เสิ่นเทียนอดไม่ได้มองเถ้าแก่ซ่งด้วยความชื่นชมหลายครั้ง
ก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนไปร้านหินแร่วิญญาณร้านอื่น เถ้าแก่พวกนั้นต่างมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
ถึงแม้ทุกครั้งที่เสิ่นเทียนพบหินแร่วิญญาณแทนคนอื่น แล้วจะผ่าข้างในร้านศิลาวิญญาณ เถ้าแก่พวกนั้นจะได้ส่วนแบ่งกำไรสิบเปอร์เซ็นต์จากตรงนี้ด้วยก็ตาม
ทว่าของอย่างนิสัยมนุษย์นี้ เป็นสิ่งที่ค่อนข้างซับซ้อน
แม้จะรู้ดีว่าหินแร่วิญญาณพวกนั้นมีไว้ขาย ไม่ขายให้ผู้มีวาสนาของเสิ่นเทียนก็ต้องขายให้คนอื่นอยู่ดี แต่พอเห็นหินแร่วิญญาณพวกนั้นถูกผ่าออกมาทีละก้อนแล้ว เถ้าแก่พวกนั้นกลับรู้สึกไม่สุขใจยิ่งนัก
เพราะพวกเขาจะคิดว่าหินแร่วิญญาณวางอยู่ตรงหน้าตนมาตั้งนาน เหตุใดตนเองถึงไม่กัดฟันผ่าหินแร่วิญญาณนี้เสีย!
นี่ก็คือด้านมืดของนิสัยมนุษย์!
เสิ่นเทียนมีอีคิวสูงมาก ย่อมเข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ มีเพียงเถ้าแก่ซ่งที่แตกต่างออกไป!
รู้ทั้งรู้ว่าก่อนหน้านี้เขาจัดการบุตรชายของเถ้าแก่ซ่งเสียน่วม ฟันก็ร่วงหมดปาก ตามหลักแล้วเถ้าแก่ซ่งน่าจะโมโหและคิดหาทางเล่นงานเขาสิถึงจะถูกสิ!
‘หรือว่าเป็นเพราะทักษะการแปลงโฉมของข้าร้ายกาจเกินไปจริงๆ ทำให้เถ้าแก่ซ่งเห็นข้าแล้วรู้สึกสนิทสนม?’
เสิ่นเทียนคิดเป็นตุเป็นตะในใจ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังร้านวิญญาณสวรรค์
ทางด้านเถ้าแก่ซ่งตามหลังมาด้วยความอ่อนน้อม ไม่กล้าเสียมารยาทเลย
ความคิดของเขาง่ายมาก ท่านเซียนเป็นบุรุษที่เซียนเหลียนเอ๋อร์ชมชอบ!
บุตรชายผู้โง่เขลาของตนไปยั่วโทสะท่านเซียนครั้งก่อน โดนท่านเซียนอัดเสียน่วมมาก็สมควรแล้วสำหรับบุตรชายที่โง่งมของตน ท่านเซียนสั่งสอนเบาไปด้วยซ้ำ!
ถ้าเจอกับคนใหญ่คนโตที่ฉุนเฉียวง่าย สังหารเจ้าเด็กนี่ยังไม่เกินไปเลย!
ก่อนหน้านี้ เถ้าแก่ซ่งเคยมอบแหวนโลกาสวรรค์ให้ หวังจะเอาใจท่านเซียน แต่ตอนนี้ดูแล้วเหมือนท่านเซียนจะยังไม่หายโกรธดี
เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี
ก็ต้องอยู่กับท่านเซียน พูดเอาอกเอาใจท่านเซียนต่อ ประจบสอพลอเขาไปสิ!
………..
ด้วยเหตุนี้ หลังจากรู้ว่าเสิ่นเทียนกลับมาในสวนหมื่นวิญญาณอีกครั้ง เถ้าแก่ซ่งฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงรีบแขวนป้ายคำกลอนที่เตรียมไว้อย่างดีเมื่อสามวันก่อน จากนั้นสวมชุดมงคลสีแดงออกมาต้อนรับท่านเซียนมาเยือน!
ขอแค่ท่านเซียนพอใจ เล่นสนุกถึงอกถึงใจก็พอ!
คุณชายซ่งข้างๆ กันเห็นบิดาอ่อนน้อมจนไร้ศักดิ์ศรี ก็นึกโกรธอยู่ในใจ
เขาบ่นพึมพำว่า “เห็นๆ อยู่ว่าเขาเรียกคนมากระทืบข้า ท่านพ่อยังกลัวว่าเขาจะโมโหอีก!”
เถ้าแก่ซ่งหูกระดิก ถอยมาอยู่ตรงหน้าคุณชายซ่งเงียบๆ แล้วพลิกมือตบไปทีหนึ่ง
“เจ้าลูกหมานี่! ข้าขอเตือนเจ้านะ เจ้าอย่าทำตัวโง่เง่าเช่นนี้อีก เดี๋ยวข้าจะหาคนมาใช้วิชาลับสายโลหิตตรวจสอบดูหน่อยว่าเจ้าใช่ลูกชายแท้ๆ ของข้าหรือไม่!”
ตาแก่อย่างข้าฉลาดหลักแหลม เจริญรุ่งเรืองในสวนหมื่นวิญญาณมาหลายสิบปีแล้ว เหตุใดถึงได้อับโชคให้กำเนิดเจ้าโง่ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเช่นนี้ในวัยชราได้
ท่านเซียนใช่คนที่เจ้าหมาโง่อย่างเจ้าจะล่วงเกินได้รึ
ถ้าทำท่านเซียนโมโหขึ้นมาจริงๆ ไอ้หนูอย่างเจ้าได้ตายแล้วตายอีกแน่
พ่อยังใช้ชีวิตไม่พอเลย!
……………
เตือนบุตรชายเสร็จแล้ว เถ้าแก่ซ่งก็เค้นรอยยิ้มออกมาอีก
เขาตามอยู่ข้างกายเสิ่นเทียนด้วยความเคารพนบนอบ “เชิญท่านเซียนเลือกตามสบายเลยขอรับ ท่านเซียนค้นวิญญาณประเมินแร่ให้ผู้มีวาสนา ไม่บ่นลำบากเลย ข้าละนับถือจริงๆ!
หินแร่วิญญาณทั้งหมดที่ท่านเซียนเลือกในวันนี้ ร้านเราให้ท่านเซียนผ่าแร่ไปเลย จะไม่รับเงินแม้แต่แดงเดียว”
เฮือก!
เมื่อสิ้นคำพูดของเถ้าแก่ซ่ง พลันเกิดเสียงสูดลมหายใจเย็นๆ ดังมาจากโดยรอบ
ทุกคนรู้ว่าหากท่านเซียนลงมือค้นวิญญาณประเมินแร่ จะต้องเปิดได้แต่ของดีอย่างแน่นอน ต่อให้มีค่าผ่าแร่แค่สิบในร้อยส่วน แต่รวมกันแล้วก็เป็นจำนวนไม่เบา
เถ้าแก่ซ่งยอมตัดใจให้เช่นนี้ เป็นการทิ้งศิลาวิญญาณไปมากโข
ต้องพูดว่าเถ้าแก่ท่านนี้มีความเด็ดเดี่ยวจริงๆ!
……
ผู้มีวาสนาคนที่สองท่ามกลางกลุ่มคนเหมือนจะเข้าใจ
เขาจึงรีบตะโกนเสียงดังว่า “ดี! เถ้าแก่ซ่งสมกับเป็นเถ้าแก่ซ่งจริงๆ ใจกว้างมาก! ข้ายินดีมอบค่าบริการผ่าแร่สิบในร้อยส่วนให้ท่านเซียนเอ้าเทียนทั้งหมด นั่นเป็นสิ่งที่ท่านเซียนควรได้!”
ผู้มีวาสนาคนแรกก็ตั้งสติได้ จึงตะโกนเช่นกัน “ข้าเองก็ยินดี รวมข้าไปด้วย!”
สยงเหมิ่งเกาๆ หัว ก่อนจะพูดด้วยแววตาแน่วแน่พอควร “ข้าด้วย ข้าก็เหมือนกัน!”
เวลานี้ ผู้มีวาสนาทั้งหมดต่างร้องตะโกนว่าจะให้ค่าผ่าแร่ร้อยละสิบกับเสิ่นเทียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน