บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 47

บทที่ 47 ตกใจหรือไม่ แปลกใจหรือไม่
อย่างเช่นผู้มีวาสนาหนึ่ง โชคลิขิตในวันนี้ของเขาคือหินแร่วิญญาณหนึ่งก้อน

ถ้าเป็นเสิ่นเทียนเมื่อก่อนนี้ จะเห็นว่ามันอยู่ในร้านแร่วิญญาณใด วางอยู่ที่ใด เป็นก้อนใด ส่วนในหินแร่วิญญาณนั้นมีอะไรอยู่ข้างในกันแน่ เขาจะเห็นแค่เงาเลือนรางเท่านั้น กระทั่งบางครั้งก็ไม่เห็นเงาด้วย

แต่เสิ่นเทียนในยามนี้กลับมองผ่านหินแร่วิญญาณในภาพนั้นได้อย่างชัดเจน

เขารู้ว่า ในหินแร่วิญญาณก้อนนี้ปิดผนึกเหล็กชั้นเลิศเพลิงแดงก้อนเล็กๆ เอาไว้

เหล็กชั้นเลิศเพลิงแดงนั่นมีขนาดราวนิ้วโป้ง ใช้หลอมสร้างกระบี่เหินธาตุไฟระดับสูงสุดได้

ผู้มีวาสนาคนแรกในภาพโชคลิขิตจะขายเหล็กชั้นเลิศนี้ให้กับเถ้าแก่หลิว ราคาคือหนึ่งพันห้าร้อยก้อนศิลาวิญญาณ

………

ใช่แล้ว นี่คือความสามารถพิเศษของเสิ่นเทียนในตอนนี้

มองเห็นอนาคตแล้ว!

เสิ่นเทียนย่อมยิ้มแย้มเบิกบานกับเรื่องนี้

เขาเลือกหินแร่วิญญาณให้ผู้มีวาสนาเหล่านั้นทีละคน ทุกครั้งที่เลือกมา มุมปากเถ้าแก่หลิวจะกระตุกรุนแรงทีหนึ่ง ประหนึ่งดาบไม่ได้เฉือนลงบนหินแร่วิญญาณ แต่เฉือนบนปากเขานี่เอง

ทว่าสิ่งที่ทำให้เถ้าแก่หลิวปลื้มใจคือ ถึงจะผ่าหินแร่วิญญาณห้าก้อนที่เสิ่นเทียนเลือกมาแล้ว ก็ยังไม่ปรากฏสมบัติล้ำค่าอย่างเมล็ดน้ำเต้าเซียนเจ็ดสมบัติเฉกเช่นเมื่อสามวันก่อนอีก

นี่ทำให้เขาสงบใจลงไม่น้อย ถึงอย่างไรเขาก็ได้กำไรเช่นกัน

แม้จะไม่ได้ส่วนแบ่งเยอะเท่าเสิ่นเทียน แต่แค่ได้ที่ไหลจากมุมปากเสิ่นเทียนมาก็มากพอให้เถ้าแก่หลิวกินจนเต็มปากน้ำมันไหลย้อยแล้ว

………

ทันใดนั้นเอง เสี่ยวหลิงเซียนอุ้มหินแร่วิญญาณเดินออกมา

นางมองเสิ่นเทียนด้วยความเกรงใจพลางกล่าวว่า “พี่เสิ่น ในหินแร่วิญญาณสามก้อนนี้เหมือนจะมีอะไรด้วย ท่านช่วยข้าดูหน่อยได้หรือไม่”

เสิ่นเทียนพิจารณาหินแร่วิญญาณสามก้อนนี้อยู่สักครู่ ก่อนจะเห็นว่าในหินแร่วิญญาณสามก้อนนี้ ก้อนแรกมีขนาดราวๆ กำปั้น ราคาป้ายคือ 50 ศิลาวิญญาณ

ก้อนที่สองรูปทรงยาว ลักษณะเหมือนแตงกวา ราคาป้ายเก้าสิบเก้าศิลาวิญญาณ

ส่วนหินแร่วิญญาณก้อนที่สามมีขนาดพอๆ กับแตงโมลูกเล็ก ราคาป้ายหนึ่งร้อยหกสิบแปดศิลาวิญญาณ

เสิ่นเทียนยิ้มน้อยๆ ก่อนถามว่า “เจ้าถูกใจก้อนใดมากกว่ากัน”

เสี่ยวหลิงเซียนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ “ข้าใช้วิชาลับตรวจสอบแล้ว ในหินแร่ทรงยาวนั่นแฝงไว้ด้วยพลังอัปมงคลรุนแรงที่สุด ในนั้นน่าจะมีของดี!”

เสิ่นเทียนยิ้ม “ในนั้นมีสมบัติวิเศษระดับสูงสุดชิ้นหนึ่ง มันคือปิ่นขนหงส์ แก่นรากมันเสียหายหนัก เดาว่าคงมีค่าประมาณสามถึงห้าหมื่นศิลาวิญญาณกระมัง!”

ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนก็เห็นในภาพโชคลิขิตว่า เถ้าแก่หลิวให้ราคาห้าหมื่นศิลาวิญญาณ เดาว่าคงไม่ต่างกันมากกระมัง!

…….

เฮือก!

เมื่อสิ้นคำพูดเสิ่นเทียน พลันเกิดเสียงสูดลมหายใจเย็นๆ ดังขึ้นจากรอบตัว

ในหินแร่ราคาเก้าสิบเก้าศิลาวิญญาณกลับซ่อนสมบัติวิเศษมูลค่าสามถึงห้าหมื่นศิลาวิญญาณไว้อย่างนั้นหรือ

นี่ถ้าเปลี่ยนมือ ก็ได้กำไรขึ้นเป็นสามถึงห้าร้อยเท่าเลยไม่ใช่หรือ

กำไรเลือดสาดเลย!

ทางด้านเสี่ยวหลิงเซียน นางตกตะลึงในใจเป็นอย่างยิ่ง แค่ชำเลืองตามองก็เห็นทะลุถึงสิ่งของด้านในหินแร่ทรงยาวเลยหรือ นี่จะเป็นไปได้อย่างไร!

ต่อให้ผู้อาวุโสเสินสุ่ยหลิงคืนชีพกลับมา ก็อาจจะไม่เก่งกาจถึงเพียงนี้กระมัง!

เถ้าแก่หลิวได้ยินคำพูดของเสิ่นเทียนก็ตะลึงงันไปเช่นกัน ก่อนจะเจ็บปวดหัวใจ

ขาดทุน ขาดทุนอีกแล้ว!

ท่านเซียนของข้า ท่านจะทิ่มแทงหัวใจตาแก่อย่างข้าให้พรุนไปเลยรึ

ไม่มีใครแคลงใจการตัดสินของเสิ่นเทียน เพราะเขาไม่เคยค้นวิญญาณประเมินแร่พลาดเลยสักครั้งเดียว

……….

เถ้าแก่หลิวเรียกนักผ่าแร่จากในร้านมาด้วยความจำใจ และเตรียมจะผ่าเปิดแร่

นักผ่าแร่ผ่าหินแร่วิญญาณอย่างช้าๆ มันสะท้อนแสงสว่างออกมาจริงๆ

เห็นรางๆ ว่าหงส์เพลิงสีแดงชาดตัวหนึ่งที่สมจริงราวกับมีชีวิตกำลังร่ายรำอยู่ในหินแร่วิญญาณ

เมื่อหินแร่ถูกลอกเปลือกออกเยอะขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดยังได้ยินเสียงหงส์ดังขึ้นในร้านวิญญาณอริยะด้วย

ปิ่นสีทองบริสุทธิ์ทุกส่วนที่แกะสลักภาพหงส์อันงดงามปรากฏอยู่ตรงหน้าทุกคน

หลังจากปิ่นสีแดงคืนชีพแล้วยังแผ่กระจายระลอกคลื่นพลัง นั่นคือสมบัติวิเศษระดับสูงสุด!

…………..

นี่เป็นปิ่นขนหงส์สมบัติวิเศษระดับสูงสุด อีกทั้งยังมีทองบริสุทธิ์โลหิตหงส์เจือปนอยู่ด้วยเล็กน้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน