บทที่ 443 ขายหน้าวานรอริยะสัประยุทธ์หมดแล้ว!
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์เป็นคนปลูกป่าผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะลอยขึ้นฟ้า
หลังจากผ่านการบ่มเพาะด้วยค่ายกลแสนกว่าปี ผลไม้วิญญาณจึงมีจำนวนมาก กิ่งไม้เต็มไปหมด
ด้วยความเร็วในการเก็บเกี่ยวของเสิ่นเทียนกับฉีจ้าน ใช้เวลาไปจำนวนมากก็กวาดสวนผลไม้แห่งนี้หมดเกลี้ยง
นอกจากต้นแม่แล้ว ทั้งสวนผลไม้ไม่เหลือผลไม้วิญญาณเลยสักนิด
ด้วยกฎไม่เก็บจะสิ้นเปลือง ทำให้สองคนเก็บผลไม้วิญญาณทั้งหมดเข้ากระเป๋าอย่างไม่เกรงใจเลย
ถึงอย่างไรที่นี่นอกจากพวกเขาแล้วก็ไม่มีใครเข้ามาได้
“พี่ใหญ่ ได้มาเท่าไร”
ฉีจ้านเกาหูเกาแก้มอย่างมีความสุข
ครั้งนี้เขาอิ่มหนำสำราญ ได้ลิ้มลองผลไม้วิญญาณเลิศรสมากมาย กินจนหนังท้องโตขึ้นมา!
ทว่าฉีจ้านก็ยังชอบกล้วยทองกำเนิดฟ้ามากที่สุด กินจนมีแต่เปลือกกล้วยเต็มพื้น!
พลังงานมหาศาลชะล้างรอบกายฉีจ้านร้อยรอบ ทำให้ขนทองของเขาดูอัศจรรย์ยิ่งกว่าเดิม
ทั้งตัวเขาดูเหมือนหลอมขึ้นจากทองคำ องอาจห้าวหาญมาก
แม้จะกินไปเยอะมาก แต่ฉีจ้านก็เก็บผลไม้วิญญาณมาไม่น้อย หากใช้ประหยัดหน่อยก็จะให้เขากินไปได้หลายปี!
เสิ่นเทียนยิ้มราบเรียบ “ก็ใช้ได้อยู่!”
เขาได้มาไม่น้อยเช่นกัน แค่กล้วยหอมทองกำเนิดฟ้าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงก็ได้มาเกือบร้อยต้น!
ส่วนกล้วยหอมทองกำเนิดฟ้าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ระดับกลางและล่าง เก็บเข้าแหวนมิติไปเป็นร้อยเป็นพันต้น
มิหนำซ้ำยังมีผลไม้วิญญาณอื่นๆ อีก การเดินทางครั้งนี้เรียกได้ว่ากำไรอย่างงาม
สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เยอะขนาดนี้ ต่อให้เอามาหลอมโอสถก็ยังหลอมได้พักหนึ่งเลย หากส่งสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์พวกนี้ไปโลกข้างนอก ก็มากพอจะทำให้ขุมอำนาจมากมายบ้าคลั่งได้
ขอพูดอย่างไม่เกินจริง แม้แต่มหาอริยะยังอดใจเข้ามาแย่งชิงมิได้!
ถึงอย่างไรสมุนไพรวิญญาณพวกนี้ก็มีจำนวนน่ากลัวจริงๆ!
ขุมอำนาจใดจะมีสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เป็นร้อยเป็นพันต้นได้ แค่คิดยังไม่กล้าคิดเลย!
หากไม่ใช่เพราะที่นี่เป็นลานมรรคมหาจักรพรรดิ ทั้งยังตกตะกอนมาแสนกว่าปี คงไม่มีทางออกผลไม้ศักดิ์สิทธิ์มากขนาดนี้ได้!
แต่สำหรับเสิ่นเทียน นี่ไม่ใช่ผลประโยชน์ที่มากที่สุด
ตอนนี้เสิ่นเทียนตาเป็นประกาย เพ่งสายตามองศีรษะฉีจ้าน เห็นวงรัศมีที่เดิมทีม่วงเข้มกลายเป็นสว่างจ้ากว่าเดิม
แสงสีม่วงลึกล้ำกว่าเดิม ผลัดเปลี่ยนไปทางสีม่วงทึบ!
เห็นได้ชัดว่านี่สะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของดวงชะตา!
จวนศักดิ์สิทธิ์สัประยุทธ์เดิมทีเป็นโชคลิขิตของฉีจ้าน
หลังจากฉีจ้านได้โชคลิขิตแล้ว ดวงชะตาย่อมเพิ่มขึ้นอย่างมาก และตอนนี้เอง เสิ่นเทียนตัวเบาขึ้นมา ความสุขที่ห่างหายไปนานแล่นเข้ามา
เสิ่นเทียนรีบควักกระจกออกมาส่องดูวงรัศมีดวงชะตาเหนือศีรษะ
วงรัศมีดวงชะตาสีทองในตอนแรกเปล่งแสงสว่างยิ่งกว่าเดิม แสงทองส่องสว่าง ผลัดเปลี่ยนไปทางสีทองเข้ม ขาดอีกนิดเดียวก็จะบรรลุถึง
ทันใดนั้น เสิ่นเทียนพลันเกิดความดีใจสุดขีด!
ขึ้นแล้วๆ!
ผ่านมาหลายวัน ในที่สุดดวงชะตาข้าก็เพิ่มขึ้นแล้ว
กลับมาเป็นสีทองเข้มในทันที!
ครั้งนี้กำไรเลือดสาด!
……
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนควักกระจกออกมา ฉีจ้านก็เกาศีรษะ “พี่ใหญ่ทำอะไรหรือ หรือว่ากินอิ่มแล้วอยากจะชมใบหน้าตนเองกัน เหอะๆ ข้าก็เอาด้วย!”
เมื่อเอ่ยจบ ฉีจ้านก็ควักกระจกออกมา ชื่นชมอยู่เงียบๆ ทั้งยังอดปลงอนิจจังมิได้ “เฮ้อ ข้าสมกับเป็นราชาวานรรูปหล่อแห่งเขาผลบุปผาจริงๆ ยังหล่อเหลาเหมือนเดิม!”
เสิ่นเทียนพูดไม่ออก
เจ้าลิงกังนี่หลงตัวเองชะมัดเลย
หาได้ยากจริงๆ!
พอเห็นฉีจ้านเคลิ้มกับความหล่อเหลาของตัวเองแล้ว เสิ่นเทียนจึงพูดด้วยความจำใจ “สหายฉี พวกเราสำรวจกันต่อเถอะ ที่นี่อาจจะมีโชคลิขิตอื่นอยู่!”
“ดี พี่ใหญ่!”
ฉีจ้านตั้งสติกลับมาได้ก็รีบเก็บกระจกกลับไป
ที่นี่คือลานมรรคมหาจักรพรรดิ โชคลิขิตต้องไม่ได้มีแค่นี้แน่!
สองคนออกจากสวนผลไม้ มุ่งหน้าไปทางจวนอริยะสัประยุทธ์
…..
พวกเขาผ่านเส้นทางเล็กหลายสาย ไม่นานก็มาถึงถ้ำแห่งหนึ่ง
ที่นี่มีพืชสีเขียวโอบล้อม พลังวิญญาณหนาแน่น ถ้ำดูเลิศล้ำเหมือนสร้างจากฟ้าดิน ลี้ลับยิ่ง
น้ำแร่วิญญาณไหลลงมาจากยอดถ้ำภูเขา ชายคาถ้ำมีสายน้ำไหลลงมา คล้ายกับประตูม่านไข่มุก มหัศจรรย์อย่างยิ่ง
และด้านบนถ้ำภูเขายังแกะสลักอักษะใหญ่ไว้ ‘ถ้ำม่านวารี’
แสงทองสว่าง พลังยิ่งใหญ่ ทำให้คนใจสั่นสะท้าน!
ฉีจ้านทำหน้าตื่นเต้นก่อนจะร้องตกใจ “ที่นี่คือถ้ำม่านวารี เป็นแดนมรดกของบรรพบุรุษ!”
สถานที่ที่จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ชอบมากที่สุดก็คือถ้ำม่านวารีเขาผลบุปผา!
ฉีจ้านมั่นใจว่าที่นี่มีมรดกของจักรพรรดิอริยะอยู่
เขาตื่นเต้นมาก ตนเป็นชนรุ่นหลังจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ ย่อมอยากได้มรดกของบรรพบุรุษ ส่งเสริมให้มันยิ่งใหญ่!
“พี่ใหญ่ เราเข้าไปกันเถอะ!”
สองคนเดินเข้าถ้ำม่านวารี ไม่นานก็มาถึงส่วนใน ราบรื่นไร้อุปสรรค
นี่ทำให้ฉีจ้านตกใจเล็กน้อย
“สวนผลไม้ยังมีค่ายกล แต่แดนมรดกกลับไม่มีหรือ ดูท่าบรรพบุรุษจะต้องเป็นลิงตะกละแน่!”
ฉีจ้านมุมปากกระตุกนิดๆ แอบพูดแขวะในใจ
หลังจากสองคนเข้าถ้ำม่านวารีแล้วถึงพบว่าที่นี่มีอีกความลี้ลับ
ที่นี่กว้างใหญ่มาก เหมือนกับโลกหนึ่ง เป็นโลกเล็กแดนเทวาอิสระแห่งหนึ่ง
และตรงกลางโลกเล็กนี้มีรูปปั้นหินยักษ์ตั้งอยู่!
รูปปั้นหินมีความสูงแปดร้อยจั้ง แกะสลักเป็นลักษณะวานร ในมือถือกระบองหินยักษ์
เขาแหงนหน้าขึ้นฟ้า หยิ่งผยองไม่ยอมใคร!
แม้จะเป็นเพียงรูปปั้นหิน เสิ่นเทียนก็ยังรู้สึกถึงพลังที่บ้าอำนาจที่สุดแห่งยุค
มันเหมือนกับสุดยอดจักรพรรดิยุทธ์ หมายจะสู้ฟ้าสู้ดิน คำรามใส่ท้องนภาอย่างโอหัง!
เมื่อตั้งใจสัมผัสก็รู้สึกได้ถึงจิตต่อสู้ที่อหังการเป็นหนึ่ง หมายจะพลิกฟ้าดิน!
เหมือนว่าเมื่อนานมาแล้ว เจ้าของรูปปั้นนี้เคยใช้กระบองนักรบในมือกระแทกฟ้าดินแตกเป็นรู
น่ากลัว น่าตกใจ น่าตื่นตะลึง น่ายำเกรง!
อารมณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นในใจสองคน ทำให้พวกเขาตัวสั่นอย่างรุนแรง
“นี่คือ…รูปปั้นของบรรพบุรุษรึ”
หลังสัมผัสได้ถึงจิตต่อสู้นี้แล้ว สายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์ในกายฉีจ้านก็เดือดพล่านขึ้นมา ทำให้เขาแหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้า
ตอนนี้เอง พลันมีแสงทองสว่างยิงมาจากรูปปั้นหิน สว่างจ้าแสบตา ปกคลุมที่นี่ไว้ทั้งหมด
แสงทองสว่างพุ่งมาจากรูปปั้นหิน กลายเป็นร่างเงายิ่งใหญ่
นั่นคือวานรเทพขนทองตัวหนึ่ง ดูหนุ่มมาก รูปร่างกลับกำยำกว่าฉีจ้าน พลังอำนาจพุ่งขึ้นฟ้า
เขาสวมเกราะนักรบทองคำ มือถือกระบองเทพทอง ทั่วร่างมีจิตต่อสู้ไหลเวียนไม่ขาดสาย ราวกับเทพสงครามฟ้าดินหมายจะพลิกท้องนภา!
ยืนอยู่ตรงนี้ ทำให้ห้วงอากาศรอบตัวสั่นไหวไม่หยุด
ราวกับว่าขอแค่เขาเคลื่อนไหวเล็กน้อย ห้วงอากาศก็จะแตกกระจายเป็นผุยผง!
ร่างเงานี้ปรากฏกายขึ้น ทำให้สองคนมีสีหน้าเคารพ พวกเขารู้ว่าคนนี้คือจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ เป็นมหาจักรพรรดิที่สุดแห่งยุคเมื่อแสนกว่าปีก่อน
มีเพียงจักรพรรดิที่สุดแห่งยุคเท่านั้นถึงจะมีท่วงท่าสง่างามเช่นนี้ได้!
……
ร่างเงานั้นเอ่ยเนิบนาบ เสียงเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกสรรพสัตว์สั่นกลัว
“ข้าคือจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์!”
เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ทำให้ฟ้าดินเกิดคลื่นกระเพื่อมไม่มีสิ้นสุด หมุนม้วนไปทั้งมิติ!
“จวนนักรบของข้าคงอยู่มาแสนกว่าปี ในที่สุดวันนี้ก็ได้พบผู้มีวาสนา ไม่นึกเลยว่าจะยังมีสายเลือดเผ่าข้าด้วย! สายเลือดวานรอริยะมีชนรุ่นหลัง ข้าปลื้มใจยิ่งนัก!”
ในน้ำเสียงของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์มีความชื่นชมและปลงอนิจจัง
ตั้งแต่จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ลอยขึ้นโลกเซียนและฝากจวนอริยะสัประยุทธ์ไว้ ก็ผ่านไปแสนกว่าปีแล้ว แต่ไม่เคยมีใครเข้ามาได้!
หลักๆ เป็นเพราะการจะเข้ามาที่นี่มีเงื่อนไขยากเกินไป
ไม่นึกเลยว่าจวนอริยะสัประยุทธ์เปิดครั้งแรกจะมีชนรุ่นหลังสายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์เข้ามา!
วานรอริยะสัประยุทธ์เป็นสายเลือดที่แข็งแกร่งมาก ในยุคดึกดำบรรพ์ยังเคยปรากฏวานรอริยะสัประยุทธ์ตัวหนึ่ง สำเร็จสู่ยอดผู้สูงส่ง สั่นคลอนตะวันจันทราและดาราได้ เข่นฆ่ากับยอดผู้สูงส่งฟ้าดิน!
แต่ก็น่าจำใจเพราะสายเลือดนี้มีน้อยมาก มีเพียงสายเลือดเข้มข้นถึงขีดสุดเท่านั้นถึงผลัดเปลี่ยนเป็นวานรอริยะสัประยุทธ์!
จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ก็เป็นวานรอริยะสัประยุทธ์ตัวที่สองหลังจากยอดฝีมือในยุคดึกดำบรรพ์ท่านนั้น จากนี้จะเห็นได้ว่าเผ่านี้มีน้อยมาก
แต่เรื่องความแกร่งของเผ่านี้ไม่เป็นที่ต้องสงสัยเลย ทุกตนเป็นบุคคลที่สุดแห่งยุคในประวัติการณ์!
ฉีจ้านเป็นชนรุ่นหลังของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ เป็นวานรอริยะสัประยุทธ์ตัวที่สามในฟ้าดิน
ช่วงเวลาแสนแปดหมื่นปีถึงปรากฏวานรอริยะสัประยุทธ์ตัวหนึ่ง ทั้งยังปรากฏในสุสานของตน ย่อมทำให้จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ปลื้มใจมาก
เพราะมรดกของเขาเหมาะกับการฝึกของเผ่าวานรอริยะสัประยุทธ์ที่สุด!
ฉีจ้านมาถึง จะทำให้มรดกของเขายิ่งใหญ่ขึ้น!
โชคชะตา ลี้ลับไม่อาจกล่าว!
…………
เมื่อเห็นจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ ฉีจ้านก็มีความสุขมากเช่นกัน
นี่คือบุคคลในตำนานของเผ่า เป็นบรรพบุรุษของเผ่าวานรอัคคีเนตรทอง!
เขารีบป้องมือพูดด้วยความเคารพ “ท่านบรรพบุรุษ ข้ามีนามว่าฉีจ้าน เป็นนายน้อยของเผ่าวานรอัคคีเนตรทอง! ท่านนี้คือพี่ใหญ่ของข้า เสิ่นเทียน!”
เมื่อเผชิญหน้ากับมหาจักรพรรดิที่สุดแห่งยุคที่ท่องห้าดินแดนเมื่อแสนแปดหมื่นปีก่อนและมีสายเลือดเดียวกันแล้ว ฉีจ้านรู้สึกใกล้ชิดมาก
แต่เขาไม่ลืมแนะนำตัวให้เสิ่นเทียนเพื่อสร้างความรู้สึกดี
สองคนเดินเข้ามาพร้อมกัน ฉีจ้านหวังว่าเสิ่นเทียนจะได้มรดกของมหาจักรพรรดิเช่นกัน!
“ดี ดีมาก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน