บทที่ 484 ความชำนาญเขตแดนสูง ไม่สู้ดวงชะตาสูง
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนตอบตกลง คนจากสองตระกูลใหญ่ต่างทำหน้าดีใจ
จูเก่อซือหม่าตื่นเต้นในใจอย่างยิ่ง ตื่นเต้นจนแทบจะกระโดด
การเดินทางครั้งนี้มีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ร่วมด้วย จะต้องพบเกาะเทพลอยฟ้า ได้มรดกสูงสุดแน่นอน
ถึงอย่างไรฉายาบุตรแห่งโชคก็ไม่ได้คุยโม้ขึ้นมาเปล่าๆ!
นั่นผ่านการยืนยันจากโอรสสวรรค์มากมาย!
จูเก่อหยวนกับซือหม่าเฉิงมองหน้ากันก่อนจะลูบเคราพลางหัวเราะเสียงดัง “ได้ร่วมเดินทางกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ นับเป็นเกียรติของพวกเรา”
เสิ่นเทียนมีกำลังรบเป็นหนึ่ง และยังเมินเฉยต่อไอเบิกฟ้าได้
มีเสิ่นเทียนอยู่ พวกเขาไม่ต้องกังวลว่าจะเจออันตรายใดในทะเลดาราเบิกฟ้าเลย
ส่วนศิษย์ของสองตระกูลใหญ่ก็มีสีหน้าตื่นเต้นเช่นกัน โดยเฉพาะจูเก่อเหมิงกับซือหม่าเสวี่ยสองสาว ดวงตาเป็นประกายออกมา
พวกนางโห่ร้องด้วยความดีใจ ใบหน้ายังมีความเคลิบเคลิ้มหลงใหล
ดีมาก ดีมาก ดีมาก!
ได้ชมใบหน้าหล่อเหลาที่สุดแห่งยุคของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ต่อแล้ว!
ระหว่างทางนี้ต้องไม่มีเบื่อแน่!
เล่าลือว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เพิ่งจะอายุราวๆ สองร้อยปี ไม่รู้ว่าเขาจะถือสาปัญหาเรื่องอายุหรือไม่
อยากเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จริงๆ เลย!
แบบนั้น จากนี้ก็จะได้เห็นใบหน้าหล่อเหลานี้ของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์บ่อยๆ
…..
จูเก่อหยวนเดินเข้ามาพูดเชื้อเชิญ “ขอเชิญเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน”
เขาโบกมือกว้าง ม่านแสงค่ายกลเรือเหาะเปิดออก เชิญเสิ่นเทียนเข้ามา
“ต้องรบกวนสหายจูเก่อแล้ว!”
เสิ่นเทียนพยักหน้า จากนั้นชุดคลุมขาวสยายออก เหนือสามัญที่สุด ไม่ปนเปื้อนแสงสีสันใดๆ
เขาผ่านไปที่ใด ไอเบิกฟ้าจะพากันถอยออก เดินผ่านเส้นทางใหญ่ลงบนเรืออย่างปลอดภัย
คนจากสองตระกูลใหญ่เผยแววตาตกใจเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเชื่อสนิทใจเลยว่าตนเลือกไม่ผิด
ครั้งนี้ได้เดินทางกับเสิ่นเทียนจะต้องสบายมากแน่ แค่ความสามารถแยกไอเบิกฟ้านี้ก็ไม่มีใครเทียบได้แล้ว
“เดินเรือ!”
เกิดเสียงดังก้องกังวาน
เรือเหาะส่งเสียงดังสนั่น ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกทะเลดารา
ทว่าพวกเขาไปได้ไม่ไกลนักก็หลงทางอีกแล้ว
รอบกายมีแต่หมอกเทาขมุกขมัว วนเวียนหนาทึบ บดบังทัศนวิสัยของทุกคน
พวกเขามองเห็นทางข้างหน้าไม่ชัด ทำให้เรือเหาะหยุดชั่วขณะ
“ท่านบรรพบุรุษ จะไปทางใดต่อดี”
ศิษย์ที่คุมเรือถาม ไม่กล้าผลีผลาม
ในทะเลดาราเบิกฟ้า เรื่องตำแหน่งสำคัญมาก หากเลือกผิดทางจะเจออันตรายอย่างมาก
ก่อนหน้านี้เพราะไปผิดทางพวกเขาถึงหลงในเขตรอบนอกหนึ่งเดือน เสียเวลาไปอย่างมาก
ซือหม่าเฉิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตอบกลับ “รอก่อน รอข้าสำแดงวิชาเร้นลับปัญจธาตุคาดการณ์ตำแหน่งของเกาะเทพลอยฟ้าก่อน”
วิชาเร้นลับปัญจธาตุเป็นวิชาลับมรดกของตระกูลซือหม่า สามารถสัมผัสผ่านพลังฟ้าดิน คาดการณ์ทิศทางคร่าวๆ ได้
จูเก่อหยวนด้านข้างแบะปาก “เถอะน่า! ตระกูลซือหม่าพวกเจ้ามีฝีมือกากขนาดนี้ ยังจะออกมาขายหน้าอีกรึ ให้ข้าสำแดงวิชาเร้นลับยันต์แปดทิศหาตำแหน่งที่แน่นอนดีกว่า!”
พอเห็นว่าซือหม่าเฉิงจะนำทาง จูเก่อหยวนก็โดดขึ้นมาทันที
วิชาเร้นลับปัญจธาตุอะไรนั่น เทียบวิชาเร้นลับยันต์แปดทิศของตระกูลจูเก่อพวกเขาได้หรือ
ซือหม่าเฉิงได้ยินเช่นนั้นก็ถลึงตามองด้วยความโกรธ “ก่อนหน้านี้พวกเจ้านำทาง ถึงได้เสียเวลาไปมากขนาดนั้น ตอนนี้เจ้ายังมาก่อกวนอีก หรืออยากจะหลงทางต่อไปกัน”
หลังได้ยินจูเก่อหยวนด้อยค่าตระกูลซือหม่าอีกแล้ว ซือหม่าเฉิงจึงแย้งกลับทันควัน
จูเก่อหยวนหน้าแดงเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้มันเหนือความคาดหมาย ครั้งนี้ข้าสำแดงวิชาเอง ต้องไม่มีปัญหาแน่! วิชาลับบ้าบออะไรของตระกูลซือหม่าพวกเจ้า ก็ไม่มีประโยชน์เหมือนกันไม่ใช่รึ ไม่อย่างนั้นเหตุใดเดือนหนึ่งแล้วยังหาไม่เจออีก”
ซือหม่าเฉิงพูดด้วยความโกรธ “ตาเฒ่านี่ จะวิวาทกันรึ”
เมื่อเห็นจูเก่อหยวนด้อยกว่าตระกูลซือหม่าครั้งแล้วครั้งเล่า ซือหม่าเฉิงก็โกรธจัด
จูเก่อหยวนรูดแขนเสื้อขึ้น ถูหมัดถูฝ่ามือ “สู้ก็สู้ ใครกลัวเจ้ากัน”
ดูจากท่าทางของสองคน เห็นได้ชัดว่าจะวิวาทกันเพื่อตัดสินอำนาจคำพูด
……
จูเก่อซือหม่าด้านข้างมุมปากกระตุกรัว
เขารู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่จบลงง่ายขนาดนั้น
บรรพบุรุษทั้งสองแค้นกันมาหมื่นปี ไม่มีใครยอมใคร
หากเป็นปกติก็ช่างเถอะ
แต่ที่สำคัญคือตอนนี้อยู่ทะเลดาราเบิกฟ้า และยังมีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อยู่ด้วย
ท่านบรรพบุรุษทั้งสอง พวกท่านทำเช่นนี้มันดีจริงๆ รึ
นี่ไม่ดีแล้ว!
เมื่อเห็นสองคนจะสู้กันจริงๆ จูเก่อซือหม่าก็รีบไกล่เกลี่ย “ท่านบรรพบุรุษทั้งสอง ก็ลองดูด้วยกันทั้งคู่ดีหรือไม่”
วิชาเร้นลับปัญจธาตุกับวิชาเร้นลับยันต์แปดทิศ ล้วนมาจากตำราสวรรค์เกราะมังกร
สองสิ่งมาจากบ่อเกิดเดียวกัน น่าจะไม่ต่างกันมากเท่าไร
นี่ต้องดูที่ความชำนาญในค่ายกลกับระดับความเข้าใจในวิชาลับของตน
และจูเก่อหยวนกับซือหม่าเฉิงมีศักยภาพสูสีกัน คงจะไม่ต่างอะไรกันมากนัก…
พอคิดได้ดังนั้น จูเก่อซือหม่าก็กลัวอยู่ในใจเช่นกัน
เขามักจะรู้ว่าการตามตาเฒ่าพวกนี้ รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไรเลย!
“ดี วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็น”
จูเก่อหยวนก้าวออกมา นำแผ่นค่ายกลยันต์แปดทิศโบราณออกมา!
แผ่นค่ายกลยันต์แปดทิศนั้นเก่าแก่มาก ด้านบนฝังหินฐานเขตแดนประหลาดหลายก้อน พลังอำนาจไร้พรมแดน
จูเก่อหยวนทำมุทรามือ สำแดงวิชาเร้นลับยันต์แปดทิศ
ทันใดนั้นเกิดแสงสว่างจ้าแสบตา
แผ่นค่ายกลยันต์แปดทิศยิงแสงเทพหมื่นจั้ง พุ่งขึ้นทะเลเมฆท้องนภา กวนเมฆสวรรค์เก้าชั้นทั้งหมด
ขณะเดียวกัน จูเก่อหยวนยังมียันต์แปดทิศยักษ์ลอยขึ้นมาข้างหลัง กฎเกณฑ์หมื่นสายลายเทพพุ่งออกมา
สีหน้าเขาจริงจังอย่างยิ่ง ปากบริกรรมคาถาเก่าแก่และลี้ลับ
แผ่นค่ายกลยันต์แปดทิศหมุนวนอย่างรวดเร็ว สว่างแพรวพราวถึงที่สุด แผ่พลังเทพออกมาทั้งหมด
ฟ้าดินไหลเชี่ยวกราก เมฆหมอกถอยไป
สุดท้าย แผ่นค่ายกลยันต์แปดทิศชี้ไปทางซ้ายของทุกคน
จูเก่อหยวนพูดด้วยใบหน้ามั่นใจ “ทางตะวันตก เป็นที่อยู่ของเกาะเทพลอยฟ้า!”
เขามั่นใจในความแกร่งของวิชาลับตระกูลตนมาก ไม่มีทางผิดพลาดเด็ดขาด
…..
ซือหม่าเฉิงได้ยินเช่นนั้นก็นำแผ่นค่ายกลปัญจธาตุเก่าแก่ออกมาเช่นกัน
แผ่นค่ายกลปัญจธาตุเปล่งแสงระยิบระยับ ด้านบนฝังหินแปลกต่างกันห้าธาตุ พลังงานกำเนิดและปฏิปักษ์กัน มหัศจรรย์อย่างยิ่ง
ซือหม่าเฉิงสำแดงวิชา ปลุกแผ่นค่ายกลปัญจธาตุ
แสงเทพห้าสีส่องสว่างฟ้าดิน แสงเทพสว่างพร่างพราว
เวลานี้ ปรากฏแผ่นค่ายกลปัญจธาตุยักษ์ลอยขึ้นกลางอากาศ ส่องสะท้อนท้องนภา
แผ่นค่ายกลปัญจธาตุหมุนวนอย่างรวดเร็ว เปล่งแสงเทพหลากสีไปรอบๆ
แสงเทพห้าสีพุ่งออกไปทั้งหมด พุ่งขึ้นฟ้า แสงสว่างถึงที่สุด
สุดท้ายแสงเทพห้าสายไหลมารวมกัน ชี้ไปทางขวาไกลๆ!
ซือหม่าเฉิงพูดด้วยใบหน้าราบเรียบ “พูดมั่ว ทางตะวันออกต่างหากที่ตั้งของเกาะเทพลอยฟ้า”
จูเก่อหยวนก้าวเท้ายาวออกมา พูดด้วยสีหน้าสงสัย “ไม่มีทาง ข้าตรวจพบอยู่ทางตะวันตกเห็นๆ”
ซือหม่าเฉิงทำเสียงหึ “จะไม่มีทางได้อย่างไรกัน เพราะเจ้าชอบพลาดอยู่บ่อยครั้ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย!”
จูเก่อหยวนพลันกระโดดขึ้นมา ชี้หน้าซือหม่าเฉิงตะโกนเสียงดัง “เจ้าพูดไร้สาระ! ข้าฝึกฝนวิชาเร้นลับยันต์แปดทิศมาพันปี จะไปพลาดได้อย่างไร เป็นเจ้าที่คาดการณ์พลาดแน่!”
ซือหม่าเฉิงเดือดดาลเช่นกัน “วิชาเร้นลับปัญจธาตุของตระกูลซือหม่าข้า เดิมทีแกร่งกว่าวิชาเร้นลับยันต์แปดทิศของพวกเจ้าอยู่แล้ว! เกาะเทพลอยฟ้าต้องอยู่ทางตะวันออกแน่นอน!”
จูเก่อหยวนโบกมือก่อนพูดจาระราน “ไม่มีทาง ฝีมือขี้กากอย่างเจ้าคู่ควรมาเทียบกับข้ารึ ข้ากล้าเดิมพันเลยว่าอยู่ทางตะวันตกแน่นอน!”
ซือหม่าเฉิงขี้เกียจพูดมากกับเขาแล้ว จึงออกคำสั่งกับศิษย์ผู้คุมเรือ “ซือหม่ากัง ไปทางตะวันออก”
จูเก่อหยวนรีบเข้ามาห้ามปราม “ไม่ได้ ครั้งนี้ต้องตะวันตก”
ทว่าซือหม่าเฉิงชำเลืองตามองเขาทีหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเยาะ “เจ้าว่าเขาจะสนใจเจ้ารึ นี่คือศิษย์ของตระกูลซือหม่าข้า!”
จูเก่อหยวนพูดเสียงดัง “หากเจ้ากล้าก่อเรื่อง อย่าทำให้ข้าโกรธเชียว!”
ซือหม่าเฉิงเงียบ
…..
ซือหม่ากังเหงื่อเต็มหน้าผาก ไม่รู้จะฟังใครดี
คนหนึ่งเป็นบรรพบุรุษบ้านตน อีกคนเป็นบรรพบุรุษอีกตระกูล
ตามหลักแล้วต้องฟังบรรพบุรุษบ้านตน
แต่จูเก่อหยวนไม่ใช่คนที่จะคุยดีๆ ด้วยได้ ถ้าทำให้เขาโกรธ คงถูกทุบตีแน่
ทั้งสองท่านนี้ เขาล่วงเกินไม่ได้ ล่วงเกินไม่ได้เลย!
จูเก่อซือหม่ามีใบหน้าเต็มไปด้วยความปวดไข่
ไม่นึกเลยว่าบรรพบุรุษทั้งสองจะด่าทอกันที่นี่ ทุกคนมีช่วงเวลาที่เห็นตรงกันบ้างไม่ได้รึ
เขาพูดด้วยความทุกข์ใจ “ท่านบรรพบุรุษทั้งสอง พวกเราเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนะ! รีบเลือกเส้นทางแล้วออกเดินทางกันเถอะ!”
ด้วยพลังงานที่เหลือตอนนี้อยู่ได้มากสุดสิบวัน
ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปได้ตายกันจริงๆ แน่!
ซือหม่าเฉิงทำเสียงขึ้นจมูก “ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็หาผู้รับรอง ให้เขาเลือกเถอะ”
จูเก่อหยวนพยักหน้า “ดี เช่นนั้นก็ให้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาตัดสินความยุติธรรมแล้วกัน! ให้เขาตัดสินใจว่าเราจะไปทางใด!”
พวกเขาก็รู้ว่าเถียงกันไม่ได้อะไร ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปมีแต่จะเสียเวลา
ดังนั้นเลยให้เสิ่นเทียนมาตัดสินใจ แบบนี้จะค่อนข้างยุติธรรมกว่า
ในมุมมองพวกเขา เสิ่นเทียนต้องไม่เข้าใจเรื่องค่ายกลอะไรพวกนี้แน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน