หลังกินโอสถ หวังเสินซวีก็ก้าวออกมาในทันที ท้าสู้กับฉีเซ่าเสวียน

เขาจะระบายโทสะที่ได้รับมาตลอดหลายปีมานี้ออกไปให้หมด

เมื่อเห็นดังนั้น ฉีเซ่าเสวียนก็เงียบ

เขารู้สึกว่าศักยภาพของหวังเสินซวีเพิ่มมากขึ้น ต่อให้เป็นเขาก็ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้!

แม้จะเป็นเช่นนั้น ภายในกายฉีเซ่าเสวียนก็ยังมีไอม่วงมหาศาล ถือง้าวมังกรสวรรค์ลง จิตต่อสู้ฮึกเหิม

ข้าแซ่ฉีมีปณิธานว่าจะเป็นอันดับหนึ่งใต้ฟ้า จะไปกลัวคนปณิธานต่ำต้อยได้อย่างไร

ถ้าเจ้าจะสู้ ข้าก็จะสู้กับเจ้า!

หวังเสินซวีหัวเราะเหอะๆ “ผู้อาวุโสฉีเอ๋ย! ตอนนี้เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ข้าแล้ว! วันนี้ แซ่หวังจะสับเจ้าให้ตาย!”

หวังเสินซวีร้องสุขสบายในใจ ไม่ได้ลืมตาอ้าปากเช่นนี้มานานมาก!

นับจากนี้ไป อันดับหนึ่งใต้ฟ้าจะเป็นของข้าแซ่หวัง!

วะฮ่าๆๆๆๆ~

แค่คิดก็มีความสุขแล้ว!

ตอนนี้เอง เสิ่นเทียนเดินเข้ามาช้าๆ “สหายฉี ก่อนหน้านี้ลืมไป โอสถเสริมสวรรค์นี่ข้าเตรียมมาให้เจ้า!”

เสิ่นเทียนนำโอสถเสริมสวรรค์ออกมาส่งให้ในมือฉีเซ่าเสวียน!

ฉีเซ่าเสวียนตกใจ

หวังเสินซวีงุนงง

ระ…ระยำ นี่ข้าเลียไปเสียเปล่ารึ

หวังเสินซวีเบิกตาโตมาก ตัวแข็งอยู่กับที่

ฉีเซ่าเสวียนทำหน้าซาบซึ้งใจ “สหายเสิ่น แซ่ฉีไม่…”

ใช่ เดิมทีฉีเซ่าเสวียนคิดจะเกรงใจ แต่ก็พูดไม่ออกจริงๆ

สรรพคุณของโอสถนี้เผยออกมาแล้ว แม้แต่ขยะอย่างหวังเสินซวียังเปลี่ยนแปลงไปมาก

เขาฉีเซ่าเสวียนจะไม่สนใจได้อย่างไร!

ปกติ จะต้องบอกปัดไปปัดมาเกรงใจกัน แต่ฉีเซ่าเสวียนกังวลว่าถ้าเขาเกรงใจ แล้วเสิ่นเทียนเอากลับไปจริงๆ จะทำอย่างไร

อยู่ต่อหน้าโอสถเทพสูงสุดเช่นนี้ ต่อให้เป็นฉีเซ่าเสวียนก็ยังอดนึกถึงส่วนได้ส่วนเสียมิได้

“สหายเสิ่น บุญคุณยิ่งใหญ่ไม่อาจแค่เอ่ยขอบคุณได้ ภายภาคหน้าหากมีอะไรให้แซ่ฉีช่วย ไม่ว่าจะบุกน้ำลุยไฟเป็นตายอะไรก็ไม่ปฏิเสธ!”

ฉีเซ่าเสวียนป้องมืออย่างจริงจัง ซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง

สหายเสิ่นมีจิตใจโอบอ้อมอารีเช่นนี้ แม้แต่โอสถสูงสุดอย่างโอสถเสริมสวรรค์ยังยินดีมอบให้

ความต่างระหว่างข้ากับสหายเสิ่นเหมือนกับร่องหุบเขาโลกกับสวรรค์ ไกลไม่อาจเอื้อมถึง!

แต่อันดับหนึ่งใต้ฟ้ารองจากสหายเสิ่น จะต้องเป็นของแซ่ฉี!

ฉีเซ่าเสวียนกำโอสถเสริมสวรรค์ จิตต่อสู้ฮึกเหิมถึงที่สุด

……

เขามองหวังเสินซวีที่อยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาพลางเอ่ยอย่างเฉยชา “แซ่ฉีกินโอสถเสริมสวรรค์ก่อนแล้วจะมาศึกษามรรคกับเจ้า!

แซ่ฉีอยากรู้นักว่าจะเป็นกระดูกเจ้าแข็ง หรือง้าวมังกรสวรรค์ของแซ่ฉีที่แข็งกว่ากัน!

หวังเสินซวี อย่าหนีไปไหนละ!”

ฉีเซ่าเสวียนชำเลืองตามองหวังเสินซวีแวบหนึ่ง ก่อนจะนั่งลงทันที เริ่มกินโอสถ

หลังได้โอสถเสริมสวรรค์มา ความมั่นใจของฉีเซ่าเสวียนก็กลับมาอีกครั้ง!

บุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาหวังเสินซวีอะไรนั่น กายศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาอะไรนั่น เดี๋ยวจะสอนให้เจ้าเป็นคนเอง!

ทางด้านหวังเสินซวีข้างกายมีสีหน้าเปลี่ยนไปหลากหลาย เดี๋ยวแดงเดียวขาว เหมือนกับแสดงเปลี่ยนหน้ากาก

แม้หวังเสินซวีจะฟื้นอายุขัยที่เสียไปก่อนหน้านี้กลับมาทั้งหมด ไม่ว่าจะคุณสมบัติกายหรือศักยภาพก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แต่เจ้าฉีเซ่าเสวียนนี่ ก็ยังดูถูกไม่ได้ง่ายๆ!

ฉีเซ่าเสวียนเคยเป็นอันดับหนึ่งในดินแดนบูรพา และยังได้โอสถสูงสุดเสริมสวรรค์เบิกฟ้าช่วย เกรงว่ากำลังรบคงเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน