บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 473

บทที่ 473 ซ่อมแซมธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนกลับมา ทุกคนดีใจกันมาก

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตฉู่หรงเหอก้าวออกมา เลิกคิ้วขาวขึ้น พูดด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์หลาน ครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง”

ตอนนั้นเขาเห็นเสิ่นเทียนเข้ากระดานหมากฟ้าขุ่นกับตาตนเอง รู้ว่าเขาต้องได้มหาโชคลิขิตแน่นอน

เพราะอย่างไรพวกเขาแก้ไม่ได้ก็ยังได้รางวัลอาวุธเตรียมเซียน

เสิ่นเทียนแก้กระดานหมากสำเร็จ จะได้ประโยชน์น้อยได้อย่างไร

ส่วนที่เสิ่นเทียนหายไปร้อยแปดสิบปี พูดความจริง พวกเขาไม่ได้กังวลมากเลย

กระดานหมากฟ้าขุ่นเป็นของยอดฝีมือสูงสุดโลกเซียน ในเมื่อเสิ่นเทียนเข้ากระดานหมากฟ้าขุ่นได้ จะต้องได้รับการคุ้มกันจากยอดฝีมือ จะไปเจออันตรายได้อย่างไร

ประกอบกับเขามีดวงชะตาสูงสุด เป็นบุตรแห่งสวรรค์สมคำร่ำลือ

ทุกคนจึงเฝ้ารอเสิ่นเทียนนำมหาโชคลิขิตกลับมา

วันนี้ได้พบก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

แค่กลิ่นอายพลังที่แผ่มาจากตัวเสิ่นเทียนก็ทำให้ผู้อาวุโสบัวมรกตรู้สึกถึงแรงกดดันลับๆ อ่านไม่ขาด

ดูท่าเจ้าหนูนี่คงได้มาอู้ฟู้เลย!

เสิ่นเทียนเดินหนึ่งก้าว ป้องมือพูดด้วยความเคารพ “ลำบากให้อาจารย์กับอาจารย์ลุงเป็นห่วงแล้ว ศิษย์ได้โชคลิขิตมาบ้างจริงๆ”

จางหลงหยวนกับฉู่หรงเหอเป็นผู้อาวุโสที่เสิ่นเทียนเคารพมากที่สุด เขาย่อมตอบกลับอย่างมีมารยาท

“ฮ่าๆ ดี! สมกับเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์รุ่นนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เรา มีดวงชะตาสูงสุดจริงๆ!”

ฉู่หรงเหอหัวเราะอย่างเปิดเผย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความพอใจ

แม้ผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่นจะไม่พูดอะไร แต่ก็ปลื้มใจมากเช่นกัน

พวกเขาเห็นเสิ่นเทียนเติบใหญ่ขึ้น ล้วนมองเขาเป็นลูกหลานของตนเองแล้ว

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนกลับมาอย่างปลอดภัย ผู้อาวุโสสูงสุดทุกคนจึงดีใจกันมาก

…..

บึ้ม!

ทว่าตอนนี้เองพลันมีเสียงดังมาจากรอบนอก

ทุกคนมองไปก็เห็นศิษย์เทพสวรรค์ทุกคนยืนอยู่หน้าหุ่นเกราะวิถีเซียนพวกนั้น

ศิษย์ผู้นำคือคนเก่าคนแก่ของทุกคน พวกซ่งฟู้กุ้ย หลิวไท่อี่ สยงเหมิ่งและฉินอวิ๋นตี๋

ใบหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพและซื่อตรง

ซ่งฟู้กุ้ยยืนอยู่หน้าสุดของขบวน ตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “สหายทุกท่าน ในที่สุดเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์คนใหม่ของเราก็กลับมาแล้ว! รีบนำความรักของพวกเจ้าออกมาต้อนรับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์!”

เมื่อเอ่ยขึ้น ศิษย์เทพสวรรค์ทุกคนพลันคึกคักขึ้นมา

พวกเขาพากันเรียกกระบี่ยาวของตน ปาขึ้นฟ้าสูง กระตุ้นเคล็ดวิชา คุมตำแหน่งกระบี่ยาว

กระบี่ยาวมากมายขยับแสงวาววับ สะท้อนแสงเงินร้อนแรง ตัดสลับกันไปเรื่อยๆ ทำให้ท้องนภาปกคลุมอยู่ใต้แสงกระบี่ไม่มีสิ้นสุด

เสียงกระบี่ดังชิ้งๆ สนั่นฟ้า เสียงฮึกเหิมนั้นดังถึงกระดูกคน ทำให้คนเลือดร้อน

ทุกคนมองจนตาพร่าเลือน กระบี่ยาวมากมายบินว่อนในอากาศ ร่างเป็นเงากระบี่สีสันหลากสี สว่างจ้าอย่างยิ่ง

สุดท้ายกระบี่ยาวเหลือคนานับเรียงกันเป็นระเบียบ รวมเป็นคำว่า ‘เทียน’ ใหญ่บนฟ้า พลังโอ่อ่ายิ่งใหญ่ อลังการที่สุด!

ตอนนี้ศิษย์เทพสวรรค์มากมายต่างตะโกนเสียงดังด้วยความจริงใจ “จุดสูงสุดแห่งเซียน โอหังต่อโลก พยายามฝึกบำเพ็ญทุกวัน ติดตามเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จักต้องเป็นเซียน!”

เสียงดังสนั่นกึกก้องฟ้าดิน ทำให้คนมากมายใจสั่นกระเพื่อม

แต่นี่ยังไม่จบ ก่อนจะเห็นฉินอวิ๋นตี๋นำป้ายคำสั่งออกมา พลันจุดแสงสว่างขึ้น

เวลานี้ หุ่นเกราะวิถีเซียนหลายพันตัวเปล่งแสงเทพสว่างจ้า ยิงอัสนีเทพกำเนิดฟ้าขึ้นนภา!

อัสนีห้าแสบสิบสีพุ่งขึ้นกลางฟ้า พลันระเบิดกระจาย

เหมือนเปลวไฟสว่างแพรวพราว สว่างจ้าแสบตา ส่องสะท้อนฟ้าดิน!

อัสนีเทพกำเนิดฟ้าพวกนี้รวมขึ้นจากการเผาศิลาวิญญาณมหาศาล ตอนนี้กลับระเบิดออกมาทั้งหมดราวกับไม่ต้องใช้เงินแล้ว เพียงเพื่อเฉลิมฉลองการกลับมาของเสิ่นเทียน!

ภายใต้บรรยากาศดอกไม้ไฟมากมาย ศิษย์เทพสวรรค์ทุกคนโค้งตัวแสดงความเคารพ ตะโกนเสียงดังพร้อมกัน “ศิษย์เทพสวรรค์ ยินดีต้อนรับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน!”

…….

เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนเบิกตาโตอ้าปากค้าง แอบตกใจว่านี่จะเล่นใหญ่เกินไปแล้ว

แค่ศิลาวิญญาณที่เสียไปก็เทียบได้กับรายได้หลายปีของแดนเทวาแดนผาสุกมากมาย

และตอนนี้เอง ในที่สุดศิษย์ขุมอำนาจอื่นรอบๆ ก็ตั้งสติกลับมาได้

ผู้อาวุโสสุดยอดของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ปรากฏตัวมากขนาดนี้ จ่ายไปฟุ่มเฟือยเช่นนี้ ก็เพื่อเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นนี้!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นนี้ ก็คือเสิ่นเทียนที่หายตัวไปหลายปีไม่ใช่หรือ

หรือก็คือบุรุษคนนั้นที่สร้างชื่อเสียงเลื่องลือในห้าดินแดนตอนนั้น กลับมาแล้ว!

ทันใดนั้นผู้คนคึกคักกันขึ้นมา

แม้ผู้บำเพ็ญพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นเยาว์ที่เพิ่งผงาดขึ้น แต่ก็เคยได้ฟังเรื่องราวของเสิ่นเทียน!

เช่นอันดับหนึ่งสำนักมนุษย์จี้เซี่ย

เช่นเพิ่งเข้าตำหนักศึกษาก็ข้ามขั้นไปสังหารเจ้าอริยะเจ็ดด่านเคราะห์

เช่นในโลกสะพาน แก้กระดานหมากฟ้าขุ่นที่ไม่มีใครแก้ได้

แม้แต่สือเทียนจื่อที่มีอำนาจยิ่งใหญ่เกรียงไกร สังหารวิญญาณร้ายมานับไม่ถ้วนยังยอมรับว่าสู้เสิ่นเทียนไม่ได้

…..

แม้เสิ่นเทียนจะหายตัวไปร้อยแปดสิบปี แต่บารมีตลอดหลายปีมานี้ของเขาไม่ลดน้อยลงเลย มีแต่จะมหัศจรรย์ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อยุคแห่งการแย่งชิงปรากฏ โอรสสวรรค์ปรากฏมาไม่ขาดสาย ปีศาจที่มีพรสวรรค์สุดยอดโผล่มากันเรื่อยๆ

แต่ไม่มีใครทำลายสถิติที่เสิ่นเทียนสร้างไว้ในตอนนั้นได้ กระทั่งพูดได้ว่าห่างไกลไม่อาจเอื้อมถึง

จนถึงตอนนี้พวกเขาถึงเข้าใจว่าพรสวรรค์และกำลังรบของเสิ่นเทียนน่ากลัวเพียงใด

เรียกได้ว่าเป็นที่สุดในประวัติการณ์ ไม่มีใครไปถึง

มองไปในยุคโบราณก็ไม่มีใครประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้!

ดังนั้นหลังจากเสิ่นเทียนกลับมาอย่างปลอดภัย ในใจทุกคนจึงเต็มไปด้วยความตกตะลึงและดีใจ

ช่วงที่เผ่าวิญญาณร้ายต่างแดนสร้างหายนะกับทุกชีวิตนั้น ผู้แข็งแกร่งที่มีพรสวรรค์สุดยอดกลับมา ย่อมเป็นเรื่องดีกับห้าดินแดน

มีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียนร่วมด้วย บางทีอาจจะต่อต้านวิญญาณร้ายต่างแดนได้ดีกว่าเดิม!

เวลานี้ ทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ครึกครื้นกันอย่างยิ่ง

ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เฉลิมฉลองการกลับมาของเสิ่นเทียน

……

ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของคนมากมาย จางหลงหยวนพาเสิ่นเทียนเข้ายอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์

สองคนเข้าไปในตำหนักเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายจางหลงหยวนกระเพื่อมเบาๆ “เทียนเอ๋อร์ วันนี้เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย ถึงเวลารับตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว ตอนนี้ข้าจะมอบตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้า หวังว่าเจ้าจะนำพาแดนศักดิ์สิทธิ์ต่อต้านวิญญาณร้ายต่างแดน”

เสิ่นเทียนตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนป้องมือด้วยความเคร่งขรึม “ขอรับ ศิษย์จะปฏิบัติตามคำชี้แนะของอาจารย์ สาบานว่าจะปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์ยิ่งชีพ ต่อต้านวิญญาณร้าย!”

จางหลงหยวนพยักหน้า จากนั้นนำป้ายคำสั่งสีทองออกมาอันหนึ่ง บนนั้นมีแสงสีทองไหลเวียน แกะสลักลวดลายประหลาดไว้

ตรงกลางป้ายคำสั่งยังแกะสลักคำว่า ‘เทพสวรรค์’ อักษรดั่งมังกรน้ำ เข้มแข็งมีพลัง แฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขามยิ่งใหญ่

นี่คือป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เป็นสัญลักษณ์แสดงฐานะเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์

อีกทั้งป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ยังมีประโยชน์มากมาย มีขีดจำกัดสูงมาก

ไม่ใช่แค่ออกคำสั่งกับผู้อาวุโสและศิษย์เทพสวรรค์ได้ แต่ยังคุมยอดค่ายกลของทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้

นี่คือยอดค่ายกลที่สืบทอดกันมาแต่โบราณของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ แฝงด้วยอำนาจมหาศาล

กล่าวได้ว่าป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์คือหัวใจสำคัญของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ คุมทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ สำคัญอย่างยิ่ง

ในเมื่อเสิ่นเทียนรับตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ก็ต้องมอบป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ให้กับเขา

จางหลงหยวนมอบป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ให้เสิ่นเทียน “เทียนเอ๋อร์ ในเมื่อเจ้ารับตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เช่นนั้นทรัพยากรทุกอย่างของยอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับแดนศักดิ์สิทธิ์จะเป็นของเจ้า แล้วก็อาวุธจักรพรรดิมรดกของฝ่ายเรา…ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ก็จะมอบให้เจ้าดูแลไว้”

เมื่อเอ่ยจบ จางหลงหยวนก็นำของออกมาอีกชิ้น

ทันใดนั้นเกิดประกายสายฟ้าสว่างวาบ เกิดเสียงฟ้าร้อง แผ่อำนาจคุกคามรุนแรง หมุนม้วนเข้ามา

ก่อนจะเห็นธงที่มีแสงเทพวนเวียนลอยอยู่ตรงหน้าพวกเขา แสงเทพสว่างจ้าแสบตายิ่ง

ธงทุกอันแผ่อำนาจคุกคามรุนแรง กลิ่นอายพลังไม่ด้อยไปกว่าอาวุธเตรียมจักรพรรดิ

เมื่อธงทุกอันรวมกันจะมีอำนาจของอาวุธจักรพรรดิ

ประกายเซียนบนผิวกายจางหลงหยวนกระเพื่อมเบาๆ “ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์มีธงหลักหนึ่งผืนกับธงเสริมอีกสิบผืน ระเบิดอานุภาพได้สูงสุด และยังใช้ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์เป็นฐานค่ายกล วางยอดค่ายกลอัสนีฟ้าเทพสวรรค์ได้ ในยุครุ่งโรจน์ ถึงขั้นสังหารมหาจักรพรรดิได้เลย

ตอนแรก จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ใช้ธงจักรพรรดิอัสนีสังหารในห้าดินแดนจนมีชื่อเสียงโด่งดัง สร้างแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ขึ้นสำเร็จ มีชื่อเสียงเลื่องลือห้าดินแดน

สิ่งนี้คือสัญลักษณ์ของฝ่ายเรา และเป็นของที่สำคัญที่สุด ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ล้ำค่าอย่างยิ่ง มีอานุภาพไม่มีสิ้นสุด เหนือกว่าอาวุธจักรพรรดิทั่วไป

แต่สงครามเมื่อหมื่นปีก่อน วิญญาณร้ายสูงสุดรุกรานห้าดินแดน ขุมอำนาจมากมายเสียหายอย่างหนัก แม้แต่อาวุธจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์เรายังถูกทำลายในสงครามนั้น

หมื่นปีมานี้ แม้ฝ่ายเราจะพยายามซ่อมแซมอาวุธจักรพรรดินี้อย่างสุดความสามารถ ก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จ ตอนนี้ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์เหลือเพียงหนึ่งหน้าหลักและสี่หน้ารองมังกรเขียว วิหคชาด เต่าดำและกิเลน

แม้ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ในตอนนี้จะมีอานุภาพลดลงไป แต่ก็ยังอยู่ในอาวุธจักรพรรรดิ วันนี้ข้าจะมอบธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ให้เจ้า

หนึ่ง ให้เจ้าไว้ปกป้องตนเอง สังหารวิญญาณร้าย สอง หวังว่าสักวัน อาวุธจักรพรรดิมรดกของฝ่ายเราจะกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้งในมือเจ้า”

จางหลงหยวนจ้องเสิ่นเทียน ภายในใจเต็มไปด้วยความปลงอนิจจัง

เขารู้ว่าการจะให้ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์กลับไปจุดสูงสุดอีกครั้งเป็นเรื่องยากยิ่ง

ทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใช้เวลาไปหมื่นปี เสียทรัพยากรไปมหาศาล ก็ทำได้แค่ซ่อมแซมธงหน้าหลักกับหน้ารองสี่หน้า

นี่ยังเป็นเพราะธงหน้าหลักกับธงหน้ารองสี่หน้าไม่ได้ถูกทำลายลงทั้งหมดด้วย แต่อยู่ในสภาวะเสื่อมสภาพ

แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นบรรพจารย์ก็ยังเสียแรงกายและแรงใจไปอย่างมากถึงจะซ่อมแซมมันได้

หกหน้ารองที่เหลือไม่มีวิธีซ่อมแซมเลย

เพราะว่าพวกมันถูกทำลายลงทั้งหมดในสงครามนั้นเมื่อหมื่นปีก่อนแล้ว เว้นแต่จะสร้างใหม่ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางซ่อมแซมได้

แต่การจะหลอมก็ไม่ง่าย เพราะอย่างไรก็เป็นอาวุธจักรพรรดิ มีเพียงมหาจักรพรรดิที่หลอมได้เท่านั้น

และในห้าดินแดนตลอดหลายปีมานี้ไม่เคยปรากฏมหาจักรพรรดิเลย!

แม้แต่จักรพรรดิฮวงสือก็เล่าลือว่ายังห่างจากมหาจักรพรรดิแท้จริงอีกไม่น้อย

ดังนั้นเรื่องนี้เลยไว้เท่านี้มาตลอด ส่วนธงจักรพรรดิอัสนีก็ปลุกอานุภาพที่แกร่งสุดไม่ได้

…..

ตอนนี้จางหลงหยวนมอบธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ให้เสิ่นเทียน แต่กลับเฝ้ารอคอยลับๆ ในใจ

เพราะเสิ่นเทียนเป็นบุตรแห่งโชคที่สุดในประวัติการณ์ มีดวงชะตาสูงสุด

เปลวเพลิงพวยพุ่งขึ้น ปะปนกับหมอกสีเงิน กลิ่นอายพลังน่ากลัวอย่างยิ่ง เผาทำลายห้วงอากาศเป็นเถ้าถ่านได้ง่ายดาย

ไฟนี้คือไฟแท้เบิกฟ้า

ตอนที่เปลวเพลิงกลุ่มนี้ปรากฏ แม้แต่ไฟแท้สุริยะยังยอมสยบ

เสิ่นเทียนโบกมือกว้าง ส่งไฟแท้เบิกฟ้าเข้าเตาหลอมเทพสุริยะ จากนั้นนำอาวุธอริยะออกมายี่สิบกว่าชิ้น

การจะหลอมอาวุธเตรียมจักรพรรดิ วิธีที่ง่ายที่สุดคือเอาอาวุธอริยะเข้าเตาหลอมและสร้างขึ้นใหม่

เดิมทีอาวุธอริยะหลอมด้วยทองคำเซียนและวัตถุดิบแร่ที่ล้ำค่ายิ่ง หลังผ่านการหลอมด้วยไฟ จะทำให้อาวุธอริยะกลับคืนสู่สภาพเดิม

หากหลอมเหลวหินแร่ดั้งเดิมและทองคำเซียนใหม่ จะกินเวลานานมาก

บางคนหลอมอาวุธอริยะ อาวุธเตรียมเซียน ต้องใช้เวลาหลายปีกระทั่งหลายสิบปีด้วยซ้ำ

ขั้นตอนที่นานที่สุดในนั้นคือการหลอมเหลวหินแร่ทองคำเซียน!

เสิ่นเทียนไม่คิดจะใช้เวลานานขนาดนั้นในการหลอมแร่ เลยใช้ของสำเร็จรูปเลย

ถึงอย่างไรในคลังสมบัติน้อยของเขาก็มีอาวุธอริยะมากพอ เก็บไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรมากมาย

…….

อาวุธอริยะยี่สิบกว่าชิ้นเข้าไปในเตาหลอมเทพสุริยะ พลันถูกไฟแท้เบิกฟ้าปกคลุม

ทันใดนั้นแสงเทพหลากสีสันพุ่งออกมา แสงสว่างจ้าแสบตายิ่ง

ภายใต้การหลอมเหลวด้วยไฟแท้เบิกฟ้า อาวุธอริยะพวกนั้นกลายเป็นหยดของเหลวต้นกำเนิดใสแวววาวตกลงมา

แต่การจะหลอมเหลวอาวุธอริยะยี่สิบกว่าชิ้นก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน

…..

สามวันต่อมา!

อาวุธอริยะยี่สิบกว่าชิ้นถูกหลอมเหลวเป็นของเหลวต้นกำเนิดสีเงินก้อนหนึ่ง ในนั้นมีพลังเทพเอ่อทะลัก แฝงไว้ด้วยพลังงานมหาศาล

ประกายเซียนวนเวียนอยู่เหนือของเหลวต้นกำเนิด ขยับแสงเทพวูบวาบ แม้แต่เศษกากยังถูกหล่อหลอมลดลงไปเรื่อยๆ

จากนั้น เสิ่นเทียนนำวัตถุดิบหลอมอาวุธรองต่างๆ โยนไปในหม้อ ใช้ไฟแท้เบิกฟ้าหล่อหลอม

ไม่นานวัตถุดิบหลอมอาวุธรองพวกนั้นกลายเป็นหยดของเหลวบริสุทธิ์ หลอมรวมเข้ากับของเหลวต้นกำเนิดสีเงิน

เตาหลอมเทพสุริยะพลันระเบิดแสงสว่างจ้า แสบตาอย่างยิ่ง

ของเหลวต้นกำเนิดหลอมอาวุธกลุ่มนั้นผสมกับวัตถุดิบรอง ระเบิดพลังงานเข้มข้นอย่างยิ่ง

เสิ่นเทียนทำมุทรามือ ผสมของเหลวต้นกำเนิดพวกนี้เข้าด้วยกัน

เขาจะสร้างเป็นรูปทรงธงตามความคิดก่อน

ไม่นานของเหลวต้นกำเนิดพวกนั้นถูกแยกเป็นหกส่วน ทุกส่วนรวมเป็นลักษณะธงลับๆ

จากนั้นเสิ่นเทียนกระตุ้นพลังแห่งสายฟ้า รวมเป็นอัสนีเทพกำเนิดฟ้ามากมาย ส่งเข้าไปในเตาหลอมเทพสุริยะ

เขาจะใช้ไฟแท้สุริยะเบิกฟ้าหล่อหลอมกับอัสนีเทพกำเนิดฟ้าไปเรื่อยๆ สร้างอาวุธเตรียมจักรพรรดิขึ้น

ขณะเดียวกัน อัสนีเทพกำเนิดฟ้าพวกนี้ยังแบ่งเป็นธาตุต่างกัน เป็นพลังของสัตว์อัสนีสิบทิศ

ธงรองที่สร้างขึ้นมาเช่นนี้จะเข้ากับธงหลักได้อย่างสมบูรณ์แบบ ระเบิดอานุภาพไม่มีสิ้นสุดออกมา

ขณะเดียวกัน เสิ่นเทียนก็ถือโอกาสโยนธงหลักหนึ่งหน้ากับธงรองสี่หน้าที่เหลือเข้าไปด้วย ใช้ไฟแท้เบิกฟ้ากับอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหล่อหลอม คุณภาพของมันจะยกระดับขึ้นไปอีกขั้นได้

เพียงแต่นี่ต้องใช้เวลาบ่มเพาะที่แน่นอนถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลง

แต่เสิ่นเทียนก็ไม่ได้รีบ เขาส่งพลังไฟเข้าไปตลอด สำแดงอัสนีเทพกำเนิดฟ้า หล่อหลอมไปเรื่อยๆ

แสงเทพหลากสีเต็มไปทั้งตำหนักเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ของเหลวกลุ่มนั้นในเตาหลอมเทพสุริยะก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป

…..

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

แปดสิบเอ็ดวันต่อมา!

ในที่สุดยอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เกิดปรากฏการณ์ขึ้น!

แสงเทพหลากสีสันพุ่งขึ้นฟ้า ส่องสะท้อนนภา ทั้งยังมาพร้อมกับอำนาจคุกคามรุนแรงยิ่ง!

ทันใดนั้นเอง อำนาจคุกคามน่ากลัวเหมือนกับคลื่นลูกใหญ่หมุนม้วนไปทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!

ทุกคนต่างมองยอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยความสนใจ สีหน้าตกตะลึงอย่างยิ่ง

พวกเขารู้สึกได้ว่ายอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์แผ่อำนาจคุกคามของเตรียมจักรพรรดิมหาศาล แข็งแกร่งถึงที่สุด

“กลิ่นอายพลังนี้…หรือว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียนทะลวงเตรียมจักรพรรดิแล้ว”

“ไม่ๆๆ กลิ่นอายพลังนี้มาจากยอดอาวุธสุดยอดสูงสุด!”

“หรือว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียนจะหลอมอาวุธเตรียมจักรพรรดิออกมา”

……

ภายในใจทุกคนเกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้น

พวกเขาไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะไม่ได้แค่หลอมโอสถได้ แต่ยังหลอมอาวุธได้อีก อีกทั้งหลอมทีก็เป็นอาวุธเตรียมเซียน!

เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ใช่เขาหรือไม่ ใช่ฝีมือเขาหรือไม่

ท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่ได้จริงๆ!

………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน