บทที่ 473 ซ่อมแซมธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนกลับมา ทุกคนดีใจกันมาก
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตฉู่หรงเหอก้าวออกมา เลิกคิ้วขาวขึ้น พูดด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์หลาน ครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
ตอนนั้นเขาเห็นเสิ่นเทียนเข้ากระดานหมากฟ้าขุ่นกับตาตนเอง รู้ว่าเขาต้องได้มหาโชคลิขิตแน่นอน
เพราะอย่างไรพวกเขาแก้ไม่ได้ก็ยังได้รางวัลอาวุธเตรียมเซียน
เสิ่นเทียนแก้กระดานหมากสำเร็จ จะได้ประโยชน์น้อยได้อย่างไร
ส่วนที่เสิ่นเทียนหายไปร้อยแปดสิบปี พูดความจริง พวกเขาไม่ได้กังวลมากเลย
กระดานหมากฟ้าขุ่นเป็นของยอดฝีมือสูงสุดโลกเซียน ในเมื่อเสิ่นเทียนเข้ากระดานหมากฟ้าขุ่นได้ จะต้องได้รับการคุ้มกันจากยอดฝีมือ จะไปเจออันตรายได้อย่างไร
ประกอบกับเขามีดวงชะตาสูงสุด เป็นบุตรแห่งสวรรค์สมคำร่ำลือ
ทุกคนจึงเฝ้ารอเสิ่นเทียนนำมหาโชคลิขิตกลับมา
วันนี้ได้พบก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
แค่กลิ่นอายพลังที่แผ่มาจากตัวเสิ่นเทียนก็ทำให้ผู้อาวุโสบัวมรกตรู้สึกถึงแรงกดดันลับๆ อ่านไม่ขาด
ดูท่าเจ้าหนูนี่คงได้มาอู้ฟู้เลย!
เสิ่นเทียนเดินหนึ่งก้าว ป้องมือพูดด้วยความเคารพ “ลำบากให้อาจารย์กับอาจารย์ลุงเป็นห่วงแล้ว ศิษย์ได้โชคลิขิตมาบ้างจริงๆ”
จางหลงหยวนกับฉู่หรงเหอเป็นผู้อาวุโสที่เสิ่นเทียนเคารพมากที่สุด เขาย่อมตอบกลับอย่างมีมารยาท
“ฮ่าๆ ดี! สมกับเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์รุ่นนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เรา มีดวงชะตาสูงสุดจริงๆ!”
ฉู่หรงเหอหัวเราะอย่างเปิดเผย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความพอใจ
แม้ผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่นจะไม่พูดอะไร แต่ก็ปลื้มใจมากเช่นกัน
พวกเขาเห็นเสิ่นเทียนเติบใหญ่ขึ้น ล้วนมองเขาเป็นลูกหลานของตนเองแล้ว
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนกลับมาอย่างปลอดภัย ผู้อาวุโสสูงสุดทุกคนจึงดีใจกันมาก
…..
บึ้ม!
ทว่าตอนนี้เองพลันมีเสียงดังมาจากรอบนอก
ทุกคนมองไปก็เห็นศิษย์เทพสวรรค์ทุกคนยืนอยู่หน้าหุ่นเกราะวิถีเซียนพวกนั้น
ศิษย์ผู้นำคือคนเก่าคนแก่ของทุกคน พวกซ่งฟู้กุ้ย หลิวไท่อี่ สยงเหมิ่งและฉินอวิ๋นตี๋
ใบหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพและซื่อตรง
ซ่งฟู้กุ้ยยืนอยู่หน้าสุดของขบวน ตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “สหายทุกท่าน ในที่สุดเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์คนใหม่ของเราก็กลับมาแล้ว! รีบนำความรักของพวกเจ้าออกมาต้อนรับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์!”
เมื่อเอ่ยขึ้น ศิษย์เทพสวรรค์ทุกคนพลันคึกคักขึ้นมา
พวกเขาพากันเรียกกระบี่ยาวของตน ปาขึ้นฟ้าสูง กระตุ้นเคล็ดวิชา คุมตำแหน่งกระบี่ยาว
กระบี่ยาวมากมายขยับแสงวาววับ สะท้อนแสงเงินร้อนแรง ตัดสลับกันไปเรื่อยๆ ทำให้ท้องนภาปกคลุมอยู่ใต้แสงกระบี่ไม่มีสิ้นสุด
เสียงกระบี่ดังชิ้งๆ สนั่นฟ้า เสียงฮึกเหิมนั้นดังถึงกระดูกคน ทำให้คนเลือดร้อน
ทุกคนมองจนตาพร่าเลือน กระบี่ยาวมากมายบินว่อนในอากาศ ร่างเป็นเงากระบี่สีสันหลากสี สว่างจ้าอย่างยิ่ง
สุดท้ายกระบี่ยาวเหลือคนานับเรียงกันเป็นระเบียบ รวมเป็นคำว่า ‘เทียน’ ใหญ่บนฟ้า พลังโอ่อ่ายิ่งใหญ่ อลังการที่สุด!
ตอนนี้ศิษย์เทพสวรรค์มากมายต่างตะโกนเสียงดังด้วยความจริงใจ “จุดสูงสุดแห่งเซียน โอหังต่อโลก พยายามฝึกบำเพ็ญทุกวัน ติดตามเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จักต้องเป็นเซียน!”
เสียงดังสนั่นกึกก้องฟ้าดิน ทำให้คนมากมายใจสั่นกระเพื่อม
แต่นี่ยังไม่จบ ก่อนจะเห็นฉินอวิ๋นตี๋นำป้ายคำสั่งออกมา พลันจุดแสงสว่างขึ้น
เวลานี้ หุ่นเกราะวิถีเซียนหลายพันตัวเปล่งแสงเทพสว่างจ้า ยิงอัสนีเทพกำเนิดฟ้าขึ้นนภา!
อัสนีห้าแสบสิบสีพุ่งขึ้นกลางฟ้า พลันระเบิดกระจาย
เหมือนเปลวไฟสว่างแพรวพราว สว่างจ้าแสบตา ส่องสะท้อนฟ้าดิน!
อัสนีเทพกำเนิดฟ้าพวกนี้รวมขึ้นจากการเผาศิลาวิญญาณมหาศาล ตอนนี้กลับระเบิดออกมาทั้งหมดราวกับไม่ต้องใช้เงินแล้ว เพียงเพื่อเฉลิมฉลองการกลับมาของเสิ่นเทียน!
ภายใต้บรรยากาศดอกไม้ไฟมากมาย ศิษย์เทพสวรรค์ทุกคนโค้งตัวแสดงความเคารพ ตะโกนเสียงดังพร้อมกัน “ศิษย์เทพสวรรค์ ยินดีต้อนรับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน!”
…….
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนเบิกตาโตอ้าปากค้าง แอบตกใจว่านี่จะเล่นใหญ่เกินไปแล้ว
แค่ศิลาวิญญาณที่เสียไปก็เทียบได้กับรายได้หลายปีของแดนเทวาแดนผาสุกมากมาย
และตอนนี้เอง ในที่สุดศิษย์ขุมอำนาจอื่นรอบๆ ก็ตั้งสติกลับมาได้
ผู้อาวุโสสุดยอดของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ปรากฏตัวมากขนาดนี้ จ่ายไปฟุ่มเฟือยเช่นนี้ ก็เพื่อเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นนี้!
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นนี้ ก็คือเสิ่นเทียนที่หายตัวไปหลายปีไม่ใช่หรือ
หรือก็คือบุรุษคนนั้นที่สร้างชื่อเสียงเลื่องลือในห้าดินแดนตอนนั้น กลับมาแล้ว!
ทันใดนั้นผู้คนคึกคักกันขึ้นมา
แม้ผู้บำเพ็ญพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นเยาว์ที่เพิ่งผงาดขึ้น แต่ก็เคยได้ฟังเรื่องราวของเสิ่นเทียน!
เช่นอันดับหนึ่งสำนักมนุษย์จี้เซี่ย
เช่นเพิ่งเข้าตำหนักศึกษาก็ข้ามขั้นไปสังหารเจ้าอริยะเจ็ดด่านเคราะห์
เช่นในโลกสะพาน แก้กระดานหมากฟ้าขุ่นที่ไม่มีใครแก้ได้
แม้แต่สือเทียนจื่อที่มีอำนาจยิ่งใหญ่เกรียงไกร สังหารวิญญาณร้ายมานับไม่ถ้วนยังยอมรับว่าสู้เสิ่นเทียนไม่ได้
…..
แม้เสิ่นเทียนจะหายตัวไปร้อยแปดสิบปี แต่บารมีตลอดหลายปีมานี้ของเขาไม่ลดน้อยลงเลย มีแต่จะมหัศจรรย์ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อยุคแห่งการแย่งชิงปรากฏ โอรสสวรรค์ปรากฏมาไม่ขาดสาย ปีศาจที่มีพรสวรรค์สุดยอดโผล่มากันเรื่อยๆ
แต่ไม่มีใครทำลายสถิติที่เสิ่นเทียนสร้างไว้ในตอนนั้นได้ กระทั่งพูดได้ว่าห่างไกลไม่อาจเอื้อมถึง
จนถึงตอนนี้พวกเขาถึงเข้าใจว่าพรสวรรค์และกำลังรบของเสิ่นเทียนน่ากลัวเพียงใด
เรียกได้ว่าเป็นที่สุดในประวัติการณ์ ไม่มีใครไปถึง
มองไปในยุคโบราณก็ไม่มีใครประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้!
ดังนั้นหลังจากเสิ่นเทียนกลับมาอย่างปลอดภัย ในใจทุกคนจึงเต็มไปด้วยความตกตะลึงและดีใจ
ช่วงที่เผ่าวิญญาณร้ายต่างแดนสร้างหายนะกับทุกชีวิตนั้น ผู้แข็งแกร่งที่มีพรสวรรค์สุดยอดกลับมา ย่อมเป็นเรื่องดีกับห้าดินแดน
มีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียนร่วมด้วย บางทีอาจจะต่อต้านวิญญาณร้ายต่างแดนได้ดีกว่าเดิม!
เวลานี้ ทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ครึกครื้นกันอย่างยิ่ง
ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เฉลิมฉลองการกลับมาของเสิ่นเทียน
……
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของคนมากมาย จางหลงหยวนพาเสิ่นเทียนเข้ายอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์
สองคนเข้าไปในตำหนักเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายจางหลงหยวนกระเพื่อมเบาๆ “เทียนเอ๋อร์ วันนี้เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย ถึงเวลารับตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว ตอนนี้ข้าจะมอบตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้า หวังว่าเจ้าจะนำพาแดนศักดิ์สิทธิ์ต่อต้านวิญญาณร้ายต่างแดน”
เสิ่นเทียนตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนป้องมือด้วยความเคร่งขรึม “ขอรับ ศิษย์จะปฏิบัติตามคำชี้แนะของอาจารย์ สาบานว่าจะปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์ยิ่งชีพ ต่อต้านวิญญาณร้าย!”
จางหลงหยวนพยักหน้า จากนั้นนำป้ายคำสั่งสีทองออกมาอันหนึ่ง บนนั้นมีแสงสีทองไหลเวียน แกะสลักลวดลายประหลาดไว้
ตรงกลางป้ายคำสั่งยังแกะสลักคำว่า ‘เทพสวรรค์’ อักษรดั่งมังกรน้ำ เข้มแข็งมีพลัง แฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขามยิ่งใหญ่
นี่คือป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เป็นสัญลักษณ์แสดงฐานะเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์
อีกทั้งป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ยังมีประโยชน์มากมาย มีขีดจำกัดสูงมาก
ไม่ใช่แค่ออกคำสั่งกับผู้อาวุโสและศิษย์เทพสวรรค์ได้ แต่ยังคุมยอดค่ายกลของทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้
นี่คือยอดค่ายกลที่สืบทอดกันมาแต่โบราณของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ แฝงด้วยอำนาจมหาศาล
กล่าวได้ว่าป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์คือหัวใจสำคัญของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ คุมทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ สำคัญอย่างยิ่ง
ในเมื่อเสิ่นเทียนรับตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ก็ต้องมอบป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ให้กับเขา
จางหลงหยวนมอบป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ให้เสิ่นเทียน “เทียนเอ๋อร์ ในเมื่อเจ้ารับตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เช่นนั้นทรัพยากรทุกอย่างของยอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับแดนศักดิ์สิทธิ์จะเป็นของเจ้า แล้วก็อาวุธจักรพรรดิมรดกของฝ่ายเรา…ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ก็จะมอบให้เจ้าดูแลไว้”
เมื่อเอ่ยจบ จางหลงหยวนก็นำของออกมาอีกชิ้น
ทันใดนั้นเกิดประกายสายฟ้าสว่างวาบ เกิดเสียงฟ้าร้อง แผ่อำนาจคุกคามรุนแรง หมุนม้วนเข้ามา
ก่อนจะเห็นธงที่มีแสงเทพวนเวียนลอยอยู่ตรงหน้าพวกเขา แสงเทพสว่างจ้าแสบตายิ่ง
ธงทุกอันแผ่อำนาจคุกคามรุนแรง กลิ่นอายพลังไม่ด้อยไปกว่าอาวุธเตรียมจักรพรรดิ
เมื่อธงทุกอันรวมกันจะมีอำนาจของอาวุธจักรพรรดิ
ประกายเซียนบนผิวกายจางหลงหยวนกระเพื่อมเบาๆ “ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์มีธงหลักหนึ่งผืนกับธงเสริมอีกสิบผืน ระเบิดอานุภาพได้สูงสุด และยังใช้ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์เป็นฐานค่ายกล วางยอดค่ายกลอัสนีฟ้าเทพสวรรค์ได้ ในยุครุ่งโรจน์ ถึงขั้นสังหารมหาจักรพรรดิได้เลย
ตอนแรก จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ใช้ธงจักรพรรดิอัสนีสังหารในห้าดินแดนจนมีชื่อเสียงโด่งดัง สร้างแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ขึ้นสำเร็จ มีชื่อเสียงเลื่องลือห้าดินแดน
สิ่งนี้คือสัญลักษณ์ของฝ่ายเรา และเป็นของที่สำคัญที่สุด ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ล้ำค่าอย่างยิ่ง มีอานุภาพไม่มีสิ้นสุด เหนือกว่าอาวุธจักรพรรดิทั่วไป
แต่สงครามเมื่อหมื่นปีก่อน วิญญาณร้ายสูงสุดรุกรานห้าดินแดน ขุมอำนาจมากมายเสียหายอย่างหนัก แม้แต่อาวุธจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์เรายังถูกทำลายในสงครามนั้น
หมื่นปีมานี้ แม้ฝ่ายเราจะพยายามซ่อมแซมอาวุธจักรพรรดินี้อย่างสุดความสามารถ ก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จ ตอนนี้ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์เหลือเพียงหนึ่งหน้าหลักและสี่หน้ารองมังกรเขียว วิหคชาด เต่าดำและกิเลน
แม้ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ในตอนนี้จะมีอานุภาพลดลงไป แต่ก็ยังอยู่ในอาวุธจักรพรรรดิ วันนี้ข้าจะมอบธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ให้เจ้า
หนึ่ง ให้เจ้าไว้ปกป้องตนเอง สังหารวิญญาณร้าย สอง หวังว่าสักวัน อาวุธจักรพรรดิมรดกของฝ่ายเราจะกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้งในมือเจ้า”
จางหลงหยวนจ้องเสิ่นเทียน ภายในใจเต็มไปด้วยความปลงอนิจจัง
เขารู้ว่าการจะให้ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์กลับไปจุดสูงสุดอีกครั้งเป็นเรื่องยากยิ่ง
ทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใช้เวลาไปหมื่นปี เสียทรัพยากรไปมหาศาล ก็ทำได้แค่ซ่อมแซมธงหน้าหลักกับหน้ารองสี่หน้า
นี่ยังเป็นเพราะธงหน้าหลักกับธงหน้ารองสี่หน้าไม่ได้ถูกทำลายลงทั้งหมดด้วย แต่อยู่ในสภาวะเสื่อมสภาพ
แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นบรรพจารย์ก็ยังเสียแรงกายและแรงใจไปอย่างมากถึงจะซ่อมแซมมันได้
หกหน้ารองที่เหลือไม่มีวิธีซ่อมแซมเลย
เพราะว่าพวกมันถูกทำลายลงทั้งหมดในสงครามนั้นเมื่อหมื่นปีก่อนแล้ว เว้นแต่จะสร้างใหม่ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางซ่อมแซมได้
แต่การจะหลอมก็ไม่ง่าย เพราะอย่างไรก็เป็นอาวุธจักรพรรดิ มีเพียงมหาจักรพรรดิที่หลอมได้เท่านั้น
และในห้าดินแดนตลอดหลายปีมานี้ไม่เคยปรากฏมหาจักรพรรดิเลย!
แม้แต่จักรพรรดิฮวงสือก็เล่าลือว่ายังห่างจากมหาจักรพรรดิแท้จริงอีกไม่น้อย
ดังนั้นเรื่องนี้เลยไว้เท่านี้มาตลอด ส่วนธงจักรพรรดิอัสนีก็ปลุกอานุภาพที่แกร่งสุดไม่ได้
…..
ตอนนี้จางหลงหยวนมอบธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ให้เสิ่นเทียน แต่กลับเฝ้ารอคอยลับๆ ในใจ
เพราะเสิ่นเทียนเป็นบุตรแห่งโชคที่สุดในประวัติการณ์ มีดวงชะตาสูงสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน