บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 431

บทที่ 431 เสิ่นเทียนปะทะสือเทียนจื่อ (1)

แดนมายารกร้าง เป็นโลกเล็กที่จักรพรรดิฮวงสือสร้างขึ้น

คนที่เข้าโลกนี้ได้คือคนที่จักรพรรดิฮวงสือยอมรับ

ไม่เช่นนั้นต่อให้เป็นการคงอยู่ระดับมหาอริยะก็ไม่มีทางฝ่าเข้ามาโดยพลการได้

จักรพรรดิฮวงสือคือบุคคลในตำนานของดินแดนกลางไปจนถึงห้าดินแดน ไร้พ่ายในโลกหล้ามาหลายพันปี!

มองบุรุษชุดคลุมม่วงที่ดูเหมือนธรรมดาตรงหน้า ต่อให้แข็งแกร่งอย่างสือเทียนจื่อก็ยังเคารพยิ่ง

เขายืนอยู่หน้าจักรพรรดิฮวงสือด้วยความนอบน้อม “ท่านจักรพรรดิ ข้าเคยพบเสิ่นเทียนมาแล้ว แม้เจ้าเด็กนี่จะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ไม่ถือว่าน่าตกใจนัก!”

…….

จักรพรรดิฮวงสือมอบป้ายคำสั่งราชโองการพิเศษ เชิญเสิ่นเทียนเข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยไม่เท่าไร แต่ยังออกปากว่าหากเสิ่นเทียนยินดี เขาจะชี้แนะให้เสิ่นเทียนด้วยตนเองช่วงเวลาหนึ่ง

ต้องรู้ว่านั่นคือจักรพรรดิ เป็นความศรัทธาของราชวงศ์เซียนต้าฮวง และเป็นความศรัทธาของสือเทียนจื่อ

ต่อให้หัวดื้ออย่างสือเทียนจื่อก็ยังเลื่อมใสจักรพรรดิฮวงสืออย่างยิ่ง

ตอนแรกได้ยินท่านจักรพรรดิยินดีจะชี้แนะตน สือเทียนจื่อก็ตื่นเต้นนอนไม่หลับไปหลายวัน

การคงอยู่เช่นนี้ยินดีจะชี้แนะเสิ่นเทียนด้วยตัวเองไม่เท่าไร แต่ยังต้องถามความเห็นของเสิ่นเทียนก่อนด้วยรึ

อะไรคือถ้าหากเสิ่นเทียนยินดี

หรือว่าเจ้าเด็กนี่จะไม่ยินดีได้ด้วยหรือ

ใช่ เจตนาร้ายที่สือเทียนจื่อมีต่อเสิ่นเทียนก็เพราะเหตุนี้

แม้เสิ่นเทียนจะแสดงพรสวรรค์ไม่ธรรมดาออกมา เหนือกว่าโอรสสวรรค์คนอื่นในห้าดินแดน แต่สือเทียนจื่อก็ไม่คิดว่าเขาคู่ควรจะให้จักรพรรดิให้ความสำคัญเช่นนี้

ถึงอย่างไรสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยก่อตั้งมาห้าพันปี แม้จะมีโอรสสวรรค์ที่เทียบเท่ากับเสิ่นเทียนได้ไม่มาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย

แต่ไม่เคยมีใครที่จักรพรรดิฮวงสือให้ความสำคัญเท่าเสิ่นเทียน แม้แต่สือเทียนจื่อยังด้อยกว่าเล็กน้อย!

สารภาพตามตรง สือเทียนจื่อที่ได้สืบสายวิชาเพียงหนึ่งเดียวในตอนนี้ของจักรพรรดิฮวงสือกำลังอิจฉาแล้ว

จักรพรรดิฮวงสือเผยรอยยิ้ม มองไปดูสบายๆ

“เสิ่นเทียน ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เจ้าเห็นเลย พรสวรรค์ของเขาอยู่เหนือกว่าเจ้า ศักยภาพก็ยังแกร่งกว่าเจ้าเล็กน้อย!”

สือเทียนจื่ออึ้งไป ไม่นึกเลยว่าท่านจักรพรรดิจะประเมินเสิ่นเทียนไว้สูงขนาดนี้

สือเทียนจื่อเป็นที่สนใจของทุกคนมาแต่เยาว์วัย เป็นดั่งดาวล้อมเดือน คุยโวว่าตนเป็นที่หนึ่งในรุ่นเดียวกัน ไม่มีใครเทียบกับตนได้!

นี่คือความมั่นใจในตนเองของเขา และเป็นแรงผลักดันของเขา!

จักรพรรดิฮวงสือบอกว่าเขาสู้เสิ่นเทียนไม่ได้ สือเทียนจื่อย่อมไม่ยอม

สือเทียนจื่อพูดประชด “ข้าไม่เชื่อ ก็แค่เสิ่นเทียน ข้าใช้มือเดียวก็คว่ำได้แล้ว”

เสิ่นเทียนมีชื่อเสียงเลื่องลือ เล่าลือว่าเคยเอาชนะอริยะแท้ได้!

แต่สำหรับสือเทียนจื่อ ผลการรบนี้ยังไม่มากพอจะทำให้เขาหน้าเปลี่ยนสี!

มิหนำซ้ำกำลังรบที่เสิ่นเทียนแสดงก่อนหน้านี้อย่างมากสุดเทียบเท่าผู้อริยะเคราะห์แรก รับการโจมตีเดียวไม่ได้ด้วยซ้ำ

แต่สือเทียนจื่อล่ะ!

เขาเคยสังหารอริยะแท้ลัทธิวิญญาณร้ายมาแล้ว กำลังรบเป็นที่สุด เช่นนั้นก็กำราบบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้ง่ายดายไม่ใช่รึ

จักรพรรดิฮวงสือไม่พูด แค่ส่ายหน้าช้าๆ

สือเทียนจื่อมีคุณสมบัติไม่ธรรมดา แต่ก็หัวดื้อเกินไป นี่ไม่ใช่เรื่องดีกับการเติบโตในอนาคต

ควรรู้ว่าเหนือคนมีคนเหนือฟ้ามีฟ้า ในห้าดินแดนซ่อนความลับใหญ่ไว้มากมาย กระทั่งการคงอยู่ที่ทำให้เขาหวาดกลัว

หัวดื้อและมั่นใจเกินไปจะกลายเป็นพันธนาการตนเอง ภายภาคหน้าจะเสียเปรียบหนัก!

ตอนนี้เอง ห้วงอากาศสั่นไหว พลันปรากฏร่างของเสิ่นเทียนขึ้น

สองคนพลันสัมผัสได้จึงเพ่งสายตามองไป

……

สือเทียนจื่อเพ่งสายตามอง ไม่นึกเลยว่าพวกเขากำลังพูดถึงเสิ่นเทียน เสิ่นเทียนก็มาถึงเลย!

เมื่อเห็นสองคนมองมา เสิ่นเทียนก็เดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม ป้องมือพูดด้วยความเคารพ “ขอคารวะท่านจักรพรรดิฮวงสือ!”

ท่าทางของเสิ่นเทียนสุภาพเรียบร้อย ไม่โอหังไม่ใจร้อน มีมารยาทมาก

ถึงอย่างไรคนตรงหน้าก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุคที่กวาดล้างห้าดินแดนและคงอยู่สุดยอด

แม้จะดูค่อนข้างธรรมดา แต่ศักยภาพไม่เป็นที่ต้องสงสัยเลย

มิหนำซ้ำจักรพรรดิฮวงสือยังห่วงใยโลกหล้า เป็นผู้พิทักษ์ห้าดินแดน ควรค่าแก่การให้ปุถุชนเคารพ

เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุคเช่นนี้ เสิ่นเทียนจะเสียมารยาทไม่ได้

อืม สาเหตุหลักๆ เป็นเพราะสู้ไม่ได้~

“ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว!”

จักรพรรดิฮวงสือยิ้ม เพ่งสายตามองตัวเสิ่นเทียน ใบหน้ามีความอ่อนโยนเหมือนผู้อาวุโสหลายส่วน

ทว่าสือเทียนจื่อกลับไม่พอใจ ความไม่ยอมในใจเขาเผยมาบนใบหน้าทั้งหมด

สือเทียนจื่อเดินมาหน้าเสิ่นเทียน “เสิ่นเทียน มาสู้กับข้า”

เขาจะสู้กับเสิ่นเทียน ดูว่าใครจะแกร่งกว่ากันแน่

เสิ่นเทียนอึ้งไป มองสือเทียนจื่อที่มีจิตต่อสู้เอ่อล้นด้วยความจนปัญญาและไม่เข้าใจ

เจ้าหนูนี่อะไรกัน เหตุใดถึงเหมือนกินดินระเบิดเข้าไป!

เพิ่งเจอหน้ากันก็จะสู้ตัวต่อตัวกับข้ารึ

เสิ่นเทียนส่ายหน้าให้กับมารยาทกับความคิดของกุยช่าย

“สหายเทียนจื่อ ถึงเจ้ากับข้าจะไม่ได้เจอกันครั้งแรก แต่เจอหน้ากันไม่สู้กันเลยได้หรือไม่!”

สือเทียนจื่ออึ้งไปเล็กน้อย เขาไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะปฏิเสธตน

การบำเพ็ญก็เหมือนแล่นเรือทวนน้ำ การต่อสู้คือรูปแบบการยกระดับที่ดีและเร็วที่สุดสำหรับผู้บำเพ็ญ

ไม่อยากเชื่อว่าเสิ่นเทียนจะปฏิเสธ เวลานี้สือเทียนจื่อตั้งตัวไม่ทันแล้ว

ปกติคนที่ปฏิเสธการท้าสู้ของคนอื่น ไม่ศักยภาพแกร่งเกินไป ไม่แยแสการท้าสู้ของผู้อ่อนแอ ก็ศักยภาพอ่อนแอเกินไป รู้ว่าสู้ไม่ได้ รับไว้ก็มีแต่ถูกทุบตี

สือเทียนจื่อคิดว่าเสิ่นเทียนต้องไม่ใช่อย่างแรกแน่

เมื่อคิดได้ดังนั้น สือเทียนจื่อก็พูดอย่างเฉยชา “อย่างมากข้าก็กดพลังบำเพ็ญมาอยู่ระดับเดียวกับเจ้า!”

ต่อสู้ด้วยกำลังรบเท่ากันอย่างยุติธรรม สือเทียนจื่อไม่เชื่อว่าแบบนี้แล้วเสิ่นเทียนจะปฏิเสธตน

แต่เสิ่นเทียนก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธ “สหายเทียนจื่อ ช่างมันเถอะ!”

เขาใช้คุณธรรมกำราบคนมาตลอด ไม่ชอบการต่อสู้เข่นฆ่าที่สุด โดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับกุยช่ายใหญ่เช่นนี้

เกิดไม่ระวังทุบตีเจ้าเด็กนี่หนักเกินไป ทำให้เขาเกิดความรู้สึกไม่ดีกับข้าจะทำอย่างไร

เช่นนั้นข้าจะเก็บเกี่ยวกุยช่ายอย่างไรล่ะ!

นี่คือกุยช่ายใหญ่อ้วนระดับสุดยอด เสิ่นเทียนไม่อยากให้เกิดความผิดพลาด

ยึดตามความคิดนี้แล้ว ไม่ว่าสือเทียนจื่อจะพูดปากเปียกปากแฉะอย่างไร เสิ่นเทียนก็ส่ายหน้าปฏิเสธ!

สือเทียนจื่อกระทืบเท้าด้วยความโมโห ไม่นึกเลยว่าเจ้าหนูเสิ่นเทียนจะขี้กลัวเช่นนี้ ไม่รับคำท้าสู้ของตนเลย หากไม่ใช่เพราะจักรพรรดิฮวงสืออยู่ที่นี่ เขาอาจจะพุ่งเข้าไปกดดันให้เสิ่นเทียนออกมือแล้ว

…..

ตอนนี้เอง จักรพรรดิฮวงสือพูดด้วยรอยยิ้ม “เสิ่นเทียน หากเจ้าชนะ ข้าจะมอบโอสถจักรพรรดิให้ต้นหนึ่ง!”

โอสถจักรพรรดิรึ

เสิ่นเทียนตาเป็นประกาย “ในเมื่อสหายเทียนจื่อเชื้อเชิญจากใจจริง แซ่เสิ่นก็ยินดีจะรับไว้ สหายเทียนจื่อ แซ่เสิ่นรับคำท้า!”

ตึง!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง

ในที่สุดเสิ่นเทียนก็ลอยขึ้นมา ประกายสายฟ้าสว่างไปทั่วร่าง ปรากฏการณ์น่ากลัวหมุนม้วนออกไป

พริบตาเดียวก็แก้การโจมตีของสือเทียนจื่อได้

“อย่าเอาแต่หลบได้หรือไม่ กล้าสู้กับข้าอย่างผึ่งผายหรือไม่”

สือเทียนจื่อมุมปากกระตุกเล็กน้อย เขาหาตำแหน่งของเสิ่นเทียนพบ แต่ด้วยความเร็วของเขา การจะตามทันและเอาชนะเสิ่นเทียนไม่ใช่ง่ายๆ!

เว้นแต่จะผนึกมิตินี้ไว้ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นไม่มีทางใดโจมตีโดนเสิ่นเทียนเลย

ที่นี่คือแดนมายารกร้าง จักรพรรดิฮวงสือสร้างขึ้น สือเทียนจื่อไม่มีทางผนึกมิตินี้ไว้ได้เลย

สือเทียนจื่อโกรธจนเข็ดฟันไปหมด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เสิ่นเทียนมีสีหน้าจริงจังเล็กน้อยก่อนจะเผยรอยยิ้ม “ไฉนจะไม่กล้า!”

แม้เขาจะไม่ชอบวิวาท แต่ไม่ได้หมายความว่าจะกลัวมีเรื่อง!

ในเมื่ออีกฝ่ายพูดจาฉอดๆ อยู่นั่น เช่นนั้นก็สู้!

สือเทียนจื่อแหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้า “ดี กินกระบวนท่านี้ของข้า! กำปั้นแห่งหายนะ!”

สือเทียนจื่อเปล่งแสงทั้งตัว กระดูกจักรพรรดิในกายเปล่งแสงสว่างพร่างพราว

ข้างหลังรวมเป็นเงามายายิ่งใหญ่ น่าเกรงขามยิ่ง เหมือนกับมหาจักรพรรดิในยุคโบราณกำลังชำเลืองตามองทุกชีวิต!

กระดูกจักรพรรดิสั่นไหว อำนาจเทพยิ่งใหญ่สั่นไหว พลังอำนาจเอ่อล้นยากจะปัดป้องได้ ศักยภาพของสือเทียนจื่อพลันพุ่งถึงระดับน่าสะพรึง!

ชกหมัดเดียว หายนะมาเยือน

ห้วงมิติทั้งหมดถูกทำลายเป็นเสี่ยงๆ กฎเกณฑ์แตกกระจายเหมือนทำลายล้างฟ้าดิน!

การโจมตีนี้ไม่ต่ำไปกว่าอริยะแท้สี่ด่านเคราะห์เลย!

เสิ่นเทียนร่างจมลงเล็กน้อย เขารู้สึกถึงพลังมหาศาลกำลังกดดันตน พลังอำนาจน่ากลัวถึงที่สุด!

ต่อให้เป็นผู้อริยะสี่ด่านเคราะห์ปกติก็อาจจะต้านการโจมตีนี้ไม่ได้ ต้องถูกกระแทกถอยไป!

แต่เสิ่นเทียนหน้าไม่เปลี่ยนสีไป เขาพลันกระตุ้นเคล็ดวิชา เคลื่อนพลังของสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินในกาย กระตุ้นเปลี่ยนเทพสงคราม

ทั่วร่างเปล่งแสงสีทองสว่างจ้า พลังเทพน่าพรั่นพรึงปะทุออกมาทั้งหมดราวกับคลื่นลูกใหญ่ พลังทรงอำนาจอย่างยิ่ง

ผมหย่อมหนึ่งตั้งขึ้นมา พลังของเสิ่นเทียนน่ากลัวยิ่งขึ้น กำลังรบพุ่งพรวดขึ้น!

ภายใต้การเสริมด้วยเปลี่ยนเทพสงคราม กำลังรบของเสิ่นเทียนเพิ่มขึ้น ไม่อ่อนแอไปกว่าสือเทียนจื่อแล้ว

เขาพลันโบกมือใหญ่ แสงสว่างสีสันหลากสียิ่งวนเวียนรอบแขน ลำแสงหมื่นสาย ทุกสายล้วนเป็นแสงปลายเหมือนดาวหาง แกว่งไกวออกมาเป็นแสงเทพกระเทือนอากาศปริแตก!

“หัตถ์ปฐมกาลทลายฟ้า!”

แสงเทพหมื่นสายในมือเสิ่นเทียนเหมือนกับธารดาราสว่างจ้ากลางจักรวาล แสบตาถึงที่สุด

ตอนนี้เขากำลังกวัดแกว่งมือยักษ์สีสันหลากสี เหมือนกับธารดาราไม่มีสิ้นสุดตกลงมา จะทำลายภูผานที!

ตึง!

แสงเทพสั่นสะท้าน ฟ้าดินถล่มทลายลง

หัตถ์ปฐมกาลทลายฟ้าปะทะกับกำปั้นแห่งหายนะ เกิดเป็นการระเบิดสะท้านฟ้า!

หากไม่ใช่เพราะที่นี่สร้างโดยจักรพรรดิฮวงสือ มีกฎเกณฑ์สูงสุดคุ้มกัน เกรงว่าคงถูกทำลายไปแล้ว

การโจมตีของสองคนน่าสะพรึงถึงที่สุด!

ต่อให้เป็นอริยะแท้สี่ด่านเคราะห์ ถ้าโดนการโจมตีนี้ก็ต้องบาดเจ็บสาหัสกระทั่งกล้ำกลืนอยู่ในความแค้น แต่สองคนเพียงแต่ถูกกระแทกถอยไป สถานการณ์รบสูสีกัน

สือเทียนจื่อตัวสั่น ไม่นึกเลยว่ากำลังรบของเสิ่นเทียนจะแกร่งขนาดนี้

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน