ทว่าตอนที่เสิ่นเทียนชกหมัดนี้ออกไป กุ้ยกงกงรู้สึกเหมือนตนเองโดนดูดจนหยุดชะงัก
กำปั้นของเสิ่นเทียนกำลังปลดปล่อยพลังดึงดูดที่แข็งแกร่งสายหนึ่ง
พลังดึงดูดสายนี้ดึงกุ้ยกงกงเข้าใกล้อย่างต่อเนื่อง จำกัดความเร็วในการหลบหลีกของเขา
สีหน้าของกุ้ยกงกงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เย็นวูบในใจ
สมกับที่เป็นสมบัติชั้นสูงในรายนามน้ำแท้ ไม่นึกเลยว่ายังมีความลึกลับเช่นนี้แฝงอยู่
อาศัยจังหวะของการจู่โจม ยังสามารถทำให้เกิดพลังจำกัดและดึงดูดคู่ต่อสู้!
หมัดนี้ของเสิ่นเทียนยากที่จะหลบหลีก!
แน่นอน ยากที่จะหลบหลีกไม่ได้แปลว่าไม่สามารถป้องกัน
กุ้ยกงกงสามารถสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งและความน่ากลัวจากหมัดนี้ของเสิ่นเทียน
หากโดนหมัดนี้ชกเข้าใส่จริงๆ โดยพื้นฐานแล้วเขาสามารถไปพบพระสนมหลานได้ในทันใด
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
พลังวิญญาณในร่างกายของกุ้ยกงกงถาโถมเข้าไปหาดอกทานตะวันมารสู่สุริยันตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากดอกทานตะวันสีเลือดได้รับพลังวิญญาณที่เพียงพอ มันดูเบ่งบานและงดงามยิ่งขึ้น
มันบานออกอย่างเชื่องช้า ราวกับกำลังอ้าปากเตรียมกลืนกินทุกสิ่ง
ทว่าหลังจากสัมผัสโดนหมัดของเสิ่นเทียนที่มีน้ำมวลหนักปฐมกาลปกคลุม
ตรงกลีบดอกไม้ของดอกทานตะวันสีเลือด มีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
จากนั้นกลีบดอกไม้ล่องลอยแตกสลายกลายเป็นความว่างเปล่า
……
กุ้ยกงกงใช้มารทานตะวันพิทักษ์ร่างอย่างเต็มกำลัง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเสิ่นเทียนกลับไม่สามารถต้านทานกระบวนท่านี้
กลีบดอกไม้สีแดงกลายเป็นผุยผงล่องลอยไปท่ามกลางพายุลมหมัด กำปั้นของเสิ่นเทียนหยุดห่างจากตรงหน้าของกุ้ยกงกงสามนิ้ว
เห็นได้ชัด การประลองครั้งนี้เสิ่นเทียนเป็นฝ่ายชนะ
หลอมกายขั้นสี่เอาชนะหลอมปราณขั้นแปดด้วยกระบวนท่าเดียว!
ของเหลวสีเงินขาวไหลกลับเข้าไปในร่างกายอย่างเชื่องช้า รัศมีกดดันที่อยู่ในอากาศก็หายไปทันที
เสิ่นเทียนเกาศีรษะของตนเองอย่างยิ้มแย้ม “เมื่อกี้รู้สึกว่าร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง รู้สึกอึดอัดถ้าไม่ได้ปลดปล่อยมันออกมา”
“ลุงกุ้ย ท่านไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่!”
กุ้ยกงกงส่ายศีรษะ ถอนหายใจแล้วกล่าว “องค์ชายดึงพลังกลับได้ทันเวลา บ่าวไม่เป็นอะไร”
“แต่ว่าหมัดนี้ขององค์ชายแข็งแกร่งยิ่งนัก เกรงว่าเพียงพอที่จะเป็นภัยคุกคามของผู้แข็งแกร่งระดับสร้างฐานแล้ว!”
“หากพระสนมหลานรู้ว่าปัจจุบันองค์ชายแข็งแกร่งเช่นนี้ จะต้องยิ้มร่าทั่วทั้งแดนปรโลกอย่างแน่นอน”
คำพูดของกุ้ยกงกงไม่ได้พูดสรรเสริญเยินยอ
เขาฝึกบำเพ็ญ ‘คัมภีร์มารสู่สุริยัน’ บรรลุถึงระดับหลอมปราณขั้นแปด
อันที่จริงพลังของเขาไม่ธรรมดา สู้อย่างเต็มกำลังถึงขั้นสามารถปะทะกับผู้บําเพ็ญหลอมกายเทพมารในระดับเดียวกัน
ด้วยความสามารถของเขา ถึงเผชิญหน้ากับผู้บำเพ็ญระดับสร้างฐานที่อ่อนแอก็เป็นฝ่ายที่เหนือกว่า
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเสิ่นเทียน กลับไม่สามารถต้านทานแม้แต่กระบวนท่าเดียว
เสิ่นเทียนที่อยู่ในสภาวะเช่นนั้น หมัดเดียวไร้เทียมทานยิ่งนัก!
……
“น้ำมวลหนักปฐมกาลเป็นอันดับสิบสองของของรายนามน้ำแท้ อนุภาพย่อมไม่ธรรมดา”
เสิ่นเทียนยิ้มแล้วกล่าว “หมัดของข้าเมื่อกี้มีน้ำมวลหนักปฐมกาลแฝงอยู่”
บนใบหน้าของกุ้ยกงกงเผยให้เห็นความดีใจ “องค์ชายท่านสามารถควบคุมน้ำมวลหนักปฐมกาลแล้วหรือ”
เสิ่นเทียนพยักหน้า “ข้าก็ไม่รู้เพราะเหตุใด มันเหมือนมีความเชื่อมโยงกับคัมภีร์คบเพลิง”
“เมื่อไหร่ที่ข้าโคจรทักษะหลอมกายคบเพลิง น้ำมวลหนักปฐมกาลแฝงเข้าไปในพลังของข้าด้วย”
“หลังจากนั้นไหลเวียนไปทั่วร่างตามพลังของข้า ช่วยขัดเกลาร่างกาย”
“มีมันคอยช่วยเหลือ พลังวิญญาณที่ใช้ในการขัดเกลาร่างเนื้อของข้าถูกเผาผลาญเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ผลลัพธ์ของการขัดเกลาก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเช่นกัน”
“และเมื่อกี้ข้าลองควบแน่นน้ำมวลหนักปฐมกาลไปที่กำปั้น พบว่ามันทำได้จริง”
เสิ่นเทียนก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ทักษะหลอมกายคบเพลิงที่ซื้อมาในราคาห้าตำลึงเงินจะมีผลลัพธ์ที่น่าทึ่งเช่นนี้
หรือเมื่อก่อนไม่เคยมีคนลองใช้ทักษะหลอมกายคบเพลิงไปดูดซับน้ำมวลหนักปฐมกาลเลยหรือ
หรือในนั้นมีความลับอะไรที่เขาไม่รู้แฝงอยู่
เสิ่นเทียนขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา
……
“ช่างเถอะ ไม่อยากคิดแล้ว ต่อไปเมื่อมีโอกาสก็จะเข้าใจเอง”
เสิ่นเทียนปัดความสงสัยทั้งหมดทิ้งไป เริ่มครุ่นคิดตั้งชื่อที่น่าฟังให้กับท่าไม้ตายของตนเอง
‘คัมภีร์คบเพลิง’ ที่แพร่หลายในโลกบำเพ็ญเซียน ไม่มีกระบวนท่าที่สอดคล้องกัน
ในตอนนี้หลังจากคัมภีร์คบเพลิงของเสิ่นเทียนดูดซับน้ำมวลหนักปฐมกาลจึงเกิดการเปลี่ยนแปลง
และยังทำให้เสิ่นเทียนสามารถคิดค้นวิชาหมัดที่น่าทึ่ง
เสิ่นเทียนย่อมต้องตั้งชื่อที่ฟังดูสุดยอดและน่าเกรงขามให้กับวิชาหมัดของตนเอง
ชื่ออะไรดีนะ!
หมัดเทพวารีคบเพลิง?
หมัดคบเพลิงไร้เทียมทาน?
หมัดเทพวารีไร้เทียมทาน?
หมัดวารีหยก?
หมัดคืนข้าล่องลอย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน