บทที่ 440 คนหนุ่มเจ้าทำเกินไปแล้ว
เมืองทะเลบูรพา
ผู้แข็งแกร่งทุกตระกูลมีใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ลัทธิวิญญาณร้ายมีศักยภาพแข็งแกร่งมาก ไม่ใช่แค่วางยอดค่ายกลเซ่นไหว้โลหิต แต่ยังมีเจ้าอริยะร่วมต่อสู้ด้วย!
แม้แต่ฉีจ้านที่เป็นความหวังสุดท้ายยังแพ้ให้กับเจ้าอริยะเสียหั่ว
ทุกคนยิ่งขาดความมั่นใจไปใหญ่
พวกเขาได้แต่เฝ้ารอว่าราชวงศ์เซียนต้าฮวงจะรู้สถานการณ์ของเมืองทะเลบูรพาโดยเร็วและส่งผู้แข็งแกร่งมาช่วย
เดิมทีเสิ่นเทียนปรากฏตัวมาทำให้ทุกคนตกใจระคนดีใจกันมาก โดยเฉพาะผู้อริยะอย่างพวกสวีอัน มีสีหน้าดีใจ คิดว่ากำลังเสริมมาถึงแล้ว
คนที่ต้านการโจมตีของเจ้าอริยะเสียหั่วได้ อย่างไรก็เป็นผู้แข็งแกร่ง!
ทว่าพริบตาเดียวฉีจ้านก็เคลื่อนย้ายกำลังเสริมออกไป
ทุกคนมุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง
เจ้าไม่รู้หรือว่าพวกเราจะตายกันอยู่แล้ว การคงอยู่แข็งแกร่งขนาดนี้ เจ้าบอกส่งไปก็ส่งไปเลยรึ เช่นนั้นก็ตายกันแน่แล้ว!
ทุกคนทำหน้าทุกข์ใจ คิดว่าวันนี้เกรงว่าคงต้องตายกันที่นี่แล้ว
….
อีกด้านหนึ่ง เจ้าอริยะเสียหั่วตกใจสะดุ้ง!
กระทั่งเขายังคิดว่าเรื่องแดงแล้ว ราชวงศ์เซียนต้าฮวงส่งผู้แข็งแกร่งมาปิดล้อม แต่จากนั้นก็โล่งอก
พอเจ้านั่นโผล่มาก็หนีไปเลย ดูท่าคงไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งอะไร ไม่ต้องกลัวเลย!
ประมุขวิหารมายาเผยแววตามืดทะมึนพลางหัวเราะเยาะ “เจ้าลิงนี่จะตายอยู่แล้วยังคิดช่วยคนอื่นอีก! มีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ยังไม่ใช้เอง มีน้ำใจหยั่งลึกคุณธรรมหนักแน่นจริงๆ ใช้สมบัติสุดยอดไปแล้ว คราวนี้เจ้าจะหนีไปได้อย่างไรอีก”
ที่นี่วางยอดค่ายกลสะท้านฟ้าไว้นานแล้ว ไม่มีใครหนีไปได้
เจ้าหนูนั่นเพิ่งโผล่มาก็ทำลายมิติหนีไปแล้ว
เห็นได้ชัดว่าใช้สมบัติสุดยอดข้ามมิติบางอย่าง สมบัติเช่นนี้ล้ำค่ามาก หาได้ยากยิ่ง ดูท่าฉีจ้านคงจะไม่มีชิ้นที่สองแล้ว!
เจ้าลิงนี่ตายแน่!
เมื่อนึกได้ว่าจะได้สังหารฉีจ้านที่นี่ ประมุขวิหารมายาก็เผยแววตาเหี้ยมโหด หัวเราะเยาะไม่หยุด!
ฉีจ้านแค่นเสียงขึ้นจมูกด้วยความเหยียดหยาม “เจ้ากำลังสอนข้าอยู่รึ เจ้าลูกวิญญาณร้าย เก่งจริงก็มาสู้กันตัวต่อตัว ดูสิว่าข้าจะทุบหัวสุนัขเจ้าหรือไม่”
ฉีจ้านมีสายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์ย่อมชอบการต่อสู้ ไม่เกรงกลัวผู้ใด
ต่อให้เป็นเจ้าอริยะเจ็ดด่านเคราะห์ เขาก็กล้าลองสู้
แน่นอน แค่ลองก็ตายเลย
แต่ประมุขวิหารมายาเคยแพ้ให้กับเขามาแล้ว ฉีจ้านจึงไม่เห็นอยู่ในสายตาเลย
ประมุขวิหารมายาทำเสียงขึ้นจมูก “กลัวว่าเจ้าจะสู้ไม่ได้ล่ะสิ!”
มีเจ้าอริยะเสียหั่วอยู่ ประมุขวิหารมายาไม่กลัวฉีจ้านเลย
แม้ประมุขวิหารมายาจะมีกำลังรบสู้ฉีจ้านไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ถูกสังหารง่ายขนาดนั้น!
ขอแค่รั้งฉีจ้านไว้ รอเจ้าอริยะเสียหั่วบุกเข้ามา เขาต้องตายแน่นอน!
อีกทั้ง ประมุขวิหารมายายังได้รู้สึกสนุกกับการเข่นฆ่า ได้ลบล้างความแค้นในใจเขา!
เจ้าอริยะเสียหั่วทำเสียงหึ “อย่าพูดมาก รีบจัดการไอ้เด็กนี่ จะได้ไม่เกิดเหตุไม่คาดคิดอะไร!”
ไอชั่วร้ายไหลเวียนทั่วร่างเขา กลิ่นอายชั่วร้ายถึงที่สุด เต็มไปด้วยความกระหายเลือดและบ้าคลั่ง
เจ้าอริยะเสียหั่วไม่อยากเสียเวลา เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายใดๆ อีก
เรื่องเมื่อครู่ทำเขาตกใจสะดุ้ง
เจ้าอริยะเสียหั่วรู้ดีว่าตนมีพลังน่ากลัวเพียงใด ด้วยพลังบำเพ็ญเจ้าอริยะเจ็ดด่านเคราะห์กระตุ้นเข็มอริยะอัคคีชาดจะมีอานุภาพไร้ขีดจำกัด สังหารอริยะแท้ได้ง่ายดาย
ทว่าการโจมตีนั้นกลับถูกค้อนใหญ่ฟาดกระจาย
เจ้าอริยะเสียหั่วรู้สึกว่าค้อนใหญ่นั่นมีพลังแข็งแกร่ง และเป็นอาวุธมหาอริยะเช่นกัน!
นี่หมายความว่าบุรุษคนนั้นมีกำลังรบไม่ธรรมดา แข็งแกร่งกว่าฉีจ้านอีก
คู่ค่อสู้ระดับนี้ แม้แต่เจ้าอริยะเสียหั่วยังไม่กล้าดูถูก ดีที่อีกฝ่ายมีสมาชิกหมู ส่งเขาออกไป ไม่เช่นนั้นเจ้าอริยะเสียหั่วคงคิดจะครองเมืองทะเลบูรพาได้ไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว
ประมุขวิหารมายาพยักหน้าตกลง ก่อนพูดด้วยความเคารพ “ขอรับ ท่านเจ้าอริยะ!”
เขามองฉีจ้านด้วยดวงตาน่าสะพรึงกลัว “มีเจ้าอริยะอยู่ วันนี้จะเอาหัวลิงเจ้ามาตุ๋นน้ำแกงหัวลิง!”
ประมุขวิหารมายารวมพลังฤทธิ์ เตรียมร่วมมือกับเจ้าอริยะเสียหั่วรวมเพลิงสังหารฉีจ้าน!
ฉีจ้านสูดลมหายใจเข้าลึก สองมือกำกระบองเทพแน่น มีสีหน้าจริงจัง
ครั้งนี้คือวิกฤติเป็นตาย แม้แต่เขายังไม่มั่นใจว่าจะมีชีวิตรอดกลับไปได้!
ฉีจ้ายแยกเขี้ยวแสยะปาก “ต่อให้แซ่ฉีตายก็ต้องเฉือนเนื้อพวกเจ้าให้ได้! เจ้าลูกวิญญาณร้าย เก่งจริงก็เข้ามา!”
กลิ่นอายพลังในกายเขาพลันปะทุขึ้น แสงสีทองสว่างจ้าปกคลุมรอบกาย กลิ่นอายพลังบ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ!
กระบองเทพตามใจนึกแผ่อำนาจเทพมหาศาล เหมือนกับเสาสวรรค์จะกำราบทุกสรรพสัตว์!
ฉีจ้านตั้งใจจะสู้สุดชีวิต ตายก็จะไม่ยอมให้ลัทธิวิญญาณร้ายได้ดี!
ประมุขวิหารมายาแสยะยิ้ม “ตายเสียเถอะ!”
เขาออกมือโจมตีฉีจ้านอย่างสุดกำลังก่อน
ทว่าตอนนี้เอง มิติพลันแตกออก มีกลิ่นอายพลังน่ากลัวแผ่ออกมา
ปราณกระบี่น่าตกใจยิ่งพุ่งออกมาจากมิติ น่ากลัวถึงที่สุด
กระบี่นี้น่าตกใจและงดงามชั่วกัปชั่วกัลป์ เหมือนจะตัดฟ้าดินและจักรวาล!
พริบตาเดียว ห้วงอากาศสลายเป็นความว่างเปล่าทั้งหมด!
มีเพียงแสงเทพสว่างจ้าแสบตาสายหนึ่งขวางฟ้าดิน ตรงดิ่งลงมา!
“ระวัง!”
เจ้าอริยะเสียหั่วตะโกนเสียงดัง เขาหรี่ตาลง น้ำเสียงจริงจัง
กลิ่นอายพลังนั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง ทำให้เขาหวาดกลัว
ประมุขวิหารมายาอึ้งไปเล็กน้อย งุนงงหน่อยๆ
ทว่าจนเมื่อเขาหมุนตัวกลับมาก็เห็นเพียงแสงสีสันหลากสีพุ่งเข้ามา!
พรวด!
โลหิตกระจายสามฉื่อ!
ศีรษะคนพุ่งขึ้นฟ้า โลหิตเหมือนกระฉูดขึ้นเมฆนภา
ศีรษะยังอยู่กลางอากาศ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เพียงแค่กระบี่เดียวก็ตัดศีรษะของประมุขวิหารมายาได้!
แต่จากนั้นก็มีแสงเงามืดพุ่งออกมาจากศีรษะประมุขวิหารมายาที่ลอยขึ้น นั่นคือดวงจิตเทพของเขา ตอนนี้กำลังหนีไปด้วยความลนลานอย่างยิ่ง
แม้กายเนื้อจะตายแล้ว แต่ดวงจิตเทพไม่ดับสูญก็ยังยึดร่างเกิดใหม่ได้ มีโอกาสกลับมาสู่จุดสูงสุด!
ประมุขวิหารมายาเป็นอริยะแท้ห้าด่านเคราะห์ ย่อมไม่อยากตายไปเช่นนี้
ทว่าปราณกระบี่มีพลังมหาศาล เจตจำนงกระบี่น่ากลัวเหมือนทะเลกระบี่ถาโถมลงมา ยิงแสงกระบี่น่าสะพรึงนับไม่ถ้วน
ดวงจิตเทพประมุขวิหารมายาเพิ่งสัมผัสโดนแสงกระบี่ก็ถูกตีแตกสลายไป
กระทั่งกายเนื้อเขายังถูกแสงกระบี่ตีแตกเป็นโจ๊กเนื้อ ตายจนไม่รู้จะตายอย่างไรได้อีก!
ภาพนี้ทำให้ทุกคนอึ้งค้างอยู่ที่เดิม
เมืองทะเลบูรพากว้างใหญ่เงียบเป็นเป่าสาก!
ทุกคนใจสั่นสะท้าน แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว!
อริยะแท้ห้าด่านเคราะห์ผู้ยิ่งใหญ่ ประมุขวิหารลัทธิวิญญาณร้ายกลับถูกสังหารในกระบวนท่าเดียว
เป็นใครกันที่มีกำลังรบเช่นนี้
“หรือจะมีผู้แข็งแกร่งมา!”
“กำลังเสริมมาแล้ว!”
“ในที่สุดพวกเราก็รอดแล้ว!”
สังหารอริยะแท้ห้าด่านเคราะห์ได้ในพริบตา จะต้องเป็นการคงอยู่ที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งแน่นอน!
มีคนนี้อยู่เมืองทะเลบูรพา พวกเขาก็อาจจะรอดจากหายนะครั้งนี้ไปก็ได้
…….
เจ้าอริยะเสียหั่วตัวสั่นอย่างรุนแรง แววตามีความจริงจังขึ้นมา
แสงกระบี่นี้น่ากลัวเกินไปแล้ว ถึงขนาดสังหารอริยะแท้ห้าด่านเคราะห์ได้ในพริบตา!
ประมุขวิหารมายาไม่ใช่ผักกาดขาวข้างถนนนะ!
นั่นคืออริยะแท้ห้าด่านเคราะห์เชียว!
แต่ตายไปเช่นนี้หรือ
กระบี่นั่นเป็นของใครกัน หรือจะเป็นเจ้าอริยะจากราชวงศ์เซียนต้าฮวงมาถึง
เจ้าอริยะเสียหั่วพิจารณามองไปรอบๆ อย่างจริงจัง อยากจะหาคนที่ออกมือ
ห้วงมิติบิดเบี้ยว ก่อนบุรุษชุดคลุมขาวจะเดินออกมา มือถือกระบี่ยาวอาวุธอริยะสีม่วง
กระบี่ยาวมีประกายเย็นยะเยือก ด้านบนยังมีโลหิตไหลเวียน
“เป็นเจ้ารึ”
เจ้าอริยะเสียหั่วหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่นึกเลยว่าเจ้านี่จะยังอยู่ที่นี่!
ฉีจ้านทำหน้างุนงง “พี่ใหญ่เสิ่นเทียน เหตุใดท่านยังอยู่ที่นี่ล่ะ”
เขามีแววตาเหม่อลอย เมื่อครู่ข้าใช้ยันต์เคลื่อนย้ายส่งพี่ใหญ่ไปแล้วนะ!
เหตุใดถึงกลับมาอีก
หรือว่าพี่ใหญ่มีศักยภาพน่าสะพรึง แค่ไม่กี่นาทีก็เดินทางกลับมาในระยะหลายแสนลี้ได้กัน
ไม่ใช่กระมัง ไม่ใช่กระมัง ไม่ใช่กระมัง!
เร็วขนาดนั้นเลยรึ
ฉีจ้านเกาศีรษะ ไม่เข้าใจเลย
เสิ่นเทียนเหมือนอ่านความคิดฉีจ้านออก ถึงกับมุมปากกระตุกขึ้นมานิดๆ
ต้องไม่ใช่อยู่แล้ว!
พริบตาเดียวหมื่นลี้ คิดว่าข้าใช้สูตรโกงรึ
มีศักยภาพขนาดนั้น ข้าคงใช้ฝ่ามือเดียวตบเจ้าพวกลูกวิญญาณร้ายพวกนี้ตายไปหมดแล้ว!
เสิ่นเทียนส่ายหน้าด้วยความจนปัญญา “ยันต์เคลื่อนย้ายหมดอายุแล้ว ไม่ได้เคลื่อนย้ายข้าไป!”
แต่เขากลับยิ้มแห้งในใจ ‘เจ้าลิงนี่ยึดมั่นในความเป็นธรรมจริงๆ’
เสิ่นเทียนรู้ความคิดฉีจ้าน เนื่องจากเมืองทะเลบูรพาถูกยึด ประกอบกับเจ้าอริยะเสียหั่วมีอำนาจคุกคามสูงมาก
ฉีจ้านกลัวว่ากองทัพจะแตกพ่ายย่อยยับ มียันต์เคลื่อนย้ายอยู่จึงให้เขาหนีไปก่อน
แต่เจ้าเด็กนี่เหมือนจะไม่เข้าใจสถานการณ์!
ข้าไปแล้ว เจ้าจะทำอย่างไรล่ะ ยังดีที่เหลือลูกมือไว้ ไม่อย่างนั้นเจ้าอาจจะตายไปแล้ว!
ฉีจ้านพูดไม่ออก
ครั้งนี้ฉีจ้านงุนงงยิ่งกว่าเดิม
ยันต์ที่จักรพรรดิฮวงสือให้ข้าหมดอายุได้ด้วยหรือ
ท่านจักรพรรดิให้ของปลอมกับข้า หลอกข้ารึ
แม้จะเชื่อได้ยาก แต่ก็ได้แต่ยอมรับแล้ว
นอกจากนี้เหมือนจะไม่มีเหตุผลอะไรมาอธิบายได้ชัดเจน
…..
ทางด้านฉีจ้านเองก็ได้สติกลับมา รีบเดินมาข้างกายเสิ่นเทียน “พี่ใหญ่ ขออภัยด้วย ครั้งนี้ข้าทำร้ายท่านแล้ว ต่อให้ตาย ข้าก็จะตายตรงหน้าพี่!”
แม้เสิ่นเทียนจะสังหารประมุขวิหารมายาแล้ว แต่ก็ยังไม่แก้วิกฤติ
ถึงอย่างไรคนที่มีอำนาจคุกคามมากที่สุดในลัทธิวิญญาณร้ายคือเจ้าอริยะเสียหั่วเจ็ดด่านเคราะห์!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน